- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 26 May 2014 14:42
- Hits: 4844
วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8580 ข่าวสดรายวัน
สหรัฐจี้ทหารอีก เลิกกักตัว! ยุติจำกัดสิทธิสื่อ เร่งเดินหน้าลต. องค์กรโลกบี้ซ้ำ ให้ปล่อยทั้งหมด
รายงานตัว - นางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล จำกัด โบกมือทักทายผู้สื่อข่าว ก่อนเข้าไปรายงานตัวกับคสช. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. |
สหรัฐจี้กองทัพไทยปล่อยตัวกลุ่มบุคคลที่โดนควบคุม ด้วยเหตุผลการเมืองยุติจำกัดสิทธิสื่อ เร่งเดินหน้าเลือกตั้ง ขณะที่กองทัพมะกันสั่งเลิกซ้อมรบทางทะเลกับไทย เลิกแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงทางการทหาร เบรกเชิญพล.อ.ธนะศักดิ์ ผบ.สส. เยือนสหรัฐ ฮิวแมนไรต์วอตช์ตำหนิยึดอำนาจ จี้ยุติกักนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว-คุมสื่อ 'แอม เนสตี'วอนกองทัพยับยั้งชั่งใจ 'วินธัย'เผยชี้แจงต่างชาติ ยันผบ.สหรัฐ-ไทยยังปึ้กอยู่ 'เกาะสมุย' ท่องเที่ยวกร่อย
กองทัพมะกันเลิกซ้อมรบไทย
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. รัฐบาลสหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรัฐประหารในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพลเรือเอก จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ หรือเพนตากอน แถลงว่าสหรัฐมีท่าทีอย่างชัดเจนต่อการเรียกร้องให้กองทัพไทยยุติการก่อรัฐประหารและคืนอำนาจการปกครองให้แก่คนไทย ตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งการปูทางไปสู่การเลือกตั้ง แม้กองทัพสหรัฐและกองทัพไทยจะมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน แต่หลักการที่ยึดมั่นและกฎหมายของสหรัฐทำให้สหรัฐต้องทบทวนความร่วมมือต่างๆ จึงขอยกเลิกกำหนดการ ดังนี้
1.ให้มีการยกเลิกการร่วมซ้อมรบทางทะเลระหว่างสหรัฐ-ไทยในปี 2557 2.การยกเลิกแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงทางการทหารระหว่างสหรัฐกับไทย โดยจะยกเลิกการเยือนประเทศไทยของพลเรือเอกแฮร์รี่ แฮร์ริส ผู้บัญชาการกองเรือประจำภาคพื้นแปซิฟิก จากเดิมที่กำหนดในเดือนมิ.ย.นี้ และ 3.การยกเลิกเชิญพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส.เดินทางเยือนสหรัฐในเดือนมิ.ย.ด้วย
จี้ปล่อยตัวบุคคล-เดินหน้าลต.
แถลงการณ์ระบุอีกว่า ทางการสหรัฐดำเนินการพิจารณาทบทวนความร่วมมือต่างๆ อีกตามที่เห็นสมควร จนกว่าการยึดอำนาจโดยกองทัพไทยจะสิ้นสุดลง โดยทางการสหรัฐขอเรียกร้องให้กองทัพไทยยึดถือและปฏิบัติด้วยคำนึงถึง เพื่อประโยชน์โดยรวมของปวงชนชาวไทย ด้วยการยุติการยึดอำนาจการปกครอง และนำหลักนิติรัฐนิติธรรมกลับคืนมาสู่ปวงชนชาวไทย ภายใต้หลักการแห่งระบอบประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน น.ส.มารี ฮาร์ฟ โฆษกกระ ทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงว่า สหรัฐมีความกังวลยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของกองทัพไทยเพียงไม่กี่วันหลังประกาศรัฐประหาร ไม่ว่าประกาศยุบรัฐสภา ควบคุมตัวบุคคล สั่งให้นักวิชาการและผู้สื่อข่าวบางคนเข้ารายงานตัว และยังคงจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน สหรัฐขอเรียกร้องอีกครั้งให้กองทัพไทยปล่อยตัวบุคคลต่างๆ ที่ถูกควบคุมตัวด้วยเหตุผลทางการเมือง ยุติข้อจำกัดต่อสื่อมวลชน และดำเนินการเพื่อให้ประเทศ ไทยกลับมามีการบริหารแผ่นดินโดยพลเรือนและกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยผ่านการเลือกตั้ง
สื่อนอกกระพือข่าวสหรัฐ-ไทย
ด้านสื่อมวลชนต่างประเทศหลายสำนักต่างรายงานความเคลื่อนไหวหลังการรัฐ ประหารในไทย โดยเฉพาะปฏิกิริยาจากรัฐบาลสหรัฐดังกล่าว และการแสดงกิจกรรมต่อต้านการรัฐประหารในไทยที่ชัดเจนขึ้น เช่น อัลจาซีรารายงานว่า กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงระงับการซ้อมรบร่วมประจำปีระหว่างกองทัพสหรัฐและกองทัพไทย ภายใต้รหัส CARAT หรือการประสานในการเตรียมความพร้อมและฝึกซ้อมทางน้ำ รวมถึงการอบรมด้านการใช้อาวุธปืนแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และกำหนดเยือนสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจไทยในเดือนมิ.ย.ด้วย
แรลลี่นินจา - กลุ่มชาวเชียงใหม่ผู้รักประชาธิปไตย จัดกิจกรรม "แรลลี่นินจา" รวมตัวแสดงพลังที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย และตามสถานที่สำคัญต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงจุดยืนหนุนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 25 พ.ค. |
ทางการสหรัฐยังประกาศว่า พลเรือเอกแฮร์รี่ แฮร์ริส ระงับการเดินทางเยือนกองทัพเรือไทย รวมถึงยกเลิกคำเชิญผู้บัญชากองทัพไทยในการเยือนฐานบัญชาการแปซิฟิกของกองทัพสหรัฐในเดือนหน้า หลังเพิ่งแถลงระงับการให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณทหารเป็นเงินกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112 ล้านบาท ราว 1 ใน 3 ของงบประมาณที่สหรัฐช่วยเหลือไทยในแต่ละปี
นิวยอร์กไทมส์ระบุจากคำแถลงของโฆษกกระทรวงกลาโหมว่า สหรัฐแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการก่อรัฐประหาร สิ่งสำคัญในขณะนี้คือกองทัพไทยจะต้องเร่งยุติการรัฐประหาร เพื่อฟื้นฟูหลักการและกระบวน การตามประชาธิปไตย รวมถึงการเดินหน้าจัดการเลือกตั้ง
ด้านเอเอฟพีรายงานว่า การระงับความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับไทย ประเทศพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียนั้น ถือว่าสหรัฐไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการรัฐประหารของกองทัพไทย ทั้งจากคำแถลงของนายจอห์น แคร์รี่ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบางส่วนระบุว่า กองทัพมองว่าการเดิมพันภายในประเทศสูงเกินกว่าที่จะถูกจำกัดไว้ด้วยความคิดเห็นของต่างชาติ
นักวิชาการวิเคราะห์รัฐประหาร
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายกล่าวเตือนสหรัฐว่า การระงับความร่วมมือทางการทหารของสหรัฐอาจส่งผลให้กองทัพไทยขยายความสัมพันธ์กับกองทัพจีน มหาอำนาจคู่แข่งของสหรัฐในเอเชีย เนื่องจากทางการจีนยังสงวนท่าทีและไม่แถลงตำหนิการก่อรัฐประหารของกองทัพไทย เช่นเดียวกับการแสดงความเป็นกลางในการรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ส่งผลให้ความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างไทยและจีนแนบแน่นขึ้น
นายโจชัว คูร์ลานต์ซิก ผู้เชี่ยวชาญของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกล่าวว่า ในกรณีรัฐประหารของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ผอ.รส.) ไม่เปิดโอกาสให้มีช่องว่างในการรัฐประหาร
ศ.ดร.ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการตอบโต้ของสหรัฐในการรัฐ ประหารครั้งล่าสุดเป็นไปตามการคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายกว่าการรัฐประหารครั้งก่อน กองทัพได้บทเรียนจากการรัฐประหารปี 2549 ว่าไม่ได้รับมืออย่างที่ควรทำ และไม่สามารถวางใจได้กับผลลัพธ์ที่จะตามมา แรงกดดันของนานาประเทศจะมีศักยภาพได้หากกลุ่มผู้สนับสนุนการก่อรัฐประหารมองเห็นว่าจะเกิดผลต่อประเทศไทยอย่างไร มากกว่าแค่การระงับความช่วยเหลือและความร่วมมือทางการทหาร แม้การรัฐประหารจะทำให้ชื่อเสียงประเทศเสียหาย แต่กลุ่มอนุรักษนิยมคิดว่าประชาคมโลกคงจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นใน ไม่ช้า
ฮิวแมนไรต์วอตช์ตำหนิยึดอำนาจ
ด้านสำนักข่าวเอพีระบุจากกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนว่า มีผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหารมากกว่า 150 คน ถูกเจ้าหน้าที่กักกันตัว หลังรวมตัวชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารบริเวณโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน ก่อนเคลื่อนตัวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อ 24 พ.ค. ทั้งนี้ แม้การรัฐประหารจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการใช้ชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ แต่มีรายงานการประท้วงต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทั้งจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และเมืองพัทยา
ขอร้อง - หญิงสาวที่เข้าร่วมรณรงค์เรียกร้องสิทธิเลือกตั้ง นั่งคุกเข่าพร้อมยกมือไหว้ ขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวประชาชน เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่แยกราชประสงค์ กทม. |
นายแบรด อดัมส์ ประธานองค์การฮิวแมนไรต์วอตช์ ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แถลงตำหนิว่า การยึดอำนาจของกองทัพไทยกำลังทำให้สถานการณ์สิทธิมนุษยชนเข้าสู่ภาวะตกอย่างเสรี กองทัพใช้อำนาจกักกันนักการเมืองและนักเคลื่อนไหว ควบคุมเสรีภาพสื่อมวลชน และห้ามการรวมกลุ่มในสังคม การกระทำนี้จำเป็นต้องยุติลงในทันที
นายริชาร์ด เบนเนตต์ ผู้อำนวยการองค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของบุคคลไม่สมควรจบลงด้วยการลงโทษ การยับยั้งชั่งใจของกองทัพไทยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเรียกร้องให้พลเรือนเป็นฝ่ายบริหารที่อาจนำมาซึ่งความรุนแรงในอนาคต
ทั้งนี้ นายฟิลิป คัลเวิร์ต เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า เพื่อนที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ยังดูข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ทางโทรทัศน์ได้มากกว่าตนซึ่งประจำการอยู่ในไทยเสียอีก
'วินธัย'เผยชี้แจงต่างชาติ
ที่อาคารกำลังเอก ภายในสโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า กรณีมีกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบนโยบายในระดับพื้นที่ว่าให้ทำความเข้าใจและติดตามและยึดหลักการใช้กฎหมาย และให้ทหาร ตำรวจใช้มาตรการเบาและเข้มข้นผสมผสาน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด
เมื่อถามถึงสหรัฐตัดงบประมาณการช่วยเหลือและตัดการฝึกร่วมกับกองทัพไทยนั้น รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ที่ผ่านมา สคช.ทำความเข้าใจในระดับต่างประเทศ สื่อสารผ่านผู้ช่วยทูตทหาร เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นและสร้างความเข้าใจในการรัฐประหาร ซึ่งบางส่วนกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามขั้นตอน เราจะแยกให้เห็นถึงความแตกต่างของประเทศไทยกับต่างชาติ 3 ข้อ คือ 1.สภาพแวดล้อมของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน 2.เรามีหลักฐานและเหตุผลชัดเจนในการทำรัฐ ประหารที่จะแสดงต่อต่างชาติ และ 3.ประชา ธิปไตยในประเทศทำให้เกิดความสูญเสีย
ยันผบ.สหรัฐ-ไทยยังปึ้กอยู่
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทหารสนับสนุนการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยมาตลอด อยากให้มองย้อนกลับไป ไม่อยากให้มองเฉพาะจุด ซึ่งการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าในส่วนบุคคล หรือกลุ่มบุคคลทำให้เกิดความสูญเสียมาตลอด รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายดำเนินคดี จะต้องคำนึงหลักประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งในประเทศไทย คนที่แสดงสิทธิโดยอ้างว่าแสดงออกในระบอบประชาธิปไตยปรากฏว่ามีการใช้อาวุธสงคราม เป็นตัวบ่งชี้ว่าสนับสนุนความรุนแรงและกระทำต่อชุมชนเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกและไม่ทราบว่าการแสดงออกของกลุ่มคน หรือบุคคลที่ทำให้เกิดความสูญเสียจะสะท้อนภาพลักษณ์ในสายตาของต่างชาติอย่างไร การใช้ประชาธิปไตยที่แสดงออกมาในไทยน่าจะแตกต่างจากประเทศอื่น รวมถึงการเสนอข่าวของสื่อไทยและต่างประเทศที่มีความแตกต่างกัน นี่คือคำจำกัดความของคำว่าระบอบประชาธิปไตยในส่วนที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้เล็งเห็น
เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.สหรัฐโทรศัพท์พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้าคสช.นั้น พ.อ.วินธัย กล่าวว่า เป็นการติดต่อกันในสถานะระหว่างผบ.ทบ.สหรัฐกับผบ.ทบ.ไทย ซึ่งทั้งสองกองทัพเป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่กัน ทางสหรัฐได้แสดงความห่วงใยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และผบ.ทบ.สหรัฐก็เข้าใจสถาน การณ์ในฐานะที่เป็นทหารด้วยกันตามหลักการและเหตุผล แต่ในส่วนของรัฐบาลสหรัฐกับรัฐบาลไทย ทางสหรัฐมีความคิดเห็นแตกต่างกันในด้านหลักคิดและกติกา การเมืองระหว่างประเทศก็ว่ากันไป ถ้าพูดในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทหาร ผบ.ทบ.สหรัฐเข้าใจผบ.ทบ.ในการทำงาน ซึ่งท่านระบุว่าการทำรัฐประหารควรทำให้สิ้นสุดโดยเร็ว เพื่อให้ประเทศสู่ความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ท่านเข้าใจอีกเช่นกันการทำให้ประเทศเรียบร้อยจะต้องเป็นความเรียบร้อยที่ยั่งยืน ไม่ใช่ชั่วคราว
'วิสุทธิ์'ให้คสช.วางตัวเป็นกลาง
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เมื่อคสช.ทำหน้าที่บริหารประเทศในช่วงเวลาขณะนี้ แม้อาจเป็นช่วงเวลาหนึ่ง แต่อยากเห็นคสช.เป็นคนกลางที่จะสร้างความสงบให้เกิดสันติสุขในประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง โดยการวางตัวเป็นกลาง ไม่เอนเอียงหรือฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ประชาชนทั้งประเทศประจักษ์ว่าทหารไม่เข้าข้างฝ่ายใด อยู่เคียงข้างประชาชน โดยการใช้หลักนิติรัฐกับทุกฝ่ายอย่างไม่เลือกข้าง การที่คสช.ออกมาประกาศเร่งดำเนินการแก้ปัญหาให้กับชาวนาทั่วประเทศที่ยังคงค้างไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ตรงนี้ขอชื่นชม เพราะชาวนาเดือดร้อนมานานแล้ว
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการปฏิบัติด้านการวางระบบบริหารหรือการวางแนวทางปฏิรูปการเมือง เพื่อพัฒนาประเทศระยะยาวนั้น ควรมาจากทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วม โดยเฉพาะจากภาคประชาชนทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายให้สัดส่วนเท่าเทียมกัน ควรหลีกเลี่ยงการดำเนินการหรือแนวทางใดที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าถูกเลือกปฏิบัติ เพราะอาจจะบ่มเพาะความรู้สึกที่เกิดการต่อต้านขึ้นมาในภายหลังได้
เกาะสมุยท่องเที่ยวกร่อย
ที่จ.สุราษฎร์ธานี บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงค่ำคืนบนเกาะสมุย บริเวณถนนสายเลียบหาดเฉวง ต.บ่อผุด ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของเกาะสมุย พบตามถนนสายเลียบชายหาดมีนักท่องเที่ยวบางตา ตามแหล่งช็อปปิ้งท่องเที่ยวลดน้อยลง ส่วนตามร้านอาหารประเภทซีฟู้ด อาหารยุโรปและบาร์เบียร์ นักท่องเที่ยวที่ออกจากที่พักของโรงแรมมาเลือกนั่งรับประทานอาหาร ลดลงไปกว่า 50 เปอร์ เซ็นต์
น.ส.บุญจิตร์ สุตะวงศ์ ผู้จัดการร้านอาหาร ดิไอแลนด์ ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังย่านชายหาดเฉวง เปิดเผยว่า ร้านอาหารมียอดขายลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะนักท่องเที่ยวบางส่วนเดินทางออกจากเกาะสมุย และอยากให้บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงบสุขโดยเร็ว ขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงปิดให้บริการเร็วขึ้น ซึ่งตนได้บอกและทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้าใจและไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้