WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคณะ คสช.ไม่ตอบตั้งใครเป็นนายกฯ

    เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา(26 พ.ค.) ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศ แต่งตั้งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

     ประกาศระบุว่า  ด้วย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้นำความกราบบังคมทูลว่า เนื่องจากสถานการณ์ ความรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่น ๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจนำไปสู่การเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหรือเหตุจลาจล ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปรกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและอื่น ๆ อันจะก่อให้เกิดความชอบธรรมกับทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย คณะทหาร และตำรวจ ซึ่งมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๒๒พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา เป็นต้นไป

     ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยแก่ประเทศชาติและความสมานฉันท์ของประชาชน จึงมี พระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ บริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นปีที่ ๖๙

ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผู้บัญชาการทหารบก

     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบ หรือ คสช. กล่าวว่า ได้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. พร้อมถวายสัตย์ปฏิณาณจะดำเนินการให้ดีที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติไว้ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องระมัดระวังในการใช้กฏหมาย เนื่องจากเป็นการใข้อำนาจของพระมหากษัตริย์ ซึ่งหัวหน้า คสช. มีอำนาจเต็ม ขณะที่การดำเนินการใดๆขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะทหาร เป็นผู้รับผิดชอบในช่วงแรกและให้ปลัดกระทรวงดำเนินงานแทนรัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆ และต้องมีการรายงานขออนุมัติโครงการใดๆที่มีขอบเขตมากเกินอำนาจรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ยืนยันว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องความโปร่งใส เนื่องจากมีภาคส่วนประชาชนและอื่นๆเข้าร่วมดำเนินงาน

     ทั้งนี้ ภาระกิจที่สำคัญที่สุดหลังจากนี้คือการรักษาความสงบเรียบร้อย แล้วจึงตั้งองค์กรมาดูแลเรื่องการปฏิรูป หลังจากนั้นค่อยตั้งองค์กรทางนิติบัญญัติ ดังนั้นในช่วงนี้จะบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มข้น หากมีความรุนแรง และจะลดระดับความเข้มข้นทันทีหากเหตุการณ์คลี่คลายลง และการเร่งแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ควบคู่กับการระบายข้าว รวมทั้งการเร่งใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2557 โดยงานเร่งด่วนขณะนี้คือการแก้ไขความเดือดร้อนของประเทศ ที่มีอยู่มากมาย โดยขอให้สังคมอย่าเพิ่งออกมาเรียกร้องอะไรมากไปกว่าเดิม เพราะขณะนี้ ต้องคิดว่าทำอย่างไรประเทศชาติปลอดภัย

      ยืนยันว่า การยึดอำนาจเพื่อปลดล็อก ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ จึงขอให้สื่อไม่ขยายความขัดเเย้ง โดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นในเฟสบุ๊ก  ถ้าจำเป็นจะเรียกตัวก็จะขอเรียกมาพูดคุย ส่วนการเรียกร้องของสมาคมสื่อฯนั้น ก็ไม่ควรมาเรียกร้องตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ทั้งนี้ ในวันนี้เริ่มมีการเดินขบวนประท้วง ซึ่งทหารจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเด็ดขาด จึงขอให้คนที่เคลื่อนไหวดังกล่าวหยุดการเคลื่อนไหว โดยการดำเนินการใดๆต้องถูกดำเนินคดีด้วยศาลทหาร   ยืนยันว่าได้ทำตามกระบวนการยุติธรรม และเคารพเจ้าหน้าที่ในการทำงาน

    นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า ยืนยันว่าทุกคนที่เรียกมานั้นเป็นการเชิญมาอยู่ในที่พักที่เป็นบ้านทหาร ซึ่งผู้ที่ถูกเรียกตัวหากยังคงฝ่าฝืนต่อต้าน ก็จะถูกดำเนินการจับกุมตัวขั้นเด็ดขาด รวมถึงจะทำทุกวิธีการเช่นการระงับธุรกรรมทางการเงิน  จึงขอให้ทุกคนอดทน เพราะปัญหาการเมืองไทยขัดเเย้งกันมากว่า 9 ปี โดยตลอด 6เดือนที่ผ่านมา เกิดความไม่สบายใจขึ้นกับคนทั้งประเทศ จึงเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกันสร้างเสถียรภาพความมั่นคง ให้ต่างประเทศเชื่อมั่น ยืนยันจะทำหน้าที่เเก้ไขความขัดแย้งอย่างดีที่สุด

     เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวยืนยันว่า ต้องมีนายกฯชั่วคราวมาบริหารประเทศ และก็ต้องมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศเช่นกัน  โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้างแต่เป็นธรรมเนียมที่เคยทำกันมาแล้ว  ส่วนการขับเคลื่อนประเทศนั้น ยังคงเดินหน้าต่อไป  ส่วนคำถามเรื่องจะเป็นนายกฯ เองไหม พลเอกประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามรวมถึงไม่ได้ปฏฺิเสธ

     ส่วนคำถามเรื่องโรดแม็ปประเทศสู่การเลือกตั้งนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีกำหนด ขึ้นกับสถานการณ์ โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้พยายามถามคำถามต่อ พลเอกประยุทธ์และคณะ ได้เดินออกจากโฟเดียมแถลงข่าว

'ประยุทธ์'รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นหัวหน้าคสช. เผยยังไม่มีกำหนดเลือกตั้ง 
      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เปิดเผยว่า ได้รับสนอง พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งต่อจากนี้จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ เพื่อทำงานเร่งด่วนในการแก้ไขข้อติดขัดทุกประการที่เป็นข้อเดือดร้อนประชาชน รวมทั้งเดินหน้าปฏิรูปประเทศทุกด้าน จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายอย่าต่อต้านหรือฝ่าฝืน โดยร้องขอให้ประชาชนทุกคนสงบและอดทน เพื่อคืนความสุขให้คนไทยและสร้างเสถียรภาพของประเทศ
     นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกภาคส่วนอย่าออกมาเรียกร้องมากเกินไป เพื่อให้เวลาในการเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศชาติก่อน และขอให้ทุกฝ่ายยุติการเคลื่อนไหวภายใต้กฎหมายที่เข้มข้น เพราะหากพบกระทำผิดฝ่าฝืนประกาศของ คสช.ต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลทหาร รวมทั้งขอให้สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งเฟซบุ๊คและเว็บไซด์ต้องดูแลตัวเองไม่ให้ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
      อย่างไรก็ตาม หัวหน้า คสช.ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามสำคัญว่าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยตนเองหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะต้องมีคณะรัฐมนตรีเข้ามาบริหารประเทศ ส่วนจะเลือกตั้งได้เมื่อใดขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกำหนด
      "วันนี้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ผมได้ถวายสัตย์จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในการแถลงข่าว

วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8580 ข่าวสดรายวัน


รับราชโองการ ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าคสช. 
เรียกตัวเพิ่ม'น้องเดียร์-อจ.จา' อนันต์อัศวโภคิน-แสนสิริด้วย เพิ่มโทษคดี 112 ขึ้นศาลทหาร

     ขอเลือกตั้ง - ประชาชนหลายพันคนรวมตัวที่ร้านแมคโดนัลด์ แยกราชประสงค์ เพื่อแสดงพลังเรียกร้องประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง โดยเผชิญหน้ากับทหารเป็นระยะๆ แต่ไร้เหตุรุนแรง เมื่อวันที่ 25 พ.ค.

      โรดแม็ปการบริหารประเทศ เผยผลประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจได้ข้อสรุปกู้เงิน 9 หมื่นล้านจ่ายโครงการจำนำข้าวที่ค้างจ่าย คาดถึงมือภายในเร็ววันนี้ ซีเอ็นเอ็นยันทหารปล่อยตัวยิ่งลักษณ์แล้ว ส่วนม็อบต้านปฏิวัติชุมนุมหน้าสถานทูตสหรัฐเรียกร้องกดดันทหารคืนอำนาจ ก่อนย้ายมาที่ราชประสงค์เผชิญหน้าทหารตึงเครียด จากนั้นเคลื่อนมาที่อนุสาวรีย์ชัยฯประจันหน้ากันถึงขั้นฉีดน้ำไล่ ทหารเข้าล้อมแมคโดนัลด์ราชประสงค์ พบแค่คนสวมหน้ากาก"บ.ก.ลายจุด"

"ประยุทธ์"เตรียมรับราชโองการ

       เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมร่วมกับพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาการแทนผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง.ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. เพื่อติดตามสถานการณ์โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศติดตามความเคลื่อนไหวจำนวนมาก

       จากนั้นเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยรองหัวหน้า คสช. ประชุมเรื่องการกำหนดแนวทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคารและการคลัง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ร่วมกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการผู้จัดการตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสมาคมหอการค้าไทย ประธานสมาคมการค้าและประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยด้วย

       พล.ท.ภาณุวัชร นาควงษ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายพลเรือน เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 พ.ค. เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์จะรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้า คสช. จากนั้นจะมีธรรมนูญปกครองชั่วคราว และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศ โดยจะมีสภานิติบัญญัติและสภาปฏิรูปต่อไป โดยรายละเอียด พล.อ.ประยุทธ์จะแถลงต่อสื่อมวลชนหลังรับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ เสร็จ

       รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงเวลา 10.00-11.00 น. ที่ห้องรับรองชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จะรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคสช.นั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ พล.ร.อ.ณรงค์ พล.อ.อ.ประจิน และพล.ต.อ.อดุลย์ รองหัวหน้าคสช. เข้าร่วมพิธีด้วย

คสช.ยัน-ไม่ปิดหนังสือพิมพ์

         เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่สโมสรทหารบก พล.ท.ภาณุวัชร นาควงษม์ ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก และพล.ต.พลาวุฒิ กลับเจริญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้จัดพบปะกับผู้บริหารหนังสือพิมพ์ 18 ฉบับ เพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 18/2557 เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ โดยชี้แจงว่า การควบคุมอำนาจการปกครองที่เกิดขึ้น เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ จึงขอความร่วมมือสื่อเสนอข่าวสารอย่างระมัดระวัง ลดความรุนแรงลง ทั้งในการใช้คำพาดหัวและการเสนอภาพข่าว เพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาพปกติ อีกทั้งย้ำว่าจะไม่มีการปิดสื่อ แต่จะใช้วิธีประสานงานและหารือกัน

        พล.ท.ภาณุวัชรยัง ชี้แจงถึงประเด็นคณะคสช.ไม่ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ผบ.ทบ.เป็นทหารรักษาพระองค์ เป็นทหารเสือราชองครักษ์พิเศษที่ถวายความอารักขา ถวายความปลอดภัย จึงไม่มีอะไรต้องสงสัยในสำนึกความจงรักภักดี ส่วนหลังการยึดอำนาจ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายงาน ซึ่งราชเลขาธิการได้ตอบกลับมาแล้ว อีกทั้งในเวลา 10.49 น. วันที่ 26 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะทำพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แล้ว หลังจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างละเอียด ถึงโรดแม็ปในการแก้ปัญหาประเทศชาติ

วอนประชาชนอย่าออกมาต่อต้าน 

        เวลา 10.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วยพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง และพ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก ร่วมกันแถลงข่าว

       พ.อ.วินธัยกล่าวถึงการควบคุมตัวบุคคล ผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวตามคำประกาศของ คสช.ว่าเพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้งและให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวกแต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง โดยจัดสถานที่ดูแลที่เหมาะสม มิได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด เราให้เกียรติทุกคน ขณะนี้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วจำนวนมาก การควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน บางคนปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว จัดลำดับวันควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับ หรือมีคดีติดตัวจะนำเข้ามอบตัวเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. สำหรับยอดรวมที่มารายงานอยู่ที่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์

        พ.อ.วินธัย กล่าวว่าอยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนหลีกเลี่ยงการใช้ชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะขณะนี้กระบวนการประชา ธิปไตยทำไม่ได้เป็นปกติ คสช.มิได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพจากต่างประเทศ เพื่อเดินหน้าต่อไป จึงขอความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหารทุกคน อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้นเราจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข

ยอมรับเรียกคุย"คุณหญิงอ้อ"ด้วย 

        พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ขอเตือนผู้ที่ปลุกปั่นในโซเชี่ยลมีเดีย ยุยงปลุกปั่น ขอให้หยุดการ กระทำดังกล่าว เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อใคร ขอให้สื่อลดหรือระวังการพูดจา วิพากษ์วิจารณ์ ให้ร้ายทุกฝ่ายโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารให้เสียหายโดยเด็ดขาด ยืนยันว่าสิ่งที่คสช.ทำไปนั่นไม่ได้เกลียดชังหรือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ทุกอย่างดำเนินการตามเหตุผล และขั้นตอนทางกฎหมาย 

        เมื่อถามว่า จะเรียกนายพานทองแท้ ชินวัตร เข้ามารายงานตัวหรือไม่ รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ทุกคนที่มีคำสั่งให้รายงานตัว ส่วนใหญ่ไม่มีเจ้าหน้าที่นำพามา ส่วนภาพที่ปรากฏว่ามีทหารนำตัวนายพานทองแท้ มาควบคุมนั้น ตนไม่มีรายละเอียด กรณีตระกูลชินวัตรมีการประสานทำความเข้าใจหรือไม่นั้น ตนเรียนว่าบุคคลที่เชิญมารายงานตัวหลักๆ เป็นการทำความเข้าใจ และแลกเปลี่ยนกันว่าที่ผ่านมาได้ทำหรือคิดอะไร และขอความร่วมมือในการเดินไปข้างหน้าเพื่อให้บ้านเมืองสงบ ทั้งนี้ การเชิญตัวบุคคลมี 2 อย่าง คือการเชิญอย่างเป็นทางการคือผ่านทางคำสั่ง และอย่างไม่เป็นทางการ

        รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ส่วนกรณีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อยู่ในกรณีที่ไม่เป็นทางการ ถึงแม้จะไม่มีชื่อในคำสั่งก็ตาม ส่วนหัวหน้าคสช.จำเป็นต้องพูดคุยกับพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการควบคุมน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น ยังไม่มีข้อมูลว่าปล่อยตัวหรือไม่ แต่ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการและนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทยนั้น ก็ต้องดำเนินไปตามคดีที่มีประกาศคำสั่งไว้

'ไพวงษ์-จรรยา-พิชิต'รายงานตัว

      ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ให้บุคคลมารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.เพิ่มเติม เป็นวันที่ 3 ว่า ตั้งแต่เวลา 10.00-12.00 น. มีบุคคลถูกเรียกเข้ารายงานตัว 8 คน ประกอบด้วย นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าว นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ เจ้าของโบนันซ่า เขาใหญ่ นางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พี โอเวอร์สตีล จำกัด (มหาชน) นายชเยนทร์ คำนวณ ประธานกรรมการองค์กรจัดการน้ำเสีย นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานกฎหมายพรรคเพื่อไทย นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ น.ส.ณัชชานันทน์ เครือชัย เจ้าหน้าที่ระดับสูงพรรคเพื่อไทย และนางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยาพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรมช.มหาดไทยนั้น นายประวิตรเดินทางมาถึงเป็นคนแรกในเวลา 10.00 น. ทันทีที่มาถึงได้ไปยืนตรงป้ายสำนักงานวิจัยและพัฒนาทางทหารบกทางเข้าหอประชุม หันหน้ามายังผู้สื่อข่าวและใช้เทปกาวสีดำปิดปากเป็นรูปกากบาท ใช้มือปิดหู ปิดตา และชูสองนิ้วแสดงสัญลักษณ์สู้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบกจะนำตัวเข้าไปด้านใน

       จากนั้นเวลา 11.00 น. ผู้ถูกเรียกเข้ารายงานตัวได้ทยอยเดินทางมายังหอประชุม อาทิ นายไพวงษ์ นายชเยนทร์ นางวิมลรัตน์ น.ส.ณัชชานันทน์ และนายพิชิต ซึ่งใช้รถตู้โฟล์ก สีดำ ทะเบียน 9988 กรุงเทพมหานคร และลดกระจกลงยิ้มให้กับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ผู้ถูกเรียกตัวต่างมาตามเวลาที่กำหนด มีเพียงนางกาญจนาภาที่ไม่ได้มาเอง แต่มอบให้ตัวแทนเข้ามารายงานตัวแทน เนื่องจากมีอาการป่วย

ทหารบุกควบคุมตัวเมียสมยศ

       
ทวงสิทธิ์ - กลุ่มผู้ชุมนุมจากราชประสงค์หลายพันคน เคลื่อนขบวนมาปักหลักที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อแสดงจุดยืนให้เคารพสิทธิเสรีภาพประชาชน

      ก่อนแยกย้ายกันกลับไปในช่วงเย็นของวันที่ 25 พ.ค.เวลา 15.00 น. หลังจากผู้มารายงานตัวตามคำสั่งให้รายงานตัวจนครบ มีขบวนรถตู้สีขาว 2 คัน และมีรถนำจากกองพันสารวัตรทหารบกและรถฮัมวี่ขับปิดท้ายขบวน มารับตัว ผู้ที่มารายงานตัวไปควบคุมตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่แจ้งจุดหมายว่าไปที่ใด อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้มารายงานตัววันนี้ มีรายงานว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ถูกเรียกให้เข้ารายงานตัวตามคำสั่งที่ 5 ให้มารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. เดินทางเข้ารายงานตัวด้วย แม้ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ชี้แจงว่าได้รายงานที่ จ.สุโขทัย ไปแล้วก็ตาม ทั้งนี้นายสมศักดิ์ถูกนำตัวไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่งในจ.ราชบุรี 

       รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 15.45 น. มีทหารกว่า 20 นาย บุกตรวจค้นบ้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ซึ่งถูกคุมขังอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯมาแล้ว 3 ปี ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง โดยนางสุกัญญา ภรรยานายสมยศแจ้งว่า ทหารเข้ามาค้นที่บ้านย่านดอนเมือง และขนคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง พร้อมคุมตัวตนไปด้วย ซึ่งยังไม่ทราบว่าไปที่ไหน

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาได้สอบถามนายปณิธาน พฤกษาเกษมสุข ลูกชายนายสมยศ ทราบว่าแม่ถูกคุมตัวไปที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ และทหารได้ยึดโทรศัพท์ไปแล้ว ก่อนที่อีกไม่กี่นาทีต่อมาจึงขาดการติดต่อกัน

คนใกล้ชิดเมียสมยศบุกถามหาตัว

       เวลา 17.45 น. ที่หน้าหอประชุมกองทัพบก คนใกล้ชิดนางสุกัญญา เดินทางมาที่หอประชุมกองทัพบก หลังจากได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากนางสุกัญญาว่ามีทหารเข้าค้นบ้านพักย่านดอนเมืองในช่วงบ่ายที่ผ่านมา และควบคุมตัวนางสุกัญญา พร้อมยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่องไว้ โดยระบุว่าจะพาตัวมาสอบปากคำที่หอประชุมกองทัพบก จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก จึงเดินทางมาดักรอเพื่อติดตามถามความคืบหน้า และพยายามสอบถามจากสารวัตรทหารว่านำตัวนางสุกัญญามาจริงหรือไม่ แต่ทางทหารขอความร่วมมือเชิญให้ออกนอกบริเวณ โดยแจ้งว่าไม่มีใครเดินทางเข้ามาภายในหอประชุมแล้ว

        เวลา 18.00 น.เป็นต้นมา มีขบวนรถตู้ติดฟิล์มดำหลายคัน มีรถคุ้มกันของทหารประกบปิดหัวท้าย ทยอยเข้าไปภายในหอประชุม ขณะที่ประตูด้างข้างฝั่งถนนศรีอยุธยา มีรถตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามเข้าไปในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ทั้งนี้สห.ได้ประสานขอให้สื่อมวลชนแยกย้ายกันกลับ พร้อมกับปิดประตูทางเข้าหอประชุมเวลาต่อมา

ประสานล่าตัว'อัมสเตอร์ดัม'

      เมื่อเวลา 14.30 น. ที่อาคารกำลังเอก ภายในสโมสรทหารบกวิภาวดีฯ พ.อ.วินธัย พร้อมด้วย พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค และพ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ รองโฆษกคสช. แถลงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นในต่างประเทศว่า คสช.ยังคงเน้นวิธีการทางด้านกฎหมาย แต่เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวภายนอกประเทศ จึงต้องประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเนื้อหามีผลกระทบต่อความไม่สงบภายในประเทศ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้ทำมานานแล้ว แต่ยังเข้าถึงตัวได้ยากอยู่ ดังนั้น ต้องใช้ช่องทางในการสื่อสารดำเนินการ สิ่งที่ คสช.ดำเนินการอยู่ คือใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการกีดกันให้มาก

      พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวถึงผลการประชุมของคสช. นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ ให้ปลัดกระทรวงแต่ละหน่วยงาน ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงชั่วคราว ให้ดำเนินโครงการต่างๆ ต่อไป ส่วนแผนดำเนินโครงการใหม่ที่ต้องใช้วงเงินงบประมาณที่สูงจะยังไม่พิจารณาในช่วงนี้ แต่หากมีแผนใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจซึ่งใช้วงเงินไม่สูง จะให้แต่ละกระทรวงรวบรวมเสนอความต้องการส่งให้ คสช.พิจารณา เน้นการปฏิบัติงานที่รวดเร็ว กระชับ 

เร่งจ่ายเงินค่าจำนำข้าวภายใน 2 วัน

       พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า คสช. จะเร่งช่วยเหลือชาวนา ดำเนินการแก้ไขจ่ายเงินที่ค้างในโครงการรับจำนำข้าวที่มีวงเงินค้างอยู่สูง 9.2 หมื่นล้านบาท ที่ส่งผลกระทบต่อชาวนากว่า 8 แสนราย โดยจะใช้เงินก้อนแรกสภาพคล่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท จัดสรรให้ทุกภูมิภาคอย่างเท่าเทียมกันให้เสร็จ เร็วที่สุดภายในบ่ายวันที่ 26 พ.ค. แต่ไม่เกิน 1-2 วันนี้ จากนั้นจะพิจารณาจากลำดับความเร่งด่วนและทยอยจ่ายเป็นรายๆ ไป ส่วนก้อนที่ 2 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาทจะให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กู้ยืมจากสถาบันการเงินภายในประเทศ ทำให้เชื่อว่าภายใน 1 เดือนนี้ ชาวนาทุกรายจะได้รับเงินทั้งหมด ซึ่งส่วนนี้ปลัดกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ลงนามการกู้เงิน ทั้งนี้ การจัดสรรเงินให้กับชาวนานั้น ทหารจะเข้าร่วมตรวจสอบเอกสารการรับเงินของชาวนาและเปิดจุดอำนวยการในกองทัพบก กองทัพเรือและกองทัพอากาศในภูมิภาค เพื่อให้ชาวนารับเงิน ซึ่งการจ่ายเงินต้องทำอย่างโปร่งใส 

พร้อมยืดอายุแวต 7% ต่อไปอีก

       พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า จากการหารือกับกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะเร่งระบายข้าวในสต๊อกและทยอยส่งเงินคืนให้รัฐบาล เฉลี่ยเดือนละ 5-8 พันล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 15 เดือน จ่ายคืนหนี้ทั้งหมด 9.2 หมื่นล้านบาท ส่วนการหารือด้านเศรษฐกิจ คสช.กำหนดแนวทางให้หัวหน้าส่วนฝ่ายเศรษฐกิจแต่ละฝ่ายประชุม กำหนดนโยบายเพื่อเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม 

        นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธ.ก.ส. เผยว่า ปัจจุบันยังมีเงินค้างจ่ายชาวนา 9.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 8.3 แสนราย ซึ่งธนาคารอนุมัติวงเงิน 4 หมื่นล้านบาทแล้ว โดยรัฐบาลจะต้องชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. ในอัตราเงินฝากประจำสำหรับ 4 แบงก์ใหญ่ +1% หรือประมาณ 2.4% อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังหารือในเบื้องต้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของปลัดกระทรวงการคลัง ในการยืดอายุการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ต่อไปอีก จากเดิมจะหมดอายุลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลา โดยจะหารือในระยะต่อไป ขณะที่มาตรการภาษีอื่นๆ อาทิ การลดอัตราภาษีนิติบุคคลที่ 20% มาตรการลดภาษีดีเซล และมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ จะหารือครั้งต่อไป

พาณิชย์เดินหน้าระบายข้าวจีทูจี

         ด้านนายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้รับการยืนยันให้เดินหน้าระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี เพื่อนำเงินมาจ่ายคืนให้กับชาวนา ร่วมกับกระทรวงการคลังเตรียมหาเม็ดเงินคืนให้ชาวนา ซึ่งจะมาจากกระทรวงการคลังจำนวน 5 หมื่นล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรอีก 4 หมื่นล้านบาท แต่ที่ประชุมให้ระงับการระบายข้าวผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ไปก่อน เนื่องจากคณะอนุกรรมการระบายข้าวได้หมดวาระไปแล้ว ที่ผ่านมาการขายข้าวผ่านเอเฟตสามารถระบายข้าวได้ตามเป้าหมาย 6-7 พันล้านบาท ขณะที่การดูแลค่าครองชีพไม่น่าเป็นห่วง เพราะกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่แล้วจึงไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ

        นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า แผนการกู้เงินมาจ่ายจำนำข้าวจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้ทันที เป็นการกู้เงินจากทั้งแบงก์รัฐและเอกชนที่พร้อมจะปล่อยกู้ให้กับกระทรวงการคลัง แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าปล่อยกู้ เพราะไม่มั่นใจว่ารัฐบาลรักษาการมีอำนาจการกู้หรือไม่ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาดังกล่าวแล้ว

จารุพงศ์โพสต์ย้ำต้านรัฐประหาร

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย ซึ่งประกาศไม่เข้ามอบตัวตามคำสั่งคสช.และใช้การโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเป็นช่องทางแสดงความเห็นเป็นระยะนั้น ได้โพสต์ข้อความว่า เตรียมตัว 1 พร้อมรูปภาพกระดาษโน้ตเขียนข้อความด้วยลายมือว่า "ผมขอต่อสู้ร่วมกับประชาชนหัวใจเสรีไทยต่อต้านการรัฐประหาร ต่อต้านกฎอัยการศึก ไม่เอานายกฯเถื่อน ไม่ยอมรับสภาที่มาจากรัฐประหาร เพราะผิดหลักประชาธิปไตย โดยใช้การเมืองนำการทหาร ไม่ให้มาฆ่าประชาชนซ้ำแล้วซ้ำอีก สถาปนาอำนาจของประชาชนเพื่อรับใช้ประชาชน ไม่ใช่มากดหัวประชาชน?

      เมื่อเวลา 11.17 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก?Abhisit Vejjajiva?ว่า "ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใย ผมขออภัยที่ไม่สามารถผลักดันการปฏิรูปภายใต้รัฐธรรมนูญ และปกป้องประชาธิปไตยไว้ได้?

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เพิ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก หลังจาก คสช. ปล่อยตัวมาเมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 23 พ.ค.

ส.ว.เซ็ง-คสช.สั่งยุบวุฒิสภา

       ด้านนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวถึงประกาศคสช.ให้วุฒิสภาสิ้นสุดอำนาจลงว่า เห็นใจความรู้สึกของส.ว.เลือกตั้งที่เพิ่งเข้ามาไม่ทันไร ก็ถูกยุบ หากจะยุบส.ว.ก็ควรยุบตั้งแต่วันแรกที่มีการรัฐประหาร ไม่ใช่บอกให้วุฒิสภาคงอยู่แต่อีก 2-3 วันต่อมากลับออกคำสั่งยุบ คงเสียความรู้สึกบ้างเป็นธรรมดา ได้แต่ปรับทุกข์และให้กำลังใจกันเอง สาเหตุยุบวุฒิสภาครั้งนี้ มองว่าคสช.คงต้องการความรวดเร็ว ให้คสช.มีอำนาจเด็ดขาดเพียงผู้เดียว เช่น การถอดถอนหรือแต่งตั้งบุคคลต่างๆ ที่เป็นอำนาจของวุฒิสภา 

       นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนทิศทางหลัง จากนี้เชื่อว่าคสช.จะตั้งสภาปฏิรูปและสภานิติบัญญัติแห่งชาติขึ้นมา ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติคงใช้ส.ว.ส่วนหนึ่งไปร่วมอยู่ด้วย แต่ไม่ทราบว่าจะมีส.ว.เลือกตั้งรวมอยู่ด้วยหรือไม่

        พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ อดีตส.ว.สรรหา กล่าวว่า ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน แต่เมื่อคสช.ประกาศยุบวุฒิสภา ส.ว.ก็หมดหน้าที่ซึ่งวันที่ 26 พ.ค.พวกตนจะเข้าไปเก็บของที่รัฐสภา จากนั้นอดีตส.ว.สรรหาจะนัดกินข้าวอำลากัน ส่วนกระแสข่าวว่าคสช.จะให้อดีตส.ว.สรรหาทำหน้าที่เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไปนั้น ได้ยินข่าวมาเช่นกัน คงต้องไปถามความชัดเจนจากคสช. 

คดีหมิ่นสถาบันขึ้นศาลทหาร

        เมื่อเวลา 16.25. น. คสช. ออกประกาศฉบับที่ 37/2557 เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาคดีของศาลทหาร ระบุว่า ตามที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พ.ค. 2557 ให้ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศ คสช.นั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คสช.จึงประกาศให้คดีความผิดตามที่กำหนดไว้ดังนี้ ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักรและในระหว่างที่ประกาศนี้ใช้บังคับ อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร

        1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (1) ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา 107 ถึง 112 (2) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา 113 ถึง 118 ยกเว้นความผิดซึ่งการ กระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ 2.ความผิดตามประกาศหรือคำสั่งคสช. ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง 

ม็อบต้านปฏิวัติหน้าสถานทูตมะกัน

         เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่ป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้าม สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ มีกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ประมาณ 30 คน เดินทางมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐ แสดงท่าทีหรือมีปฏิกิริยาต่อการทำรัฐประหารของกองทัพไทยมากกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมกับมีการชูป้ายประท้วงข้อความต่างๆ

       ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตั้งแนวที่ด้านหน้าทางเข้าสถานเอกอัครราชทูต และตั้งแนวปิดถนนวิทยุทั้งสองฝั่ง รถและประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ โดยเจ้าหน้าที่ทหารขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาประสานกลุ่มผู้ชุมนุมให้งดชูป้ายข้อความต่างๆ และออกจากพื้นที่ แต่ผู้ชุมนุมปฏิเสธ ระหว่างนั้นมีหญิงสาวถือป้าย "RED USA? และถือหนังสือเดินทางสหรัฐอเมริกา เข้ามาร่วมชุมนุม และถ่ายภาพด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูต

        จากนั้นมีหญิงไทยวัยกลางคนที่มาร่วมชุมนุมอยู่บริเวณป้ายรถเมล์ก่อนหน้านั้น ถือกระดาษเขียนข้อความ "เสรีภาพกูหาย Liberty to recover lost? เดินข้ามถนนเข้าไปใกล้ด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูต และหันกลับมาชูป้ายให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ เข้ามาฉีกกระดาษแผ่นดังกล่าว ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้ชุมนุมที่พากันตะโกนต่อว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ทหาร 

ทหารล้อมแมคโดนัลด์ราชประสงค์

       เมื่อเวลา 12.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมทยอยออกจากพื้นที่หมดแล้ว บางส่วนตามไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่แมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหาร 1 กองร้อย ยังกระจายกำลังวางแนวสองฝั่งถนนวิทยุ ปิดการจราจรบนถนนหน้าสถานเอกอัครราชทูต แต่เปิดให้เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างๆ ในบริเวณนั้นเข้า-ออกได้

        ที่ห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า บริเวณย่านแยกราชประสงค์ กลุ่มต่อต้านรัฐประหารนับพันคนรวมตัวกันที่บริเวณร้านเเมคโดนัลด์ ชั้นล่างของห้างตามการเชิญชวนผ่านทางเฟซบุ๊กของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด เพื่อแสดงออกทางสัญลักษณ์แบบสันติวิธี ในการแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ในกิจกรรม "กินเเมคต้านรัฐประหาร?

       ภายในร้านเเมคโดนัลด์ มีประชาชนที่มาร่วมต่อต้านการรัฐประหารอยู่ภายในร้านจนแน่นขนัด ขณะที่ด้านนอกมีประชาชนทยอยมาสมทบร่วมกิจกรรมจำนวนมากจนล้นทะลักด้านหน้าของร้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมโล่และกระบอง บางส่วนมีปืนทาโวร์เป็นอาวุธประจำกายและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจ. นำกำลังกระจายอยู่หลายจุดในพื้นที่ ทั้งหน้าห้าง และบนทางเชื่อมรถไฟฟ้า สกายวอล์ก โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมตัวผู้ชุมนุม 2 ราย

ตะโกนดังลั่นเลือกตั้ง-ออกไป

      จากนั้นเวลา 11.30 น. บริเวณสี่แยก ราชประสงค์ เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เมื่อประชาชนประมาณ 200 คน พยายามเดินต่อต้านเเนวป้องกันของเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมส่งเสียงตะโกนด่าทอการยึดอำนาจของ เจ้าหน้าที่ทหาร "ออกไป? "เลือกตั้ง? อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูป้ายต่อต้านรัฐประหารหลากหลายข้อความทั้งภาษาไทยเเละอังกฤษ เเม้ เจ้าหน้าที่พยายามตั้งเเนวป้องกัน เเต่ท้ายที่สุดต้องถอยร่น กระทั่งมาประจำการยังหน้าร้านเเมคโดนัลด์ โดยเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปจ.วางกำลังสกัดผู้ชุมนุมที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ 3 ชั้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเป็นแนวหน้าสกัดกั้นผู้ชุมนุม ตามมาด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแนวเจ้าหน้าที่ทหาร และเมื่อผู้ชุมนุมทยอยมาสมทบมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องได้รวมตัวกัน เข้ามาประชิดแนวเจ้าหน้าที่ทหาร ทำให้บรรยากาศตึงเครียด โดยผู้ชุมนุมได้ผลักดันแนวโล่และขว้างปาขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นระยะ พร้อมกันนี้ได้ส่งเสียงเลือกตั้งๆ ดังอย่างต่อเนื่อง 

       เวลา 12.15 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำรถติดเครื่องขยายเสียง 2 คัน เข้ามาในพื้นที่ชุมนุม พร้อมเปิดเพลงปลุกใจ อาทิ รักกันไว้เถิด เราสู้ จากนั้นพยายามชี้เเจงผ่านเครื่องขยายเสียงถึงจุดประสงค์การทำหน้าที่เพื่อความสงบสุข เเต่ไม่ประสบความสำเร็จเเละถูกประชาชนส่งเสียงโห่ใส่อย่างต่อเนื่อง ผู้ชุมนุมบางส่วนนำสติ๊กเกอร์ต่อต้านการรัฐประหารไปติดที่รถของทหารด้วย 

สวมหน้ากากบก.ลายจุดกินแมค

        เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งผู้ชุมนุมเรียกว่า ฟ้า พรทิภา เเต่งตัวลักษณะเดียวกับผู้ชุมนุมกปปส. ติดประดับ ตุ้มหูลายธงชาติ คล้องคอด้วยสายธงชาติ และพยายามนำนกหวีดขึ้นมาเป่าเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ โดยเจ้าหน้าที่ทหารต้องคุ้มกันหญิงดังกล่าว เเต่โดนกดดันจากผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าทอและขว้างปาสิ่งของใส่หญิงคนดังกล่าวเป็นระยะอีกด้วย ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นรถกู้ภัยในเวลาต่อมา แม้ผู้ชุมนุมจะสกัดกั้นไม่ให้นำตัวหญิงคนดังกล่าวและได้ปิดล้อมรถคันดังกล่าวไว้ก็ตาม

       เวลา 13.00 น. มีประชาชนนำหน้ากาก บ.ก.ลายจุดมาสวมใส่ครอบตัวหุ่นเเมคโดนัลด์ และใส่หน้ากากบ.ก.ลายจุด มาร่วมชุมนุมด้วยจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีชายเเต่งตัวอาหรับชูป้ายตามหาเพชรซาอุฯ เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ชุมนุม ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนำรถทั้ง 2 คันมาปิดหน้าร้านแมคโดนัลด์ แต่เมื่อผู้ชุมนุมเข้ามากดดัน จนเจ้าหน้าที่ทหารต้องนำรถทหารออกนอกพื้นที่

ตึงเครียด-ม็อบเผชิญหน้าทหาร

       จากนั้นเวลา 14.00 น. ผู้ชุมนุมพยายามผลักดันเจ้าหน้าที่ทหารออกนอกพื้นที่จนสำเร็จ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องถอยร่นมายังแยกราชประสงค์ 

       เวลา 14.10 น. มีรถลำเลียงเจ้าหน้าที่ทหาร 4 คันรถ มาที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 โดยเจ้าหน้าที่ทหารทุกนายมีอาวุธปืนทาโวร์และโล่ ลงมาสมทบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถอยร่นมาจากร้านแมคโดนัลด์ พร้อมตั้งแนวป้องกันผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขณะที่ผู้ชุมนุมได้รวมตัวเดินมาพาเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 5 นาที ก่อนที่จะพากันเดินต่อไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อแสดงพลังต่อต้านรัฐประหารต่อไป ขณะที่ เจ้าหน้าที่ทหารยังวางกำลังป้องกันอยู่ที่แยกราชประสงค์ฝั่งถนนพระราม 1 พร้อมกับปิดสกายวอล์ก ที่เดินเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยามและชิดลมด้วย

เผชิญหน้าอนุสาวรีย์-ฉีดน้ำไล่

       เมื่อเวลา 15.15 น. ผู้ชุมนุมจากราชประสงค์เคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์ จักรยานยนต์ และเดินเท้ามายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และกระจายอยู่รอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่งแยกไปดินแดงและพญาไท รวมถึงด้านบนสกายวอล์ก พร้อมชูป้ายข้อความต่อต้านรัฐประหารและแสดงเจตนารมณ์ต้องการเลือกตั้ง ส่งผลให้การจราจรจากพหลโยธินมุ่งหน้าพญาไท และจากดินแดงเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯเป็นอัมพาต ส่วนการจราจรจากพหลโยธินไปดินแดงติดขัด ทั้งนี้ บรรยากาศการชุมนุมยังคึกคัก แม้จะมีฝนโปรยลงมาเป็นระยะ ผู้ชุมนุมตะโกนแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการรัฐประหารเป็นระยะ อาทิ เลือกตั้ง, ประยุทธ์ออกไป

      เวลา 16.50 น. ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อนุสาวรีย์ชัยฯ เจ้าหน้าที่ทหารตั้งกำลังมุ่งหน้ามาที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทหาร ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะเข้ามาผลักดันแนวโล่ พร้อมตะโกนใส่ทหารว่าออกไปๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้น้ำฉีดสกัด ท่ามกลางความตึงเครียดเจ้าหน้าที่ทหารต้องใช้รถติดเครื่องขยายเสียง เจรจากับผู้ชุมนุมว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน จากนั้นมีตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าเจรจา โดยขอให้เจ้าหน้าที่ทหารถอนกำลังออกจากพื้นที่ โดยผู้ชุมนุมจะกลับไปชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯตามเดิม

นัดรวมตัวชุมนุมกันใหม่บ่าย 3

       ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมควบคุมตัวชายคนหนึ่งไว้ได้ โดยอ้างเป็นผู้ชุมนุมของ กลุ่มกปปส.ที่แฝงตัวเข้ามาถ่ายรูปคนที่เป็นแกนนำพูดกระจายเสียง ทำให้ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารคนอื่นๆ เข้าไปด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ไล่เลี่ยกันมีคนแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายได้บาดเจ็บที่บริเวณใต้ทางเดินสกายวอล์ก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาพยาบาลไปตรวจสอบพบว่า เป็นชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ถูกตีที่ศีรษะแตกหลังทะเลาะวิวาทกับอริ ตำรวจยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมคัดค้านการรัฐประหาร

      เวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางกลับ โดยนัดหมายรวมตัวกันอีกครั้งวันที่ 26 พ.ค. เวลา 15.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ เปิดใช้การได้แล้วทุกช่องทาง

จี้คืนเสรีภาพ-ปล่อยผู้ถูกจับกุม

       เมื่อเวลา 16.10 น. ที่สวนอุทยานเบญจสิริ ถ.สุขุมวิท กลุ่มนักสันติวิธีในนาม"พอกันที? ประมาณ 35 คน มารวมตัวกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมแถลงการณ์ "ปล่อยเพื่อนเรา คืนสิทธิเสรีภาพให้ประชาชน Free The People? เนื่องด้วย 4 วันหลังรัฐประหารมีการละเมิดสิทธมนุษยชน มีประชาชนถูกเรียกตัว ถูกจับกุม ถูกควบคุมตัว ถูกคุกคามแล้วมากกว่า 200 คน 

       กลุ่มพอกันทีและเครือข่ายต้านรัฐประหาร จึงขอประณามการใช้อำนาจเผด็จการ และขอให้คณะรัฐประหารยุติการใช้อำนาจที่ละเมิดสิทธิประชาชน พร้อมวิงวอนประชาชนและทหารชั้นผู้น้อยให้เข้าใจว่าเรามาเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร โดยอุปกรณ์ที่ทางกลุ่มร่วมกันทำ คือการเขียนป้ายประกาศ ตัวอักษรสีดำอ่านว่า The People และตัวเลขสัญลักษณ์ 4 > 200 สื่อถึงแถลงการณ์ใน วันนี้ เพื่อคืนสิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน 

       จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวคุกเข่านั่งขัดสมาธิต่อกันเป็นรูปนกพิราบขาขาดไปหนึ่งข้าง เพื่อสื่อสัญลักษณ์ถึงสันติภาพขาดหายไปข้างหนึ่งด้านหลังแผ่นป้ายประกาศและตัวเลข ทุกคนมีสก๊อตเทปสีดำปิดปากเอาไว้ ท่ามกลางความสนใจจากผู้มาออกกำลังกายและพักผ่อนในอุทยาน ทั้งนี้ มีตำรวจ 2-3 นายเข้ามาสอบถาม หลังยืนดูกิจกรรมของกลุ่มอยู่ครู่หนึ่ง

เตือนผู้ชุมนุม-ใช้กม.เด็ดขาด

       เวลา 20.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวแจ้งเตือนกลุ่มประชาชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านที่กระจัดกระจายอยู่ในช่วงนี้ว่า เจ้าหน้าที่อาจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด หากมีการปะทะกันอาจมีการบาดเจ็บสูญเสีย จะไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงภาวะไม่ปกติ ทหารตำรวจทำงานภายใต้กฎอัยการศึกและประกาศคำสั่งของ คสช.ในทุกพื้นที่

       "อยากให้พ่อแม่พี่น้องลูกหลานแจ้งเตือนกันว่าไม่มีประโยชน์หากมาชุมนุมต่อต้าน ขอให้เข้าใจว่าทุกคนกำลังทำหน้าที่เพื่อให้ประเทศชาติมีความสงบ ขอให้ประชาชนช่วยกันห้ามปรามและหยุดยั้งการกระทำของกลุ่มต่อต้านดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัยให้ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อช่วยกันนำประเทศชาติไปสู่ความสงบโดยเร็ว เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงอยากเห็นบ้านเมืองกลับมามีความสุขสงบโดยเร็ว? รองโฆษกทบ.กล่าว

"แม้ว"ทวีตจี้คสช.คืนความสุข

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ในฐานะอดีตนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ย่อมเศร้าสลดกับเหตุการณ์ในไทย ที่เกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งประเทศไทยมีความขัดแย้งมานาน เหตุเกิดจากการแบ่งฝ่ายโดยไม่มีกติกา ไม่มีความยุติธรรม มีการใส่ร้ายป้ายสีและหลงเชื่อกันไป ทำให้คนไทยไม่มีความสุข ไม่ยิ้มให้กันเหมือน 10 ปีที่แล้ว ตนขอให้ คสช.คืนความสุขให้คนไทย ได้หันหน้าเข้าหากัน ยิ้มให้กันได้เหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อให้คนไทยมีความหวังกับอนาคตตนเอง และอนาคตของประเทศไทย ด้วยการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย มองทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน เกิดในแผ่นดินไทยด้วยกัน ขอให้ปฏิบัติต่อทุกฝ่าย โดยหลักสากลที่ยึดหลักนิติธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชน ใช้กระบวน การยุติธรรมตรงไปตรงมา ให้ไทยยังเป็นที่เคารพในสายตาอารยประเทศต่อไป

ซีเอ็นเอ็นเผยปล่อยตัว"ปู"แล้ว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีมีกระแสข่าวว่านายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการคนสำคัญ ถูกทหารคุมตัวแล้วที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น เมื่อเวลา 18.40 น. นาย ชาญวิทย์ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวดังกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีอะไร ตอนนี้กลับบ้านแล้ว

ด้านสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันกับซีเอ็นเอ็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับการปล่อยตัวจากค่ายทหารแล้ว หลังจากคสช.เรียกให้มารายงานตัว และกักตัวไว้ตั้งแต่วันศุกร์ ร่วมกับคณะบุคคลอีกกว่า 100 คน ทั้งนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

ทหารราชบุรีรวบ7ผู้ต้านปฏิวัติ

        ที่จ.ราชบุรี กลุ่มคนรักประชาธิปไตย จ.ราชบุรี กว่า 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ ริมถนนเพชรเกษม ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมกับชูป้ายต้องการให้มีการเลือกตั้ง ก่อนจะร่วมกันถ่ายรูปพร้อมกับตะโกนไม่เอาเผด็จการทหาร หลังจากนั้นได้รับประทานอาหารร่วมกัน พร้อมกับพูดคุยเรื่องของสถานการณ์การบ้านเมือง โดยมีพล.ต.ต. กฤษณะ ทรัพย์เดช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวมาคอยดูแลความสงบเรียบร้อย

        นอกจากนี้ บริเวณถนนเพชรเกษมขาเข้าตัวเมืองราชบุรี ก่อนถึงร้านแมคโดนัลด์ และเลยร้านไปได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากจังหวัดทหารบกราชบุรี จำนวน 2 กองร้อยมาตั้งด่านตรวจค้นอาวุธเพื่อป้องกันเหตุร้าย ขณะที่กลุ่มคนรักประชาธิปไตย ได้ทยอยกันออกจากร้านในเวลา 14.00 น. ซึ่งกำลังของทหารจากจังหวัดทหารบกราชบุรีจำนวนหนึ่ง ได้จู่โจมเข้าจับกุมกลุ่มคนที่มาร่วมชุมนุมกันในร้านแมคโดนัลด์ ทำให้กลุ่มคนที่ยังอยู่วิ่งหนีขึ้นรถไปได้ แต่ก็สามารถรวบได้ 7 คน เป็นชาย 6 และหญิง 1 คน พร้อมกับนำตัวขึ้นรถทหารไปสอบสวนยังจังหวัดทหารบกราชบุรี 

         จากนั้นได้เข้าตรวจภายในร้านแมคโดนัลด์ แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ โดยมีนายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายณรงศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยในการเข้าจับกุมของหน่วยงานทหารด้วย 

ม็อบเชียงใหม่ชุมนุมแบบนินจา

       ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มมวลชนชาวเชียงใหม่สวมเสื้อสีขาว-ดำ และนักศึกษา คณาจารย์ จากหลายสถาบันรวมตัวกันกว่า 50 คน ได้ใช้รถยนต์และจักรยานยนต์ รวมตัวกันและออกเดินทางไปที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาประจำจังหวัดเชียงใหม่ สถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน และสถานกงสุลญี่ปุ่น ก่อนไปรวมตัวที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย โดยทุกคนต่างชูป้ายไม่เอารัฐประหาร ต้องการการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และขอร้องให้ทหารคืนอำนาจให้ประชาชน 

       สำหรับ การไปชุมนุมประท้วงหน้ากงสุล ในลักษณะแบบนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกว่า "แรลลี่ สร้างสัญลักษณ์ ให้ต่างชาติได้รับรู้ ว่า ประชาชน คนไทยไม่เอารัฐประหาร และให้ต่างชาติออกมาประณามการกระทำรัฐประหารครั้งนี้ พร้อมยังเรียกร้องให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ออกมาร่วมกันแสดงตัวในกิจกรรมที่ทางกลุ่มจัดขึ้นในแต่ละครั้ง 

       ด้านเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 จัดกำลัง 1 กองร้อย ออกติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน พร้อมส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาให้ยุติ และประกาศเตือนว่าหากพบการเคลื่อนไหวซ้ำจะจับกุมแกนนำทุกคน ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ขอชุมนุมชูป้ายหน้าสถานกงสุล แต่ละแห่ง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ เพียงไม่กี่นาที แล้วก็สลายตัว ทางทหารก็ยินยอม

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางกลุ่มมวลชนได้ใช้แรลลี่แบบนัดกันแล้วไปทั่วเมืองเชียงใหม่ ในจุดที่ไม่มีกำลังทหารตั้งจุดประจำการ และหากกำลังทหารมาถึงก็จะสลายตัวไปทันที เรียกว่า แรลลี่ แบบนินจา มาเร็วไปเร็ว

ทหารบุกรวบตัว"แดงเก๊าเสา"

        เมื่อเวลา 18.30 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนชาวเชียงใหม่ จำนวน 30 คน มาถือป้ายไม่เอารัฐประหารและใช้สก๊อตเทปปิดปากตัวเอง บริเวณหน้าห้างขายคอมพิวเตอร์ ไอคอน ถ.มณีนพรัตน์ ต.ช้างเผือกข้างคูเมือง ต่อมาได้มีรถทหารซึ่งได้ตระเวนดู 3 รอบ จากนั้นก็ได้วกกลับมาจู่โจมเข้าจับกุมแกนนำ ขึ้นรถทหาร โดยมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ พากันออกจากห้างมาดูเหตุการณ์ และไม่พอใจการกระทำของทหาร พร้อมตะโกนด่าไล่หลังรถทหาร ที่จับแกนนำไป ทราบชื่อแกนนำต่อมาว่า "แดงเก๊าเสา? เป็นชื่อในเฟซบุ๊ก โดยถูกทหารนำตัวไปไม่ทราบชะตากรรมว่าเอาไปไหน

เรียกตัวเพิ่มน้องเดียร์-เศรษฐา

      เมื่อเวลา 20.30 น. มีการประกาศคำสั่ง คสช.ฉบับที่ 14, 15 และ 16 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พ.ค. เวลา 11.00-12.00 น. รวมทั้งสิ้น 38 คน ซึ่งมีทั้งนักการเมือง นักวิชาการและนักธุรกิจ อาทิ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด นายอรรถชัย อนันตเมฆ น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายชาญยุทธ เฮงตระกูล นายรังสี เสรีชัยใจมุ่ง นายอนันต์ อัศวโภคิน นาย เศรษฐา ทวีสิน นายเปรมชัย กรรณสูต นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ นายสมหมาย แว่นแก้ว นายสมหมาย สกุลเมตตา นายวิทยา บุรณศิริ นายบรรเจิด สิงคะเนติ นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายหริรักษ์ สูตะบุตร นายชัยอนันต์ สมุทวณิช และนายธีรยุทธ บุญมี

นครปฐม-ปากน้ำชุมสงบต้านปฏิวัติ

       ที่ จ.นครปฐม บริเวณสวนสุขภาพเฉลิม พระเกียรติ 80 พรรษา ด้านทิศตะวันออกองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม มีกลุ่มประชาชนประมาณ 100 คนซึ่งมาพบกันโดยมิได้นัดหมาย มาร่วมกันจุดเทียนสีขาวตั้งตามพื้นขอบทางเดินของสวน ถือเทียนถือป้ายข้อความ และใช้ผ้าเทปสีเขียวขี้ม้าและเทปสีดำปิดกากบาทที่ปาก เป็นการแสดงสัญลักษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามว่าจัดกิจกรรมอะไร กลุ่มคนทั้งหมดไม่มีใครตอบคำถามเพียงแสดงอาการใบ้บ่งบอกว่า พูดไม่ได้เดี๋ยวจะมีความผิด

       ที่ จ.สมุทรปราการ บริเวณสี่แยกศรีเทพา ถนนเทพารักษ์ตัดกับถนนศรีนครินทร์ ต.เทพา รักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ มีกลุ่มมวลชนราว 200 คน รวมตัวกันชูป้ายแสดงสัญลักษณ์ ต้องการการเลือกตั้ง ไม่เอารัฐประหาร โดยมี เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนราว 100 นาย จากบก.ภ.สมุทรปราการ คอยดูแลความเรียบร้อย บรรยากาศการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีมวลชนทยอยกันมาตั้งแต่เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังคุมเข้มทุกเส้นทางโดยรอบ

        ต่อมา พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง รองผบก.ภ. จว.สมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากการแสดงออกลักษณะ ดังกล่าว ผิดกฎหมายในช่วงประกาศกฎอัยการศึก แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้รื้อราวเหล็กที่ทาง เจ้าหน้าที่ได้นำมากันบริเวณเกาะกลางถนนของสี่แยกดังกล่าวไว้ ก่อนพากันมารวมตัวที่เกาะกลางถนน จากนั้น กลุ่มมวลชนได้ขอรวมตัวแสดงออกและร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. มวลชนทั้งหมดได้พากันแยกย้ายกลับไป 

ปล่อยตัวแล้ว"สมชาย-เจ๊แดง"

        เมื่อเวลา 21.30 น. คสช.ออกประกาศฉบับที่ 38/2557 ระบุสืบเนื่องจากประกาศฉบับที่ 37/2557 ที่ระบุให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาคดีเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์และความมั่นคงนั้น เพื่อให้พิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากคดีใดที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร แต่มีการ กระทำบางอย่างที่มีความผิดในตัว ให้ถือว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหารด้วย 

       รายงานข่าวเปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันเดียวกันนี้ คสช.ได้ปล่อยตัวนายสมชายและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หลังถูกเรียกให้ไปรายงานตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้วกักตัวไว้ที่ค่ายทหาร

       นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ กล่าวภายหลังมีคำสั่งคสช.ให้ย้ายไปปฏิบัติราชการสำนักนายกฯว่า คำสั่งดังกล่าวมีผลทันที ดังนั้น ได้ส่งมอบงานให้พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อส่งมอบต่อให้พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผบ.ตร. ซึ่งจะมาปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปรายงานตัวกับนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯ ในวันที่ 26 พ.ค. ที่กรมประชาสัมพันธ์ เวลา 10.30 น

 

โปรดเกล้าฯหัวหน้าคสช. ประยุทธ์ รับบรมราชโองการวันนี้ เดินหน้าตั้งนายก-ครม. เรียกรายงานตัวอีก 38 บิ๊กธุรกิจ-พท.อีกโขยง กุนซือกปปส.โดนด้วย


รายงานตัว - นางจรรยา สว่างจิตร หนึ่งในผู้ที่ถูก คสช.เรียกเข้ารายงานตัว โบกมือทักทายผู้สื่อข่าว ก่อนเข้ารายงานตัวที่หอประชุมกองทัพบก ถนนราชสีมา เขตดุสิต กทม. เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม




ให้ทหาร - ประชาชนนำอาหาร ผลไม้และเครื่องดื่มมามอบให้ทหารที่รักษาการณ์บริเวณด้านหน้าหอประชุมกองทัพบก ถนนราชสีมา เขตดุสิต ในขณะที่มีผู้มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม



     เปิดกองทัพบกทำพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ'ประยุทธ์'หัวหน้า คสช. วันนี้ วอน ปชช.เลี่ยงร่วมชุมนุมต้าน 'แม้ว'ทวีตให้ คสช.ยึดหลักนิติธรรม คืนความสุขให้คนไทย


@ บิ๊กตู่ปัดย้ายขรก.ลิดรอนศักดิ์ศรี 
     พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่าการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารมิได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงาน โดย พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ชี้แจงถึงการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของพลเรือนตำรวจทหาร มิได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว 
     "สำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้ที่มารักษาการแทน ก็มาจากรอง ผบ.ตร.ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 ทั้งหมดเพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคมและประชาชน อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะ
     ท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือว่าเป็นการปรับย้ายเพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย" พ.อ.วินธัยกล่าว 

@ แจงคุมตัวบุคคลให้เกียรติ
     พ.อ.วินธัยกล่าวว่า การควบคุมตัวบุคคลผู้ที่ถูกเรียกมารายงานตัวตามคำประกาศของ คสช. ก็เพื่อทำความเข้าใจในข้อขัดแย้งและให้ชี้แจง ข้อเท็จจริงหลังการปฏิบัติของแต่ละพวก แต่ละฝ่าย และเพื่อเสาะหาข้อเท็จจริง ได้สถานที่ดูแลที่เหมาะสม มิได้มีพันธนาการ ซ้อม ทรมานแต่อย่างใด คสช.ให้เกียรติทุกคน โดยให้เห็นถึงความจำเป็นว่าต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้
    "ได้ทยอยปล่อยกลับบ้านแล้วเป็นจำนวนมาก การควบคุมตามกฎหมายไม่เกิน 7 วัน บางคนได้ปล่อยไปในวันแรกๆ แล้ว จัดลำดับจำนวนวันในการควบคุมตัวตามความสำคัญของแต่ละบุคคล ซึ่งจะได้รายงานให้ทราบเป็นระยะ สำหรับผู้ที่ถูกควบคุมที่มีหมายจับหรือมีคดีติดตัวจะได้นำเข้ามอบตัว เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป" พ.อ.วินธัยกล่าว 

@ วอนปชช.เลี่ยงชุมนุมต้าน
      พ.อ.วินธัยกล่าวอีกว่า ที่จับกุมอาวุธสงครามได้จำนวนมาก ยังคงจะต้องดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย อยากขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนหลีกเลี่ยงการชุมนุมประท้วงต่อต้าน เพราะในขณะนี้ กระบวนการประชาธิปไตยทำไม่ได้เป็นปกติ 
      "คสช.มิได้มุ่งหวังทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด แต่เพื่อคืนความสุขให้คนไทยทุกคน และจะนำไปสู่การสร้างความมั่นใจ ในเสถียรภาพ จากต่างประเทศเพื่อเดินหน้าต่อไป ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่พลเรือนตำรวจทหารทุกคน ได้อดทนเสียสละและยอมรับในหลักการ การขจัดข้อขัดแย้งของประเทศ อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอยู่บ้าง ต้องร่วมมือช่วยกันต่อไป มิฉะนั้นจะกลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทุกคนไม่มีความสุข" พ.อ.วินธัยกล่าว 

@ เตือนสื่อระวังการวิจารณ์
    พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า คสช.ยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการอะไรที่มุ่งหวังประโยชนให้กับคนใดคนหนึ่งแต่ต้องการคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศรวมทั้งยืนยันจะสร้างความมั่นใจว่าจะสร้างเสถียรภาพทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ทุกคนอดทนเสียสละและยอมรับในหลักการเพื่อที่จะขจัดความขัดแย้งต่างๆ ของประเทศ 
    "ขอเตือนผู้ที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียที่ยุยงปลุกปั่นก็ขอให้หยุดการกระทำเพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรต่อประเทศชาติ ขอให้สื่อมวลชนระมัดระวังการพูดจาหรือวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ที่จะให้ร้ายกับทุกฝ่ายโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหาร" พ.อ.วินธัยกล่าว

@ ปัดคุมตัวโอ๊คแค่ส่งกลับกทม.
     พ.อ.วินธัยกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวตามสื่อโซเชียลมีเดียที่ว่านายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกควบคุมตัวอยู่ว่า ทาง คสช.ขอชี้แจงว่าเดิมนายพานทองแท้อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทหารแล้ว นายพานทองแท้ประสงค์จะกลับกรุงเทพฯ แต่ไม่มีลักษณะของการควบคุมตัวแต่อย่างใด 
     "ทาง คสช.จึงขอชี้แจงว่าไม่ได้กระทำไปเพราะความเกลียดชังหรือมาจากความเห็นส่วนตัว แต่เพราะความจำเป็นที่ต้องให้งานบริหารราชการแผ่นดินและการรักษาความสงบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้" พ.อ.วินธัยกล่าว 

@ เล็งคุยนอกรอบ'หญิงอ้อ'
     ผู้สื่อข่าวถามว่า จะประสานบุคคลในครอบครัวตระกูลชินวัตร โดยเฉพาะคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า อาจเป็นไปได้ที่จะมีการพูดคุยนอกรอบ แต่ไม่มีข้อมูลชัดเจนเพียงพอที่จะยืนยันได้ ทั้งนี้ คสช.มีหลักคิดคือการเชิญหลายฝ่ายมาทำความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อขอความร่วมมือเดินไปข้างหน้าให้บ้านเมืองสงบ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำความเข้าใจ ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นไปตามคำสั่งของ คสช.
      เมื่อถามว่า ได้คุยนอกรอบกับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ไม่มีข้อมูล เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกปล่อยตัวแล้วหรือยัง พ.อ.วินธัยกล่าวว่า จะเห็นได้ว่ามีหลายคนที่ไปรายงานตัวเฉยๆ และได้กลับบ้านเลยโดยขอความร่วมมือว่าจะเดินทางไปไหนขอให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ทหารก่อน ส่วนที่เห็นได้ชัดในขณะนี้คือนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึงนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ได้มารายงานตัว จะต้องดำเนินการตามกฎหมายที่ได้ประกาศไปแล้ว
     "ขณะนี้มีบุคคลที่ คสช.มีคำสั่งให้มารายงานตัวทั้งหมดมารายงานตัวแล้วประมาณ 90% แต่การรับรายงานตัวยังไม่ได้สิ้นกระบวนการทั้งหมดจึงยังไม่สามารถสรุปยอดได้"พ.อ.วินธัยกล่าว

@ แจงคุมสื่อเพื่อสื่อสารไม่สับสน
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการควบคุมการนำเสนอข่าวสารว่า ขอให้องค์กรสื่อทุกแขนงมีความสบายใจว่าทาง คสช.ให้ความสำคัญกับข้อมูลข่าวสารที่สื่อมวลชนได้ถ่ายทอดไปยังประชาชน ยอมรับว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาองค์กรสื่อมวลชนได้ทำหน้าที่ของตนเองตามจรรยาบรรณตามวิชาชีพ จากที่มีองค์กรได้เรียกร้องให้ คสช.ทบทวนคำสั่งหรือประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนในส่วนนี้ ทาง คสช.ขอชี้แจงทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนว่าการที่สั่งระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมและวิทยุชุมชนนั้นมีเหตุผล 2 ส่วนด้วยกันคือ 
      "1.เป็นการระงับการออกอากาศตามประกาศและคำสั่งจำนวน 14 สถานีที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารโน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน และ 2.การระงับการออกอากาศในภาพรวมทั้งหมดของฟรีทีวีดาวเทียม เคเบิล และวิทยุทั้งหมดหลังจากประกาศยึดอำนาจของ คสช. ขณะนี้ฟรีทีวีได้อนุญาตให้ออกอากาศได้ตามปกติทั้งหมดแล้วเพราะ คสช.เข้าใจดีว่าการระงับการออกอากาศในช่วงที่ยึดอำนาจ 25 ชั่วโมงแรกนั้น คสช.มีความประสงค์จะให้ข้อมูลข่าวสารที่นำเสนอไปสู่พี่น้องประชาชนในสถานการณ์ที่ไม่ปกติเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่มีสร้างความสับสนตื่นตระหนกกับประชาชน จึงจำเป็นที่จะต้องระงับการออกอากาศทั้งหมด" 
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว และว่า หลังจาก คสช.ได้เข้าดูแลจนมีความสงบเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถทำงานได้ตามปกติ จากนั้นได้เชิญผู้บริหารสื่อมวลชนได้มาร่วมหารือเพื่อกำหนดทิศทางการสื่อสารกับประชาชนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการขับเคลื่อนประเทศ

@ จี้บัวแก้วเอาผิด'อัมสเตอร์ดัม' 
      เวลา 14.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี พร้อมด้วย พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค และ พ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ ในฐานะรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตี ประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นในต่างประเทศว่า ทาง คสช.ยังคงเน้นวิธีการทางด้านกฎหมาย แต่เนื่องจากว่าเป็นการเคลื่อนไหวภายนอกประเทศ จึงต้องประสานงานกับทางกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเนื้อหามีผลกระทบต่อความไม่สงบภายในประเทศ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้ทำมานานแล้ว แต่ยังเข้าถึงตัวได้ยากอยู่ ดังนั้นจะต้องใช้ช่องทางในการสื่อสารดำเนินการ สิ่งที่ คสช.ดำเนินการอยู่ คือใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการกีดกันให้มากที่สุด

@ หมิ่นสถาบันขึ้นศาลทหาร
      เวลา 16.15 น. พ.อ.วินธัยอ่านประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 37/2557 ว่า เรื่องความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ตามที่ได้มีประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 33/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม ให้ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมายและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงประกาศให้บรรดาคดีความผิดตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักร และในระหว่างที่ประกาศนี้ใช้บังคับอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร 1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (1) ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา 107 - มาตรา 112 (2) ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา 113 - มาตรา 118 ยกเว้นความผิดซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 2.ความผิดตามประกาศ หรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 

@ คสช.แจงตัวแทนสื่อ 18 ฉบับ 
      เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ที่สโมสรทหารบก พล.ท.ภาณุวัชร นาควงษม์ ผู้ช่วย เสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก และ พล.ต.พลาวุฒิ กลับเจริญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้ชี้แจงในการพบปะกับตัวแทนกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ 18 ฉบับ ขอความร่วมมือให้สื่อปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 
      ฉบับที่ 18 / 2557 เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ โดยชี้แจงว่า การควบคุมอำนาจการปกครองที่เกิดขึ้น เป็นสถานการณ์ไม่ปกติ ขอให้สื่อเสนอข่าวสารเพื่อให้บ้านเมืองกลับคืนสู่สภาพปกติ อย่างไรก็ตาม ขอให้สบายใจว่า จะไม่มีการปิดสื่อ แต่จะใช้วิธีประสานงานและหารือกัน 
     พล.ท.ภาณุวัชร กล่าวว่า กรณีมีการแพร่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางแอพพ์ไลน์ถึงสถานะของคณะ คสช. ที่ไม่ได้เข้าเฝ้าฯ ขอชี้แจงว่า ผบ.ทบ.เป็นทหารรักษาพระองค์ เป็นทหารเสือราชองครักษ์พิเศษ ที่ถวายความอารักขา ถวายความปลอดภัย มีความสำนึกอยู่แล้ว ขั้นตอนการปฏิบัติได้ดำเนินการหมดแล้ว ทั้งการถวายรายงาน ซึ่งราชเลขาธิการได้ตอบกลับมาแล้ว 

@ โปรดเกล้าฯ'ประยุทธ์'เป็นหน.คสช.
      ผู้ช่วย เสธ.ฝ่ายกิจการพลเรือนยังเผยด้วยว่า ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และในวันที่ 26 พฤษภาคม เวลา 10.49 น. พล.อ.ประยุทธ์จะทำพิธีรับพระบรมราชโองการที่กองบัญชาการกองทัพบก พอสมบูรณ์ถูกต้องแล้ว จะดำเนินการตามโรดแมปต่างๆ 
      แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เร่งประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองประเทศ และตั้งสภานิติบัญญัติ สภาปฏิรูป รวมถึงจะตอบข้อซักถามและชี้แจงแนวทางต่างๆ ของ คสช.มากขึ้น

@ ผู้สื่อข่าวปิดปากรายงานตัว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศด้านหน้าหอประชุมกองทัพบก สโมสรทหารบก เทเวศร์ หลังมีประกาศจาก คสช. เมื่อช่วงดึกวันที่ 24 พฤษภาคม เรียกบุคคลรายงานตัวเพิ่มเติมอีก 8 คน ในวันที่ 25 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ เดอะเนชั่นได้มารายงานตัวตามที่มีชื่อในประกาศของ คสช. โดยนำเทปกาวสีดำปิดปากและใช้มือปิดหูปิดตา ก่อนแกะเทปกล่าวว่า "เขาจองจำผมได้ แต่เขาไม่อาจกักขังมโนธรรมของผมได้ และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นเผด็จการคนสุดท้ายของประเทศไทย" ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถูกเจ้าหน้าที่ทหารกันออกมาและควบคุมตัวนายประวิตรเข้าไปด้านในหอประชุมกองทัพบก พร้อมกับนายอานนท์ นำภา ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนที่เป็นผู้ติดตาม

@ ยูเอ็นส่งจนท.ดูรายงานตัว
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารปิดถนน 1 ช่องจราจร ด้านหน้าทางเข้าหอประชุมกองทัพบก ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) 3 คน เดินทางเข้าไปด้านในทางเข้าหอประชุมกองทัพบกเพื่อไปร่วมสังเกตการณ์ในการเรียกรายงานตัว ก่อนที่จะออกมาจากหอประชุมกองทัพบก
     ในเวลา 10.26 น.และบอกเพียงว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้ในตอนนี้ พร้อมกันนั้นมีนางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ตัวแทนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้มาติดต่อขอความชัดเจนกับทหารในเรื่องความชัดเจนของการควบคุมตัวและการเคลื่อนย้ายบุคคลที่ควบคุมตัวก่อนจะกลับไปเวลาไล่เลี่ยกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่

ไพวงษ์-พิชิต-จรรยารายงานตัว
     เวลา 10.40 น. นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ผู้บริหารโบนันซ่า เขาใหญ่ เข้ารายงานตัวตามที่ถูกเรียก เวลา 11.00 น. นายพิชิต ชื่นบาน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมารายงานตัวด้วยรถตู้สีดำยี่ห้อโฟล์กสวาเกน ตามมาด้วย นางจรรยา สว่างจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล รวมทั้ง น.ส.
      ณัชชานันท์ เครือชัย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเพื่อไทย โดยทางทหารได้ให้ผู้ติดตามผู้มารายงานตัวทุกคนลงจากรถยนต์ที่ด้านหน้าทางเข้าหอประชุมกองทัพบก ก่อนจะปล่อยให้คนขับรถขับไปส่งบุคคลตามรายชื่อด้านในหอประชุมกองทัพบก

@ ชเยนทร์มา-กาญจนาภาป่วย
     เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชเยนทร์ คำนวณ เจ้าของนิตยสารเปรียว เข้ารายงานตัว ขณะที่นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการของคุณหญิงพจมาน ส่งตัวแทนมาแจ้งทางเจ้าหน้าที่ว่าไม่สามารถเข้ามารายงานตัวได้เนื่องจากป่วยและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เวลา 12.50 น. นางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยาของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมารายงานตัวเป็นคนสุดท้าย

@ ธาริต รายงานตัว 26 พ.ค.
     นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวหลังมีคำสั่ง คสช.ให้ย้ายไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า คำสั่งดังกล่าวมีผลทันที และส่งมอบงานให้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เพื่อส่งมอบต่อให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งจะมาปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทน 
      "ผมจะเดินทางไปรายงานตัวกับนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 พฤษภาคม ที่กรมประชาสัมพันธ์ เวลา 10.30 น. สำหรับของใช้ส่วนตัว ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอาจจะเข้าเก็บของได้ในปลายสัปดาห์ เนื่องจากอาคารดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบระบบไฟฟ้า" นายธาริตกล่าว

@ แม้ววอนคืนความสุขคนไทย
     เวลา 16.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณทวิตเตอร์ผ่าน "Thaksin Shinawatra" รวม 8 ทวีตต่อเนื่อง ระบุว่า "ผมในฐานะที่เคยทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งย่อมเศร้าสลดกับเหตุการณ์ในประเทศไทยอันเกิดจากการปฏิวัติรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง ประเทศไทยมีความขัดแย้งมานานเหตุเกิดจากการแบ่งฝ่ายโดยไม่มีกติกาไม่มีความยุติธรรมและมีการใส่ร้ายป้ายสีและหลงเชื่อกันไป ทำให้คนไทยด้วยกันไม่มีความสุข ไม่ยิ้มให้กันเหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว 
      "ผมขอให้ คสช.คืนความสุขให้คนไทยได้หันหน้าเข้าหากัน ยิ้มให้กันได้เหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อให้คนไทยได้มีความหวังกับอนาคตของประเทศไทยด้วยการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย มองทุกฝ่ายไม่ว่าจะเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยว่าเป็นคนไทยเหมือนกันเกิดในแผ่นดินไทยด้วยกัน ขอให้ปฏิบัติต่อทุกฝ่าย โดยหลักสากลที่ยึดหลักนิติธรรม เคารพในสิทธิมนุษยชน ใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ไทยยังเป็นที่เคารพในสายตาอารยประเทศต่อครับ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!