- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 27 May 2014 11:02
- Hits: 4997
วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8581 ข่าวสดรายวัน
ปล่อยตัว - ทหารคุมตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำกปปส.มาส่งอัยการสั่งฟ้องคดีกบฏ โดยนายสุเทพถูกสั่งฟ้องคดี 99 ศพเพิ่มเติม ก่อนศาลจะให้ประกันตัว ขณะที่ทหารยกเลิกควบคุมตัว เมื่อ 26 พ.ค. |
ทหารคุมตัว 'เทือก'13 แกน นำกปปส. ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกบฏก่อนได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน นัดส่งฟ้องศาลวันที่ 17 มิ.ย. ขณะที่เทือกโดนคดี 99 ศพ ควบคู่ไปด้วย อัยการส่งฟ้องศาล เจ้าตัวแถลงปฏิเสธทุกข้อหา ขอต่อสู้คดี ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ นัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 28 ก.ค. ภายหลังทั้งหมดได้ประกันแล้ว ทหารปล่อยตัวกลับบ้านทันที
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ทหารควบคุมตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยแกนนำกปปส. อาทิ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายถาวร เสนเนียม, นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธอิสระ รวมถึงแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) มาส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งข้อกล่าวหาและทำบันทึกคำให้การของผู้ต้องหา ตามที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ พนักงานสอบสวน ดีเอสไอ ขอหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญา ในข้อหากบฏและข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหา โดยมีคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษร่วมพิจารณากับพนักงานสอบสวนดีเอสไอด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพมีสีหน้าเรียบเฉย ใส่ชุดเสื้อผ้าตัวเดิมในวันที่ถูกทหารควบคุมตัวภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ประ กาศยึดอำนาจการปกครอง ขณะที่แกนนำคนอื่นๆ ก็อยู่ในเสื้อผ้าตัวเดิมเช่นกัน พร้อมด้วยทนายความทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มีสีหน้า ยิ้มแย้ม
นายเอกนัฏกล่าวว่า แกนนำทุกคนให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาในคดีกบฏ แต่คนที่มีข้อหามากที่สุดคือนายสุเทพ คือร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีสั่งสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ระหว่างที่พวกตนและแกนนำกปปส.ถูกคุมตัวอยู่ในค่ายทหาร ก็ได้รับการปฏิบัติและดูแลเป็นอย่างดี เพียงแต่ไม่สามารถติดต่อบุคคลภายนอกได้ โดยติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เท่านั้น
รายงานตัว - น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาวเสธ.แดง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และน.ส.จารุพรรณ กุลดิลก อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้ารายงานตัวต่อ คสช.ตามคำสั่ง ที่หอประชุม กองทัพบก เทเวศร์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. |
ขณะที่นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ กล่าวว่า ในคดีที่อัยการสั่งฟ้องข้อหากบฏนั้น เสร็จสิ้นเรียบร้อยตามขั้นตอนแล้ว โดยยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาท ต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวน โดยเบื้องต้น ดีเอสไออนุญาตให้ประกันตัว หลังจากนี้อัยการจะยื่นฟ้องนายสุเทพในคดีสั่งฆ่าประชาชนต่อศาลอาญาต่อไป
ด้านนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการคดีพิเศษ กล่าวว่า กระบวนการในขณะนี้ ยังไม่ใช่การส่งตัวฟ้องในชั้นอัยการ เพียงแต่อัยการอำนวยความสะดวกในด้านสถานที่ เพื่อให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาและทำบันทึกคำให้การ ประกอบในสำนวนคดี ภายหลังที่ทหารควบคุมตัวมาส่งมอบให้ อัยการจะยื่นฟ้องนายสุเทพต่อศาลอาญา เฉพาะข้อหาร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีสลายการชุมนุม กลุ่มนปช.เมื่อปี 2553 เท่านั้น โดยอัยการไม่คัดค้านการประกันตัว ให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ส่วนข้อหาร่วมกันก่อกบฏนั้น พนักงานสอบสวนดีเอสไอสอบปากคำนายสุเทพเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอนุญาตให้นายสุเทพประกันในหลักทรัพย์เงินสด 100,000 บาท
จากนั้นทหารและตำรวจควบคุมตัวนาย สุเทพ เดินจากสำนักงานอัยการสูงสุดไปยังอาคารศาลอาญา โดยใช้ช่องทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร นายสุเทพมีสีหน้าเรียบเฉย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดแน่นหนา โดยมีตำรวจยืนตั้งแถวตอนเรียงหนึ่งตลอดเส้นทางไปศาล และมีทหารประกบด้านหน้าหลังนายสุเทพ นอกจากนี้ยังมีมวลชนจำนวนหนึ่งมารอให้กำลังใจนาย สุเทพ และมอบดอกไม้ให้กำลังใจด้วย
ต่อมาที่ศาลอาญา พ.ต.ท.พิชิต นนทสุวรรณ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล สืบเนื่องจากเหตุการณ์สลายม็อบเมื่อปี 2553 เป็นจำเลยร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อมาศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.1375/57 และสอบคำให้การจำเลยแล้วปรากฏว่า จำเลยแถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 28 ก.ค. เวลา 09.00 น.
จากนั้นนายสวัสดิ์ ทนายความของนาย สุเทพ เตรียมหลักทรัพย์เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำนวน 600,000 บาท ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ต่อมาศาลอาญาพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายสุเทพ โดยตีราคาประกัน 600,000 บาท แต่มีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว นายสุเทพเดินลงมาจากตัวอาคารศาล มีสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมโบกมือทักทายมวลชนที่มาให้กำลังใจ และกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าขอบคุณ ก่อนที่ทหารจะควบคุมตัวขึ้นรถโตโยต้า วีโก้ สีดำ เลขทะเบียน ฎศ 6542 กทม. ออกจากศาลทันที
นายสวัสดิ์ ทนายความนายสุเทพ กล่าวว่า ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่านายสุเทพไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีเหตุไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และไม่ถูกคุมตัวชั้นพนักงานสอบสวน ไปก่อเหตุอันตรายวุ่นวายใดๆ ประกอบกับโจทก์ไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว ศาลจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ หลังจากที่นายสุเทพได้รับการประกันตัวจากศาลแล้ว นายสุเทพจะถูกปล่อยตัวทันที ไม่ต้องถูกควบคุมตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อีก เช่นเดียวกับแกนนำคนอื่นๆ ที่มารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอในคดีกบฏ ที่ได้ประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาท และถูกปล่อยตัวกลับบ้านด้วยเช่นกัน
ส่วนนายถาวร เสนเนียม แกนนำกปปส. กล่าวว่าจะเตรียมพยานหลักฐานชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีกบฏ โดยในวันที่ 17 มิ.ย. นี้ เป็นวันนัดรวบรวมพยานหลักฐานที่ใช้ต่อสู้ใน ชั้นนี้ ทางแกนนำทั้งหมดยกเว้นนายสุเทพ วางหลักทรัพย์ประกันตัวไปคนละ 100,000 บาท ทุกคนได้กลับบ้านทั้งหมด ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของทหารแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน ดีเอสไอแจ้งข้อหากบฏ และข้อหาอื่นๆ ต่อแกนนำกลุ่มกปปส. 13 คน โดยให้ประกันตัวคนละ 100,000 บาท นัดส่งตัวให้อัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลในวันที่ 17 มิ.ย. โดยทั้ง 13 คน ประกอบด้วย 1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ 2.นายถาวร เสนเนียม 3.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ 4.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย 5.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 6.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 7.นางทยา ทีปสุวรรณ 8.น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก 9.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 10.นายชุมพล จุลใส 11.นายนิติธร ล้ำเหลือ 12.นายสุริยะใส กตะศิลา และ 13.พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากบฏ และข้อหาอื่นๆ รวม 8 ข้อหาเสร็จสิ้นแล้ว แต่กรณีนายสุเทพและนายชุมพล ที่ก่อนหน้านี้อัยการมีคำสั่งให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย สืบเนื่องจากนำมวลชนไปบริษัท กสท เขตบางรัก ทำให้ระบบอินเตอร์เน็ตล่มนั้น ดีเอสไอ แจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้ง 2 คนทราบตามขั้นตอนแล้ว
ส่วนแกนนำคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกควบคุมตัว แต่เดินทางมารายงานตัวด้วยตนเอง อาทิ พุทธอิสระ นายพิภพ ธงไชย และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ เป็นต้น แต่เนื่องจากทางดีเอสไอยังไม่ได้เตรียมเอกสารในการแจ้งข้อหา เนื่องจากยังไม่ได้นัดส่งตัว จึงยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ คงต้องรอให้ทางดีเอสไอแจ้งวันนัดกับทางแกนนำกปปส.ที่เหลืออีกครั้ง เพื่อให้มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ขณะที่นายอิสสระ สมชัย หนึ่งในแกนนำกปปส. กล่าวว่า แกนนำที่ไม่ถูกกักตัว หรือไม่ถูกเรียกมารายงานตัว แต่ยังมีคดีในข้อกล่าวหาเดียวกัน คือตน นายวิทยา แก้วภราดัย และน.ส.รังสิมา รอดรัศมี ที่ถูกออกหมายจับในคราวเดียวกัน ได้นัดกันแล้วว่าจะขอเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหา ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ในวันที่ 28 พ.ค.
วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8581 ข่าวสดรายวัน
สื่อนอกให้จับตาศก.ไทย ปชช.ชุมนุมอีก คสช.ซัดเงินตู้ม้า
ทวงปชต. - ประชาชนออกมา รวมตัวมากกว่าทุกวันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย ไม่ยอมรับรัฐประหาร เกิดการเผชิญหน้า กับทหารแต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เมื่อ 26 พ.ค. |
กลุ่มต้านรัฐประหารรวมตัว อีกที่อนุสาวรีย์ชัยฯ เจอทหารตั้งแนวกั้นเข้มงวด ตะโกนจี้เร่งจัดเลือกตั้งส่วนอีกกลุ่มชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้กำลังใจทหาร สื่อตปท.จับตาสถานการณ์ในไทยต่อเนื่อง ชี้รัฐประหารครั้งนี้มีโอกาสน้อยที่จะแก้วิกฤตการเมืองไทย เพราะยังมีกลุ่มต้านคอยประท้วงต่อเนื่อง ซ้ำเป็นห่วงกองทัพบริหารงานด้านเศรษฐกิจอย่างไรต่อไป บ.ก.ลายจุดโพสต์แถลงการณ์แกนนอน จัดปาร์ตี้หน้ากาก แยกราชประสงค์ ขอจำนวนคนหมื่นอัพ
สื่อนอกเกาะติดโปรดเกล้าฯ
วันที่ 26 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์หลังรัฐประหารในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่ความเคลื่อนไหวทั้งในฝ่ายคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ และภาคประชาชน อัลจาซีรารายงานแถลงการณ์รับพระบรมราชโองการจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของพล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือการรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง หากเมื่อใดมีความขัดแย้งตึงเครียด และก่อให้เกิดความรุนแรง กองทัพจะดำเนินการในทันที
เอพีระบุเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังประกาศเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ความมุ่งมั่นของกองทัพชัดแจ้งบริสุทธิ์และจะยังคงโปร่งใส กองทัพจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนทุกคน ดังนั้นอย่าวิพากษ์วิจารณ์ อย่าเริ่มสร้างปัญหา ไม่เช่นนั้นก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งคำแถลง ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการเผชิญหน้าระหว่าง เจ้าหน้าที่และกลุ่มผู้ต่อต้านการรัฐประหารในกรุงเทพฯ ต่อเนื่องจากการยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน หลังเหตุการณ์ประท้วงรัฐบาลน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 7 เดือน โดยกองทัพมีคำสั่งเรียกบุคคลทางการเมือง นักเคลื่อนไหว และผู้มีความเกี่ยวข้องมากกว่า 200 คนเข้ารายงานตัว
ชี้รปห.แก้วิกฤตไทยไม่ได้
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า หลังจากน.ส. ยิ่งลักษณ์ได้รับอนุญาตให้กลับเคหสถานได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกองทัพ ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. พร้อมด้วยแกนนำจำนวนหนึ่ง ออกจากศูนย์ควบคุมตัวของกองทัพ ก่อนเดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อยื่นประกันตัว และมีกำหนดเดินทางไปศาลอาญาในวันเดียวกัน
ด้านบีบีซีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า การรัฐประหารมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะแก้วิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองของไทย และว่าตั้งแต่กองทัพประกาศ ยึดอำนาจบริหารส่งผลให้เกิดการประท้วงหลายแห่ง ทั้งยังถูกนานาประเทศวิจารณ์อย่างกว้างขวาง
สงสัยบริหารศก.อย่างไร
คำถามที่หลายคนยังสงสัยคือ พล.อ. ประยุทธ์และกองทัพจะบริหารประเทศไทยซึ่งเคยมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดก่อนจะชะงักเพราะความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไร ยังไม่รวมถึงปัญหาการต่อต้านการรัฐประหารของประชาชนบางส่วน ความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการรวมตัวชุมนุมทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นพื้นที่สนับสนุนรัฐบาลผู้ถูกโค่นล้ม แม้การประกาศชัดว่าจะใช้กฎหมายควบคุมการประท้วง การชุมนุม และการรวมตัวทางการเมือง จะเพิ่มความไม่พอใจให้กับสังคมบางกลุ่มก็ตาม
ทายาทกำลังเอกเชียร์ทหาร
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่อาคารกำลังเอก สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีฯ นางกฤษณาพันธุ์ กำลังเอก หลานสะใภ้พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผบ.ทบ. และกลุ่มญาติ นำข้าวกล่อง เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับทหารจำนวนมาก มามอบให้ เจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการอยู่ภายในสโมสรทหารบก วิภาวดีฯ เพื่อสนับสนุน และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พ.ต.ธนิติ พยัคฆบุตร นายทหารฝ่ายยุทธการ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เป็นตัวแทนรับมอบ
บ.ก.ลายจุดจัดปาร์ตี้หน้ากาก
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า แถลง การณ์แกนนอน ฉบับที่ 5 เรื่องกิจกรรม 10,000 UP ตอนปาร์ตี้หน้ากาก ฉลองรัฐประหาร เนื่องจากเขาไม่ให้เราต่อต้าน เราก็จะเฉลิมฉลอง เราจะเต้นรำบนท้องถนน เทศกาลปาร์ตี้หน้ากากที่ใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์
"ให้จัดทำหน้ากากใบหน้าของบุคคลในตำนานที่คิดว่าเมื่อสวมแล้วจะสร้างความบันเทิงให้กับผู้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็น ประยุทธ์ สุเทพ ยิ่งลักษณ์ จตุพร ณัฐวุฒิ ทักษิณ สนธิ หรือบ.ก.ลายจุด ไม่ต้องส่งเสียงตะโกนให้ แสบคอ ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับใคร เดินไปเดินมาด้วยความบันเทิงใจ เมื่อทุกคนใส่หน้ากาก ผมก็จะใส่หน้ากากมาร่วมงานนี้ด้วย เป้าหมายคือ 10,000 คนที่ร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ และใกล้เคียง ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เวลา 12.00 น." นายสมบัติระบุ
'พอกันที'งดกิจกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพอกันที เครือข่ายนักกิจกรรมกลุ่มสันติวิธี แจ้งว่าทางกลุ่มจะงดการเคลื่อนไหวกิจกรรมต้านรัฐประหาร เป็นเวลา 2-3 วัน เนื่องจากประเมินว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คนในสังคมเต็มไปด้วยความตึงเครียด โกรธ และกลัว จะต้องระมัดระวังอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ออกมาดูแลสถานการณ์ก็น่าจะเครียด และอึดอัดเช่นกัน การนำเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธสงครามมาควบคุมฝูงชน จึงเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงมาก เพราะทั้งสองฝ่ายจะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนประชาชนเองก็ต้องมีการจัดการชุมนุมที่ดีกว่านี้ และควรมุ่งไปที่การเรียกร้องสิทธิและประชาธิปไตยมากกว่าพุ่งความโกรธไปที่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ทำคู่มือแสดงออกสันติ
นอกจากนี้ ทางกลุ่มจะพยายามเสนอแนวทางการแสดงออกอย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรงหลายๆ รูปแบบ เพื่อให้ประชาชนปรับประยุกต์ใช้ต่อ โดยเน้นไปที่การไม่ใช้ความรุนแรง และเน้นย้ำว่าประชาชนต้องการสิทธิและประชาธิปไตยกลับมาโดยเร็ว ไม่ได้มุ่งร้ายหรือเป็นศัตรูกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ อำนาจของประชาชน สามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ และขอให้ใช้ประโยชน์จากอำนาจที่มีอยู่ของประชาชนให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น อำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม หรือปัญญา ซึ่งทางกลุ่มจะทำคู่มือการต่อต้านรัฐประหารตามแนวทางสันติวิธีออกมาเผยแพร่ในโอกาสต่อไป
สมัชชาคนจนจี้คืนปชต.
ขณะที่สมัชชาคนจน ออกแถลงการณ์คัดค้านการทำรัฐประหาร พร้อมเรียกร้อง ให้คณะรัฐประหารคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนโดยทันที โดยระบุว่า การกระทำ ดังกล่าวของ คสช. ขัดต่อหลักการปกครองอันเป็นประชาธิปไตย ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และทำลายโอกาสในการแก้ไขปัญหาตามครรลองของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อีกทั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมได้ เริ่มมีกลุ่มคนต่างๆ ออกมาชุมนุม เคลื่อนไหวเรียกร้อง คัดค้านการทำรัฐประหารเป็นจำนวนมาก และเริ่มขยายออกไปเรื่อยๆ ทั่วประเทศนั้น สมัชชาคนจนขอเรียกร้องให้คสช.ยุติการทำหน้าที่ และคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนคนไทยโดยทันที เพื่อไม่ให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายและทวีความรุนแรงมากขึ้น กระทั่งนำไปสู่การสูญเสียเลือดเนื้อในสังคมไทย คสช.ยังยืนยันจะทำหน้าที่สมัชชาคนจนจะออกมาร่วมกับกลุ่มองค์การ หน่วยงานต่างๆ ในสังคมเคลื่อนไหวเรียกร้องเพื่อให้เกิดการปกครองในระบอบประชาธิปไตยต่อไป
สลัม 4 ภาคขอทหารกลับที่ตั้ง
ด้านเครือข่ายสลัม 4 ภาค ออกแถลงการณ์ว่า ขอประณามและคัดค้านการทำรัฐประหารครั้งนี้จนถึงที่สุด เราเครือข่ายสลัม 4 ภาค ขอเรียกร้อง คสช.ดำเนินการดังนี้ 1.คสช.ต้องคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนโดยทันทีและให้หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจัดการเลือกตั้งโดยเร่งด่วนที่สุด ต้องหยุดละเมิดสิทธิเสรีภาพการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน ต้องเคารพสิทธิของประชาชน ให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี รวมทั้งปล่อยตัวผู้ชุมนุมประท้วงการทำรัฐประหารอย่างไม่มีเงื่อนไข และขอให้ผู้นำเหล่าทัพ รวมทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ คสช. กลับเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ที่ต้นสังกัด กรม กอง ของตนเองในโดยทันที
ต้านรปห.ชุมนุมสาวรีย์ชัยฯ
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต้านรัฐ ประหารหลายร้อยคน เริ่มทยอยมารวมตัวกันทั้งบนสกายวอล์กและบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) นำแผงเหล็กมากั้นรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ พร้อมนำรถฉีดน้ำประมาณ 10 คัน มาฉีดใส่ลาน อนุสาวรีย์ชัยฯ ผู้ชุมนุมจึงเข้าไปเอารั้วแผงเหล็กออก และเข้าไปใช้พื้นที่ เจ้าหน้าที่กทม. จึงนำรถน้ำออกจากพื้นที่ทันที ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า ได้รับมอบหมายให้นำแผงเหล็กมากั้น และนำรถฉีดน้ำมาทำความสะอาดพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือไม่
ทหารตรึงเข้ม-ซัดไม่รักชาติ
ต่อมาเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 1 กองร้อย นำกำลังมาวางแนวบริเวณทางเข้าถนนพญาไททั้งสองฝั่งถนน พร้อมนำรถติดเครื่องขยายเสียง มาประชิดหลังแนวเจ้าหน้าที่ทหาร โดย เจ้าหน้าที่ทหารกล่าวบนรถติดเครื่องขยายเสียงว่า ขอให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ ทหารมารักษาความสงบ เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่ผู้ชุมนุมสร้างปัญหา ทำให้รถติดและประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อน ผู้ที่มาชุมนุมไม่รักชาติ รับเงินมาชุมนุม ถ้าผู้ชุมนุมใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่จะตอบโต้อย่างรุนแรง มีแกนนำคอยแจกเงินอยู่ในที่ชุมนุม พร้อมกันนี้ทหารยังพูดเป็นภาษาอังกฤษกับผู้สื่อข่าวต่างชาติมีใจความตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้ไม่ใช่การรัฐประหารครั้งแรก แต่มีมาหลายครั้งแล้ว พร้อมโจมตีกลุ่มผู้ที่มาชุมนุมต้านรัฐประหารว่าไม่รักชาติ
ปิดการจราจรด้านพญาไท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผู้ชุมนุมได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ทหารรู้สึกโกรธแค้นและเข้าไปชิดแนวทหาร พร้อมโห่ร้อง ด่าทอ และแสดงอาการไม่พอใจ ก่อนจะถอยออกมาบริเวณ อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่ไม่มีการปะทะกัน โดย เจ้าหน้าที่ทหารคนดังกล่าวยังพูดผ่านเครื่องขยายเสียงอีกว่า ขอให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่พอใจกับการชุมนุมของกลุ่มต้านรัฐประหารโห่ร้องใส่ผู้ชุมนุม
จากนั้นเวลาประมาณ 17.25 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังประมาณ 1 กองร้อย มาวางเพิ่มบริเวณช่องทางถนนพญาไท แยกราชวิถี ขาเข้าถนนพหลโยธิน ทำให้การจราจรจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปถนนพญาไทไม่สามารถสัญจรได้
มวลชนจี้ให้จัดเลือกตั้ง
กระทั่งเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารคนดังกล่าวยังกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงอีกว่า มีชายชุดดำอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้สายสืบถ่ายรูปทุกคนไว้ แล้วจะไปเยี่ยมที่บ้าน เชื่อว่าทุกคนไม่ได้รักชาติ ทำให้ผู้ชุมนุมพร้อมใจกันตะโกนว่า เลือกตั้ง เป็นระยะๆ จากนั้นจึงเข้าประชิดแนวทหารบริเวณทางเข้าถนนพญาไทอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทหารคนดังกล่าวต่อว่า ผู้ชุมนุมเป็นพวกล้มเจ้า ล้มประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม พร้อมพวกประมาณ 10 คน เข้ามาสังเกตการณ์อยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม แต่หลังจากผู้ชุมนุมเริ่มเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ผู้กองปูเค็มได้หายตัวออกจากการชุมนุม
ร้องเพลงชาติ-แยกย้ายกลับ
ต่อมาเวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวหญิงวัยกลางคนที่เข้ามาเป่านกหวีดออกจากพื้นที่ ท่ามกลางผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารที่ไม่พอใจวิ่งไล่ตาม ก่อนที่ตำรวจจะส่งหญิงคนดังกล่าวขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างออกจากพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่ เจ้าหน้าที่ยังคงประกาศผ่านรถขยายเสียงอย่างต่อเนื่องว่า หากผู้ชุมนุมใช้กำลังทำร้าย เจ้าหน้าที่ จะตอบโต้รุนแรงขั้นสูงสุด ทำให้ ผู้ชุมนุมต่างโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ
กระทั่งเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมได้ร้องเพลงชาติและร่วมกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการกราบกรวย ต่อมามีชาย 2 คน ปะปนเข้ามาในที่ชุมนุมแล้วถ่ายรูปมวลชน ท่าทางมีพิรุธจึงโดนไล่ออกไป กระทั่งมีคนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมดได้ถอนกำลังไปรวมกันบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และเปิดการจราจรให้สามารถสัญจรได้ตามปกติ ส่วนผู้ชุมนุมบางส่วนมีการร้องรำทำเพลง และเรียก เจ้าหน้าที่ทหารคนที่ประกาศยั่วยุให้ออกมา สู้กันด้วยมือเปล่า ก่อนสลายการชุมนุมและแยกย้ายกันกลับ
อีกกลุ่มชุมนุมให้กำลังใจทหาร
อีกด้านหนึ่งเมื่อเวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง ประชาชนกลุ่มเลิฟอาร์มี่ประมาณ 200 คน ชุมนุมแสดงพลังสนับสนุน และให้กำลังใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเจ้าหน้าที่ทหารในการเดินหน้าปฏิรูปประเทศก่อนจัดการเลือกตั้ง พร้อมทั้งชูป้ายประท้วงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ขู่จะตัดงบประมาณสนับสนุนด้านการทหารแก่ไทย โดยผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ก่อนจะสลายตัวในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ทหารเข้าไปควบคุมตัวคนขับจักรยานยนต์รับจ้างบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และขอลบภาพถ่ายในโทรศัพท์ของชายคนดังกล่าวที่บันทึกภาพเจ้าหน้าที่ทหารเอาไว้ ก่อนปล่อยตัวชายคนดังกล่าว พร้อมโทรศัพท์ไป
คสช.ชี้มีนายทุนตู้ม้าหนุนม็อบ
เมื่อเวลา 21.50 น. พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า จากกรณีมีการปลุกระดมทางโซเชี่ยลมีเดียให้มีการชุมนุม โดยมีค่าตอบแทนเป็นแรงดึงจูงใจว่าจะให้เงินคนละ 400-1,000 บาท รวมถึงมีนายทุนตู้ม้าเถื่อนสนับสนุนในการระดมมวลชนให้ออกมาชุมนุมต่อต้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคง คสช.ชี้แจงให้เข้าใจถึงสถานการณ์ว่า คสช.พยายามเร่งทำในทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง และทำอย่างเต็มที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ขอวิงวอนประชาชนอย่าตกเป็นเครื่องมือฝ่ายที่ไม่หวังดี
สถานการณ์ล่าสุดที่มีการชุมนุมเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คสช.จะดำเนินการไม่ให้เกิดกระทบกระทั่ง ใช้การเจรจา หากการชุมนุมไม่ยุติ ขอความเห็นใจเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด หากชุมนุมยืดเยื้อถึงเวลา 22.00 น. จะมีความผิดฐานออกนอกเคหสถานตามการประกาศใช้เคอร์ฟิว