- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 20 May 2014 16:21
- Hits: 4087
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8574 ข่าวสดรายวัน
กปปส.โต้ไม่เคยเห็น ผังปฏิรูป 250 สส.จากแต่งตั้ง นายกไม่ต้องเลือกตั้ง อ้างถ่ายจากที่ประชุม นิวัฒน์ฯย้ำไม่ลาออก สว.ลุยตั้งรัฐบาลฉก. ยันสรุปได้สัปดาห์นี้
ว่อนทั่ว'ผังปฏิรูป'แต่งตั้งส.ส. ครึ่งสภา นายกฯคนนอก 'สมบัติ-สาทิตย์-วิทยา'ปฏิเสธไม่เคยเห็น นิวัฒน์ธำรงแจงส.ว. คำวินิจฉัยศาลรธน.ระบุให้รักษาการ ลาออกขัดรธน. ลั่นพร้อมหนุนทุกอย่างที่กม.รองรับ ด้านส.ว.แถลงมีแผนสอง ตั้งรัฐบาลใหม่ตาม กรอบรธน. จะเร่งสรุปในสัปดาห์นี้ มาร์คโวยสุรชัยต้องกล้ากว่านี้ จารุพงศ์ชี้ม็อบมีอำนาจเก่าหนุน พท.แถลงจี้หยุดบิดเบือนกม. สิงห์ทองยื่นยุบปชป.ปมหนุนกบฏ
นิวัฒน์ธำรงถกกลุ่มสว.
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนัดหารือระหว่างนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ว่าที่ประธานวุฒิฯ กับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้หารือกันในเวลา 10.30 น. ที่ห้องรับรอง กองบินตำรวจ ท่าแร้ง โดยนายสุรชัยแจ้งว่าป่วยไม่สามารถเดินทางมาหารือร่วมได้ จึงมอบหมายให้นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว.อุตรดิตถ์ ว่าที่รองประธานวุฒิฯ และนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ ส.ว.สรรหา เป็นตัวแทนมาพูดคุยกับนาย นิวัฒน์ธำรง และนายชัยเกษม นิติสิริ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการหารือทั้งกำหนดเวลาและสถานที่ถูกปกปิดเป็นความลับ ส่วนช่วงเวลาที่หารือกันที่กองบินตำรวจ ก็จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล 100 กองร้อย เตรียมพร้อมหากเกิดกรณีฉุกเฉิน พร้อมเตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ด้วย
ลั่นพร้อมทำทุกอย่างที่กม.รองรับ
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการหารือนาย นิวัฒน์ธำรงยืนยันจะให้การสนับสนุนกับกลุ่ม ส.ว.อย่างเต็มที่ แต่ขอให้ทุกอย่างดำเนินการภายใต้กฎหมายและมีกฎหมายรองรับ ส่วนเรื่องการลาออกนั้นไม่สามารถทำได้เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ขณะที่นายพีระศักดิ์ระบุว่าหากรัฐบาลตัดสินใจอย่างนี้ก็พร้อมน้อมรับ แต่กลุ่มส.ว.คงมีแผน 2 แผน 3 คงมีการหารือกันในบ่ายวันนี้ และจะหาทางออกให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้
นายชัยเกษม กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เปิดเผยสถานที่หารือเพื่อป้องกันการเคลื่อนมวลชนของผู้ชุมนุมมาปิดล้อมสถานที่ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยส่วนตัวรัฐมนตรีขณะนี้อยู่ในขั้นสูงสุด ภายหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศตามตัวเพื่อขับไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง
ชี้คำวินิจฉัยศาลรธน.ค้ำคออยู่
นายนิวัฒน์ธำรงเปิด เผยถึงผลการหารือว่า ได้ชี้แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานะของคณะรัฐมนตรี และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ว่า ครม.ชุดปัจจุบันที่ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2557 เมื่อ วันที่ 7 พ.ค. 2557 ให้รัฐมนตรีที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ ซึ่งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันให้ทุกองค์กร ไม่ว่าครม. วุฒิสภา ศาล องค์กรตามรัฐธรรมนูญจะต้องปฏิบัติตาม
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 10 และ 48 ให้ตนสามารถปฏิบัติหน้าที่ และมีอำนาจเท่ากับตำแหน่งที่ทำหน้าที่แทนได้ถูกต้อง ขณะนี้จึงมีครม.และ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 181 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างสมบูรณ์
ยันพร้อมหนุนวุฒิฯหาทางออก
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ส่วนที่กลุ่มบุคคลต่างๆ ต้องการแต่งตั้งนายกฯ คนกลางและให้มีอำนาจบริหารราชการได้เต็มที่ ไม่ถูกจำกัดด้วยมาตรา 181 นั้น รัฐบาลชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้เพราะขณะนี้ประเทศไทยมี ครม.และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ อยู่แล้ว จะแต่งตั้งซ้อนไม่ได้ อีกทั้งการแต่งตั้งนายกฯ ที่มีอำนาจเต็มนั้น ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 และ 172 ประกอบกับพ.ร.ฎ. ยุบสภา พ.ศ.2556 ยังบังคับใช้อยู่ ซึ่งข้อเสนอแนะเรื่องการแต่งตั้งนายกฯ ที่อ้างว่ามีอำนาจเต็มนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะถูกจำกัดอำนาจบริหารตามมาตรา 181 จึงไม่แตกต่างจากครม.ปัจจุบัน สรุปว่านายกฯ ต้องมาจากส.ส. และได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราอื่นใด ระบุเรื่องการแต่งตั้งนายกฯ และครม.อีก
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ส่วนที่ขอให้ครม.ลาออกนั้น ไม่สามารถทำได้เพราะจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขัดต่อมาตรา 181 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ กำหนดให้ครม.ที่เหลืออยู่ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่าทุกฝ่ายควรหาทางแก้ปัญหาวิกฤตการเมืองโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประเทศชาติและประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ สังคม รัฐบาลยินดีปรึกษาหารือกับวุฒิสภาและฝ่ายต่างๆตลอดเวลาเพื่อหาทางออกที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายโดยเร็วที่สุดต่อไป
สุรชัย อู้อี้ยึดกรอบกฎหมาย
ที่รัฐสภา นายสุรชัยกล่าวว่า ช่วงเช้าตนป่วยเล็กน้อยจึงส่งตัวแทนไปหารือกับรัฐบาล ซึ่งผลออกมาไม่น่าพอใจ ทุกคนยังยึดติดกับแนวทางของตัวเอง จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับวุฒิสภา ยืนยันว่าไม่ท้อแท้แน่นอน จะยืนหยัดทำหน้าที่หาทางออกประเทศจนถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้น จะสรุปและออกเป็นแถลงการณ์ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้น คาดว่าจะทันภายในสัปดาห์นี้
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาใช้หลักสำคัญ 3 ประการ 1.การมีส่วนร่วมของทุกส่วน 2.ยึดตามกรอบกฎหมายทุกประการ และ 3.หาทางออกเพื่อคืนความสงบสุขให้ประเทศ ยืนยันว่าจะตัดสินใจโดยเร็วนั้นทำได้แต่ต้องไม่ทำให้เกิดวิกฤตใหม่ จบแบบไม่จบ ขอเรียกร้องดีเอสไอหากมีวิธีแก้ปัญหาก็ให้เสนอแนะและตนจะยอมถอยออกมา ซึ่งวุฒิสภาออกแถลงการณ์แนะทางออกให้รัฐบาลแล้ว 3 ข้อ เพื่อนำไปหารือก่อนตัดสินใจ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ตัดสินใจแล้วมีปัญหารุนแรงเกิดขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบ
ลั่นมีแผน 2-ได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา โฆษกคณะทำงานประสานองค์กร วุฒิสภา กล่าวว่า การหารือกับนายนิวัฒน์ธำรง เป้าหมายคือไปรับฟังความเห็นจากรัฐบาลว่า วิกฤตบ้านเมืองขณะนี้ต้องการให้แก้ปัญหาอย่างไร หากตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจในขณะที่มีรัฐบาลรักษาการจะมีข้อเสนอแนะอย่างไร จากนั้นจะนำเข้าหารือต่อที่ประชุมวุฒินอกรอบ
นายวันชัย ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากการหารือได้ข้อสรุปชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ลาออกเนื่องจากจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ วุฒิสภาจะเดินต่อไป เรามีแผนสอง แผนสาม เพื่อให้ได้รัฐบาลมีอำนาจเต็มตามกรอบรัฐธรรมนูญต่อไป โดยจะทำทุกอย่างให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะนำมาหารือกับที่ประชุมส.ว.วันนี้ เพื่อให้ตกผลึกและขอความเห็นชอบร่วมกันอีกครั้ง
ส.ว.ยันหาทางตั้งรัฐบาลใหม่ต่อ
เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมนอกรอบของส.ว. โดยมีนายสุรชัยเป็นประธานการประชุม เพื่อหารือถึงกรณีส่งตัวแทนไปหารือกับตัวแทนรัฐบาล และรัฐบาลปฏิเสธแนวทางให้ลาออกจากรักษาการ เพื่อเปิดทางการแก้ปัญหาของประเทศ โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 17.30 น. นายพีระศักดิ์ นายเดชอุดม นายวันชัย และนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายพีระศักดิ์กล่าวว่า จากการหารือกับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าไม่ลาออกจากตำแหน่ง โดยอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ต้องอยู่ปฏิบัติต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่ หากลาออกไปจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ดังนั้นวุฒิสภาจะหาแนวทางตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มตามแนวทางรัฐธรรมนูญและหลักประชาธิปไตยต่อไป ยืนยันว่า การที่วุฒิสภายังไม่ได้แนวทางชัดเจน ไม่ใช่การกั๊กหรือหลอกให้กปปส.อกหักซ้ำสอง
เสริมบังเกอร์ - แนวร่วมกลุ่มกปปส.นำกระสอบเสริมแนวบังเกอร์ให้สูงขึ้น พร้อมนำตาข่ายติดอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัย หลังถูกลอบยิงเอ็ม 79 และเอ็ม 16 บริเวณถนนราชดำเนิน กทม. เมื่อวันที่ 19 พ.ค. |
โยน'สรี'รับผิดชอบคลิป
นายพีระศักดิ์กล่าวถึงกรณีนายเสรี วงษ์มณฑา ระบุนายสุรชัยเป็นแนวร่วมกับ กปปส. ว่า ในการหารือวันนี้ที่ประชุมมีข้อห่วงกังวลต่อคำพูดของนายเสรี ซึ่งนายสุรชัยได้ยืนยันต่อที่ประชุมว่าส.ว.ต้องมีความเป็นอิสระ ไม่ได้ต้องการให้ภาพวุฒิสภาออกมาว่าเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเป็นขั้วตรงข้ามกับรัฐบาล ซึ่งประเด็นดังกล่าว นายเสรีต้องเป็นผู้รับผิดชอบคำพูดของตนเอง ส่วนกรณีหมายเรียกนายสุรชัยนั้น อยากให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ มีมารยาทดำเนินการมากกว่านี้ ไม่ใช่ส่งหมายเรียกมาทางโทรสาร อีกทั้งวุฒิสภาก็กำลังดำเนินการหาทางออกให้ประเทศอย่างเต็มที่อยู่
นายเดชอุดม กล่าวว่า หลังจากคณะทำงานส่งรายงานแนวทางการแก้ปัญหาที่ได้รับฟังจากภาคส่วนต่างๆ ให้นายสุรชัยแล้ว ทราบว่านายสุรชัยจะแถลงแนวทางที่มีความชัดเจนเรื่องการแก้ปัญหาที่ชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 21 หรือ 22 พ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมนอกรอบของวุฒิสภาวันนี้ มีส.ว.เข้าร่วมประมาณ 90 คน โดยนายสุรชัยเดินทางมารัฐสภาในช่วงบ่ายด้วยสีหน้าค่อนข้างอิดโรย และออกจากที่ประชุมก่อนการแถลงข่าวในช่วงเย็น ซึ่งส.ว.หลายคนให้เหตุผลว่า นายสุรชัยป่วยต้องกลับไปพักผ่อน แต่บางรายบอกไม่ทราบว่าจะออกไปทำธุระที่ใดต่อหรือไม่
มาร์ค โวยสุรชัยต้องกล้ากว่านี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ตนสงสัยว่าการที่วุฒิสภานัดนายนิวัฒน์ธำรง เหตุใดต้องนัดหารือกันวันนี้ เป็นความพยายามซื้อเวลาหรือไม่ เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขีดเส้นตายวันนี้ ทำให้วุฒิสภาคิดว่าไม่มีเวลารอ ถ้าต้องการแก้ไขคลี่คลายปัญหาก็ต้องทำอย่างรวดเร็ว นายสุรชัยต้องมีความกล้ามากกว่านี้ และว่าถ้าเราไม่พูดเรื่องกฎหมาย แต่พูดเรื่องบ้านเมือง ทำไมไม่ถอยเพื่อบ้านเมือง เพื่อให้คนมาแก้ปัญหาให้ชาวบ้าน
ที่พรรค ปชป. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า นายนิวัฒน์ธำรงต้องพิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อหาทางออกให้กับประเทศใน 6 ประการ คือ 1.ขอแนะนำให้ลาออกจากรักษาการนายกฯ เพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็ว 2.ถ้าตัดสินใจทำตามข้อเสนอของวุฒิสภาก็ไม่ต้องมาถกเถียงเรื่องข้อกฎหมายว่านายนิวัฒน์ธำรงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอีกหรือไม่ 3.ลดการเผชิญหน้าของมวลชนกลุ่มต่างๆ 4.เดินหน้าปฏิรูปประเทศภายใต้รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มทันที 5.ไม่กระทำใดๆ ที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และ 6.รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มจะเข้ามาดูแลปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศได้
ตือชี้ข้อเรียกร้องส.ว.ผิดกฎหมาย
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การหารือระหว่างรัฐบาลกับส.ว.คิดอยู่แล้วว่าคงไม่ได้ข้อสรุป เพราะอีกฝ่ายตั้งข้อเรียกร้องในสิ่งที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลเขาไม่ยอม รัฐบาลไม่กล้าทำ โดยเฉพาะการให้ลาออกแล้วไปตั้งหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่เอื้อให้ทำเช่นนั้น และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก กปปส.ที่บอกว่าจะมาหา เพื่อขอร้องให้รัฐมนตรีของพรรคทั้ง 2 คนลาออก ซึ่งหากประสานมาก็ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อหารือและมีมติ สำหรับสถานการณ์ขณะนี้ประเมินยากว่าจะจบอย่างไร แต่เชื่อว่าคงมีการเปลี่ยนแปลงแน่ แต่จะเปลี่ยนแปลงอย่างไรเท่านั้นเพราะหากอยู่ในสภาพแบบนี้มันไปไม่ได้แน่
เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าทางเดียวที่จะจบได้คือทหารต้องออกมา นายสมศักดิ์ กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่คิดว่าทหารฉลาดพอ เขาคงไม่ปฏิวัติ แต่น่าจะเป็นการใช้กฎอัยการศึกเข้ามาจัดการ แม้การใช้กฎอัยการศึกจะอยู่ภายใต้กำกับของรัฐบาลแต่จัดการให้เด็ดขาดได้กับทั้ง 2 ฝ่าย
"ทหารอาจจะออกมาและบอกว่าเอาอย่างนี้หรือไม่ ผมจัดการเรื่องต่างๆ ให้สงบแล้วคุณไปสู่สนามเลือกตั้ง แล้วอีกกี่เดือนยุบสภาและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น เหมือนเอาอำนาจของกฎอัยการศึกมาบีบทุกฝ่าย เท่าที่ประเมินน่าจะออกทางนี้" นายสมศักดิ์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 20 พ.ค. บรรดาข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมใจกันขอเข้าพบนายยุคล ลิ้มแหลมทอง ปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ ขอร้องให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อให้ประเทศมีทางออกและช่วยกันแก้ปัญหาก่อนที่บ้านเมืองจะเกิดสุญญากาศ
จารุพงศ์ชี้ม็อบมีอำนาจเก่าหนุน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปฏิบัติหน้าที่รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เห็นกันอยู่แล้วว่าทางส.ว.ส่วนหนึ่ง และกกต.ที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น กกต.มีเหตุข้ออ้างอยากให้เลื่อนเลือกตั้งอยู่ตลอด จึงมองว่าไม่น่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ถึงอย่างไรรัฐบาลก็ต้องทำหน้าที่อย่างนี้ต่อไป และขอให้ทุกฝ่ายเรียกร้องไปยังกกต.ให้ทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา บริหารประเทศโดยเร็ว ส่วนการเคลื่อนไหวของกปปส.ที่ประกาศปิดเกมภายในเดือนนี้ บอกได้เลยว่าใครเชื่อคนที่พูดกลับกลอกก็ถือว่าบ้าแล้ว
"การที่คนพวกนี้ยังอยู่ได้ เพราะมีอำนาจเก่าคอยหนุนหลัง อยากเตือนให้ระวังว่าถ้ายังไม่ยอมหยุดกระทำการที่ผิดกฎหมายก็อาจถูกอำนาจนอกระบบเข้ามากระทำบ้าง ถามว่าทหารบางคนที่รอจังหวะอยู่แล้วเข้ามาดำเนินการเหมือนในอดีตนั้น ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรต่อไป"นายจารุพงศ์กล่าว
ย้ำทางออกคือ'เลือกตั้ง'
นายจารุพงศ์ กล่าวอีกว่า ที่กปปส.ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปตามบ้านพักของรัฐมนตรีแต่ละคนเพื่อกดดันให้ลาออกนั้น ถือเป็นการคุกคาม เราไม่มีมาตรการจะดำเนินการใดๆ กับเขา แต่ถ้าเขาจะมากระทำอะไรกับเรา ก็ต้องป้อง กันตัว
นายจารุพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการเสนอขอนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 เชื่อว่า ไม่สามารถทำได้ ทางเลือกจึงมี 2 ทาง คือการทำให้ทหารปฏิวัติและการถอยกลับมาเลือกตั้ง สิ่งที่พรรคทำได้ดีที่สุด คือทำความเข้าใจให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งและการป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิวัติ โดยในช่วง 2 สัปดาห์นี้ไปจะเดินสาย 20 จังหวัดทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปพบกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งประชาชน เพื่อชี้แจงสถาน การณ์การเมือง และยืนยันว่าทางออกของประเทศที่ดีที่สุด คือการเลือกตั้ง การได้มาซึ่งนายกฯ ต้องมาจากประชาชนเพราะอำนาจเป็นของประชาชน โดยสัปดาห์นี้จะไป จ.ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
พท.ยกคลิป'เสรี'จวกสุรชัย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีนายสุรชัยพยายามหาช่องทางกดดันรัฐบาลรักษาการลาออกเพื่อตั้งนายกฯ เฉพาะกิจ เล็งใช้ทางลัดส่งชื่อนายกฯ คนกลางขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่รอโปรดเกล้าฯ เป็นประธานวุฒิสภาว่า นายเสรี วงษ์มณฑา แกนนำ กปปส.ไปสารภาพที่ชิคาโก สหรัฐ ว่านายสุรชัยร่วมสมคบคิดกับนาย สุเทพตั้งแต่ต้น เป็นพวกเดียวกัน ถนนและทางเดินของนายสุรชัยจึงตีบตันลง สิ่งที่นายสุรชัยพยายามทำ สังคมประชาธิปไตยเขารับไม่ได้ ตัวเองมาสู่ตำแหน่งว่าที่ประธานวุฒิสภาแบบเถื่อนๆ โรดแม็ปก็เถื่อน ยังจะหานายกฯเถื่อนอีก
นายคณิน บุญสุวรรณ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนายสุรชัยและกลุ่ม 40 ส.ว.เสนอให้รัฐบาลลาออกแล้วตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีอำนาจเต็มว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก 1.การลาออกขัดต่อมาตรา 181, 2.ส.ว.กลุ่มดังกล่าวประกอบด้วย ส.ว.สรรหาเกือบทั้งหมด, 3.ส.ว.ภายใต้การนำของนายสุรชัย กระทำการนอกบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เกินกว่าที่ระบุไว้ในพ.ร.ฎ. และยังขัดต่อข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา, 4.สถานภาพทางกฎหมายของสุรชัยยังเป็นแค่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 การได้มาซึ่งตำแหน่งประธานวุฒิสภายังไม่สมบูรณ์และเป็นที่เคลือบแคลง, 5.จากคลิปวิดีโอที่นายเสรีบอกว่า กปปส.และนายสุรชัยเป็นพวกเดียวกัน ทำให้นายสุรชัยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีกบฏร่วมกับนายเสรีด้วย และ 6.ข้อเสนอทุกข้อที่ส.ว.ผลักดันนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญยังหมิ่นเหม่ที่จะเบียดบังพระราชอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญ
พท.แถลงจี้ยุติบิดเบือนกฎหมาย
ที่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เรื่อง บ้านเมืองจะสงบสุขเมื่อยุติการบิดเบือนกฎหมาย ว่า 1.พรรคขอชื่นชมและให้กำลังใจทุกฝ่ายที่พยายามหาทางออกโดยสุจริตตามหลักประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ นิติธรรม เคารพและอธิบายกฎหมายตรงไปตรงมา แต่ขอตำหนิ คัดค้านและต่อต้านบุคคลหรือองค์กรใดที่บิดเบือนประชาธิปไตยและกฎหมาย เพื่อสนองตอบต่อขบวนการเผด็จ การอำนาจนิยมที่จะสถาปนานายกฯและรัฐบาลนอกรัฐธรรมนูญ มิได้มาจากการเลือกตั้ง
2.มีความพยายามอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบของนักกฎหมาย กลุ่มบุคคลที่อยู่ในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ กลุ่ม กปปส. พรรคประชาธิปัตย์และแนวร่วมต่างๆ ที่โกหกหลอกลวงคนในสังคมว่า ประเทศต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ต้องมีนายกฯและรัฐบาลตามมาตรา 7 หรือนายกฯและรัฐบาลเฉพาะกิจ รัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม โดยไม่มีความชัดเจนว่าจะปฏิรูปอะไรและมีกระบวนการถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร กลุ่มคนเหล่านี้แสดงธาตุแท้ว่าแม้แต่รัฐธรรมนูญเผด็จการ 2550 ที่พวกเขาเขียนขึ้นเองก็ยังไม่เคารพ คงมุ่งตอบสนองเพื่อให้พวกตนเองได้ครองอำนาจอย่างอยุติธรรม
จวกบันได 8 ขั้นยึดอำนาจ
3.เอกสารแผนบันได 8 ขั้นของส.ว.บางส่วนที่ปรากฏในสื่อออนไลน์เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ถ้าเป็นจริงตามนั้น จะใช้วุฒิสภายึดอำนาจการปกครอง ทำลายระบอบประชาธิปไตย สร้างความระคายเคืองและฉีกรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ด้วยการตั้งนายกฯและครม.นอกรัฐธรรมนูญโดยวุฒิสภา ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง และต่อไปจะอนุมัติงบประมาณ 2558 โดยวุฒิสภา ใช้เงินแผ่นดินโดยไม่มีการตรวจสอบของประชาชนผ่านสภา
4.ขอประณามและคัดค้านการข่มขู่คุกคามของ กปปส. และแนวร่วมที่กระทำต่อครม. เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ปลุกปั่นยุยงให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจกระทำผิดกฎหมาย เพื่อให้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ขัดรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้อย่างถึงที่สุดร่วมกับประชาชนเพื่อปกป้องประชาธิปไตย และการเคารพกฎหมาย
5.เรื่องการปฏิรูปนั้น พรรคเพื่อไทยเริ่มจากการปฏิรูปตนเองก่อนในด้านต่างๆ และนำเสนอต่อประชาชน รวมทั้งกระบวนการเลือกตั้งและการกำหนดนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง
6.ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคและทุกฝ่ายเสนอแนวทางปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรม อยู่ในกรอบกฎหมายเพื่อให้บังเกิดผลอย่างจริงจัง
หนุนปฏิรูปปราบทุจริต
7.ขอให้ กกต. ซึ่งมีอำนาจจัดการเลือกตั้ง เสนอต่อสังคมว่าการเลือกตั้งมีประเด็นอะไรต้องปฏิรูป และเรื่องใดอยู่ในอำนาจของ กกต. เรื่องใดต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและความร่วมมือของทุกภาคส่วน ส่วนการขัดขวางการเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ กปปส.และแนวร่วมนั้น ไม่ใช่การปฏิรูป
8.พรรคเห็นด้วยกับนักวิชาการที่เสนอปฏิรูปเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ในเบื้องต้น องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าศาล องค์กรอิสระ หรือองค์อื่นต้องแสดงความโปร่งใสและเป็นแบบอย่างที่ดีตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยการเปิดเผยทรัพย์สินต่อสาธารณะเช่นเดียวกับ ส.ส. ส.ว. และรัฐมนตรี และควรนำแบบอย่างของสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย มาใช้ด้วยคือ รายได้ทั้งหมดที่ได้รับ เช่น เบี้ยประชุม รถประจำตำแหน่ง ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างประเทศ ตลอดจนแบบแสดงการเสียภาษี ลงเปิดเผยในเว็บไซต์ขององค์กรเพื่อให้ทุกคนตรวจสอบได้
9.ขอเรียกร้องให้องค์กรตามรัฐธรรมนูญยุติการบิดเบือนประชาธิปไตยและกฎหมาย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ขบวนการเผด็จการ และขอให้ กกต. รีบจัดเลือกตั้ง อย่าหาข้ออ้างไม่จัดหรือเลื่อนการเลือกตั้ง
สหพรรคยื่นจี้-เร่งจัดเลือกตั้ง
เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กลุ่มสหพรรคการเมืองประชาธิปไตย นำโดย นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้ายื่นหนังสือถึงนาย นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ผ่านนายวิม รุ่งวัฒนะจินดา เรียกร้องให้รัฐบาลทูลเกล้าฯพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง โดยไม่ต้องหารือกับกกต. และให้ตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อมูลจากประชาชนให้เร่งรัดกกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว หากกกต.ยังไม่จัดการเลือกตั้ง กลุ่มสหพรรคฯจะนำมวลชนเคลื่อนไหวกดดันกกต.ให้จัดเลือกตั้ง ท้ายสุดถ้ากกต.จัดการเลือกตั้งไม่ได้ก็ควรลาออกไปทั้งคณะโดยทางกลุ่มจะเสนอให้องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาจัดการเลือกตั้งแทน
นายสุรทิน กล่าวว่า ทางกลุ่มขอเสนอทางออกหากไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ โดยเสนอชื่อนายกฯ 2 คน เข้ามาปฏิรูปภายใน 9 เดือน จากนั้นให้จัดการเลือกตั้งโดยทุกฝ่ายลงสมัครด้วย แต่ตัวบุคคลที่จะเสนอชื่อยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ และยืนยันว่าการขอนายกฯตามมาตรา 7 ไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศมีทางออกและกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย ให้การบริหารประเทศต่อเนื่อง
กกต.ชี้ 2 กพ.โมฆะ-คดีปูไม่โมฆะ
ที่สำนักงานกกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกลุ่มสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ระบุรัฐบาลทูลเกล้าฯ ร่างพ.ร.ฎ.แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดวันเลือกตั้งส.ส.ใหม่ได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากกกต.ว่า หากรัฐบาลเห็นสอดคล้องกับกลุ่มดังกล่าวก็คงทูลเกล้าฯ ไปนานแล้ว แต่ที่ยังเพราะรู้ว่าการจะทูลเกล้าฯ ต้องปรึกษากับกกต. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสมและเป็นธรรม ไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกับฝ่ายใดและเพื่อให้การเลือกตั้งสำเร็จ ส่วนการนัดหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาลควรพบปะพูดคุยกันไม่ใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งขณะนี้รอรัฐบาลประสานอยู่ว่าจะพร้อมเมื่อใดที่ไหน แต่มองว่าไม่ควรเป็นสัปดาห์นี้ เนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง หากมีการหารือจะดึงความสนใจของผู้ชุมนุม ดังนั้นควรเป็นหลังวันที่ 27 พ.ค. เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายลง
นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส. กกต.ยังต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป รวมถึง 3 คำร้องเกี่ยวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในเรื่องการใช้ทรัพยากรของรัฐหาเสียงในช่วงที่มีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง แม้รัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้สิ้นสภาพส.ส. แต่กกต.ยังสอบสวนอยู่ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับการยุบพรรคและตัดสิทธิการเมือง ซึ่งขณะนี้มี 1 เรื่องที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ อนุกรรมการได้สืบสวนเสร็จแล้ว และเตรียมบรรจุระเบียบวาระให้ที่ประชุมกกต.พิจารณาเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยว่าเป็นเรื่องใด
ระบุเลือกตั้ง 20 ก.ค.ไม่ทันแล้ว
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. สำนักกกต.ได้ประสานกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดหารือร่วมกันอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน เวลาและสถานที่ เนื่องจากรัฐบาลคงรอความชัดเจนในการหารือร่วมกับวุฒิสภาก่อน การหารือครั้งหน้า กกต.จะระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนที่หอประชุมกานตรัตน์ กองทัพอากาศ อีกทั้งหากนั่งหารือกันต่อหน้าจะเข้าถึงรายละเอียดได้มากกว่า เพราะต้องปรึกษาปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ยืนยันว่า กกต.ทั้ง 5 คน ไม่คิดทำให้เกิดสุญญากาศการเมือง หากมีการพูดคุยก็เชื่อว่าการจัดการเลือกตั้งจะดำเนินการได้ ล่าสุดสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทำหนังสือแจ้งกกต.อีกครั้ง ให้ระวังการใช้งบฯ จัดการเลือกตั้ง ทั้งนี้กกต.ต้องระวังหากเกิดปัญหากกต.ต้องรับผิดชอบ ส่วนวันเลือกตั้งที่เคยกำหนดวันที่ 20 ก.ค. นั้นเป็นไปไม่ได้แล้ว
เมื่อถามถึงอำนาจทูลเกล้าฯ ร่างพ.ร.ฎ. เลือกตั้ง นายภุชงค์กล่าวว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องหารือ เพราะทั้งสองฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน และมีนักกฎหมายที่ยังเห็นแย้ง ซึ่งกกต.เคารพความเห็นของทุกฝ่าย จึงต้องคุยกับรัฐบาล เพราะหากทำไปแล้ว อาจระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรืออาจมีบุคคลไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็อาจมีปัญหา แต่หากไม่ได้ข้อยุติจนต้องส่งศาลก็ต้องพิจารณา ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกกต.
สมชัยโพสต์โต้เต้น-สปป.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. จะเป็นผู้ประสานถ่ายทอดสดการดีเบตระหว่างกกต.และกลุ่มสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ว่า ขอบคุณนายณัฐวุฒิที่เป็นธุระจัดหาทีวีดาวเทียมให้ แต่ยังไม่อยากเอาตัวเข้าไปช่วยเรียกเรตติ้งทีวีดาวเทียม ดังนั้นขอให้ช่วยติดต่อช่อง 9 หรือช่อง 11 เช่าเวลา 2 ชั่วโมงวันเสาร์หรืออาทิตย์ ช่วงกลางวันหรือกลางคืนไม่เกิน 3 ทุ่มก็ยินดีไป เนื้อหารายละเอียดค่อยกำหนดอีกที ส่วนนักวิชาการขอ 1 คน ระบุชื่อมาว่าเป็นใคร หากนายณัฐวุฒิอยากโต้กลอนสดกับตนก็จัดที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ขอให้นายณัฐวุฒิออกค่าใช้จ่ายด้านสถานที่
นายสมชัย ยังระบุว่า ขอตอบนักวิชาการกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง ประเด็นดีเบต 1.การดีเบต เป็นสิ่งที่ดีเพราะนำเสนอเหตุผล ความเชื่อ และแนวคิดของแต่ละฝ่ายให้ประชาชนรับทราบ 2.การใช้งบประมาณของ กกต. เป็นงบประมาณแผ่นดินที่ต้องใช้จ่ายตามรายการที่ขอต่อสภา คงไม่สามารถตัดสินใจมาใช้ตามอำเภอใจได้ และ 3.ตนจะชี้แจงข้อเท็จจริงและประเด็นตามกฎหมายต่างๆ ในรายการ เกาะติดกกต. ทางช่อง 11 วันที่ 21 พ.ค. เวลา 20.30 - 21.00 น.
ว่อนเน็ตไวต์บอร์ดโครงสร้างชาติ
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค. มีรายงานว่า ในสังคมออนไลน์ หรือ โซเชี่ยลมีเดีย มีการเผยแพร่ส่งต่อภาพภ่าย "ไวต์บอร์ด" อ้างว่าเป็นการเขียนแผนผัง "โครงสร้างชาติของมวลมหาประชาชนในยุคปฏิรูปการเมือง" เตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมในวันที่ 17 พ.ค. 2557
สำหรับเนื้อหาแผนผังโครงสร้างชาติของมวลมหาประชาชนในยุคปฏิรูปการเมืองดังกล่าวนั้น เฟซบุ๊กแอ๊บแบ๊วการเมืองและกูต้องได้ 10 ล้านจากทักษิณ ระบุถึงรายละเอียดเอาไว้ดังนี้
ฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรีไม่ต้องเป็น ส.ส. คณะรัฐมนตรี ปลอดนักการเมือง ให้กำนันเสนอ
ฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ว.เลือกตั้ง 77 ส.ว.สรรหา 73 คงเดิม ส.ส.เลือกตั้ง 250 คน (ระดับจังหวัดทั้งหมด) ส.ส.แต่งตั้ง 250 คน ยกเลิกระบบบัญชีรายชื่อ
ส่วนที่มาส.ส. เลือกตั้ง 250 คน = ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ (หาร) 250 หรือ 172,000 คน ต่อ ส.ส. 1 คน (กทม.จะมี ส.ส.เรามากที่สุด)
ส.ส.แต่งตั้ง 250 คน จากกปปส. 100 คน สายกำนัน 30 สายพรรค 50 คปท 5 กองทัพธรรม 5 หลวงปู่ฯ 5 ราชนิกุล 5, สายวิชาชีพ 150 คน แพทย์ 50 ภาคประชาชน 50 นักธุรกิจประชาธิปไตย 30 เอ็นจีโอ 20 นักกฎหมาย 20
โดยมีกรรมการแต่งตั้ง ส.ส. คือ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, ประธาน กกต., ประธาน ป.ป.ช., ประธาน ผู้ตรวจการแผ่นดิน, ประธาน ศาลฎีกา -------------> ให้เฝ้าระวัง, ประธานศาลปกครองสูงสุด และเลขาธิการ กปปส.
วิธีการแต่งตั้ง ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมควรได้รับแต่งตั้ง, การแต่งตั้งให้ใช้เสียงกึ่งหนึ่งของกรรมการแต่งตั้ง และส.ส.แต่งตั้ง ห้ามดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี
ตุลาการ คงเดิม เพิ่มอำนาจ ขยายบทลงโทษ ม.112 ให้ครอบคลุมทุกมิติ
องค์กรอิสระ เป็นเรื่องการขยายวาระ แก้ไขหลักเกณฑ์ ขอบเขตอำนาจ และมีข้อผูกพันกับทุกองค์กร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงกับทางแกนนำกปปส. และโฆษกกปปส. รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
นายสมบัติ ธํารงธัญวงศ์ หนึ่งในแกนนำกปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงแผนผังดังกล่าวว่า ไม่ทราบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำกปปส. กล่าวถึงภาพไวต์บอร์ดว่า ไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยิน การประชุมเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นการประชุมร่วมกับส่วนราชการ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจและประชาชนที่มาจากทั่วประเทศ คนเป็นพันคน ไม่มีแผนอะไรออกมาอย่างนี้เลย ไม่ทราบว่าคนที่เผยแพร่มีเจตนาอะไร ถ้ารู้ก็จะบอกได้ว่ามีเจตนาอย่างไร
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. กล่าวว่า ตนไม่เคยเห็น ถ้าจะมีก็มาจากคนเสื้อแดง ไม่ใช่พวกตนทำ ท้าให้หาทั่วพื้นที่ชุมนุมเลย ถ้าเจอให้ 1 ล้านบาทเลย ไม่รู้จริงๆ
ร้องกกต.ยุบ'ปชป.'ปมหนุนกบฏ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่สำนักงานกกต. นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ผ่านนายอำนวย น้อยโสภา รองผอ.สำนักเลขานุการกกต. ขอให้พิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมยื่นคำร้องเพิ่มเติมประกอบการไต่สวนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นเป็นใจกับการชุมนุมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และพวก ถือเป็นการกระทำที่ต้องการล้มล้างการปกครองประเทศซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ โดยมีส่วนร่วมปิดล้อมบุกยึดสถานที่ราชการ ข่มขู่ข้าราชการไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ ถือว่ามีเจตนาล้มล้างอำนาจของรัฐ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ นำไปสู่การแต่งตั้งนายกฯและสภาประชาชนของตนเองโดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
นายสิงห์ทอง กล่าวว่า ตนนำซีดีบันทึกภาพวิดีโอ ภาพถ่าย ภาพข่าว จากสื่อต่างๆและการถอดเทปการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ และอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีพฤติการณ์สนับสนุนกลุ่ม กปปส. ตั้งแต่แรก และกกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่ส่วนข้อเท็จจริงตามคำร้องทั้ง 5 คำร้องที่ตนยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา โดยนัดตนมาให้ข้อมูลวันที่ 23 พ.ค. เวลา 13.30 น.ด้วย
"ที่ผ่านมาเราพยายามต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในระบอบประชาธิปไตย เพราะทางออกของประเทศที่ดีที่สุดคือการเลือกตั้ง หากทุกฝ่ายยังคงเดินหน้าในหนทางที่ไม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย เชื่อว่าอีกไม่นานจะเกิดจลาจล กลียุค และสงครามกลางเมืองหากมีการจัดตั้งรัฐบาลซ้อนรัฐบาลขึ้น" นายสิงห์ทองกล่าว