ประเมินภาพครม.'ประยุทธ์ 1'
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 03 September 2014 12:13
- Hits: 3991
วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
รายงานพิเศษ : ประเมินภาพครม.'ประยุทธ์ 1'
ทิฐศุภร จั่นนิธิกุ-รายงาน
ครม.ประยุทธ์ 1 เสร็จตามโรดแม็ปในเดือนก.ย. โฉมหน้ารัฐมนตรีเก้าอี้หลักๆ ส่วนใหญ่เป็นทหารและเครือข่ายคสช. ครม.ใหม่โดดเด่นในเรื่องใดบ้าง อะไรคือจุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุง
มีความเห็นและข้อเสนอแนะจากนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิทางการเมือง
พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
ส่วนใหญ่เชี่ยวชาญงานในแต่ละด้าน ดูแล้วไม่น่าเกลียด คงกำกับดูแลการทำงานตามแนวทางที่คสช.ต้องการ ถ้านำคนอื่นมาอาจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ จึงต้องเอาทหารเข้ามา ซึ่งเป้าหมายน่าจะเน้นที่การปฏิรูป
ครม.ชุดนี้ มีหน้าที่ 3 อย่าง 1.บริหารราชการแผ่นดิน แต่ข้าราชการประจำทำได้อยู่แล้ว 2.ปฏิรูป โดยบูรณาการงานแต่ละกระทรวง ซึ่งครม.ต้องเข้ามาเพื่อให้เป็นทีมเดียวกัน และ 3.สร้างความปรองดอง ตรงนี้ต้องได้คนที่ทำงานในทิศทางเดียวกัน
รายชื่อที่ปรากฏส่วนใหญ่ใช้ได้ เช่น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. แทบไม่ต้องห่วงเรื่องการทำงาน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ดูเรื่องระหว่างประเทศมาตลอด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีความรู้และประสบการณ์มาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยเป็นรมว.กลาโหม ถ้ามาดูงานความมั่นคง ไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนบางชื่อที่ไม่รู้จัก ต้องรอดูฝีมือกันต่อไป แต่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกคนที่เหมาะสมเพราะงานนี้เสี่ยงไม่ได้
สำหรับกระทรวงที่ประชาชนจับตาคือ กระทรวงพลังงานเพราะมีความเห็นต่างมาก แต่นายณรงค์ชัย อัครเศรณี น่าจะมีความพร้อม
ส่วนตัวไม่ได้มองว่าทหารบริหารประเทศแล้วจะมีจุดอ่อนในกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง จะเห็นว่ามีความพยายามเลือกบุคคลที่เชี่ยวชาญแต่ละด้านเข้ามาทำงาน เช่น กระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ น่าจะมาดูเรื่องข้าว แก้ปัญหาในส่วนที่ค้างคาอยู่การทำงานของครม.ใหม่ ต้องใจเย็นรอดูกันต่อไปก่อน
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์
ครม.ประยุทธ์ 1 ไม่ได้ผิดไปจากคาดหมาย สามารถแยกคาแร็กเตอร์ได้ 3 ประเภท คือ 1.กลุ่มคนที่มาจากกองทัพ เกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจโดยตรง 2.อดีตข้าราชการประจำ เช่น ปลัดกระทรวงต่างๆ
และ 3.กลุ่มเทคโนแครต หรือคนมีชื่อเสียงทางสังคม เช่น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายณรงค์ชัย อัครเศรณี เพื่อให้เห็นว่าครม.ชุดนี้มีคนรู้เรื่องเศรษฐกิจ เพราะทหารไม่เชี่ยวชาญเรื่องนี้
ภาพรวมเหมือนเป็นการฟื้นตัวของการ เมืองภายใต้เครือข่ายระบบราชการที่มีทหารเป็นส่วนยอด แต่ครม.ที่ประกอบด้วยนายทหารจำนวนมากอาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะทหารไม่ได้ฝึกเรื่องการบริหารมา
ส่วนจะทำให้การบริหารประเทศมี เอกภาพขึ้นหรือไม่นั้น ความมีเอกภาพจะมีความหมายในเงื่อนไขว่า รัฐบาลต้องรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร เรื่องไหนต้องดูเป็นพิเศษ
เช่น หากต้องการดำเนินนโยบายกระจายรายได้ รัฐบาลที่มีเอกภาพจะมีความจำเป็น แต่ในเงื่อนไขปัจจุบันยังไม่เห็นว่ารัฐบาลจะทำเรื่องแบบนี้
อีกปัญหา คือ เมื่อรายชื่อครม. 3 กลุ่มมีที่มาจากเครือข่ายเดียวกัน ความหลากหลายจึงไม่เกิด ความเข้าใจคนกลุ่มต่างๆ จึงมีน้อย มีโอกาสนำไปสู่การเมืองแบบล็อบบี้ กล่าวคือ ใครเข้าถึงผู้มีอำนาจได้ก็สามารถหว่านล้อมให้เกิดนโยบายที่ตนต้องการได้
ส่วนตัวอยากเห็นครม.ที่มีสัดส่วนคนที่มาจากกองทัพ หรือเครือข่ายผู้มีชื่อเสียงในสังคมน้อยลง เพราะคนกลุ่มนี้มีความเป็นตัวแทนของประชาชนต่ำ ทำให้เห็นภาพช่องว่างระหว่างรัฐบาลกับประชาชน
ครม.ควรเป็นกลุ่มคนที่หลากหลาย แต่คงเกิดขึ้นยากในสถานการณ์แบบนี้
พัฒนะ เรือนใจดี
รองอธิการบดี ม.รามคำแหง
ข้อได้เปรียบของครม.ประยุทธ์ 1 คือ การบริหารราชการแผ่นดินจะเรียบร้อยราบรื่น ไม่มีอุปสรรคเหมือนรัฐบาลปกติที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งต้องพบกลไกตรวจสอบมาก มาย ไม่ว่าฝ่ายค้าน องค์กรอิสระและภาคประชาชน
ครม.ชุดใหม่จึงมี โอกาสมากที่จะดำเนินนโยบายต่างๆ ผลักดันร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมซึ่งไม่สามารถทำได้ในสภาวะปกติ เช่น กฎหมายภาษีที่ดิน กฎหมายภาษีมรดก ให้นำไปสู่การประกาศใช้ได้
มาตรการเร่งด่วนที่ควรดำเนินการทันทีคือ ยกเลิกกฎอัยการศึกเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีต่อทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ ให้เขาเห็นว่าเรากำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เรื้อรังมานานให้ฟื้นตัว เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง กระตุ้นการจับจ่าย ลดอัตราการว่างงาน ช่วยเหลือธุรกิจการค้าการส่งออก
ขณะที่การส่งเสริมทางการศึกษาถือเป็นเรื่องสำคัญที่ครม.ควรสนับสนุน โดยส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับเยาวชนทุกรูปแบบ
อยากให้ทบทวนการนำสื่อการเรียนอย่างแท็บเล็ตมาใช้ หากพบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการทุจริต ควรไปแก้ที่ปัญหาการจัดการ ไม่อยากให้ปิดกั้นโอกาสเยาวชนด้วยการยกเลิกทั้งหมด
ส่วนท่าทีทางการเมืองน่าจะเริ่มผ่อนปรน เพราะความมั่นคงและอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่คสช.หมดแล้ว ทั้งในรัฐธรรมนูญและประกาศคสช. ถือว่าควบคุมได้ค่อนข้างสมบูรณ์ แม้อาจมีผลกระทบบ้างก็เป็นเรื่องปัจจัยภายนอกประเทศ ที่อยู่เหนือการควบคุมของคสช.
หากรัฐบาลชุดใหม่จะเกิดปัญหา น่าจะมาจากตัวบุคคลในครม. เพราะคนที่ไม่มีประสิทธิภาพจะส่งผลต่อฝ่ายฟันเฟืองอย่างข้าราชการที่มี หน้าที่นำนโยบายรัฐบาลมาแปรเป็นการปฏิบัติ ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินจะมีประสิทธิภาพหรือไม่อยู่ที่ข้าราชการกระทรวง นั้นๆ เป็นสำคัญ
อยากให้คสช.อยู่ในอำนาจปฏิรูปประเทศตามโรดแม็ประยะ ที่ 3 ตามกำหนด 1 ปี อย่างเคร่งครัด แล้วเร่งประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว