- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 09 October 2014 11:24
- Hits: 3719
สละเก้าอี้อธิการมหิดล รัชตะออก แจงขอเลือกนั่งรมว.สธ. 40 สปช.เข้ารายงานตัว ดัน'บวรศักดิ์'ขึ้นรองปธ. ทำเนียบโวยสื่อนุ่งยีนส์ แจงห้าม'ปู'ร่วม'บั้งไฟ'
รายงานตัว - นายชัยอนันต์ สมุทวณิช สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เข้ารายงานตัวเป็น สปช. พร้อมกล่าวยังไม่มีการถูกทาบทามตัวให้เป็นแคนดิเดตประธาน สปช.แต่อย่างใด ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 
เตรียมการ - ทีมงานเลขาฯของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย วางแผนการจัดงานสวดพระอภิธรรม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อายุ 65 ปี อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และแกนนำกลุ่ม นปช. ที่เสียชีวิตด้วยภาวะโรคปอดติดเชื้อที่ประเทศฟิลิปปินส์ ที่ ศาลา 2 ต้นโพธิ์ วัดบางไผ่ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยศพจะถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ตุลาคม
'นพ.รัชตะ'ยอมลาออกจากอธิการฯมม.แล้ว'บิ๊กตู่'ให้ผู้สมัคร สปช.อกหักเป็นที่ปรึกษาปฏิรูป แจงต้องพูดมากให้สังคมเข้าใจ ยันนำศพ'อภิวันท์'กลับมาทำพิธีทางศาสนาได้ ด้านกลุ่ม 40 ส.ว.ดัน'บวรศักดิ์'นั่งรอง ปธ.สปช.
@ บิ๊กตู่ยันต้องมีกม.ชุมนุมสาธารณะ
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว กำลังถกแถลงกันว่าจะแก้ไขตรงไหน ทำได้หรือไม่ได้ สังคมก็ต้องเรียนรู้ และที่กฎหมายนี้ไม่สามารถออกมาได้ก่อนหน้านี้ เพราะเป็นเรื่องของการเมือง การเมืองต้องมีมวลชนสนับสนุนการเมือง ก็มีโอกาสมากจะมีมวลชนมาต่อสู้ให้พรรคการเมือง กฎหมายตัวนี้จึงออกมาไม่ได้ เพราะต้องไปจำกัดการชุมนุมของทุกฝ่าย อาจไปจำกัดกลุ่มของตนเอง วันนี้รัฐบาลไม่ต้องการให้มีกลุ่มของใครทั้งสิ้น
"ต้องมีกฎหมายนี้ออกมา เพราะรอบบ้านเขามีหมดแล้ว คนไทยต้องยอมรับกติกากันบ้าง ไม่เช่นนั้นประเทศชาติก็จะวุ่นวาย วันนี้การเมืองก็คือการเมือง ผมไม่ได้ขัดแย้งกับใคร ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบ เมื่อเรียบร้อยแล้วเสนอรัฐบาล แล้วจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. เมื่อผ่าน ครม.ก็เอาเข้าสู่ สนช. เพื่อพิจารณาวาระ 1, 2, 3 เป็นไปตามระบบ
มีโอกาสจะเสนอข้อโต้แย้งอะไรต่างๆ แต่ผมเห็นว่าควรจะมี จะได้ป้องกันเจ้าหน้าที่ได้ ไม่อย่างนั้นเจ้าหน้าที่จะมีปัญหาเมื่อได้รับคำสั่งให้ไประงับการชุมนุม จะมีปัญหากระทบกระทั่งกับประชาชน หากมีคนไม่ดีขึ้นมา คนสองคนใช้อาวุธขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็ตาย ประชาชนก็ได้รับบาดเจ็บ ท้ายสุดเจ้าหน้าที่ก็รับผิดชอบอีก"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ชี้ทุกรบ.ต้องฟังเสียงส่วนน้อย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากทุกรัฐบาลคิดได้แบบตน การเมืองก็ว่ากันไป แต่ต้องไม่ลืมเสียงส่วนน้อยด้วย ต้องดูแลทั้งเสียงส่วนน้อยเสียงส่วนใหญ่ สนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ เขาก็คือคนไทย ต้องดูแลคนไทย จำไว้ทุกรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงความเป็นห่วงหรือไม่ รัฐบาลเข้ามาพยายามสร้างกฎหมาย แต่เหมือนนักการเมืองจ้องจะแก้กฎหมาย ว่าต้องสร้างความเข้าใจว่า หากอยากให้ประเทศไทยไปข้างหน้า ไม่ใช่การเมืองท่านดีแล้วประเทศถอยหลัง ถ้าให้พรรคท่านดีหรือรัฐบาลท่านดี แต่ประเทศชาติไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมภายนอก แล้วเราจะทำอะไรได้ต่อไป รายได้เราจะมาจากไหน วันนี้เราได้มาจากการส่งออกเป็นหลัก เมื่อทั่วโลกตกเราก็ตกตามเขา ให้เวลาผมมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้สู้เขาได้จะดีกว่า วันนี้เราสร้างความเข้มเข็งในการลงทุน เพิ่มเทคโนโลยี เพิ่มเครื่องจักร เราคิดใหม่ทั้งหมด แต่ต้องใช้เวลา"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนต่างจังหวัดว่า ไปอย่างแน่นอนฝ่ายความมั่นคงกำลังประเมินสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่อยู่ส่วนจะเป็นที่ไหนก่อนก็ต้องเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง แต่ไปแน่เร็วๆ นี้ เพราะเวลารัฐบาลมีแค่นี้
@ พอใจผลการทำงานคสช.-ครม.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จากการประชุมร่วมระหว่าง คสช.และ ครม.เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา มีผลงานพอใจคือ 1.เรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 2.การบริหารราชการแผ่นดินที่เป็นไปอย่างเรียบร้อยทำได้เป็นปกติ ไม่มีปัญหา แต่ทั้งหมดต้องปรับแก้ให้เป็นเชิงรุก ไม่ใช่เชิงแก้ปัญหาปลายเหตุมาโดยตลอด หรือต้องใช้เงินทองมากเกินเหตุมาตลอดนั้นไม่ได้ ต้องทำทั้งสองอย่างคู่กัน คือการลดความเดือดร้อนโดยทันที เช่น ดูแลผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้ก็ได้ดูแลชาวนา แต่ขณะเดียวกันการสร้างความเข้มแข็งในเรื่องของกระบวนการผลิต การลดต้นทุนการผลิต การจัดโซนนิ่งพื้นที่ ก็ทำคู่ขนานไปด้วย ตอนนี้คณะทำงานได้ทำมาตลอดใน 3-4 เดือนที่ผ่านมาทุกเรื่อง ทั้งสาธารณูปโภคพื้นฐาน รถไฟ รถไฟฟ้า ทำมาทั้งหมด เพียงแต่ว่าเมื่อจะตัดสินใจอีกครั้งจะประกาศให้ทราบตอนนั้น แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการกำลังทำกันอยู่ ได้มอบนโยบายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาว่าปัญหาของประเทศมีอะไรบ้าง 1.การเปลี่ยนประเทศรายได้น้อยไปสู่รายได้ปานกลาง ไทยช้ากว่าทุกประเทศในโลกเยอะ ประเทศรอบบ้านเขาไปได้เร็วขึ้นในไม่กี่ปีนี้เอง เพราะมัวแต่ทะเลาะกันอยู่ตั้งนาน ต่อไปให้เขาตั้งหลายปี เพิ่งเริ่มต้นจะหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้น้อย ไปสู่ประเทศปานกลาง เขาเรียกว่ากับดัก
@ ขอให้เลิกพูดคำว่าประชานิยม
นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทายของรัฐบาลเช่นกันว่า จะทำอย่างไร จะแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ประชาชนมีรายได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีการทุจริตผิดกฎหมายหรือทุจริตคอร์รัปชั่น การลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเท่ากันหมด นั่นไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ถ้าทุกคนมีรายได้อะไรเท่ากัน ทุกอย่างก็ต้องเป็นของรัฐทั้งหมด
ถ้าอย่างนั้นรัฐก็ต้องแบ่งปัน วันนี้เป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีทุนมากทำมาก ทุนน้อยทำน้อย ใครไม่มีทุนก็ไปหาเข้าถึงแหล่งเงินทุน ก็ไปดูเขาตรงนั้น ถึงจะเรียกว่าลดความเหลื่อมล้ำ เป็นวิธีการปฏิบัติไม่ใช่เอาเงินมาแจกเท่ากันทั้งหมด เป็นไปไม่ได้ ใครเดือดร้อนก็ต้องดูแล แต่ก็เป็นระยะสั้นแค่ปีเดียว ยกตัวอย่างการช่วยเหลือชาวนาในช่วงนาปี ต่อไปนี้เลิกพูดดีกว่าคำว่าประชานิยม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีก่อนหน้านี้มีคำว่าประชานิยมแล้วมาถึงวันนี้รู้สึกอย่างไรที่มีคนพูดถึงคำว่าประยุทธ์นิยมว่า'ไม่ใช่มั้ง อย่าไปเรียกอย่างนั้นเลย และผมก็ไม่ดีใจจะมีคนเรียกอย่างนี้ หรือแม้แต่จะเรียกว่าประยุทธ์ฟีเว่อร์ ก็ไม่ดีใจ เพราะไข้แบบนี้เดี๋ยวมันก็หาย แค่ฟีเว่อร์เดี๋ยวก็หายไป อยากให้เป็นประเทศไทยนิยม หรือนิยมประเทศไทย'
@ ออกตัวไม่นั่งนายกฯครบ 4 ปี
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่ว่าจะลำบากใจหรือไม่ ถ้าประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรียาวครบ 4 ปีว่า แค่นี้ก็แย่พอแล้ว ส่วนเป็นการแสดงว่าจะเป็นนายกฯ แค่ 1 ปีหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ
ส่วนถ้าการปฏิรูปทำสำเร็จจะกลายเป็น ประยุทธ์โมเดลหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่ใช่ผม ไม่ใช่ประยุทธ์โมเดล แต่เป็นของคนไทยทุกคน เรียกว่านี่คือไทยโมเดล ประเทศไทยต้องเป็นอย่างนี้ ต้องมีอนาคตต้องมีวิสัยทัศน์ มีแผนงานมียุทธศาสตร์ว่าจะไปพูดหรือเจรจากับเขาอย่างไร ไม่ใช่ไปแค่จับไม้จับมือ ทักทายสวัสดีแล้วเดินทางกลับ โดยไม่ไปพูดว่าเรามีอะไรเสนอหรือเปิดช่องทางให้ต่างชาติเข้ามาค้าขายกับเราได้บ้าง"
ผู้สื่อข่าวถามหากวันนี้อยากตะโกนดังๆ ให้คนได้ยินทั้งประเทศ จะตะโกนคำว่าอะไร พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า รักประเทศไทย รักคนไทยทุกคน อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของตนวันนี้ คือ 1.พูดด้วย คิดด้วย ประสานงานอย่างบูรณาการ ขับเคลื่อนงาน 3-4 แห่ง บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส 2.ปฏิรูปประเทศให้ได้ 3. สร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินให้ได้ 4.วางยุทธศาสตร์ประเทศระยะยาว
@ รับยังมีอารมณ์โกรธ-ต้องพูดมาก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงการอยู่ในตำแหน่งว่า บางคนก็บอกว่าให้อยู่ปีเดียว บางคนก็ถามว่าอยู่ปีเดียวแล้วจะทำงานทันหรือ ก็ไม่รู้จะตอบตรงไหนดี เอาเป็นว่าตอนนี้ให้ทุกคนรู้ว่าประเทศมีปัญหาอะไรบ้าง ทุกคนต้องช่วยและเป็นกำลังใจให้รัฐบาลในการทำงาน เดี๋ยวก็แก้ไขได้ ส่วนจะแก้ปัญหาได้จบหรือไม่ก็ต้องไปว่ากัน
"ที่ผมต้องพูดมากทุกวัน ก็เพราะต้องการอธิบายให้สังคมเข้าใจ ถ้าพูดน้อยแล้วจะรู้เรื่องกันไหม ไม่เช่นนั้นก็จะไปมโนกันอยู่เรื่อย ขนาดผมพูดขนาดนี้ก็ยังเข้าใจไม่ตรงกันเลย ผมเป็นคนชอบอธิบายให้คนทั้งประเทศเข้าใจในเจตนาของผมและรัฐบาล และลดความขัดแย้ง ไม่มีใครอยากจะแบกภาระอันนี้ ผมถามว่าใครอยากจะมาเป็น ใครอยากจะมาทำก็มาสิ ไม่เห็นมีใครสมัครเลยในตอนนั้น ผมถึงต้องเข้ามาทำนี่ไงและแก้ปัญหามาโดยตลอด และยืนยันว่าผมเป็นกลางแต่วิธีการและขั้นตอนก็ต้องไปว่ากันอีกที ว่าทำอย่างไร และที่บางครั้งมีอารมณ์โกรธบ้าง ก็ต้องยอมรับว่าผมเป็นมนุษย์เป็นปุถุชนและยังวัยรุ่นอยู่" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ให้สปช.สอบตกเป็นที่ปรึกษา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการทำหน้าที่ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า ไม่ต้องกลัว สปช.มีสมัครเข้ามา 7 พันกว่าคน มีเวลาคัดเลือกน้อย ต้องรีบทำให้เร็ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว เข้ามาก็แยกเป็นกลุ่ม เดี๋ยวทางสมาชิกจะไปจัดกลุ่มกันเองใหม่ 11 ด้าน
ส่วนมีกระแสวิจารณ์ว่า สปช.คือ คสช.แปลงร่างมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ขอถามอย่างนี้นะพวกพรรคการเมืองที่ตำหนิเราเนี่ย เขาสมัครมาหรือไม่ ถ้าไม่สมัครเข้ามา จะไปเลือกเข้ามาได้อย่างไร เขาสมัครมาแค่ไหน ก็เลือกได้แค่นั้น จะให้ไปเชิญมาก็ไม่ใช่หน้าที่ของผม เลือกตามที่สมัครมา 7,000 กว่าคน เขาคัดเหลือ 550 คน ก็มาคัดเป็น 173 คน เลือกได้แค่คนใน 550 คน คนที่หลุดไป ไปเลือกมาไม่ได้ กติกาเป็นอย่างนี้ ส่วนของจังหวัดเช่นเดียวกัน ทางกรรมการส่งมาจังหวัดละ 5 คน ตนเลือกได้แค่ 1 ใน 5 คนนั้นเท่านั้น ไม่ใช่ตกรอบแรกไปแล้วตนไปเลือกมา ทำไม่ได้
เดิมที สปช.ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขมากมายเพื่อให้ทุกฝ่ายเข้ามา พอพวกหนึ่งไม่เข้ามา อีกพวกหนึ่งเข้ามา ก็เกิดเป็นประเด็น ฉะนั้นต้องไปบอกพวกเขาว่า ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ได้สมัครเข้ามาก็ไปหาหนทางเข้ามา ตามช่องทางที่เปิดไว้ให้ ส่วนสมาชิกที่ตกรอบแรกไป 7 พันกว่าคนนั้น ผมสั่งการไปแล้วว่าให้ตั้งเป็น 2 คณะได้ไหม คณะแรกคือ 250 คน คณะที่ 2 เป็นที่ปรึกษา แล้วให้ส่งเรื่องเข้ามา ใครอยากพูดอะไรให้ส่งมาตามช่องทางนั้น ฉะนั้นทั้ง 7 พันกว่าคนนั้นมีงานทำหมด แต่จะนำ 7 พันกว่าคนเข้าสภา ทำไม่ได้
@ เผยสเปกปธ.ร่างรัฐธรรมนูญ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญว่าในส่วนของรัฐบาลนั้นมีโควต้าในใจหรือยังว่า มีกำหนดไว้แล้วในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ว่าแต่ละหน่วยงานมีโควต้าได้กี่คน ในส่วนของประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ยังไม่รู้เลยว่ามีใครบ้าง ต้องดูก่อนว่ามีใครบ้าง ต้องนำชื่อทั้งหมดมาดูและทำการหารือร่วมกัน คนที่ทำตรงนี้ก็ต้องทำให้เกิดความยั่งยืน ไม่ได้สร้างปัญหา แต่ประเด็นอยู่ที่ทำให้ประชาชนยอมรับนั้นทำอย่างไร ต้องสร้างการยอมรับว่า ต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างไร แบบเดิมหรือแบบใหม่ ถ้าอยากได้แบบใหม่ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการเป็นแบบใหม่ อาจจะไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วจะรับได้ไหม หากไม่ได้จะทำแบบไหน เพราะฉะนั้นการปฏิรูปนี่ไม่ใช่สภายกมือแล้วเสร็จเรียบร้อย จะต้องออกเป็นกฎหมาย อย่างจะทำเรื่องเลือกตั้งอย่างไร สนช.ก็ไปใส่ในกฎหมาย บางอย่างก็จำเป็นต้องใส่ในรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
นายกฯกล่าวถึงความสำคัญของคณะกรรมาธิการยกร่างฯนั้นสำคัญที่สุดหรือไม่ว่า สำคัญเหมือนกันหมด แต่ทั้งหมดต้องฟังเสียงภายนอกก่อน การทำประชามติเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ว่าจะทำได้อย่างไร เหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ อย่าเพิ่งถามดัก เอาเรื่องที่ยังไม่เกิดมาถามวันนี้ไม่ได้ ค่อยๆ ทำไป วันนี้ยังไม่ได้เริ่มก็จะตีกันแล้ว ถ้าตอนนั้นสถานการณ์ปกติดี ทำประชามติได้ก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ได้ ต้องถามว่าเราต้องการเปลี่ยนประเทศไหม ต้องการปรับปรุงประเทศไปสู่อนาคตไหม
เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่าท่านนายกฯเหนื่อยแล้ว ใจเย็น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า 'อย่างงี้โอเค ไม่ทะเลาะกัน'
@ ชี้"อภิวันท์"ต้องทำตามขั้นตอน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ประเทศฟิลิปปินส์ว่า เมื่อเป็นคนไทยก็สามารถกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาได้ตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาข้อขัดข้องอะไร แต่เรื่องความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้ หากผิดก็คือผิด และขณะนี้ พ.อ.อภิวันท์ยังเป็นทหารอยู่ เป็นเรื่องของราชการต้องดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่อาจจะมีคนที่ต้องเสียชีวิตในต่างประเทศในลักษณะนี้อีก พล.อ.ประยุทธ์ถามกลับว่า แล้วเขาไปต่างประเทศทำไม ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่าเขาหนีเพราะไม่มั่นใจว่า คสช.จะเอาอย่างไรกับเขา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ได้จะเอาอะไรกับเขา เขาผิดกฎหมายมาตราอะไร หากต่อสู้ในชั้นศาลก็จบแล้ว บางคดีศาลยังไม่ตัดสินก็เสียชีวิตก่อน แต่นี่หนีไปก่อน หนีไปทำไม แต่เมื่อเสียชีวิตไปแล้วคดีก็จบ อย่างไรก็ตามคงไม่ได้เดินทางไปร่วมงานศพแต่อย่างใด
@'บิ๊กป้อม'ฮึ่มกลุ่มใต้ดินหยุดป่วน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลความมั่นคงภายในประเทศว่า ทำทุกมิติอยู่แล้ว อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหวที่ทำให้ไม่เกิดสันติสุข อย่าเพิ่งออกมาเคลื่อนไหวเลย เพราะก็ทราบกันดีว่ารัฐบาลกำลังทำงานในหลายๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจสังคมรวมถึงแก้ไขปัญหาเรื่องความต้องการของประชาชน จึงขอว่าอย่าเพิ่งออกมาเคลื่อนไหวจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ส่วนความเป็นไปได้จะผ่อนคลายกฎอัยการศึกในจังหวัดท่องเที่ยวนั้น กฎหมายดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนทั่วไปเลย ยกเว้นมีไว้ป้องกันกลุ่มคนกระทำผิดกฎหมายเท่านั้น
"กลุ่มคนที่ยังเคลื่อนไหวในลักษณะใต้ดิน ผมขอร้องให้ควรยุติดำเนินการ เพื่อจะได้ไม่วุ่นวาย พล.อ.ประยุทธ์พูดชัดเจนแล้วว่าจะมีการผ่อนคลายกฎอัยการศึกภายหลังการปฏิรูปประเทศ และหากสถานการณ์สงบ ไม่มีคลื่นใต้น้ำ ก็ต้องผ่อนคลาย ไม่มีใครอยากเอาไว้" พล.อ.ประวิตรกล่าว และว่า ส่วนการจัดเสวนาของกลุ่มนักศึกษาหรือนักวิชาการ คิดว่าหากเป็นไปตามหลักทางวิชาการ สามารถทำได้ แต่ขออย่ามีประเด็นทางการเมืองหรือสร้างความแตกแยก
ส่วนกรณีนายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความปลุกระดมให้คนออกมาร่วมพิธีศพ พ.อ.อภิวันท์ ที่จะเคลื่อนศพมาถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า หากเป็นการร่วมพิธีศพทางศาสนา เป็นญาติ เพื่อน หรือบุคคลที่เคารพนับถือ ก็สามารถดำเนินการได้ รัฐบาลไม่เคยปิดกั้น แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากมีเรื่องที่เกี่ยวข้องทางการเมืองเมื่อใด จนทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือไม่ปรองดอง จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ยังพร้อมจะเปิดโอกาสให้นายสุนัยเข้ามาพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจ
@ ศพ'อภิวันท์'ถึงไทย 10 ต.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการเสียชีวิตของ พ.อ.อภิวันท์ด้วยอาการปอดติดเชื้อ เมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า ญาติจะดำเนินการนำร่างของ พ.อ.อภิวันท์ เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในวันที่ 10 ตุลาคม ด้วยเครื่องบินสายการบินไทย TG 621 โดยออกจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เวลา 13.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น และถึงสนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 15.20 น. ตามเวลาประเทศไทย จากนั้นญาติจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดบางไผ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในเวลา 18.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกพรรค พท.ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ พ.อ.อภิวันท์อย่างต่อเนื่อง อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยกย่องให้ พ.อ.อภิวันท์เป็นนายทหารที่มีความรู้ความสามารถสูง เป็นทหารประชาธิปไตยที่มุ่งมั่นมาเป็นนักการเมืองและประสบความสำเร็จทางการเมือง และมีส่วนร่วมสำคัญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย 2 ช่วงคือ ช่วงพฤษภาคม 2535 และช่วงหลังกันยายน 2549 จนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิตให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ขณะที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์กรเสรีไทย ระบุว่าได้ติดต่อกับ พ.อ.อภิวันท์ตลอดเวลานับตั้งแต่มีการประกาศกฎอัยการศึก และติดตามอย่างใกล้ชิดจนถึงขณะป่วยเข้าห้องไอซียู พ.อ.อภิวันท์เป็นนักการทหาร นักประชาธิปไตยที่เป็นเพชรน้ำเอกของประเทศไทย และเป็นกำลังสำคัญของฝ่ายประชาธิปไตย ในขณะที่ พ.อ.อภิวันท์ป่วย รู้สึกเจ็บปวดและชิงชังต่อระบอบอยุติธรรมของไทยที่กระทำกับประชาชนและทางเดียวที่จะทำให้อุดมคติของ พ.อ.อภิวันท์ยังคงอยู่คือประชาชนได้ร่วมใจกันต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว นำไทยไปสู่ประชาธิปไตยของประชาชนได้อย่างแท้จริง
@ เข้มสื่อทำเนียบแต่งตัวเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ระหว่างที่นักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ คณะผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี เพื่อรับโอวาทก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 18-24 ตุลาคมนั้น เจ้าหน้าที่จากสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาแจ้งกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า จากนี้ไปขอความร่วมมือให้แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างคำสั่งของ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยผู้สื่อข่าว ช่างภาพและผู้ช่วยช่างภาพจะต้องไม่สวมกางเกงยีนส์สีอ่อนหรือขาด หรือเสื้อยืดคอกลม และจะต้องไม่ปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงหรือกระโปรง หากไม่ปฏิบัติตามจะจดชื่อไปเพื่อพิจารณาไม่อนุญาตออกบัตรประจำตัวสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อใช้ในการผ่านเข้า-ออกในการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขอความร่วมมือแต่งกายสุภาพเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในวันที่มีการประชุม ครม. หรือมีแขกต่างประเทศมาเยือน หรือมีวาระสำคัญในโอกาสต่างๆ ผู้สื่อข่าวชายจะสวมกางเกงสแล็ค เสื้อเชิ้ต หรือสูทผูกเนคไทแล้วแต่โอกาส ส่วนผู้สื่อข่าวหญิงจะสวมกระโปรงหรือกางเกงผ้าสีสุภาพ แต่การออกกฎเหล็กโดยระบุว่าจะไม่อนุญาตต่อบัตรประจำตัวสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่เข้มงวด
@ รอยเตอร์ชี้'บิ๊กตู่'เหมือน'เต็งเส่ง'
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวเรื่องการเยือนพม่าอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย รายงานระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์จะพบกับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีพม่า ที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของพม่า วันที่ 9 ตุลาคม ก่อนจะไปพบกับนักลงทุนไทยที่นครย่างกุ้งในวันถัดไป
รอยเตอร์รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.เต็ง เส่ง มีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ทั้งเรื่องของการเป็นนายทหารวัยเกษียณ และมีรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นโดยมีทหารอยู่เป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังเป็นนักปฏิรูปในแบบของตัวเอง มีการพูดถึงเรื่องของโรดแมปในการปฏิรูปประเทศ เพื่อนำพาประชาชนไปสู่ความสุขและความรุ่งเรือง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยือนพม่าของ พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นโอกาสในการยกระดับความร่วมมือระหว่างสองประเทศและหารือกันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของภูมิภาค แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ คงทำให้เป้าหมายทางเศรษฐกิจ 2-3 อย่างเท่านั้นที่คืบหน้าไป แต่คงไม่ได้รับอะไรมากเกินไปกว่าการยอมรับสถานะการเป็นผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการอย่างมากเท่านั้น
@ ชี้การเมืองไทยติดหล่มนับสิบปี
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ฌอน เทอร์เนลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจพม่า จากมหาวิทยาลัยแมคควอรี ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า หลังจากการเมืองไทยต้องติดหล่มมานานเกือบสิบปี เศรษฐกิจของประเทศไทยกับเพื่อนบ้านเองก็ลดน้อยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พอความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับพม่าคลายความตึงเครียดลง ประเทศอื่นก็เข้ามาแซงหน้า และตั้งข้อสังเกตว่ามีธนาคารกรุงเทพเพียงธนาคารเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเปิดในพม่าได้ จากธนาคารต่างชาติทั้งหมด 9 ธนาคาร
เจ้าหน้าที่จากทำเนียบประธานาธิบดีพม่าผู้หนึ่ง เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง จะหยิบยกเรื่องแรงงานพม่า 2 คน ที่ถูกจับข้อหาฆ่าสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าขึ้นมาพูดคุยกับผู้นำของไทยด้วย หลังจากโลกสังคมออนไลน์มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการจับกุมตัวแรงงานพม่าทั้งสองคนว่าเป็นการจับแพะหรือไม่
@ สปช.รายงานตัววันแรกคึกคัก
ที่อาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดให้สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เข้ารายงานตัวเป็นวันแรก ภายหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สปช.จำนวน 250 คน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. เปิดรับรายงานตัววันที่ 8-15 ตุลาคม ปรากฏว่า พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่น และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้ารายงานตัวเป็นคนแรก ส่วนสมาชิก สปช.อื่นๆ ที่ทยอยเข้ารายงานตัว อาทิ นายอมร วาณิชวัฒน์ นายดุสิต เครืองาม นายนิรันดร์ พันทรกิจ พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ เป็นต้น มี สปช.เข้ารายงานตัวแล้ว 41 คน ยังเหลือไม่ได้เข้ารายงานตัวอีก 209 คน ทั้งนี้ นายสุนัย เศรษฐ์บุญสร้าง น้องชายของนายสุทัศน์ เศรษฐ์บุญสร้าง สมาชิก สปช.ได้เข้าขอผ่อนผันการรายงายตัวแทนพี่ชาย เนื่องจากติดภารกิจในต่างประเทศ โดยจะเข้ารายงานตัวในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ต่อไป
พ.ต.อาณันย์ กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัวว่า อยากเข้ามาทำงานในเรื่องการปฏิรูปด้านท้องถิ่น เพราะจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองในการปกครองตัวเองเกี่ยวข้องกับการเมืองในระดับชาติทำให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบ ส่วนแนวทางทำงานมองว่าอะไรดีก็พร้อมผลักดัน แต่อะไรไม่ดีควรจะต้องพูดคุยกัน การจะปฏิรูปให้สำเร็จได้ต้องอยู่ที่ความตั้งใจและความร่วมมือของทุกฝ่าย ส่วนที่มองว่าตนมาจากพรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา เพราะเข้ามาทำงานตรงนี้มาทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชน ไม่ใช่เข้ามาทำงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว สำหรับบุคคลจะมาเป็นประธาน สปช.นอกจากเรื่องความรู้ ความสามารถแล้ว ต้องเป็นกลาง ไม่เอนเอียง
@ "ดุสิต"ดันปฏิรูปพลังงานทางเลือก
นายดุสิต เครืองาม สปช.ด้านพลังงาน กล่าวว่ามีแนวคิดปฏิรูปด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังลม เพื่อทดแทนพลังงานปิโตรเลียมใกล้หมด การส่งเสริมพลังงานทางเลือก มีแนวคิดจะผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน ปัจจุบันยังมีปัญหาติดขัดด้านการส่งเสริมการผลิตพลังงานทางเลือก รวมทั้งการใช้พลังงานทางเลือกในครัวเรือน เนื่องจากการไฟฟ้าไม่ส่งเสริมพลังงานทางเลือก การออกกฎหมายดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนพลังงาน แต่จะเน้นลดการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้อง หากติดตามข่าวด้านพลังงานพบว่าการประมูล สัมปทาน หรือรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หนีไม่พ้นการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
"ยืนยันว่าการได้เป็น สปช. ไม่ได้เป็นเพราะพี่ให้หรือเส้นสายความสัมพันธ์ส่วนตัวในฐานะน้องชายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการสมัครเพราะการคัดเลือกและลงมติของสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย มีผมเป็นนายกสมาคม ก่อนหน้านี้ไม่อยากสมัคร แต่เมื่อมีการลงมติจึงต้องเข้ามาทำหน้าที่ตัวแทน และตนก็มีความรู้ความสามารถ คุณสมบัติเหมาะสม มีผลงานวิจัยได้รับรางวัลการันตี"นายดุสิตกล่าว
@ 'สังศิต'ลั่นไม่ทำงานแค่ห้องประชุม
นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สปช.ด้านสังคม กล่าวว่า สนใจงานเรื่องการป้องกันคอร์รัปชั่น การกระจายรายได้ให้เป็นธรรมและการแก้ปัญหายาเสพติด สงสัยว่าเหตุใดผู้หญิงถึงติดคุกในคดียาเสพติดเป็นจำนวนมากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้การทุจริตส่วนใหญ่เริ่มมาจากการเลือกตั้ง จึงต้องดู พ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2540 ว่าจะทำอย่างไรจะควบคุมคนทุจริตไม่ให้มาเป็นนักการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ควรจะกั้นคนที่ต้องโทษคดีทุจริตไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และไม่ให้ข้องเกี่ยวกับการเมืองตลอดชีวิต รวมถึงพรรคการเมืองที่อยู่ภายใต้ทุนจะต้องถือว่ามีความผิดด้วย
นายสังศิต กล่าวว่า การทำงานของ สปช.นั้นจะต้องไม่ทำงานอยู่แต่ในห้องประชุม แต่จะต้องลงพื้นที่ไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนทั้งประเทศ ทำงานร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ยากไร้ เพราะการทำงานของ สปช.เพียง 250 คน ไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่จะต้องใช้ประชาชนทั้งประเทศร่วมมือกัน และรัฐธรรมนูญจะออกมาต้องเปิดเผย โปร่งใส ควรจะนำจุดเด่นของรัฐธรรมนูญปี 40 เรื่องการตรวจสอบเข้ามาเป็นตัวอย่าง ขณะที่คุณสมบัติประธาน สปช.นั้นควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์การปฏิรูปมาก่อน
@ 'ชัยอนันต์'ยันไม่มีทาบนั่งปธ.
นายชัยอนันต์ สมุทวณิช สมาชิก สปช.ด้านการเมือง กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธาน สปช.ว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่มีใครทาบทาม คิดว่ามีคนอื่นเหมาะสมกว่า แต่คงต้องรอดูการพิจารณาของที่ประชุมต่อไป คุณสมบัติของคนจะมาเป็นประธาน ต้องเป็นคนที่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงความเห็น สามารถเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ ที่สนใจมาร่วมกระบวนการปฏิรูปได้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปที่ผ่านมาก็เริ่มไปบ้างแล้ว ทั้งของ นพ.ประเวศ วะสี หรือนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ สปช.ชุดนี้ไม่ได้เริ่มงานแบบนับจากศูนย์ แต่จะเอาความเห็นก่อนหน้านี้ร่วมพิจารณาด้วย งานปฏิรูปต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แต่ที่ผ่านมายังขาดความต่อเนื่อง ส่วนตัวสนใจเรื่องการกระจายอำนาจสู่ประชาชนมากขึ้น การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ด้วยการจัดระบบงบประมาณรายจ่าย
@ 'เสรี'หนุนรธน.ล็อกห้ามยุบสภา
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และอดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ 50 กล่าวว่า รูปแบบของกฎหมายรัฐธรรมนูญจะเป็นการปฏิรูปรอบด้าน มุ่งแก้ไขปัญหาทางการเมืองและปัญหาของบ้านเมืองที่เคยมี หน้าตาของรัฐธรรมนูญใหม่เป็นไปได้หมดทุกรูปแบบ ส่วนตัวมีแนวคิดให้ฝ่ายบริหารทำหน้าที่โดยไม่อยู่ภายใต้ภาวะปัญหาความขัดแย้งกับฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น นายกรัฐมนตรีอาจไม่มีอำนาจยุบสภา สภาผู้แทนราษฎรมีอำนาจลงมติไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีได้ แต่หากนายกรัฐมนตรีทำผิดให้ใช้รูปแบบการถอดถอน ถ้าใครทำความผิดให้มีความผิดแต่ละบุคคล แต่ความคิดดังกล่าวยังไม่ตกผลึก ต้องยอมรับว่าการที่ขั้วขัดแย้งไม่ได้มีส่วนร่วมใน สปช.อย่างเท่าเทียมกันอาจทำให้รัฐธรรมนูญไม่ได้รับการยอมรับจากอีกฝ่ายหนึ่ง สปช.คงต้องทำให้ดีที่สุดโดยเปิดเผย และรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่าย ให้ทุกฝ่ายยอมรับแม้จะไม่มีส่วนร่วมก็ตาม
@ 'จ้อน'เสนอพิมพ์เขียวปชป.แจม
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิก สปช.ด้านพลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้ไปจะเริ่มเดินหน้าทำงานตามกรอบของ สปช.จะผลักดันการปฏิรูปด้านพลังงาน และจะพยายามดึงทุกพรรคการเมืองให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูป อยากให้ทุกพรรคและทุกกลุ่มที่ขัดแย้งก้าวข้ามปัญหาการเมือง เพราะปัญหาหลักของประเทศไม่ได้มีปัญหาการเมืองอย่างเดียว แต่มีทั้งปัญหาโครงสร้างทั้งเศรษฐกิจ การศึกษา ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทำพิมพ์เขียวไว้แล้ว ก็จะนำมาเสนอให้กับ สปช.โดยยึดเรื่อง 10 ฐานรากปฏิรูปประเทศ ทั้งรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปประเทศจะต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ส่วนบุคคลที่จะเป็นประธาน สปช. ในใจตนมีชื่ออยู่แล้ว จะต้องเป็นกลางทางการเมือง มีจิตใจกว้างขวาง มีภาวะการเป็นผู้นำ มีความรู้ความสามารถ
@ 'ไพบูลย์'ดัน'บวรศักดิ์'นั่งรองปธ.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต ส.ว.กลุ่ม 40 ส.ว. และสมาชิก สปช. กล่าวว่า สปช.ควรออกไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำไปสู่การปฏิรูป การปฏิรูปควรดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่จะร่างขึ้น พร้อมทั้งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ สำหรับการปฏิรูปในทุกด้าน เพื่อให้มีผลผูกพันในการบังคับใช้ต่อไป ส่วนตำแหน่งประธาน สปช. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า มีความเหมาะสม แต่นายบวรศักดิ์เห็นว่ามีสมาชิก สปช.บางรายมีอาวุโสและเหมาะสมกว่า คาดว่าจะเสนอชื่อนายบวรศักดิ์ชิงตำแหน่งรองประธาน สปช.คนที่ 1 แทน อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ แต่ก็จะเสนอตัวเข้าไปทำหน้าที่ในคณะกร
