มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 23 มกราคม 2561
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 28 January 2018 09:18
- Hits: 2670
มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 23 มกราคม 2561
1. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้ง นางพันทิพา เอี่ยมสุทธาเอกะโรหิต กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ
2. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้
1. นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
2. นายวิทวัส ศรีวิหค รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
3. เรืออากาศโท อรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
4. นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
5. นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม ราชอาณาจักรสวีเดน
6. นายพรภพ อ่วมพิทยา กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการให้ไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ ตามข้อ 1. และ 4.-6. ได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับ (ส่วนการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติฯ ตามข้อ 2. ไม่ต้องขอความเห็นชอบแต่อย่างใด)
3. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แทนกรรมการที่อายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ดังนี้
1. นายสันติ กีระนันทน์ เป็นกรรมการ แทน นายวัฒนา ธรรมศิริ
2. นายประสิทธิ์ อำภรณ์ เป็นกรรมการ แทน นายพีระวัฒน์ ดวงแก้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561 เป็นต้นไป กรณีนายประสิทธิ์ อำภรณ์ ให้มีผลไม่ก่อนวันที่ 26 มกราคม 2561 โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้ให้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน
4. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ แทนผู้ที่ลาออกและแทนตำแหน่งที่ว่าง จำนวน 2 คน ตามลำดับ ดังนี้
1. นายสมพร จิตเป็นธม (เป็นบุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) เป็นกรรมการ แทน นายกฤษฎา บุญราช
2. นายอวยชัย คูหากาญจน์ เป็นกรรมการ (เพิ่มเติม)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
5. เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสินเพิ่มเติม ดังนี้
1. นางพิลาสลักษณ์ ยุคเกษมวงศ์ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) เป็นกรรมการอื่น
2. นายทวีศักดิ์ ฟุ้งเกียรติเจริญ เป็นกรรมการอื่น
3. นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) เป็นกรรมการอื่น
4. รองศาสตราจารย์ เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ (บุคคลในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) เป็นกรรมการอื่น
5. นายยรรยง เต็งอำนวย เป็นกรรมการอื่น แทนนายชูศักดิ์ สาลี ที่อายุครบ 65 ปีบริบูรณ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการเพิ่มเติมอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
6. เรื่อง การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอแต่งตั้ง นายพีรเดช ทองอำไพ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ แทน นายกิตติชัย วัฒนานิกร ที่ลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
7. เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งผู้แทนส่วนราชการเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 แทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่ง จำนวน 2 คน ดังนี้
1. นายอภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม
2. นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561 เป็นต้นไป
8. เรื่อง ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 22 มกราคม 2561 ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2561
9. เรื่อง ให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ (นายโศภณ นภาธร)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ นายโศภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 23 มกราคม 2561 ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2561
10.เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐอาร์เมเนียเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เมเนียประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐอาร์เมเนียมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายเซอร์เกย์ มานาซาร์ยัน (Mr. Sergey Manasaryan) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เมเนียประจำประเทศไทย คนแรก โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
11.เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐฟิจิเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิจิประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐฟิจิมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นายโกลีนีโอ กาตา ตากาลี (Mr. Kolinio Gata Takali) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฟิจิประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายเมลี ไบนีมารามา (Mr. Meli Bainimarama) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
12.เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยมีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นางเอลซา นูรี เบาซาน เบนซาโน (Mrs. Elsa Nury Bauz?n Benzano) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบูรพาอุรุกวัยประจำประเทศไทย คนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายเคราร์โด ปราโต (Mr. Gerardo Prato) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
13.เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 17/2561 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 17/2561 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 323/2560 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560 นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกความในข้อ 2.2.1 ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 323/2560 ลงวันที่ 4 ธันวาคม 2560
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป
14.เรื่อง คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2561 เรื่อง การจัดสรรภารกิจและบุคลากรของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 2/2561 เรื่อง การจัดสรรภารกิจและบุคลากรของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สั่ง ณ วันที่ 22 มกราคม พุทธศักราช 2561 ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เสนอดังนี้
1. ให้เปลี่ยนชื่อสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานฯ เป็น เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
2. ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างประจำ ของกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำ มาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีกำหนดเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ได้ไปรายงานตัวต่อเลขาธิการฯ และข้าราชการฯ ผู้ใดประสงค์จะได้รับการแต่งตั้งเป็นข้าราชการหรือได้รับการจ้างเป็นพนักงานราชการในอัตราของสำนักงานฯ ให้แสดงความจำนงเป็นหนังสือต่อเลขาธิการฯ ภายใน 30 วัน ก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว
3. ให้โอนบรรดาหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายของส่วนราชการในกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำ ไปเป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
4. ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดำเนินการกำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างประจำ รวมจำนวน 246 อัตรา ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มีผลใช้บังคับ โดยกรอบอัตรากำลังมาจากการตัดโอนข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำและอัตรากำลังจากกรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำ และเป็นอัตราข้าราชการตั้งใหม่ จำนวน 87 อัตรา
5. ให้นายสำเริง แสงภู่วงศ์ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรและให้ดำรงตำแห่ง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 มกราคม 2561