- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 20 May 2014 16:14
- Hits: 5098
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8574 ข่าวสดรายวัน
สหภาพยันไม่ตัดไฟ-ไม่หยุดรฟ. ขสมก.เดินรถตามปกติ ปปง.รับสอบบัญชีเทือก
บุกบ้านรมต. - กลุ่มกคป. และกปปส. ราว 200 คน นำโดย น.พ.ระวี มาศฉมาดล และนายอิสสระ สมชัย เคลื่อนขบวนมาหน้าบ้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ย่านห้วยขวางกดดันให้ลาออก เมื่อวันที่ 19 พ.ค. |
4 รัฐวิสาหกิจยันไม่หยุดงาน กฟผ.-กฟน.ไม่หยุดจ่ายไฟ ขณะรฟท.-ขสมก.ก็ไม่หยุดวิ่ง ชี้เป็นหน้าที่ต้องดูแลประชาชนแต่สหภาพฯการบินไทยหนุนกปปส. ไม่สนองค์กรขาดทุน ชี้ไม่หยุดงานก็ขาดทุนอยู่แล้ว ศอ.รส.นัดประชุมรัฐวิสาหกิจ 21 พ.ค.ชี้อย่าฟังคำยุยงให้ทำผิดกฎหมาย "ธาริต"ส่งปปง.สอบธุรกรรมการเงินเทือก-ลูกหมี หลังมีความผิดฐานก่อการร้ายด้วย เผยออกหมายเรียก สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ฐานสนับสนุนกบฏ กำนัน-ผญบ.ขึ้นเวทีเสื้อแดง ต้านรัฐประหาร-นายกฯคนกลาง ลั่นทำหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานขอจับเทือกตามหมายจับเอง "กิตติศักดิ์ ปรกติ" อาจารย์มธ.โร่มอบตัวแล้ว ม็อบบุกบ้าน ชัชชาติ-เฮียเพ้งจี้ลาออก ผบ.ทบ.สั่งจับตา 1-2 สัปดาห์อันตราย
ศอ.รส.แจ้งสรส.อย่าหยุดงาน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่บช.ปส. น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศอ.รส. อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 9 เรื่อง ขอความร่วมมือสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ว่า แน่ชัดแล้วว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส.ร่วมกันกระทำความผิดต่างๆอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องนายสุเทพ กับพวก 51 คน ในข้อหาอุกฉกรรจ์ที่สำคัญ ได้แก่ ร่วมกันเป็นกบฏ ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง ร่วมกันเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร และข้อหาอื่นๆ รวมทั้งหมด 9 ข้อหา โดยเฉพาะนายสุเทพ และนายชุมพล จุลใส ซึ่งถูกสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันก่อการร้ายเพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา และศาลออกหมายจับแกนนำ กปปส. ในข้อหาดังกล่าวแล้ว 38 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการจับกุมแกนนำดังกล่าวอย่างเคร่งครัด แต่นายสุเทพกับพวกก็มิได้ยุติการ กระทำความผิด
โดยวันที่ 19 พ.ค. ยังออกแถลงการณ์ร่วมกับ สรส. โดยนายคมสัน ทองสิริ ซึ่งเป็น ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันกบฏ และข้อหาอื่น ซึ่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องและศาลออกหมายจับแล้ว โดยสหภาพแรงงานขอให้สมาชิกสหภาพแรงงานทั่วประเทศนัดหยุดงาน ติดป้ายสนับสนุนให้มีรัฐบาลใหม่ตามที่ กปปส.เรียกร้อง รวมถึงการแสดงสัญลักษณ์การประท้วงต่างๆ ซึ่งกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และสังคม โดยมีกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ และกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เป็นหลักดำเนินการ ซึ่งกำหนดข้อห้ามในการนัดหยุดงานเพื่อมิให้การดำเนินการของรัฐวิสาหกิจหยุดชะงักเสียหาย โดยเฉพาะการหยุดงาน จะสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนโดยรวม และนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีความผิดทางอาญาแล้ว ยังจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวเองและครอบครัว อีกทั้งยังจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงเกียรติยศวงศ์ตระกูลอีกด้วย
เรียกประชุมรัฐวิสาหกิจ21พ.ค.
คณะทำงานศอ.รส. กล่าวว่า ศอ.รส.จะเชิญผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจทุกแห่งมาร่วมประชุมกับผู้บริหารของ ศอ.รส. ในวันที่ 21 พ.ค. นี้ เวลา 14.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะศอ.รส.จะทำหนังสือถึงผบ.สส. เพื่อขอหารือและขอความอนุเคราะห์จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเข้าร่วมแก้ไขสถาน การณ์ หากเกิดเหตุร้ายถึงขั้นตัดน้ำ ตัดไฟ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศอ.รส.ด้วย พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล กล่าวว่า ที่ประชุมศอ.รส.ได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ไปจัดทำแผนรับมือ หากเกิดกรณีการตัดน้ำ ตัดไฟ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติแก่ประชาชน โดยในวันที่ 19 พ.ค. ศอ.รส.จะนำเสนอให้ทราบต่อไป
กฟผ.-กฟน.ยันไม่ตัดไฟ
นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในส่วนของ กฟผ. ซึ่งมีหน่วยงานทำการอยู่ทั่วประเทศ ทั้งโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า มีหน้าที่ที่สำคัญในการดูแลระบบไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศชาติและประชาชนทุกภาคส่วน ยังคงปฏิบัติหน้าที่ผลิตไฟฟ้าตามปกติ โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก พนักงาน กฟผ. ทุกคนตระหนักในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีภาวะความไม่ปกติ กฟผ.ยังเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของแหล่งผลิตไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้าอีกด้วย จึงขอให้ประชาชนมิต้องวิตกกังวล
นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง (สร.กฟน.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของสหภาพต่อสถาน การณ์การเมืองปัจจุบันว่า จุดยืนของสหภาพจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สมาชิกของสภาพมีทั้งที่ฝักใฝ่และไม่ฝักใฝ่การเมือง ดังนั้นเราจะขอยืนอยู่ตรงกลางไม่เข้าข้างใคร ส่วนที่มีกระแสข่าวจะตัดน้ำตัดไฟเพื่อเป็นมาตรการทำให้ประชาชนเดือดร้อน ขอยืนยันว่าตราบใดที่ตนเป็นประธานสหภาพ จะไม่ยอมให้ใครตัดน้ำตัดไฟแน่นอน
รถไฟ-รถเมล์ไม่หยุดวิ่ง
นายอำพน ทองรัตน์ ประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) กล่าวว่า สร.รฟท. เรียกประชุมกรรมการวันที่ 20 พ.ค. เพื่อหาข้อสรุป เบื้องต้นคาดว่าจะมีมติไม่ประกาศหยุดงาน แต่ให้ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถหยุดงานได้ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟอย่างแน่นอน
นายวีระพงษ์ วงแหวน ประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) กล่าวว่า สร.ขสมก. มีจุดยืนชัดเจนที่จะไม่หยุดงานตามข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. โดยจะยังคงให้บริการเดินรถแก่ประชาชนตามปกติ เพราะไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้บริการ โดยในวันที่ 21 พ.ค. จะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหาร สร.ขสมก. เพื่อแจ้งให้ทราบและทำความเข้าใจร่วมกันถึงจุดยืนเพื่อให้การดำเนินการของสมาชิกสหภาพเป็นไปในแนวทางเดียวกัน
ทอท.ไม่หยุดให้บริการ
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวว่า ฝ่ายบริหารพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีการหยุดงานประท้วง กับสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ทอท. มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาสหภาพ ทอท. ยืนยันกับฝ่ายบริหารมาตลอดว่า สหภาพมีจุดยืนที่เป็นกลางทางการเมือง โดยจะยังคงทำงานและให้บริการภายในสนามบินทุกแห่งของ ทอท.ตามปกติ โดยจะไม่มีการหยุดงานประท้วง เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนผู้ใช้บริการเดือดร้อนในการเดินทาง
"เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการบริการหยุดชะงัก ได้ประสานพนักงานประจำให้เตรียมทำงานล่วงเวลา รวมทั้งประสานลูกจ้างชั่วคราวให้เตรียมเข้าทำงานแทน หากเกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรในการปฏิบัติงาน จึงขอให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นสายการบินและ ผู้โดยสารมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการให้บริการแน่นอน"
ถอนหมาย - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เข้ารายงานตัวต่อศาลอาญา พร้อมให้คำมั่นว่าจะมาเบิกความในคดีถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องหมิ่นประมาท ศาลจึงมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับที่ออกไปก่อนหน้านี้ เมื่อ 19 พ.ค. |
สร.การบินไทยหนุนกปปส.
นายสมศักดิ์ มานพ รองประธานสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. สหภาพการบินไทยได้ออกแถลงการณ์ ปฏิบัติการยึดอำนาจอธิปไตย เพื่อปฎิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยแจ้งไปยังสมาชิกสหภาพการบินไทย ขอให้สมาชิกสหภาพทำตามมติของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คือ 1.ขอให้สมาชิกสหภาพที่เป็นกรรมการสหภาพจำนวน 3-5 คน ปฏิบัติการไล่ล่ารัฐมนตรีเพื่อยึดคืนอำนาจอธิปไตยตั้งแต่วันที่ 19-21 พ.ค. 2557 และ 2.หากข้อเสนอของมวลมหาประชาชนยังไม่ได้รับการตอบสนองให้สมาชิกสหภาพการบินไทย 15,000 คน ลาหยุดงานพร้อมเพรียงกันตั้งแต่วันที่ 22-26 พ.ค. เพราะหากพนักงานลาหยุดพร้อมกันหมด ทางบริษัทก็ต้องหยุดงานไปโดยปริยาย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบถามและการแสดงออกของสมาชิกสหภาพที่ผ่านมาพบว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ ของสมาชิกสหภาพการบินไทยเห็นด้วยกับการแสดงออกของกปปส. และการที่หลายฝ่ายเกรงว่าการหยุดงานจะเป็นการซ้ำเติมบริษัทที่มีผลดำเนินงานขาดทุนนั้น มองว่า การหยุดงาน หรือไม่หยุดก็เกิดความเสียหายกับบริษัท เนื่องจากการบินไทยประสบปัญหาขาดทุนอยู่แล้ว
พท.จี้สอบ'สุรชัย'ฐานกบฏ
ที่บช.ปส. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหลักฐานต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ตรวจสอบนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา กรณีกระทำผิดความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) และเป็นผู้ร่วมกระทำการหรือสนับสนุนกระทำผิดมาตรา 113
นายเรืองไกร กล่าวว่า การแถลงการณ์เงื่อนไข 3 ข้อ ของนายสุรชัยรวมถึงกลุ่ม 40 ส.ว. เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 116 (3) หรือไม่ เนื่องจากระบุให้รัฐบาลต้องมาหาและใช้ข้อบังคับกรณีพิเศษเปิดประชุมวุฒิสภา ทั้งที่อยู่ในสมัยปิดประชุม ซึ่งไม่สามารถประชุมได้ ยกเว้นที่พระราชกฤษฎีกาเปิดประชุม ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการกปปส.ปราศรัยที่นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเด็นที่ให้เห็นว่ากระบวนการเลือกสรรของส.ว. 96 เสียงนั้น มีการจัดตั้งซึ่งบ่งบอกได้ชัดว่ามีการพูดคุยกับนายสุเทพ โดยนายสุรชัยใช้สถานะสมาชิกวุฒิสภา กระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองโดยไม่มีกรอบกฎหมายรองรับ ซึ่งฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และจะเป็นฐานความผิดตามมาตรา 113 ด้วยหรือไม่
ส่งปปง.สอบการเงินเทือก
นายธาริต กล่าวว่า การปฏิบัติการต่อไป 1.ตนในฐานะอธิบดีดีเอสไอ จะทำหนังสือแจ้งพ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการปปง. ในคดีพนักงานอัยการสั่งฟ้องนาย สุเทพ อีกหนึ่งข้อหาคือก่อการร้าย ซึ่งข้อหาก่อการร้ายเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน จึงส่งเรื่องต่อให้กับเลขาธิการปปง. 2.ตนอนุมัติหมายเรียกนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา มาสอบสวนกรณีมีผู้ร้อง และมีหลักฐานอันน่าสงสัยว่านายสุรชัยกระทำการเข้าข่ายสนับสนุนนายสุเทพ และแกนนำกปปส. ที่มีความผิดฐานกบฏ จากความพยายามของนายสุรชัย ที่จะให้มีนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ซึ่งพนักงานสอบสวนสามฝ่ายประกอบด้วยดีเอสไอ ตำรวจ และอัยการ ได้กำหนดวันให้มาสอบสวนที่ศอ.รส. ในวันที่ 21 พ.ค. เวลา 14.00 น.
ยื่นถอนประกันสมบัติ-สกลธี
นายธาริต กล่าวว่า 3.จากช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่านายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนาย สกลธี ภัททิยกุล แกนนำกปปส.ที่ตกเป็นจำเลยในข้อหากบฏ แต่ยังไปปรากฏตัวร่วมปราศรัยในการชุมนุมของกลุ่มกปปส.หลายครั้ง ซึ่งเราบันทึกภาพ เสียง และพฤติกรรมต่างๆ จึงจะยื่นต่อศาลเพื่อขอเพิกถอนการประกันตัวกับบุคคลทั้งสอง โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในวันที่ 20 พ.ค. นี้ และขอเตือนแกนนำกปปส.คนอื่นที่ได้รับการประกันตัวไปอย่าได้กระทำการที่หมิ่นเหม่ดังกล่าว
พ.ต.อ.สีหนาท เลขาธิการป.ป.ง. เผยว่า ป.ป.ง.รับคดีฟอกเงินเพื่อดำเนินการตรวจสอบทางการเงินย้อนหลังนายสุเทพ และนายชุมพล เป็นคดีฟอกเงินแล้ว โดยจะดำเนินการประสานกับสถาบันการเงิน หรือหน่วยงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบว่าธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงการกระทำผิดหรือไม่ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะส่งข้อมูลให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุด และศาลดำเนินการต่อไป
บิ๊กตู่สั่งกองทัพพร้อมรับมือ
รายงานข่าวจากบก.ทบ. แจ้งว่า ในการประชุม ศปก.ทบ. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เป็นประธาน ประชุมทางไกลผ่านระบบวีทีซีกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) และกองกำลังสุรนารี เพื่อติดตามการทำงานของหน่วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ยังสอบถามความเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมทั้งระดับ 5 เสือกองทัพบกและกรมฝ่ายเสนาธิการ ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และกลุ่มนปช. รวมถึงแนวทางการหาทางออกของวุฒิสภาต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ซึ่งยังไม่มีใครประเมินได้ว่าสถานการณ์ในห้วง 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร และการเจรจาหาทางออกอาจจะได้ข้อยุติ หรือนำไปสู่ความรุนแรงก็ได้
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.จึงให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในห้วง 1-2 สัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด หากใช้แนวทางการเจราจาหาทางออกได้ก็ถือเป็นสิ่งดี แต่หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ทหารต้องเตรียมพร้อม ซึ่งมีลำดับขั้นตอนตามกฎหมายอยู่แล้ว และหากเหตุการณ์ไปสู่จุดนั้น กองทัพไม่เตรียมการก็ถือว่าบกพร่อง แต่ในขั้นต้นคือทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกิดความรุนแรง และไม่เกิดการเผชิญหน้าของสองฝ่ายก่อน
อจ.มธ.โร่มอบตัวคดีกบฏ
เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติศักดิ์ ปรกติ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ใน 30 ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่อาคารสโมสรตำรวจ โดยนายกิตติศักดิ์กล่าวว่า ประสานพนักงานสอบสวน เพื่อขอเข้ามอบตัว พร้อมปฏิเสธ และไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา เพราะเห็นว่าการเข้าร่วมชุมนุมเป็นการใช้สิทธิเพื่อแสดงความคิดเห็น และใช้ตำแหน่งของตนเองยื่นขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนนัดนำตัวส่งอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลในวันที่ 27 มิ.ย.นี้
นายธาริต เผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากเบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหาและทำประวัติ จากนั้นพนักงานสอบสวนพิจารณาให้ประกันตัววงเงิน 500,000 บาท
ตร.เพิ่มกำลังดูแลรัฐมนตรี
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. กำชับในที่ประชุม ศปก.ตร.เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความระมัดระวังดูแลรักษาความปลอดภัยคณะรัฐมนตรี 12 คน หลังกลุ่ม กปปส. ประกาศไปไล่ล่ากดดัน โดยเพิ่มในส่วนของตำรวจสันติบาลและชุดปฏิบัติพิเศษ ดูแลความปลอดภัยตัวรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมการดูแลตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือการเดินทาง นอกจากนี้กำชับตำรวจ ท้องที่ที่รับผิดชอบบ้านพักรัฐมนตรี และที่ทำงาน ให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจจะไปรายงานตัวกับ กปปส. หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า คงไม่ เพราะตำรวจต้องทำงานภายใต้กรอบของกฎหมาย ตำรวจจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายและชอบธรรมเท่านั้น
ปลัดกห.ย้ำต้องทำตามกฎหมาย
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขอยึดถือแนวทางพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในแถลงการณ์ 7 ข้อ เห็นถึงความตั้งใจดีของท่าน เตือนด้วยหลักการและเหตุผลต่อฝ่ายต่างๆ ถือเป็น กรอบและความหวังทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติ
เมื่อถามว่าสถานการณ์เหมาะสมกับการ ที่มีนายกฯเฉพาะกิจหรือไม่ พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพยายามบอกว่ากฎหมายระบุไว้อย่างไร ถ้ากฎหมายบอกว่าทำได้ ก็ทำ และถ้าทำไม่ได้ก็อย่าฝืน ไม่เช่นนั้นจะยุ่ง ผ่านมา 6 เดือน เราเจ็บปวดมากแล้วกับการพลิกแพลงกฎหมาย และพยายามจะตะแบงกัน ส่วนแนวทางของทหารนั้น ทำหน้าที่ตามกรอบศรส. และ ศอ.รส. ซึ่งพยายามประคับประคองสถานการณ์โดยตลอด
สั่งตม.เตรียมจับ'เสรี'
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนบช.น. เร่งประชุมชุดสืบสวนที่บก.สส.บช.น. เพื่อติดตามหมายจับ 30 แกนนำ กปปส. โดยเฉพาะแกนนำ กปปส. ที่เดินทางไปยังต่างประเทศ โดยได้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อนำหมายจับไปยังด่านต่างๆ ที่มีการเข้าออกระหว่างประเทศ อาทิ นายเสรี วงษ์มณฑา ที่เดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับหลังเดินทางเข้าประเทศต่อไป
เร่งพิสูจน์บุคคลศพลอยน้ำ
ที่บช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพบศพลอยน้ำถูกมัดอยู่ในถุงหุ้มด้วยผ้าใบอยู่ในคลองบางลำพู ว่า สั่งชุดสืบสวน สน.นางเลิ้ง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายทะเบียนประวัติอาชญากร ทำการพิสูจน์ลายนิ้วมือโดยวิธีพิเศษด้วยการลอกนิ้ว เพราะสภาพศพที่ตรวจพบเสียชีวิตมา 3 วัน มีสภาพเน่าเปื่อยแล้ว เพื่อตรวจสอบประวัติที่มาของผู้เสียชีวิตว่าเป็นใคร ส่วนพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่นั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ชุมนุมอยู่บ้าง แต่ต้อง ผลสรุปจากการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม คดีศพลอยน้ำที่เคยเกิดขึ้นบริเวณอื่นๆ ที่ผ่านมาทั้ง 3 คดีนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งยังสามารถสืบสวนหาข้อมูลต่อไปได้ ทั้งนี้ จะเรียกประชุมชุดสืบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 20 พ.ค. เวลา 13.00 น. ที่บช.น.ต่อไป
ม็อบบุกกดดันบ้านรมต.
สำหรับการเคลื่อนไหวของกปปส. เมื่อเวลา 10.30 น. ที่เวทีถนนราชดำเนิน นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำกปปส.อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ประกาศปฏิบัติการยึดคืนอำนาจอธิปไตย แบ่งออกเป็น 5 ขบวน ขบวนที่ 1 นำโดยนายสุเทพ ขบวนที่ 2 นำโดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายสกลธี ภัททิยกุล นายชุมพล จุลใส และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ขบวนที่ 3 นำโดยนางทยา ทีปสุวรรณ และน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ขบวนที่ 4 นำโดยนายถาวร เสนเนียม และขบวนที่ 5 ขบวนกลุ่มเรียกร้องพลังงาน นำโดยนายอิสสระ สมชัย และนพ.ระวี มาศฉมาดล
โดยขบวนของนางทยา และน.ส.จิตภัสร์ มุ่งหน้าไปยังซอยทองหล่อ 25 ซึ่งเป็นบ้านของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม โดยมวลชนชุมนุมกดดันอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่ภายในบ้านพบเพียงผู้ดูแลและคนขับรถเท่านั้น ขณะที่นายอิสสระ และ นพ.ระวี นำมวลชนไปชุมนุมหน้าบ้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน ที่หมู่บ้านเกศินีวิลล์ ห้วยขวาง ส่วนขบวนของนายณัฏฐพล นายสกลธี นายชุมพล และนายพุทธิพงษ์ ร่วมกับขบวนของนายถาวร เคลื่อนออกจากสนามม้านางเลิ้งเวลา 12.00 น. มุ่งหน้าไปยังกรมชลประทาน
ผู้บริหารกทม.กอดเทือก
เมื่อเวลา 10.00 น. นายสุเทพนำมวลชนเดินขบวนเชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมใหญ่ โดยตั้งต้นขบวนที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศไปตามอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านแยกคอกวัว เข้าถนนตะนาว ศาลเจ้าพ่อเสือ วังบูรพา สี่แยกเจริญกรุง กรมการรักษาดินแดง ท่าเตียน ปากคลองตลาด สะพานพุทธ ร.ร.สวนกุหลาบ-พาหุรัด วัดสุทัศน์ ถนนดินสอ และกลับมาสะพานผ่านฟ้าฯ ในเวลา 15.00 น.
ที่ศาลาว่าการกทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กลุ่มกปปส. นำโดยนายสุเทพ นำขบวนเคลื่อนผ่านศาลาว่าการกรุงเทมหานคร (กทม.) ถนนดินสอ มีข้าราชการฝ่ายการเมืองของกทม.ได้ออกมาต้อนรับและให้กำลังใจ อาทิ นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯกทม. น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกกทม. นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. เป็นต้น พร้อมข้าราชการกทม.บางส่วนออกมาต้อนรับขบวนกปปส. โดยผู้บริหารฝ่ายการเมืองกทม. เข้าสวมกอดนายสุเทพเพื่อให้กำลังใจด้วย
พุทธอิสระขอถอนหมายจับ
เมื่อเวลา 09.50 น. พุทธอิสระ แกนนำกลุ่มกปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ พร้อมด้วยทนายความและมวลชนกว่า 200 คน เดินทางมาศาลอาญา เพื่อยื่นคำร้องเพิกถอนหมายจับ โดยมอบหมายให้นายสิริ เจนจาคะ ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาล ขณะที่พุทธอิสระพร้อมมวลชนไม่ได้เดินเข้ามาภายในรั้วศาลอาญา โดยรออยู่บริเวณริมถนนรัชดาฯ
โดยพุทธอิสระกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพประกาศจะมอบตัววันที่ 27 พ.ค. ว่า แม้เวที กปปส. ที่ทำเนียบรัฐบาลจะยุติลงหรือไม่ก็ตาม แต่เวทีแจ้งวัฒนะจะเคลื่อนไหวต่อ เพื่อผลักดันร่างสภาชาวนาต่อไป จากนั้นพุทธอิสระนำมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมายังสำนักงานกกต. เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง
นปช.ยังต้านรัฐประหาร
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มนปช. ที่ถนนอักษะ เมื่อเวลา 16.40 น. นายนิคม บุญวิเศษ ประธานสภาผู้ประกอบวิชาชีพวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ไทย (สววท.) ร่วมกับสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย และองค์กรสื่อภาคประชาชนผู้รักประชา ธิปไตย ราว 100 คน ขึ้นเวทีแสดงจุดยืน สนับสนุนนปช. และต่อต้านอำนาจนอกระบบ พร้อมอ่านแถลงการณ์ไม่ยอมรับนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลนอกระบบ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทุกรูปแบบ และต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติโดยใช้กำลังทหาร หรืออาศัยองค์กรอิสระ หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นเครื่องมือ รวมทั้งเรียกร้องให้กกต. เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ภายในวันที่ 20 ก.ค. นี้
กำนัน-ผญบ.ลั่นจับเทือก
นายอาคม ธีระศักดิ์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นตัวแทนกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ่านแถลงการณ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ มีข้อเรียกร้อง คือ ขอให้นายสุเทพ หยุดการชุมนุมประท้วงและการกระทำอันเป็นการขัดต่อกฎหมายทันที 2.หากยังไม่หยุดการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ จะขอทำหน้าที่จับนายสุเทพ และกปปส.ในข้อหากบฏ และก่อการร้ายตามหมายจับของศาลอาญา เพราะพวกตนถือเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (10) (16) ที่ให้อำนาจสามารถดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ ชี้แจงราษฎรไม่ให้เข้าร่วมกระทำผิดร่วมกับนายสุเทพ และกปปส.อย่างเด็ดขาด และขอแจ้งไปยังอดีตข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่ออกมาเรียกร้อง ร่วมกับนายสุเทพว่า ในสมัยที่ท่านดำรงตำแหน่งอยู่นั้น เคยมีความคิดที่จะปฏิรูปประเทศหรือไม่
'เทือก'ไม่พูดเรื่องมอบตัว
เมื่อเวลา 21.00 น.ที่เวทีการชุมนุม กปปส. ถนนราชดำเนินนอก นายสุเทพกล่าวบนเวทีปราศรัยว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ตนบอกว่า สู้คราวนี้ต้องเป็นม้วนสุดท้าย ถ้าพี่น้องต้องการชนะ ต้องออกกันมาหลายล้านคน ถ้าคนออกมาน้อย ถ้าพี่น้องข้าราชการไม่ออกมา เราไม่สามารถเอาชนะระบอบทักษิณได้ จึงต้องยุติการต่อสู้ในครั้งนี้ แล้วตนจะเดินไปมอบตัว แต่พี่น้องไม่ยอม ทั้งข้าราชการ อดีตปลัดกระทรวง อดีตอธิบดีกรมต่างๆ ยื่นคำขาดกับตนว่าไม่ให้พูดแบบนี้ ตนก็แก้ไปแล้วเมื่อคืนว่า วันที่ 27 พ.ค. เป็นวันประกาศชัยชนะของมวลมหาประชาชน
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. เราจะเดินขบวนผ่านชุมชนนางเลิ้ง ชุมชนโบ๊เบ๊ โรงหนังเก่าปารีส ไปถนนเพชรบุรี เข้าถนนพระราม 6 ผ่าน ร.พ.รามาธิบดี ร.พ.พระมงกุฎเกล้า ร.พ.เด็ก แล้ววนรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าถนนพญาไท ผ่านสี่แยกปทุมวัน ร.พ.หัวเฉียว สี่แยกวรจักร เข้าถนนมหาไชย สะพานผ่านฟ้าฯ สิ้นสุดที่ถนนราชดำเนิน อยากฝากถึงนายสนธยา คุณปลื้ม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และนายบรรหาร ศิลปอาชา ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมืองและ มวลมหาประชาชน ขอให้รัฐมนตรีในสังกัดลาออกจากการเป็น ครม.รักษาการ แต่ถ้า ไม่ทำตามเสียงเรียกร้องของประชาชน เราจำเป็นต้องปฏิบัติต่อรัฐมนตรีของท่านเหมือนกับคนอื่นใน ครม.ที่เหลืออยู่ โดยตนจะนำไปบุกทั้ง 3 คนด้วยตัวเอง
"วันที่ 26 พ.ค. เวลา 19.00 น. เราจะประกาศเป็นทางการว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีการชุมนุมอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นนัดชี้ชะตาของประเทศ เราจะสู้ให้ถึงที่สุด แล้วเอาชัยชนะมาเป็นของประชาชนทั้งประเทศไทยให้ได้"เลขาธิการ กปปส. กล่าว
ถอนหมายจับจตุพรหมิ่นมาร์ค
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานจำเลย ในคดีหมายเลขดำ อ.4176/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 11 และ 17 ต.ค. 2552 จำเลยขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวหานายอภิสิทธิ์ในทำนองว่า โจทก์สั่งฆ่าประชาชน และขัดขวางการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความจำเลย แถลงขอเลื่อนการสืบพยานจำเลยออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จำเลยต้องควบคุมดูแลการชุมนุมที่ถนนอักษะไม่ให้มีการกระทำผิดต่อกฎหมาย
ศาลพิเคราะห์แล้วว่า ศาลกำชับทนายจำเลยว่า ถ้าจำเลยไม่มาศาลในนัดนี้โดยอ้างเหตุเจ็บป่วยหรือเหตุอื่นที่ไม่สมควร ถือว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดี ศาลจะออกหมายจับต่อไป จึงให้ออกหมายจับจำเลยเพื่อมาเบิกความในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 9.00 น.
ต่อมาช่วงบ่าย นายจตุพรเดินทางมายังศาลอาญา พร้อมกับทนายความ เพื่อรายงานตัวหลังศาลออกหมายจับ โดยนายจตุพรแถลงต่อศาลยืนยันว่าไม่มีเจตนาประวิงคดี หรือหลบหนี ศาลจึงให้นายจตุพรสาบานต่อศาลว่าจะเดินทางมาเบิกความในวันที่ 26 พ.ค.นี้ตามนัดเดิม ศาลจึงเพิกถอนหมายจับ โดยให้นายจตุพรมาศาลตามกำหนดนัดสืบพยานจำเลยเดิมในวันที่ 26 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ร.ร.ใกล้ม็อบเทือกวุ่นเลื่อนเปิด
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายรักไทย ธนวุฒิกุล ผอ.โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก กล่าวว่าโรงเรียนประกาศเลื่อนเปิดเทอมจากวันที่ 19 พ.ค. เป็นวันที่ 22 พ.ค.ซึ่งเป็นการเลื่อนเปิดเทอมครั้งที่ 2 จากกำหนดการเปิดเรียนเดิมคือวันที่ 15 พ.ค. เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่ใกล้แยกผ่านฟ้า ซึ่งติดกับพื้นที่การชุมนุมทางการเมือง อีกทั้งโรงเรียนสอนเด็กเล็กระดับอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 จึงเป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยของนักเรียน อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนก็จะประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นก็คงต้องขยายวันปิดเรียนออกไปอีก
นายบัญญัติ วรรณบุตร ผอ.โรงเรียนวัดโสมนัส กล่าวว่า เดิมทีโรงเรียนวัดโสมนัสกำหนดเปิดภาคเรียนวันที่ 16 พ.ค. แต่เนื่องจากมีเหตุชุมนุมทางการเมือง จึงประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียนมาเป็นวันที่ 19 พ.ค. และประกาศเลื่อนการเปิดเรียนเป็นวันที่ 22 พ.ค. หากเหตุการณ์ยังไม่สงบ ก็คงต้องเลื่อนการเปิดเทอมออกไปอีก ส่วนเรื่องการเรียนนั้น ทางโรงเรียนมีแผนการจะสอนชดเชยเพิ่มเป็นรายชั่วโมงให้กับนักเรียน หลังสถานการณ์ทางการเมืองสงบแล้ว เพื่อให้นักเรียนได้เรียนครบตามเนื้อหาหลักสูตร
นายจรัสฤทธิ์ กลิ่นสุวรรณ ผอ.โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ กล่าวว่า ให้วันที่ 19 พ.ค. หยุดการเรียนการสอนจากเหตุพิเศษ 1 วัน เนื่องจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองและการจราจรโดยรอบติดขัด อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับนักเรียน โดยขณะนี้โรงเรียนกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ ซึ่งจะหาข้อยุติในช่วงบ่ายหากไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย ก็จะเปิดการเรียนการสอนตามปกติแต่หากจำเป็นต้องเลื่อน ก็อาจะเลื่อนเป็นวันที่ 21 พ.ค.