- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 20 November 2014 12:18
- Hits: 3780
วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8758 ข่าวสดรายวัน
เลี่ยงการเมืองร้อน งดฉาย หนัง'ฮังเกอร์เกมส์' 'สกาลา-ลิโด'กลัวป่วน ล็อกตัว 5 นศ.ขอนแก่น ชู 3 นิ้วต่อหน้านายกฯตู่ โปรดเกล้าฯ 2 รมช.แล้ว'สมคิด'โต้เกาเหลา'อุ๋ย'
บุกชู 3 นิ้ว - ตร. เข้าล็อกตัว 5 น.ศ.กลุ่มดาวดินที่สวมเสื้อยืด 'ไม่เอารัฐประหาร' บุกเข้าไปชู 3 นิ้วประท้วง ขณะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังกล่าวเปิดงานต้านภัยแล้งที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ย.
นายกฯตู่ยิ้มสู้ เจอทั้งใบปลิว และนักศึกษาชู 3 นิ้ว ระหว่างทัวร์ 2 จังหวัดอีสาน ขอนแก่นกาฬสินธุ์ เป็นประธานปล่อยขบวนแก้ภัยแล้ง พร้อมถกผู้ว่าฯ 20 จังหวัด เตรียมมาตรการรับมือ สั่งอนุมัติ 10 ล้าน ซ่อมคลองส่งน้ำเขื่อนลำปาว ลั่นพร้อมลงพื้นที่ภาคเหนือ ชาติพัฒนา-พลังชลร่วมเสนอความเห็นร่างรธน. 'วิษณุ'ยัน'มีชัย'ไม่ก้าวก่ายกมธ.ยกร่าง'สมคิด'โต้ข่าวเกาเหลา'หม่อมอุ๋ย'โปรดเกล้าฯ 2 รมต.ใหม่ 'วิสุทธิ์'รมช.คลัง'อำนวย'รมช.เกษตรฯ โรงหนังดัง สกาลา-ลิโด ยกเลิกโปรแกรมฉายหนัง'ฮังเกอร์ เกมส์'
'ประยุทธ์'ชี้ถก 5 สาย-เร่งกฎหมาย
เวลา 08.45 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่ขส.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ตรวจราชการที่จ.ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ ถึงการประชุม 5 สายงาน คือ คสช. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และครม. ที่อาคารเกษะโกมล เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ได้พูดคุยหารือในทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไรให้การปฏิรูปประเทศดำเนินการได้เรียบร้อยตามโรดแม็ปและวางพื้นฐานของประเทศในระยะยาว ซึ่งเกี่ยวพันทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่ต้องออกให้ทันกรอบเวลา เพราะหากมีการเลือกตั้งแล้วกฎหมายต่างๆ ไม่เรียบร้อยจะทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ แก้ไขไม่ได้อีก
นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นการทำความเข้าใจให้ทุกส่วนตั้งโจทย์ให้ตรงกันว่าวันนี้อะไรคือความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องกฎหมายต้องจัดความสำคัญว่ากฎหมายใด ล้าสมัย มีผลกระทบต่อประชาชนหรือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็วเพราะมีผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ กฎหมายใดที่ออกไม่ได้ต้องเร่งออกให้ได้ เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับประชาชนและมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากๆ ซึ่งใช้เวลาพิจารณานาน อะไรที่ปฏิบัติได้เลยไม่ต้องใช้กฎหมาย ขอให้แจ้งมายังรัฐบาลจะนำไปขับเคลื่อนทันที อะไรที่ทำไม่ทันก็ต้องใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย เพื่อส่งต่อการปฏิรูปให้กับรัฐบาลใหม่
นายกฯ กล่าว่า วันนี้พอใจการทำงานของทุกส่วน และต้องเห็นใจสนช. ตอนนี้มีกฎหมายอยู่ในกระบวนการกว่า 170 ฉบับ ที่กระทรวงต่างๆ จะส่งมาและยังมีอีก 20 ฉบับ ที่กำลังพิจารณาในชั้นกฤษฎีกา ก่อนส่งไปยังสนช. ขั้นตอนยังอีกยาวก่อนจะบังคับใช้กฎหมายได้ อาทิ กฎหมายภาษีมรดกที่ยังต้องถกแถลงกันอีก 3 เดือน เราคิดถึงทุกประเด็นต้องทำให้ทุกคนพอใจ ไม่ใช่อยากออกกฎหมายอะไรก็ออกไป และไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องเก็บภาษีให้ได้มากมาย
ทำประชามติดูสถานการณ์
เมื่อถามว่าเรื่องการปฏิรูปได้สั่งการเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลหรือคสช.จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น งานสนช. สปช. เป็นเรื่องกฎหมาย จะไปชี้นำไม่ได้ ตนเห็นด้วยกับบทความในหนังสือของนายคณิต ณ นคร ที่ระบุว่าการใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหาทางการเมืองอันตราย ต้องระมัดระวัง การบังคับใช้กฎหมายบางครั้งก็เป็นปัญหา ถ้าไม่ทำเจ้าหน้าที่จะโดนละเว้น ถ้าทำก็อาจดูแรงเกินไป ถ้ามีคนสร้างความรุนแรงจะวุ่นวายไปกันหมด ถึงจะเห็นต่างแต่ต้องเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ต้องใช้หลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ มีเหตุมีผล และมีสติ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนจึงพยายามเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าต้องมีสติ แม้กระทั่งเวลาตอบคำถามสื่อก็ต้องระวัง ต้องให้เกียรติกัน เวลาถามคำถามบางเรื่องเราเข้ามาแก้ปัญหาที่มัน ซับซ้อน ยังไม่ทันทำอะไรมาบอกว่าจะกลับเป็นเหมือนเดิม แล้วจะเอากำลังใจที่ไหนมาทำ เข้ามาไม่มีเรื่องผลประโยชน์ หรือการสืบทอดอำนาจ อย่าไปเขียนจนเลอะเลือนไปหมด จนเกิดความไม่ไว้วางใจไปหมด
เมื่อถามถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จากนี้ไป หากทุกคนให้ความร่วมมือก็ไม่เป็นปัญหา
ขอใบปลิวต้านใช้คำสุภาพ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่อีสานว่า การนำรัฐมนตรีหลายคนร่วมเดินทางด้วยเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนพื้นที่อีสาน ซึ่งมีความแห้งแล้งต่อเนื่อง อย่าไปล้วงแคะแกะเกาว่าไปไหนอย่างไร ทำไมต้องไปที่นั่นที่นี่ ตรงไหนเดือดร้อนมากก็ไปก่อน ไม่ได้ไปด้วยเหตุผลการเมืองใดๆ ขอให้เข้าใจว่าเราพร้อมไปดูแลทุกที่ ถ้าตนไปไม่ได้ก็มีรัฐมนตรีไปส่วนราชการอื่นๆ ก็ไป ขอความร่วมมืออย่าเอาความขัดแย้งขึ้นมาทำให้เกิดปัญหา เพราะถ้าขัดแย้งอีกมันจะทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ก็ลำบากกันอยู่อย่างนี้
เมื่อถามถึงกรณีมีใบปลิวต่อต้านการลงพื้นที่อีสาน นายกฯ กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ถ้ายังมีปลิวมาก็แสดงว่ายังมีคนเห็นต่างอยู่ ปลิวมาก็อ่านดู ปลิวมาให้สุภาพก็แล้วกัน เขียนให้สุภาพ อย่าเขียนให้ดุเดือด คิดแล้วกันว่า ต่อต้านเรื่องอะไรและการลงพื้นที่นี้ไปทำอะไร ใช่อย่างที่เขียนหรือไม่ ถ้าเขาเขียนอย่างนั้นแสดงว่าพวกผมไม่ดี หรือทำงานไม่ดี ไม่จริงใจกับประชาชน ก็มาว่ามาแก้กัน ถ้าไปแล้วไม่ดีก็ว่ามา แต่ถ้าไปแล้วดีก็อย่ามาว่าเลย เหน็ดเหนื่อยทำงานเพื่อพวกเรา ยอมทุกอย่าง ไม่เคยท้อแท้ ยิ่งว่ายิ่งเป็นกำลังใจ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะของนายกฯ ที่ออกเดินทางมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินทางด้วยเครื่องบินกองทัพบกไปที่ จ.ขอนแก่นและกาฬสินธุ์ เป็นการลงพื้นที่ตรวจราชการครั้งแรกของนายกฯ โดยเลือกภาคอีสานเป็นภาคแรก
ขอนแก่นโปรยใบปลิวต้าน'บิ๊กตู่'
เวลา 09.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจเยี่ยมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งและการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นและกาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่นไม่ได้ขึ้นป้ายต้อนรับนายกฯ ซึ่งเป็นไปตามที่นายกฯเคยระบุไม่ต้องการให้ใช้งบประมาณไปใช้ขึ้นป้ายต้อนรับ
ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย นอกจากที่ตำรวจพื้นที่เตรียมพร้อมไว้แล้ว มีการจัดกำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รอ. รักษาความปลอดภัยนายกฯ ในระยะประชิด ส่วนรอบนอกใช้กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 (มทบ.23) กองพลทหารม้าที่ 3 (พม.3) กรมทหารราบที่ 8 จำนวน 2 กองร้อย บูรณาการร่วมกับฝ่ายต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เช้ามืดวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่นพบใบปลิวโจมตีการลงพื้นที่ของนายกฯ บริเวณถนนศูนย์ราชการรอบศาลากลางจ.ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ใบปลิวเป็นกระดาษขนาด เอ 4 ข้อความ "อีสานไม่ต้อนรับเผด็จการ!!!" เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเก็บและเคลียร์พื้นที่ก่อนที่นายกฯเดินทางมาถึง
เปิดงานเจอชู 3 นิ้วหน้าเวที
เวลา 09.50 น. ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเปิดงาน"โครงการคืนความสุขให้คนไทย รวมใจสู้ภัยแล้ง" และปล่อยแถวเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ประกอบด้วย รถบรรทุกน้ำ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล และรถผลิตน้ำดื่ม มีนายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าฯขอนแก่น พล.ต.ต.กิจจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น รวมทั้งประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบจ. ต้อนรับกว่า 2,000 คน
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานบนเวทีว่า วันนี้คงได้เห็นตัวจริงกันแล้ว ตนพกพาความห่วงใยและนำกำลังใจมามาก เพื่อส่งมอบให้กับชาวอีสานโดยเฉพาะจ.ขอนแก่นและใกล้เคียง เมื่อพูดถึงตรงนี้ปรากฏมีกลุ่มนักศึกษา 5 คน อ้างตัวว่าเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ปะปนอยู่กับผู้มาร่วมงาน ลุกยืนด้านล่างหน้าเวที ถอดเสื้อคลุมสีดำโยนไปด้านหน้าเพื่อโชว์ข้อความบนเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความสีขาว "ไม่-เอา-รัฐ-ประ-หาร" พร้อมชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วต่อต้านรัฐประหาร ที่กลุ่มต่อต้าน คสช.เคยใช้ช่วงต้นของการยึดอำนาจ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปชาร์จและพาตัวออกไปทันที
1 ใน 5 นักศึกษากล่าวสั้นๆ ว่า ต้องการมาแสดงออกทางความคิดเห็นและพวกตนก็เป็นคนที่นี่ ทั้งนี้ ตรวจสอบพบว่านักศึกษากลุ่มดังกล่าวคือกลุ่ม "ดาวดิน" กลุ่มนักศึกษาเครือข่ายประชาธิปไตยที่เคยถูกทหารเชิญตัวไปปรับทัศนคติมาแล้วครั้งหนึ่ง
บิ๊กตู่ยิ้มบอกไม่เป็นไร
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นรวดเร็วมากกินเวลาเพียง 1 นาที สร้างเสียงฮือฮาจากผู้เข้าร่วมงาน ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ อึ้งและนิ่งไประยะหนึ่ง มองไปที่กลุ่มนักศึกษาแล้วยิ้มก่อนหัวเราะในลำคอกล่าวว่า "มีแบบนี้ไม่เป็นไร ค่อยๆ พาเขาไป ปัญหาทั้งหมดเราจะดูแลให้อยู่แล้ว ไม่ค่อยเข้าใจกันก็ลำบาก มีใครมาประท้วงอีกจะได้พูดทีเดียว ถ้าประท้วงกันก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ผมว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ พวกเราว่าวันนี้เราจะทำอะไรกัน" เรียกเสียงปรบมือ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่คิดอะไร คนไทยต้องให้อภัยกัน ขอทำงานลุยเรื่องนโยบายเพื่อพัฒนาภาคอีสาน คนเห็นต่างเขาไม่เข้าใจ หากมีเรื่องอะไรให้ไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมได้
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ต้องหยุดพูดอีกครั้ง เนื่องจากผู้ร่วมงานยังวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเซ็งแซ่ พล.อ.ประยุทธ์ จึงพูดขึ้นว่า ฟังกันนิดจะได้เข้าใจกัน ทหารต้องดูแลประชาชนทุกคนให้ได้ ทหารไม่ใช่ศัตรู ตนมาในบทบาทของนายกฯ และรัฐมนตรีที่ร่วมคณะต้องการมาดูแลทุกคนให้มีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกจังหวัด ทุกพื้นที่และทุกตารางนิ้วของประเทศให้เกิดความเป็นธรรมให้ได้ สิ่งที่เป็นปัญหายืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ไปบังคับใครทั้งสิ้น แต่จะบอกว่าเราควรทำอะไรอย่างไรต่อไป วันนี้เราต้องมาแก้ไขภาพใหญ่ของประเทศให้ได้ เพื่อเชื่อมโยงเพื่อนบ้านและประชาคมโลก อย่ามองประเด็นเล็กๆ น้อยๆ เป็นปัญหาทุกเรื่องเพราะจะทำให้การขับเคลื่อนประเทศไปไม่ได้
4-5 เดือนดีขึ้น-อย่าเชื่อข่าวลือ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมานาน ปัญหาเหล่านี้ต้องแก้อย่างเป็นระบบ รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาให้ทุกคน ไม่ใช่เข้ามาแก้เรื่องการเมืองหรือความขัดแย้งเป็นหลัก แต่ความขัดแย้งก็เป็นเรื่องหนึ่ง สิ่งสำคัญต้องการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมทั่วถึงและเท่าเทียม วางรากฐานประชาธิปไตยเพื่อวันข้างหน้า วันนี้ถ้าประชาธิปไตยยัง ขัดแย้งอยู่อย่างนี้ก็เดินหน้าไม่ได้ ถึงวันนี้เข้ามาทำหน้าที่ 4-5 เดือน ทุกอย่างค่อนข้างดีขึ้น ทุกอย่างต้องใช้เวลา แก้ปัญหาคน 67 ล้านคนไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้อย่าไปเชื่อข่าวลือว่าจะไปยึดที่ตรงนั้นตรงนี้คืน ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เราพิจารณาว่าทำอย่างไรให้ปัญหาดีขึ้น เป็นระบบขึ้นและเกิดความเชื่อมั่น วันนี้ต้องลดความขัดแย้งให้ได้ หนักนิดเบาหน่อยต้องอดทนกัน ให้อภัยกัน
นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนเกเร ไม่ใช่คนก้าวร้าวหรือชอบความรุนแรง ตนเจ็บปวดทุกครั้งเวลามีปัญหากับพวกท่าน ซึ่งไม่เคยคิดอะไรทั้งสิ้น วันนี้เอาหัวใจเต็มร้อยมา คาดหวังว่าจะได้หัวใจคนอีสานกลับไปเกิน 100 เช่นกัน สัญญาว่าเราและรัฐบาล ทหารต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ แต่เวลามีจำกัดจึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน ถ้ายังมัวขัดแย้งเหมือนเหตุการณ์เมื่อสักครู่มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด ตนไม่มีเวลามาต่อสู้กับใครได้อีกแล้ว ใครมีปัญหาก็ให้ส่งเรื่องมาได้พร้อมรับแก้ทั้งหมด เท่าที่ทราบวันนี้มี 10 กว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่รับมาแล้วส่งต่อให้กรรมการพิจารณาว่าจะแก้อย่างไร ทุกอย่างต้องแก้แต่บางเรื่องต้องใช้เวลา
ตั้งใจไปทุกจว.-รับได้คนต้าน
นายกฯ กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อครู่น่าจะส่งไปศูนย์ดำรงธรรม มาอย่างนี้ไม่ได้ประโยชน์ ตอนแรกนึกว่ามีการแสดงมาต้อนรับ แต่ทำไมมันใส่ชุดดำ นึกว่ามาเต้นกระตั้วแทงเสือ ไม่เป็นไร ไม่โกรธแค้นกัน คนไทยไม่รักคนไทยด้วยกันแล้วใครจะมารักเรา ถ้าเราไม่ร่วมมือกันแล้วใครจะมาทำให้เรา ถ้ารัฐบาลไม่ช่วยดูแลประชาชน ใครจะดู ขอฝากถึงพี่น้องซึ่งไม่ได้มาด้วยขอให้กำลังใจข้าราชการที่ทำงาน อะไรที่เป็นเรื่องทุจริตขอให้เลิก ใครจะมาอ้างตนเรื่องผลประโยชน์ ยืนยันว่าไม่มี ตนไม่ต้องการ สลึงเดียวก็ไม่เอา ฉะนั้นอย่าให้เกิดปัญหาในพื้นที่เด็ดขาด มีอะไรให้หันหน้าเข้าหากัน อย่าหงุดหงิดหรือโมโห เรื่องประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ เดี๋ยวค่อยว่ากัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้า ที่ผ่านมาตนพูดเยอะมาก พูดทุกวันจนเหนื่อย เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าตั้งใจ ไม่อยากทะเลาะกับใคร วันนี้ที่มามีกำลังใจเต็ม 100 แต่พอมาเจอเต้นกันนิดหน่อยเลยขึ้นเป็น 150 เข้าใจดี เพราะไม่มีใครทำให้คนรักได้ 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว แต่พยายามทำให้คนพอใจมากที่สุด โดยไม่เสียประโยชน์ส่วนรวมของคนทั้งประเทศ ยืนยันเป็นคนจริงใจ ไม่พูดโกหก รักทุกคน เราต้องไว้วางใจกันและให้กำลังใจกัน อย่าบั่นทอน มีอะไรขอให้เสนอแนะเข้ามา ให้เวลาบ้าง เราจะต้องมาสัญญากันว่ารัฐบาล ทหารและคนไทยทุกคนจะเดินหน้าและขับเคลื่อนไปด้วยกัน รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาแต่ต้องใช้เวลา ขอให้ทุกคนเข้าใจ
"ผมจะลงพื้นที่พบทุกคนในทุกจังหวัดให้มากที่สุดในช่วงการดำรงตำแหน่ง ขอให้รอ สำหรับคนที่มาแสดงละครหรือต่อต้าน ผมรับได้และรับฟังแต่ควรไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมากกว่า"
'บิ๊กป๊อก'ขู่ยุบผู้ว่าฯ-นอภ.
เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายกฯประชุมผู้ว่าฯ 20 จังหวัดภาคอีสานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลและเตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมรับฟังการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม นายกฯ กล่าวก่อนประชุมว่า พื้นที่ไหนมีปัญหามากจะลงพื้นที่นั้นก่อน รัฐบาลยินดีและเต็มใจที่จะดูแลชาวอีสาน 20 จังหวัด
ระหว่างรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ การรับมือภัยแล้ง รวมถึงการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนอยากเห็นรอยยิ้มของประชาชนมาก่อน ไม่เช่นนั้นตนคงยิ้มไม่ออก ขอให้หัวหน้าส่วนราชการทุกจังหวัดช่วยกันดูแลประชาชนในช่วงเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ นายกฯกล่าวหยอกล้อปลัดมหาดไทยด้วยว่า จากการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรม หากตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ก็อาจต้องยุบกระทรวงมหาดไทยทิ้งทันที แล้วตั้งกระทรวงดำรงธรรมขึ้นแทนเพราะดำเนินการได้ทุกอย่าง
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์กล่าวกำชับผู้ว่าฯ นายอำเภอว่า ขอให้ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุและความเรียบร้อยในจังหวัดให้ได้ หากไม่ดำเนินการอาจมีการยุบผู้ว่าฯ นายอำเภอ เพราะไม่รู้จะเอาไว้ทำไม อาจมีการเลือกตั้งแทน ขอทุกฝ่ายเร่งแก้ไขปัญหา
ย้ำต้องพูดมาก-ใครไม่ฟังก็ปิดทีวี
จากนั้น นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า ทุกคนต้องทำงานอย่างตื่นตัว แม้รำคาญว่าหัวหน้าคสช.พูดมาก แต่ต้องพูดเพราะที่ผ่านมาไม่มีใครพูด พอพูดก็นำไปสู่ข้างใดข้างหนึ่งจนกลายเป็นปัญหามาตลอด แต่วันนี้ตนพูดตรงกลางว่าประเทศมีปัญหาอะไรบ้าง ต้องช่วยกันและอดทนกัน ทนหน้าพวกตนหน่อยแล้วกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกรัฐบาลมีรายการทุกวันเสาร์แต่ไม่ได้อะไร ประชาชนไม่ได้ฟังใครพูด วันนี้ตนพูดเยอะเพราะที่ผ่านมาไม่มีใครพูด ใครจะฟังก็ฟัง ใครไม่ฟังก็นอนปิดทีวี ถ้าไม่อยากฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์และเรื่องที่เป็นอนาคตแล้วประเทศจะไปกันอย่างไร ตนต้องการให้เห็นว่าอนาคตจะเดินหน้ากันอย่างไร พอหมดหน้าที่ตนก็ออกไปเท่านั้น ไม่ต้องการมาเสนอหน้าอย่างทุกวันนี้ แต่ปัญหาจำเป็นต้องปรับแก้ ไม่เช่นนั้นไม่รู้จะเข้ามาทำไม วันนี้มีศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด จำเป็นต้องมีข้อมูลในพื้นที่ เวลามีปัญหาก็แก้ในแต่ละจุด อะไรที่เกินกำลังในพื้นที่ ค่อยส่งเข้าส่วนกลางหรือกระทรวงโดยตรงหรือรัฐบาล รัฐบาลจะแก้ในภาพใหญ่ทั้งระบบ วันนี้ประเทศต้องการความมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิรูป จากนี้ต้องเลิกทะเลาะกัน การประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญทั้งผลงานและนโยบายของรัฐบาลทุกคนต้องช่วยกัน และอย่าทำงานแบบจุดพลุแล้วเลิก
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้จะเสียเวลาไม่ได้แล้ว ต้องลดขัดแย้ง คสช.และรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาที่มีมาซ้ำซาก อย่าให้ทุกเรื่องซ้ำซากอีก ทั้งทุจริตซ้ำซาก แล้งซ้ำซาก น้ำท่วมซ้ำซาก โกงกินซ้ำซาก จนทำให้ประเทศซ้ำซาก ไม่ได้เรื่อง วันนี้เข้าสู่โรดแม็ปขั้นที่สองคือการปฏิรูป ยุทธศาสตร์รัฐบาลต้องวางทันที ทำจริงให้เกิดภายใน 1 ปี มากหรือน้อยก็ต้องเกิด ต้องมีผลสัมฤทธิ์มีกฎหมายออกมา และทำอย่างยั่งยืนพร้อมส่งต่อรัฐบาลหน้า ซึ่งใครจะมาไม่รู้
ส่ง 5 นศ.เข้าค่ายทหารก่อนปล่อยตัว
พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เรื่องใบปลิวต่อต้านนายกฯ ส่วนตัวไม่พบเห็นแต่สั่งการตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะที่กลุ่มนักศึกษาที่มาแสดงสัญลักษณ์ได้ควบคุมตัวทั้ง 5 คน ไปสอบสวนและลงบันทึกปากคำให้การที่ สภ.ขอนแก่น ก่อนส่งมอบให้ มทบ.23 ควบคุมตัวไปปรับทัศนคติตามขั้นตอนต่อไป แต่การจะแจ้งข้อกล่าวหาหรือการดำเนินคดีตามกฎหมายต้องตรวจสอบอีกครั้ง
รายงานข่าวเผยว่า นักศึกษาทั้ง 5 คน ถูกนำตัวไปที่เรือนรับรอง มทบ.ที่ 23 ค่ายศรี พัชรินทร ทั้ง 5 เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น กลุ่มดาวดิน ดังนี้ 1.นาย เจตน์สฤษฎ์ นามโคตร คณะนิติฯ ปี 2 นายวิชชากร อนุชน คณะนิติฯ ปี 4 นายจตุภัทร์ บุญภัทรวิทยา คณะนิติฯ ปี 4 นายพายุ บุญโสภณ คณะนิติฯ ปี 2 และนายวสันต์ เสกสิทธิ์ คณะนิติฯ ปี 4
ปล่อยตัวแต่ขอพบผู้ปกครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นักศึกษาทั้ง 5 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ในค่าย มทบ. 23 ภายใต้การควบคุมของ พ.อ.สุรศักดิ์ สำราญบำรุง หัวหน้ากองข่าว มทบ. 23 หลังถูกควบคุมตัวมาแล้ว 7 ช.ม. ทหารขอความร่วมมือให้เซ็นรับรองว่าจะไม่ก่อเหตุที่ขัดประกาศต่อคำสั่งคสช. แต่ทั้งหมดยังยืนกรานไม่เซ็นรับ โดยมีอาจารย์ประจำคณะของนักศึกษาทั้งหมด เข้าร่วมการเจรจาด้วย
ล่าสุดเวลา 18.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้งหมดกลับ โดยวันที่ 20 พ.ย. จะให้ผู้ปกครองของนักศึกษาทั้ง 5 คน มาทำความเข้าใจปรับทัศนคติ เบื้องต้นยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาอะไร
วันเดียวกัน กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม (ดาวดิน) ออกแถลงการณ์เรื่อง "พวกเราไม่ต้อนรับเผด็จการ" พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก ยกเลิกนโยบายและโครงการที่ทำลายสภาพท้องถิ่นในหลายจังหวัด เช่น แผนแม่บทป่าไม้และที่ดิน การปฏิรูปพลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและ ไม่ฟังเสียงประชาชน และอีกหลายโครงการ รวมถึงคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน
'บิ๊กตู่'ปลื้มวันประวัติศาสตร์
ส่วนบรรยากาศภายในศาลาประชาคมขอนแก่น นายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ หัวหน้าส่วนประสานการรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักนายกฯ นำเจ้าหน้าที่มารับข้อร้องเรียน โดยมีประชาชนทั้งจาก จ.ขอนแก่น อุดรธานี เลย นครพนม นครราชสีมา ยื่นหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่ดินทำกิน การทุจริต การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและปัญหาภายในชุมชน
เวลา 15.00 น. ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ ต.น้ำอ้อม อ.กระนวน พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ภาคอีสานครั้งนี้ว่า ตนมีความสุขและเป็นสิ่งที่อยากทำ ได้มาเจอชาวบ้าน ได้แสดงความจริงใจให้เขาเห็นว่าตนตั้งใจแค่ไหน วันนี้รับฟังหลายปัญหา คิดว่าแก้ได้ไม่ยาก จะเร่งรัดบริหารจัดการน้ำให้ได้รวมถึงบูรณาการการใช้งบประมาณปี"57 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้น วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเราอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ยังมีบางคนมีความเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาคงเข้าใจ ตนพยายามสร้างความเข้าใจว่าคนเราเห็นต่างกันได้ แต่ต้องมองว่าสถานการณ์วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง บ้านเมืองมีปัญหาหรือไม่ ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้แล้วจะใช้วิธีใดแก้ปัญหา ถ้ามีวิธีอื่นแก้ได้ ตนก็ไม่ต้องการมาทำแบบนี้ ทุกคนต้องดูด้วยว่ามันเป็นไปได้แค่ไหน
ยันไปครบทุกภาค
เมื่อถามว่า วันนี้พูดคนเดียวเหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เหนื่อย ตนมอบนโยบายให้ท้องถิ่นช่วยกันทำความเข้าใจ ทำงานมา 5-6 เดือน ไม่ได้ทำเพื่อให้มารักตน ทำให้รู้ว่าต้องทำอย่างไรให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป โดยตนจะขับเคลื่อนให้ เราจะวาดอนาคตไว้ให้ถึงแม้เราจะอยู่ได้ไม่ถึงตรงนั้น แต่เราต้องวางพื้นฐานให้ใครก็ตามที่เข้ามา บริหารประเทศต่อไป แต่เมื่อถึงเวลารัฐบาลมาจากการเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงก็ช่วยไม่ได้ เป็นเรื่องของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องแก้กันเอง
ส่วนที่มีคนเห็นต่างทำให้นายกฯ ท้อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ท้อ เมื่อครู่ทราบว่าเป็นนักศึกษา ต้องไปสร้างความเข้าใจกับเขาให้ดี เมื่อถามว่าเจอเหตุการณ์อย่างนี้ยังจะลงพื้นที่ภาคเหนือหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ทำไม ผมจะต้องไปรบอะไรกับเขา ผมไม่รบกับเขา หลังจากลงพื้นที่ภาคอีสานแล้วจะพิจารณาพื้นที่อื่นต่อไปบอกกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแล้ว ส่วนจะเป็นช่วงไหนยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่แน่นอน แต่ยืนยันว่าไปแน่ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยจะลงพื้นที่ไปหมดทุกภาค และกลุ่มที่เห็นต่างก็ไม่เป็นอุปสรรคในการลงพื้นที่ เขาเป็นคนไทย ซึ่งคนไทยต้องเข้าใจ ผมเป็นผู้บริหารใช้อำนาจใช้กฎหมายก็ต้องอดทนฟังเขา อย่าใช้ความรุนแรงแล้วกัน ไม่มีอะไรรุนแรง คนที่มาแสดงให้ผมดูก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรง"
ปรับครม.ปีใหม่-ขอดูอีกที
เมื่อถามว่าช่วงเหตุการณ์รู้สึกตกใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนขี้ตกใจขนาดนั้น เมื่อถามว่าคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าจะมีคนมาต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสมันก็มีทั้งนั้น แต่ตอนนี้ปลอดภัยที่สุดเพราะอยู่ท่ามกลางสื่อ ปลอดภัยไม่มีใครทำร้ายตน
เมื่อถามถึงการปรับ ครม.เพิ่มอีก 2 ตำแหน่ง นายกฯ กล่าวว่า มีการปรับ 2 ตำแหน่ง คือ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เป็นรมช.คลัง และนายอำนวย ปะติเส เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ต้องรอให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมและนำเข้าเฝ้าฯ ก่อนถึงจะทำงานได้ เมื่อถามว่าหลังปีใหม่จะมีโอกาสปรับครม.อีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าเดี๋ยวดูอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองใหญ่ของนายกฯ และคณะนั้น มาตรการรักษาความปลอดภัย เข้มงวด หลังเกิดเหตุนักศึกษาบุกแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเก้าอี้ภายในงาน ตรวจกระเป๋าประชาชนที่มาร่วมงาน และนำรถผู้ต้องขังเข้ามาในพื้นที่ด้วย
มาอีสานไม่ใช่การเมือง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับข้าราชการและประชาชนที่มาต้อนรับว่า อยากสื่อสารทุกเรื่องที่พูดทุกวันศุกร์อย่าเพิ่งรำคาญ ตนยังรำคาญตัวเองว่าไม่รู้จะพูดอะไรเดี๋ยวไปขัดใจพี่น้อง ตอนไปต่างประเทศก็บอกกับต่างชาติว่าประเทศเราไม่ทะเลาะกันแล้ว อยากขอร้องให้เราหันกลับมาดูแลกัน ตนเข้ามาดูแลประเทศแค่ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
นายกฯ กล่าวว่า มาภาคอีสานก่อนไม่ใช่ด้วยเหตุผลการเมือง มาเพราะประชาชนมีปัญหาเดือดร้อนมากกว่าที่อื่น มีประชากรเยอะกว่า มีน้ำแล้งเยอะกว่า จึงต้องมาเยี่ยม ตนทุ่มเททำงานเพื่อพวกเรา ไม่ใช่เพื่อพวกตน ต่างฝ่ายต้องเป็นกำลังใจให้กัน ใครเห็นต่างไม่ว่าแต่อย่าทำให้เกิดความวุ่นวายเพราะจะปฏิรูปประเทศไม่ได้ ส่วนการปฏิรูปองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นตนไม่เข้าไปยุ่งเลย ลือกันไปเอง
"ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีการเมืองเพราะผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่มีคะแนนเสียงเพราะผมไม่ต้องการลงเลือกตั้ง เราเป็นหนึ่งเดียวกัน เลือดสีเดียวกัน ต้องตอบแทนแผ่นดินและมองถึงอนาคตลูกหลาน จำเป็นต้องพูดเยอะ สู้กับละครวันศุกร์ ถูกกล่าวหาว่าไปเบียดเวลาละคร ดาราก็บ่นแต่ช่วงนี้ต้องขอ เพราะถ้าไม่ฟังผมแล้วไม่คิดตามก็ไม่เกิดประโยชน์ ทำให้เกิดความขัดแย้ง ใครมาพูดก็ไม่เข้าใจจึง ต้องมาพูดเอง ถ้าพูดแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ส่งผ่านช่องทางที่เปิดให้ ผมจะรับมาดู" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ตรวจเขื่อนลำปาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น และกาฬสินธ์ุ ชาวบ้านมาต้อนรับหรือร่วมงานค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบจ. และอบต.
จากนั้นเวลา 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำที่เขื่อน ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยมี ผู้ว่าฯ กาฬสินธ์ฯ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ ประชาชนต้อนรับ
หลังรับฟังบรรยายสรุป นายกฯ กล่าวว่า สบายใจที่ชาวกาฬสินธุ์ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องน้ำ มีน้ำใช้อุปโภค-บริโภค และทำการเกษตรเพียงพอตลอดปี ทั้งนี้ ได้อนุมัติงบซ่อมคลองชลประทานที่เสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ให้กักเก็บน้ำและส่งน้ำให้มีประสิทธิภาพ 100 กว่าล้านบาท เน้นย้ำให้ทำอย่างโปร่งใส และให้ประชาชนมีส่วนร่วม
สำหรับ งบ 100 ล้านบาท นายภุชงค์ โพธิกุฏสัย ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เสนอเพื่อซ่อมคลองส่งน้ำระบบชลประทานเขื่อนลำปาว เพื่อป้องกันการรั่วซึมระหว่างส่งน้ำให้กับเกษตรกรช่วงหน้าแล้ง นายกฯยังสั่งเร่งสำรวจและออกแบบระบบชลประทานโครงการหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้พื้นที่มีระบบคลองส่งน้ำให้กับเกษตรกรใช้น้ำอย่างทั่วถึง
คุยเครียด'บิ๊กป้อม'ที่สนามบิน
เวลา 18.25 น. ที่ขส.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯและเข้าพักที่ห้องรับรอง มีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าพบและพูดคุยครู่หนึ่ง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์เตรียมเดินทางกลับบ้านพัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ซึ่งเดินทางกลับจากพม่าช่วงเวลาเดียวกัน ได้เจอกันที่หน้าห้องรับรอง ยืนพูดคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดโดยมีพล.อ.อนุพงษ์และพล.อ.ดาว์พงษ์ ร่วมคุยด้วยประมาณ 5 นาที ก่อนแยกย้ายกันกลับ
พท.ยืนยันไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ
นายอำนวย คลังผา อดีตส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ต่อต้าน พล.อ. ประยุทธ์ ที่ จ.ขอนแก่น ว่า คิดว่าไม่น่าจะเป็น กระแสต่อต้านนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าให้ความร่วมมือ จะไม่มีการชุมนุมเพราะอยากเห็นบ้านเมืองเกิดความปรองดองสมานฉันท์ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึก เปิดทางให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ และไม่ควรกังวลว่าจะมีการประท้วง เพราะ คสช.ยังมีอำนาจอยู่
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลัง ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ...ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีกฎหมายหลายฉบับเพื่อใช้ควบคุมและดูแลการชุมนุม ทั้งพ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก จึงไม่เห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องมีกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาบังคับใช้ มองว่ารัฐบาลอาจกังวลกับปัญหาเฉพาะหน้าที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ภัยแล้งและปัญหาการเมืองโดยเฉพาะการร่างรัฐธรรมนูญ อาจมีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยรวมตัวชุมนุมเรียกร้อง เลยตัดปัญหาโดยออกกฎหมายนี้
นายวรชัย กล่าวว่า หากกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ จะปิดกั้นช่องทางเสนอแนะหรือเรียกร้องของประชาชน และสถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลไม่ควรปิดกั้นประชาชนรวมทั้งสื่อ เพราะจะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ สร้างความตึงเครียดให้เพิ่มขึ้น อย่ากังวลว่าถ้ายกเลิกแล้วจะเกิดคลื่นใต้น้ำหรือมีคนออกมาต่อต้าน พรรคเพื่อไทยยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ เราปล่อยรัฐบาลบริหารประเทศอย่างเต็มที่
2 โรงหนังเลิกฉาย'ฮังเกอร์เกมส์'
วันเดียวกัน โรงภาพยนตร์สกาลา และ ลิโด สั่งยกเลิกการฉายภาพยนตร์เรื่อง'เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท วัน'รอบปฐมทัศน์ในวันที่ 20 พ.ย. และถอดภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวออกจากผังภาพยนตร์ทั้งหมด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของโรงภาพยนตร์สกาลา ปฏิเสธจะให้เหตุผลว่าทำไมจึงยกเลิกการฉายหนังดังกล่าว และเป็นการตัดสินใจยกเลิกของทางโรงภาพยนตร์เองหรือมีการขอความร่วมมือจากทางการ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า บริษัทเพิ่งตัดสินใจยกเลิกการฉายเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ ในวันที่ 19 พ.ย.
ก่อนหน้านี้กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) ได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมดูภาพยนตร์เรื่องนี้ในรอบปฐมทัศน์ โดยระบุว่าเป็นการแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร
นายธันย์ ฤทธิพันธ์ สมาชิกกลุ่ม LLTD ให้สัมภาษณ์ว่า ทางกลุ่มเหมาตั๋วที่นั่งของสกาลาสำหรับวันที่ 20 พ.ย. ไว้ และเจรจากับโรงภาพยนตร์เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมดังกล่าวมาตลอด กระทั่งวันที่ 19 พ.ย. ได้รับการติดต่อว่าโรงภาพยนตร์ยกเลิกการฉายภาพยนตร์ดังกล่าว รู้สึกตกใจอย่างมาก ส่วนกิจกรรมต้านรัฐประหารในวันที่ 20 พ.ย. จะยังมีหรือไม่ ต้องขอประชุมกับสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ก่อน
กมธ.ปัดฝุ่นกม.พรรค-เลือกตั้ง
เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ ฝากการบ้านให้เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวกับปฏิรูปประเทศว่า ยังไม่ได้กำหนดว่าจะหารือกับกมธ.ยกร่าง เพื่อกำหนดแนวทางหรือปรับแนวทางใดๆ โดยวันที่ 1 ธ.ค. จะติดตามงานของคณะอนุ กมธ.พิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ประเด็น
นายเจษฎ์ โทณะวณิก กมธ.ยกร่างฯ ในฐานะประธานคณะอนุกมธ.จัดทำข้อเสนอแนะในการตรา หรือแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงแนวทางการพิจารณาร่างกฎหมายลูกว่า คณะอนุ กมธ.อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์กรอิสระ เพื่อพิจารณาถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ส่วนที่ที่ประชุมร่วม 5 ฝ่ายให้เร่งพิจารณาออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนั้นเป็นข้อสังเกตจาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่ระบุหลังจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จัดทำเสร็จ จะมีกรอบเวลา 6 เดือน เพื่อทำกฎหมายลูกที่ใช้เป็นกติกาเลือกตั้ง ดังนั้น ขอให้พิจารณาให้เป็นตามกรอบ เพราะหากทำกฎหมายประกอบไม่เสร็จ อาจทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวยืดออกไป
นายเจษฎ์ กล่าวว่า ส่วนแนวทางที่ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ให้ไว้ว่าระหว่างยกร่างรัฐธรรม นูญ คณะทำงานเกี่ยวกับกฎหมายลูกต้องทำงานคู่ขนาน ทั้งนำกฎหมายลูกฉบับเก่ามาปรับปรุง หรือหากจำเป็นต้องยกร่างกฎหมายขึ้นมาก็ต้องเร่งดำเนินการ โดยทำควบคู่ไปนั้น ส่วนตัวเห็นว่าจะเกิดผลดี จะได้สอดรับกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กฎหมายลูกที่จำเป็นคือกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง มองว่านำฉบับเก่ามาพิจารณาและอาจปรับปรุงสาระไม่มากนักเพราะฉบับเดิมมีบทบัญญัติที่ดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญคือนำบทบัญญัติที่มีมาใช้ให้เกิดความเป็นรูปธรรมอย่างไร
ชพน.ชูนายกฯมาจากส.ส.
เวลา 10.00 น. มีการประชุมกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นายบวรศักดิ์ เป็นประธานการประชุม โดยเชิญตัวแทนพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ได้แก่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ บุญชัยสุข เลขาธิการพรรค และตัวแทนพรรคพลังชล ได้แก่ นายสันต์ศักย์ งามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ อดีตส.ส.ชลบุรี ร่วมให้ความเห็น
นพ.วรรณรัตน์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือว่า ขณะนี้ยังติดปัญหาเรื่องกฎอัยการศึก อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อการรับฟังความคิดเห็น ถ้าผ่อนปรนได้ควรให้ตามความเหมาะสม เมื่อถามว่าในอีสานยังมีปัญหาขัดแย้งอยู่ นพ.วรรณรัตน์กล่าวว่า ตามคำสั่งคสช. ไม่ให้คลื่อนไหวทางการเมืองพรรคเราก็ปฏิบัติตามกรอบอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแนวทางที่ ชพน.เสนอต่อกมธ.ยกร่างมีสาระสำคัญ คือ คุณสมบัติส.ว. ควรมีความอาวุโส และมีประสบการณ์มากกว่าส.ส.เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย นอกจากนี้ ส.ว.เลือกตั้งและสรรหาควรมีบทบาทแตกต่างกัน รวมถึงนายกฯ ควรมาจาก ส.ส. ในกรณีบ้านเมืองมีวิกฤตต่างๆ ให้มีนายกฯที่ไม่ได้มาจากส.ส.ได้ แต่ต้องมีอำนาจหน้าที่และระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่ต่างจากนายกฯ ที่มาจาก ส.ส. ส่วนนโยบายประชานิยมจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาก่อน จึงนำไปปฏิบัติ สำหรับขั้นตอนการสรรหาองค์กรอิสระ ต้องมีส่วนร่วมจากประชาชนและทุกองค์กรสามารถตรวจสอบได้
หนุนเลือกตั้งแบบเขตเล็ก
ช่วงต้นการประชุม นายบวรศักดิ์กล่าวชี้แจงว่า กมธ.ยกร่างฯ ยังไม่มีธงหรือข้อยุติหรือพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญ จากนี้กมธ.ยกร่างฯจะแจกโครงร่างรัฐธรรมนูญที่คณะจัดทำขึ้น ตลอดจนรายชื่อคณะอนุกมธ.ต่างๆ ให้หัวหน้าพรรค หากมีข้อเสนอแนวทางปฏิรูป สามารถยื่นรายละเอียดเพิ่มเติมได้
ด้านนายสันต์ศักย์ กล่าวก่อนเข้าให้ข้อมูลว่า พรรคพลังชลพร้อมสนับสนุนการปฏิรูป ส่วนเรื่องกฎอัยการศึกยอมรับว่าเป็นปัญหาในการระดมความคิดเห็นเพื่อปฏิรูป เร็วๆนี้พรรคจะทำหนังสือถึงคสช. ขออนุญาตประชุมพรรคเพื่อระดมความเห็นเสนอแนะเรื่องรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ จะเสนอกมธ.ยกร่างฯ ให้เลือกตั้งแบบวันแมนวันโหวตต่อไป ไม่เห็นด้วยกับแนวทางให้มีส.ส.จังหวัดละ 1 คน แต่ต้องเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายตรวจสอบลงโทษผู้ซื้อสิทธิขายเสียงได้อย่างแท้จริง ส่วนส.ส.แม้จะสังกัดพรรคแต่ควรให้มีอิสระในการโหวตลงมติไม่ต้องยึดมติพรรค
เวลา 12.30 น. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ.ยกร่างฯ เผยภายหลังร่วมหารือรับฟังความคิดเห็นจากพรรคชาติพัฒนาและพรรคพลังชลว่า พรรคชาติพัฒนาเสนอให้มีนายกฯมาจากการเลือกตั้ง ยกเว้นกรณีบ้านเมืองเกิดวิกฤต เช่น นายกฯถูกถอดถอน และเกิดทางตันทางการเมือง จึงเลือกคนเข้ามาทำหน้าที่ได้ แต่ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากส.ส. 3 ใน 4 ของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีนายกฯคนนอกทำหน้าที่เฉพาะในช่วงวิกฤตจนกว่าสถานการณ์ปกติจนมีการเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งกมธ.รับฟังไว้แต่ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ ขณะเดียวกันทั้ง 2 พรรคยังเห็นพ้องตรงกันในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้เป็นเขตเล็กเพราะดูแลประชาชนได้ทั่วถึงกว่าเขตใหญ่
21 พ.ย.พท.ปัดร่วมเสนอความเห็น
พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า ส่วนเรื่องทุจริตเลือกตั้งนั้น ให้กกต.จัดเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว แต่การตัดสินให้ใบเหลืองหรือใบแดง เป็นหน้าที่ของศาลและอุทธรณ์คดีได้ ส่วนส.ว.ยังคงให้มี 2 แบบคือ เลือกตั้งและสรรหา ให้มีสัดส่วนส.ว.สรรหาน้อยกว่าเลือกตั้ง รวมถึงกำหนดคุณสมบัติส.ว.สรรหาให้สูงกว่ามาจากการเลือกตั้ง อาทิ วุฒิการศึกษาและอายุ พรรคพลังชลยังเสนอถึงรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 237 กรณียุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 5 ปี กรรมการบริหารพรรคที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยากให้ยกเลิกไป ให้ลงโทษผู้กระทำผิดเพียงอย่างเดียว ทั้ง พรรคชาติพัฒนา ยังเสนอให้เลือกตั้งผู้ว่าฯโดยตรง เน้นจังหวัดที่มีความพร้อมก่อน เช่น เชียงใหม่ สงขลา
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า วันที่ 20 พ.ย. กมธ.ยกร่างฯจะเชิญพรรคมาตุภูมิมาให้ข้อเสนอแนะ ส่วนพรรคเพื่อไทยซึ่งเดิมกำหนดมาให้ความเห็นในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ล่าสุดพรรคเพื่อไทยปฏิเสธจะเข้าร่วม แต่กมธ.มองว่าไม่เป็นไร เพราะกมธ.จะไปหารือกับตัวแทนพรรคเอง
วิษณุแจงที่มา กม. 300 ฉบับ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงนายกฯระบุการประชุม 5 ฝ่าย มีการผลักดันกฎหมาย 300 ฉบับว่า รัฐบาลรายงานครม.วันที่ 18 พ.ย.ว่ามีกฎหมายจากต้นทางคือ 20 กระทรวงกำลังดำเนินการเพื่อเสนอครม. 130 ฉบับ ไม่ชัดเจนว่าจะส่งให้ครม.พิจารณาหรือไม่ กฎหมายกลางทางคืออยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา 30 ฉบับ และกฎหมายปลายทางคือส่งเข้าสนช.ไปแล้ว 70 ฉบับ บางส่วนผ่านความเห็นชอบแล้ว
นายวิษณุ กล่าวว่า นายกฯกำชับการทำงาน ของสปช.ว่า หากคิดจะปฏิรูปอะไรก็ต้องออกกฎหมายที่เกี่ยวกับการปฏิรูปออกมา ไม่ใช่เพ้อไปโดยไม่มีกฎหมาย จึงย้ำกับสปช.ว่ากฎหมายที่ทำเองได้ให้ช่วยทำจะได้ไม่เสียเวลาให้รัฐบาลดำเนินการ คาดว่ามีอีกหลายสิบฉบับ ส่วนนี้บวกกับที่รัฐบาลทำคาดว่าจะมี 200-300 ฉบับ บรรยากาศการประชุม 5 ฝ่ายเป็นไปด้วยดี
เมื่อถามถึงการเตรียมเขียนกฎหมายลูกหลังมีรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่ากมธ.ยกร่างเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ กรรมการคสช. ระบุไม่ต้องเร่งรีบเขียนรัฐธรรมนูญเพราะเกรงจะเสียของ ความหมายของนายมีชัยคือรัฐธรรมนูญเสร็จเดือนส.ค.-ก.ย.2558 จากนั้น 3 เดือนจะเลือกตั้งเพราะกฎหมายลูกเสร็จแล้ว นี่คือความตั้งใจแต่ไม่อยากให้ผูกมัด ที่บอกว่ากฎหมายลูก 3 เดือนเสร็จหมายถึงกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง กฎหมายกกต. แต่กฎหมายลูกอื่นๆยังมีอีกมาก ประสบการณ์ปี 2550 มีกฎหมายลูกที่ต้องออก 20-30 ฉบับ และกำหนดว่าต้องออกใน 1 หรือ 2 ปี สุดท้ายออกได้แค่ 3 ฉบับ ดังนั้นกฎหมายลูกอื่นๆที่สำคัญนอกจาก 3 ฉบับให้ทำเสร็จก่อนเลือกตั้ง มิเช่นนั้นอย่าหวังว่ารัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งจะเข้ามาทำต่อ
ยัน'มีชัย'ไม่ยุ่งกมธ.ยกร่าง
เมื่อถามถึงการมอบให้นายมีชัยติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่ากมธ.ยกร่างมีคณะที่ปรึกษาอยู่แล้ว นายมีชัยไม่ได้เป็นที่ปรึกษา จึงมาเป็นคณะกรรมการคอยติดตามการทำงานและให้แนะนำคณะที่ปรึกษาคสช. เพราะนายมีชัยมีสติปัญญาที่ช่วยได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่ใช่ไปแนะนำกมธ.ยกร่างฯ เพราะไม่เกี่ยวข้อง ไม่ยุ่ง ไม่คบ ไม่พบกับกมธ.เลย ขณะที่กมธ.จะรายงานความคืบหน้าการทำงานทุกสัปดาห์ ฉะนั้นสาธารณชนรับรู้ได้อยู่แล้ว ส่วนคสช.จะได้รับรายงาน
ส่วนที่นายเจษฎ์ โทณะวณิก กมธ.ยกร่างฯ เสนอให้ประชาชนมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ขัดข้อง ทำได้โดยคำนึงถึงขอบเขตอันจำกัด หากเชิญไปพบหรือกมธ.จะเดินสายไปคุยเองไม่เป็นไร แต่ที่ขอให้ยกเลิกกฎอัยการศึกนั้นเป็นคนละเรื่องและไม่สามารถทำได้ ซึ่งคสช.มีเหตุผลที่ยังคงไว้
เมื่อถามถึงประธานกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นด้วยที่จะจัดทำประชามติ นายวิษณุกล่าวว่าไม่มีใครไม่เห็นด้วย หากจำเป็นต้องทำ ก็ไม่ขัดข้องเพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้แก้ไขและนำไปสู่การทำประชามติหรืออย่างอื่นได้ หากสังคมเรียกร้องก็ทำได้ และที่ไม่เขียนบังคับว่าต้องทำประชามติเพราะคิดว่าถ้าเขียนไป มองอีกอย่างว่าต้องการยืดเวลา เพราะเรื่องนี้ใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน ใช้เวลาทำกฎหมายลูกอีก 3 เดือน พอดีพอร้ายบวกไป 6 เดือนไม่ได้เลือกตั้งก็เป็นประเด็นอีก
นายกฯขอดูเอง-เลิกอัยการศึก
เมื่อถามว่าในการประชุม 5 ฝ่ายได้พูดคุยเรื่องอัยการศึกหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่าพูดบ้าง ซึ่งทุกฝ่ายเห็นว่าไม่เป็นอุปสรรค หากผ่อนคลายได้เป็นเรื่องดี ทุกอย่างทำได้ตามระเบียบ หัวหน้าคสช.รับไว้ว่าจะพิจารณาเอง
เมื่อถามว่าจะปรับปรุงรูปแบบองค์กรอิสระหรือยุบเลิกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าตนมีความคิดอยู่แต่ไม่ควรพูด คนที่ร่างมีความคิดอยู่เพราะที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อให้ข้อมูลว่าที่เคยมีแล้วจะต้องมีต่อไป แต่ต้องเปลี่ยนองค์ประกอบหน้าที่ เช่น กกต. มองว่าต้องมี แต่จะมีแบบที่เคยมีอำนาจหรือไม่ ที่ผ่านมาเมื่อให้อำนาจเขาก็ต้องใช้ ถ้าไม่ใช้จะบอกว่าเสียของ ดังนั้น ถ้าไม่คิดว่าจะต้องให้เป็นแบบนั้นก็อย่าไปให้อำนาจตั้งแต่แรก
วิปสนช.ให้'กลชัย'ทำหน้าที่ต่อ
ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษก กมธ.วิสามัญกิจการสนช. หรือวิปสนช. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมพิจารณากรณีพล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สมาชิกสนช. ในฐานะ 1 ใน 38 อดีตส.ว.ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลถอดถอนปมแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว. ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ โดยวิปสนช.มีมติว่า พล.ต.กลชัยปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้เนื่องจากเป็นคนละตำแหน่ง แต่หากมีการประชุมสนช.เพื่อพิจารณาเรื่องถอดถอน พล.ต.กลชัยลงชื่อร่วมประชุมได้แต่ไม่สามารถลงมติได้เนื่องจากมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่วนสำนวนถอดถอน 38 อดีตส.ว.ยังมาไม่ถึงประธานสนช.
นพ.เจตน์กล่าวว่า ที่ประชุมยังไม่ได้หารือการพิจารณาถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา รวมถึงน.ส. ยิงลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะยังมีเวลาพิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนที่ทนายของน.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นคัดค้าน ว่าสนช.ไม่มีอำนาจพิจารณาถอดถอนนั้น การคัดค้านจะมีผล หรือไม่ ต้องหารือในที่ประชุมสนช. แต่กระบวนการเดินหน้าไปแล้ว
รวบน.ศ.ส่งโรงพัก
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) ที่รวมตัวทำกิจกรรมกินไปบ่นไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดนเจ้าหน้าที่จับกุมตัวส่ง สน.สำราญราษฎร์ มีรายชื่อดังนี้ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ คณะรัฐศาสตร์ ปี 4 นายศุภชัย เสียงจันทร์ คณะรัฐศาสตร์ ปี 4 นายวรยุทธ มูลเสริฐ คณะรัฐศาสตร์ ปี 2 นายสุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ คณะเศรษฐศาสตร์ ปี 3 น.ส.กนิษฐ์ ต๊ะดิ คณะสังคมสงเคราะห์ ปี 1 นายปัฐนกิน ชูชื่น คณะทันตฯ ปี 3 น.ส.อภิญญา สวัสดิ์วรากร คณะสังคมสงเคราะห์ นายกัลป์ กรุยรุ่งโรจน์ คณะเศรษฐศาสตร์
'สมคิด'โต้เกาเหลา'หม่อมอุ๋ย'
วันที่ 19 พ.ย. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษานายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวมีปัญหาขัดแย้งกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจว่า ไม่รู้ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน ฟังแล้วไม่สบายใจ เพราะ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร และตนร่วมงานกันมานาน ตั้งแต่สมัยเป็น รมว.คลัง และม.ร.ว.ปรีดิยาธรเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ช่วยกันพัฒนาประเทศจนฟื้นฟู ขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นรองนายกฯ ดูแลเศรษฐกิจทั้งระบบของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเลย ตนเป็นที่ปรึกษาคสช. มีหน้าที่ช่วยงานนายกฯ ตามที่ขอให้ช่วย เช่น การไปญี่ปุ่นและจีน จนมาเป็นที่ปรึกษานายกฯ
"ทีมงานที่ส่งไปช่วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ คือนายสมพล เกียรติไพบูลย์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการค้าสินค้าเกษตร และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เนื่องจากเชี่ยวชาญด้านการค้าต่างประเทศ จึงไม่มีความขัดแย้ง ขอให้ลืมไปได้เลย และไม่ควรพูดถึงอีก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จะมีปัญหากับคนอื่นหรือไม่ ผมไม่รู้ แต่ไม่ได้มีปัญหากับผม" นายสมคิดกล่าว
โปรดเกล้าฯ"วิสุทธิ์-อำนวย"นั่งรมช.
วันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ 2 คน ดังนี้ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 24 ส.ค. 2557 และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามประกาศลงวันที่ 30 ส.ค. 2557 นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีเพิ่มเติม 2 ตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังนี้ นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ เป็นรมช.คลัง นายอำนวย ปะติเส เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 18 พ.ย. 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ