- Details
- Category: การเมือง
- Published: Wednesday, 01 October 2014 08:52
- Hits: 3764
ปปช.ถกวันนี้ถอดถอน'ปู' ปมข้อกม. หาช่องส่งสนช.ฟันคดีข้าว เชือด'นิคม-ขุนค้อน'ฝืด 'พรเพชร'ตีกลับสำนวน จวกชื่อสปช.คนหน้าเดิม รัชตะเลื่อนหารือคณบดี
เกษียณ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะ ผบ.ทบ. เป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการของนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2557 จำนวน 262 นาย ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก เมื่อวันที่ 29 กันยายน
สนช.ใหม่ - พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ 1 ใน 28 สนช. ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มเติม เข้ารายงานตัวกับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ที่ห้องโถงอาคารรัฐสภา 2 เมื่อวันที่ 29 กันยายน'พรเพชร'หารือ 2 รอง ปธ.สนช. สั่งเด้งคดีถอดถอน'นิคม-ขุนค้อน'คืน ป.ป.ช. ชี้อ้างกฎหมายเก่า วันนี้ไม่มี รธน.50 แล้ว ให้ทำสำนวนใหม่อิง กม.ปัจจุบัน
@ "ประยุทธ์"บินร่วมเทิดเกียรติจปร.
เมื่อวันที่ 29 กันยายน เวลา 08.35 น. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์กองทัพบก ร่วมพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของนายทหารชั้นนายพล ที่ครบเกษียณอายุราชการและลาออกก่อนครบเกษียณอายุราชการประจำปี 2557 ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ(จปร.) รวม 262 นาย โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอง ผบ.ทบ. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมเดินทาง
@ "บิ๊กตู่"ไม่เสียดายเกิดเป็นทหาร
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณทุกคนที่จัดงานเทิดเกียรตินายทหารชั้นนายพล เนื่องในโอกาสอำลาชีวิตราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ถือว่าเป็นวันมงคลที่ต้องดีใจที่ได้รักษาเกียรติยศ รักษาศักดิ์ศรีกองทัพ แล้วสามารถส่งต่อไปให้รุ่นต่อไป ในสมัยก่อนเริ่มต้นมาจากนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 1 ที่มาจากราชดำเนิน แต่วันนี้มาอำลาที่นี่ เป็นคนละสถานที่กัน แต่เกียรติยศศักดิ์ที่ได้ถวายสัตย์
ปฏิญาณในสมัยก่อนไว้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ด้วยเลือด ทว่าในวันนี้ก็ต้องหนักไปอีกคือ ต้องถวายด้วยชีวิต ทุกคนได้ทุ่มเทเสียสละ โดยที่ไม่สามารถไปประกาศหรือให้ใครรู้ได้ แต่จะเห็นว่ามีแต่พวกเราทั้งสิ้นที่ทำ ฉะนั้น การ
กระทำใดๆ ที่เป็นสิ่งดีงาม ก็ให้สังคมไปรับรู้เอง พวกเราไม่สามารถไปประกาศหรือประชาสัมพันธ์ตนเองได้ อีกทั้งพวกเราได้ผ่านวันเวลาแห่งความภาคภูมิใจมาโดยตลอด ส่วนตัวไม่เคยมีวันใดไม่ภาคภูมิใจ และไม่เคยเสียดายที่เกิดมาเป็นทหาร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ขอให้กองทัพดูแลกันอย่างเข้มแข็งสร้างความสามัคคีรวมพลังให้เป็นหนึ่งเดียว
@ ยันทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม
"4 ปีที่ผมบริหารงานในกองทัพบก มุ่งทำตามคำที่เขียนไว้ว่า เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนทั้งสิ้น ขอย้ำว่าไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว เพื่ออำนาจ แต่ทำไปเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าต่อไป พร้อมกันนี้ขอให้ช่วยกันทำให้สังคมมีการพัฒนาเรียนรู้ค่านิยม 12 ประการ หากทำได้ ประเทศจะเจริญได้อย่างแน่นอน ประเทศไทยจะต้องเป็นหนึ่งเดียวไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ฉะนั้นกองทัพขอฝากไว้หนึ่งเดียวให้เป็นวาระแห่งชาติและคิดว่าการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องใช้เวลาพอสมควร เมื่อวานชี้แจงไปแล้ว กลัวสื่อจะเข้าใจผิดที่บอกว่าจะจบภายใน 1 ปี มันไม่ใช่ ซึ่งขอฝากไปยังคนที่เห็นต่าง เพราะอยากจะให้จบในปีนี้ เพื่อให้ทันต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีหน้า นี่คือเจตนาของผม และผมขอบคุณอีกครั้ง ขอให้ทุกคนมีความสุข วันนี้เลิกทำหน้าย่นได้แล้ว อย่างน้อยผมก็ทำหน้ายิ้มแย้มได้อีก 2 วัน ก็ไม่ได้เสียใจอะไร เพราะตั้งใจทำอะไร แล้วก็ได้เท่าที่ได้ และผมจะเป็นพี่และจะเป็นกำลังใจให้กับกองทัพ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ แนะตัดต้นไม้หลังเกษียณ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เข้าวันที่ 1 ตุลาคม สำหรับนายทหารที่เกษียณแล้วนึกอะไรไม่ออก ให้แต่งเครื่องแบบทหาร ออกไปเดินรอบบ้านหรือไปตัดต้นไม้ ทำไปสักพักจะชินเอง เพราะก็ปรับตัวเองจนชินแล้ว ต้องแต่งเครื่องแบบทหารบ้าง ไม่แต่งบ้าง พอไม่แต่งเครื่องแบบก็มีคนทักว่า เสื้อสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง แต่ทั้งหมดอยู่ที่ผลการปฏิบัติงาน ไม่ได้อยู่ที่เสื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ได้ไปเยี่ยมกองกำลังผสมที่ทำหน้าที่สวนสนามเทิดเกียรติ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางกลับ กทม.ทันที โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
@ "บิ๊กป๊อก"ยันเลือกสปช.โปร่งใส
ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงรายชื่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) 173 คน ที่ปรากฏตามสื่อมวลชนว่า ถือว่าผ่านการพิจารณามาอย่างดี สังคมไม่ต้องห่วงใยในเรื่องการล็อกสเปก เพราะไม่มีแน่นอน เมื่อถามว่า มีอดีต ส.ว.บางคนจะยื่นร้องต่อศาลปกครองให้ชะลอการประกาศรายชื่อ สปช.ออกไปก่อน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ใครทำอะไรได้ตามกฎหมายก็ทำไป
เมื่อถามว่า ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารายชื่อยังเป็นคนกลุ่มเดิม พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า "ไม่มีคำว่ากลุ่มเดิมหรอก ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใสและรอบคอบ น่าจะออกมาในลักษณะที่ดี ผมคงไม่วิพากษ์วิจารณ์"
@ "ปึ้ง"ผิดหวังสปช.หน้าเดิม
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงรายชื่อสมาชิก สปช.ที่ปรากฏตามสื่อมวลชนว่า รู้สึกผิดหวัง เพราะคาดหวังไว้มากกับ พล.อ.ประยุทธ์ สุดท้ายเป็นคนหน้าเดิม และเป็นทีมงานเดียวกับ คสช. ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ดังนั้นแนวทางการปฏิรูปที่จะออกมาคงไม่ดี เพราะยังคงยึดติดกับความคิดแบบเดิม เป็นการปฏิรูปในมุมที่อีกฝ่ายต้องการ ประเทศชาติและประชาชนคงไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก เพราะปัญหาจะไม่ได้รับการคลี่คลาย ท้ายที่สุดรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ต้องไปแก้ไข แล้วก็กลับมาเกิดรัฐประหารอีก "อย่างไรก็ตาม จะขอดูการทำงานว่าออกมาเป็นรูปแบบใด เป็นไปตามที่ผมเข้าใจหรือไม่ สำคัญคือขอให้ สปช.เดินตามโรดแมปที่วางไว้ อย่าประวิงเวลาให้ยาวออกไป เพราะประเทศชาติต้องเดินหน้า ขณะเดียวกันต้องเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของคนที่เห็นต่าง ไม่ใช่เอาความเห็นของตัวเองเป็นที่ตั้ง" นายสุรพงษ์กล่าวว่า
นายอำนวย คลังผา อดีตประธานวิปรัฐบาล และอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า คสช.แต่งตั้ง สปช.จากคนหน้าเดิม ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ พท. จะเห็นว่ากลุ่ม 40 ส.ว.เข้ามาจำนวนมาก จึงไม่เข้าใจว่า คสช.ต้องการให้บ้านเมืองสงบหรือเกิดวิกฤตอีกครั้งกันแน่ จึงเกรงว่าการปฏิรูปจะล้มเหลวสูญเปล่า ที่ผ่านมาก็รู้อยู่แล้วอะไรคืออะไร ไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำอีกในอนาคต อย่างไรก็ตาม ขอฝาก สปช.ให้เขียนกติกาสำคัญไว้สักข้อ ระบุให้ชัดเลยว่าต่อไปถ้าพรรคการเมืองไหนไม่ส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง ให้ตัดสิทธิทางการเมืองไปเลย 10 ปี
@ "จเร"พร้อมรับสปช.
ที่รัฐสภา นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สปช. กล่าวว่า สภาได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการทำงานของ สปช.แล้ว และเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สปช.ทั้ง 250 คน จะกำหนดให้เข้ารายงานตัวในวันรุ่งขึ้นทันที ขณะเดียวกันได้เตรียมบุคลากรสำหรับการสนับสนุนงานของ สปช. ทั้งเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ และการเตรียมการตั้งคณะกรรมาธิการ 11 คณะ พร้อมทั้งเตรียมงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2557 มาใช้ดำเนินการ
@ โยนป.ป.ช.เคาะสปช.แจ้งทรัพย์สิน
นายจเร กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมนัดแรกของ สปช.จะเป็นการหารือเพื่อเลือกประธานและรองประธาน สปช. โดยจะใช้ข้อบังคับการประชุมของสนช.ไปก่อน จากนั้นค่อยยกร่างข้อบังคับการประชุมสปช.อีกครั้ง ซึ่งเนื้อหาน่าจะใกล้เคียงกับข้อบังคับการประชุม สนช. ส่วนกรณี สปช.ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินหรือไม่นั้น สถานะของ สปช.ไม่ได้เป็นทั้ง ส.ส. และ ส.ว.จึงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะพิจารณา
ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับสมาชิก สปช.นั้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรอดูความชัดเจนในการปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน จึงจะสามารถพิจารณาได้ว่า สปช.จำเป็นต้องยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินหรือไม่ ซึ่งก็เช่นเดียวกันตำแหน่งใหม่ต่างๆ ที่ คสช.แต่งตั้งขึ้น ก็ต้องพิจารณาในอำนาจหน้าที่เสียก่อน จึงจะพิจารณาได้ว่าเข้าข่ายในกฎหมายของ ป.ป.ช. และจำเป็นต้องยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินด้วยหรือไม่
@ ปธ.กกต.ไม่ผิดหวังตัวแทนหลุดโผ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ให้สัมภาษณ์กรณีรายชื่อสมาชิก สปช.ไม่มีบุคคลจากองค์กรอิสระ ว่า ไม่รู้สึกผิดหวัง ต้องยอมรับดุลพินิจของ คสช. การที่ไม่มีคนในองค์กรอิสระคงไม่มีผลต่อการปฏิรูป โดยในส่วนของ กกต.ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยต้องดูว่าจะเสนอแนวความคิดในการปฏิรูปได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน กกต.ได้เตรียมพร้อมแผนปฏิรูปของ กกต. เพื่อรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้า
"ผมยังไม่เห็นโผรายชื่อดังกล่าว มีเพียงแค่รายชื่อจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น และยังไม่มีการดำเนินการปฏิรูปใดๆ จึงขอให้ดูการทำงานก่อน เพราะเชื่อว่าผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะทำงานเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า ไม่อยากให้ดูหรือไปพิจารณาจากรายชื่อเฉพาะบุคคลเท่านั้น" นายศุภชัยกล่าว
@ "สมชัย"ชมสปช.หลากหลาย
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ซึ่งเป็นตัวแทนเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา สปช.ด้านการเมือง กล่าวว่า รายชื่อ สปช.ที่ออกมาถือว่ามีความหลากหลายพอสมควร ได้คนมีความรู้ความสามารถตรงกับด้านที่ได้รับเลือกจำนวนไม่น้อย การที่คนขององค์กรอิสระไม่ได้รับการคัดเลือก น่าจะเป็นแนวทางที่กำหนด เนื่องจากในสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญประการหนึ่ง น่าจะเกี่ยวกับการปฏิรูปองค์กรอิสระ จึงไม่อยากให้เข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย บทบาทของ กกต. ต่อจากนี้จะเป็นฝ่ายสนับสนุนข้อมูลหาก สปช.ต้องการ
เมื่อถามว่า การที่ไม่มีตัวแทนจากองค์กรอิสระจะมีผลกระทบหรือเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสมชัยกล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มี เมื่อถามต่อว่า รู้สึกผิดหวังหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เหมือนมีความมั่นใจว่าต้องได้รับเลือก นายสมชัยกล่าวว่า สื่อมั่นใจไปเอง
@ "นิพิฏฐ์"จับตากมธ.ยกร่างรธน.
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวกรณีมีชื่อนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้า ปชป. เป็นสมาชิก สปช.ด้านพลังงาน ว่า ถือว่าเป็นสิทธิของนายอลงกรณ์ที่สามารถทำได้ ไม่อยากวิจารณ์บุคคลที่เข้าไปทำหน้าที่ แต่ต้องยอมรับว่าการเข้าไปแล้วจะไม่มีอิสระ ไม่สามารถนำเสนอความคิดเห็นของตนได้ ประชาชนควรจะฝากความหวังไว้กับ คสช. เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เข้ามาทำงานก็ยังไม่ผิดพลาด ได้ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ สิ่งที่สำคัญตอนนี้ ควรสนใจว่าแนวคิดการปฏิรูปประเทศจะออกมาอย่างไร และจะปฏิรูปอะไร สิ่งที่น่าสนใจคือคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กำลังจะทำว่ามีใครบ้าง
@ อจ.จุฬาฯห่วงรธน.ฉบับใหม่
นายปราชญ์ ปัญจคุณาธร อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงรายชื่อสปช.ทั้ง 173 คน ว่า ไม่ใช่เรื่องผิดความคาดหมายรายชื่อว่าที่สมาชิก สปช.ทั้งหมด คือกลุ่มที่มีอุดมการณ์เดียวกับ คสช. เพราะ คสช.มีความจำเป็นต้องเลือกบุคคลที่มีความคิดเห็นในทางเดียวกันอยู่แล้ว เพื่อที่จะสามารถควบคุมได้ เนื่องจาก สปช.มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิรูปด้านต่างๆ ตลอดจนถึงการลงมติเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว แต่สิ่งที่แปลกใจคือ คสช.กล้าคัดสรรบุคคลที่มีความชัดเจนในอุดมการณ์ทางการเมือง เพื่อเข้ามาดำรงตำแหน่ง สปช.เป็นส่วนใหญ่ เหมือนกับการคัดเลือก สนช.ที่กล้าแต่งตั้งทหารเข้ามาดำรงตำแหน่งมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้สามารถรับรู้ได้เลยว่ารัฐธรรมนูญฉบับถัดไปคงจะไม่มีความชอบธรรม เพราะผ่านการทำหน้าที่มาจาก สปช.ตรายาง เนื้อหาก็จะลดทอนความเป็นประชาธิปไตย แต่จะสร้างคุณค่าให้กับกองทัพและองค์กรทางการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ให้สูงกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมทั้งจะผลิตค่านิยมความเป็นคนดี คนเก่ง และประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ตามนิยามของ คสช.ฝ่ายเดียว
@ ไม่เชื่อเปิดเสรีแสดงความเห็น
"ไม่เชื่อว่า คสช.จะเปิดโอกาสหรือพื้นที่ให้นักวิชาการหรือประชาชนทั่วไปได้วิจารณ์ ตามที่ คสช.เคยระบุว่าขอให้มี สปช.ก่อนจึงจะให้วิจารณ์ เพราะที่ผ่านมา คสช.ไม่เคยสร้างความเชื่อใจได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกกฎอัยการศึก หรือการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะที่ต่างเคยเชื่อกันว่าเมื่อมีรัฐบาล นักวิชาการและประชาชนจะมีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็น แต่ทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้น ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นจึงไม่ใช่เรื่องที่ว่าต้องมี สปช.ก่อนหรือไม่" นายปราชญ์กล่าว
ยื้อสปช.ยื่นฟ้องศาลปค.
ที่ศาลปกครองอุบลราชธานี นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีต ส.ว.ยโสธร ผู้สมัครเข้ารับการสรรหา สปช. ยโสธร ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอุบลราชธานีเพื่อขอให้ศาลระงับกระบวนการสรรหาหรือการประกาศรายชื่อ สปช.ในจังหวัดยโสธรที่มีปัญหาเพื่อขอให้ศาลออกคำสั่งคุ้มครองชะลอการประกาศรายชื่อ สปช.เอาไว้ก่อน โดยยื่นขอให้ศาลได้ไต่สวนฉุกเฉินก่อนที่จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ ซึ่งศาลได้รับคำร้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 290/2557 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายยุทธนา กล่าวว่า การยื่นคำร้องต่อศาลปกครองในวันนี้ ถือเป็นการรักษาสิทธิ และเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกระบวนการพิจารณาที่ไม่ถูกต้องเป็นธรรมแก่ผู้สมัคร เมื่อถูกตัดสิทธิก็คงจะต้องรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง และขอความเป็นธรรมให้คนอื่นด้วย
@ จี้คสช.เคลียร์ 250 สปช.ชื่อโผล่
ด้านนายวีรศักดิ์ เครือเทพ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คสช.จะต้องตรวจสอบและออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีรายชื่อ สปช.หลุดออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งไม่ส่งผลดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนยันว่ากระบวนการคัดสรรรายชื่อต้องเป็นความลับ และต้องรอการโปรดเกล้าฯ แต่รายชื่อ สปช.ในแต่ละด้านที่หลุดออกมา ยอมรับว่ามีความเป็นได้สูงถึง 90% แต่มีบางรายอาจมีปัญหาในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติ
@ "อ๋อย"ชี้สปช.ล็อกสเปกไม่สำคัญ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก (Chaturon Chaisang) แสดงความเห็นต่อเรื่อง สปช. ว่า เรื่องล็อกสเปก สปช. คิดว่าไม่ใช่ประเด็น เพราะก็มีกติกาอยู่แล้วว่า คสช.เป็นผู้ตั้ง สปช. ดังนั้น สปช.ย่อมเป็นแบบที่ คสช.เห็นว่าดี ถ้าต้องการจะทราบว่า คสช.ชอบคนแบบไหน จะไปถามคุณสมบัติก็คงไม่ได้ เพราะอาจไม่มีการอธิบาย หลายคนอาจเป็นห่วงว่า ผู้ที่มาเป็น สปช.อาจไม่กว้างพอที่จะเป็นตัวแทนหลายฝ่ายของสังคม แต่ตนกลับเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ก็ไม่น่าห่วงเท่าใดนัก เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างกว้างขวางได้
@ เชื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้งไม่ได้
นายจาตุรนต์ ระบุว่า จึงเห็นว่าการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ สิ่งที่ควรทำก่อนการเลือกตั้งนั้นคือ การแก้ปัญหาต่างๆ ที่จำเป็นเร่งด่วนและออกแบบระบบการเมืองการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย ทำให้การเลือกตั้งมีความหมายจริงๆ และทำให้กฎกติกาและการบังคับใช้กฎหมายทั้งหลายเป็นไปอย่างเป็นธรรม เพื่อลดความขัดแย้งและส่งเสริมให้ทุกฝ่ายในสังคมได้มีโอกาสพูดจากัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความปรองดองและแก้ปัญหาบ้านเมืองร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ย่อมเกินความสามารถของ สปช.อย่างที่กำลังจะตั้งกันขึ้นมานี้
@ "พรเพชร"ตีกลับถอด"นิคม-ขุนค้อน"
ที่รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดให้สมาชิก สนช. ที่เพิ่งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มเติมอีกจำนวน 28 คน เข้ารายงานตัว โดยมี สนช.ทยอยเดินทางเข้ามา อาทิ นายแถมสิน รัตนพันธุ์ เข้ารายงานตัวเป็นคนแรก พล.อ.สุนทร ขำคมกุล นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ และ พล.อ.โปฎก บุนนาค
นอกจากนี้ ยังมีการหารือระหว่างนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานคนที่ 1 นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานคนที่ 2 เพื่อพิจารณาประเด็นการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 สำนวน คือ สำนวนถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา และสำนวนถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนถอดถอนมายังวุฒิสภาก่อนเกิดการรัฐประหาร
ภายหลังการหารือ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช.ทำหนังสือเพื่อส่งคืนสำนวนถอดถอนบุคคลทั้งสอง ที่ ป.ป.ช. เคยส่งมายังวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ 2550 ก่อนการรัฐประหาร เพื่อให้ ป.ป.ช.พิจารณาข้อกฎหมายใหม่ เพราะเรื่องที่ส่งมาเป็นสำนวนที่อ้างตามรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งอาศัยบทบัญญัติการถอดถอนตามมาตรา 270 แต่ปัจจุบันไม่มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว และป.ป.ช.จะอ้างกฎหมายใดนั้น ก็เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.จึงเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาให้ครบถ้วน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่า ป.ป.ช.จะยื่นสำนวนกลับมาใหม่ โดยมีสำนวนการถอดถอนอดีต ส.ว.36 คนที่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.โดยมิชอบ และการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวด้วยหรือไม่
นายพีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากส่งสำนวนดังกล่าวกลับไปแล้ว ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบและทำสำนวนใหม่ให้เชื่อมโยงกับกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ โดยต้องเชื่อมโยงกับอำนาจการถอดถอนของ สนช.ด้วย หากทำได้ก็ส่งเรื่องกลับมาให้ สนช.เพื่อดำเนินการถอดถอนต่อไป
@ ป.ป.ช.ถกถอดปู-อดีตส.ว.30ก.ย.
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีการถอดถอนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีอดีต 36 ส.ว. ซึ่งจะส่งเรื่องให้ สนช.พิจารณาว่า ต้องรอความชัดเจนในการประชุม ป.ป.ช.ในวันที่ 30 กันยายน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะส่งเรื่องให้ สนช.เลยหรือไม่ โดย ป.ป.ช.ต้องกลับมาดูรายละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญหรือไม่
@ ยันเปิดบัญชีทรัพย์สินสนช.3 ต.ค.
กรณี สนช.ยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ ป.ป.ช.เพิกถอนมติให้เปิดเผยรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อสาธารณะ นายวิชากล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของสมาชิก สนช.จะยื่นศาลปกครอง เพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐานต่อไป ส่วนข้อโต้แย้งที่สมาชิก สนช.ไปฟ้องศาล เพราะมองว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นควรรอฟังศาลปกครองวันที่ 30 กันยายน ว่าเป็นอย่างไร
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีสมาชิก สนช.ยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง ไม่กระทบต่อการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินที่ ป.ป.ช.กำหนดในวันที่ 3 ตุลาคมนี้แต่อย่างใด เพราะในวันที่ 30 กันยายน ศาลปกครองจะพิจารณาว่ารับคำร้องดังกล่าวหรือไม่ หากรับคำร้องก็คงส่งมาให้ ป.ป.ช.ทำคำให้การแก้คำฟ้องกลับไป
"ดังนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช.ยังดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องแสดงความโปร่งใสในเรื่องของการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน และการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่ ป.ป.ช.ประกาศกำหนด เป็นหลักทั่วไปและสากล แต่หากศาลปกครองมีคำสั่งมาอย่างไร ป.ป.ช.ก็ต้องปฏิบัติตาม" นายสรรเสริญกล่าว
และยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการจัดซื้อไมโครโฟนทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงอยู่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับเรื่อง
@ ชี้ปม"มาร์ค-สุเทพ"ปิดดาวเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. วันที่ 30 กันยายน นอกเหนือจากการพิจารณาคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดี 36 ส.ว.ร่วมกันลงชื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ กรณีที่มาของ ส.ว.แล้ว จะมีการพิจารณาผลสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ซึ่งถูกกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีการออกคำสั่งปิดสถานีดาวเทียม ภายหลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน กทม.และปริมณฑล เมื่อ
วันที่ 7 เมษายน 2553 ทำให้เว็บไซต์ 36 แห่งภายในประเทศและเว็บไซต์ดาวเทียมต่างประเทศ 15 ประเทศใช้งานไม่ได้ และยังระงับการเสนอข่าว หรือรายการทางวิทยุโทรทัศน์ และสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีเพิลแชนเนล ถือเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรองรับ หากที่ประชุม ป.ป.ช.เห็นว่าข้อมูลที่คณะอนุกรรมการไต่สวนส่งมามีความสมบูรณ์เพียงพอแล้ว ก็สามารถพิจารณาชี้มูลความผิดได้ทันที ขณะเดียวกัน ป.ป.ช.ก็จะพิจารณากรณี สนช.ส่งสำนวนคดีของนายสมศักดิ์และนายนิคมในวันดังกล่าวด้วย
@ "รัชตะ"เลื่อนถกคณบดี
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล นัดหารือคณบดีมหาวิทยาลัยมหิดลเกี่ยวกับการนั่งควบทั้ง 2 ตำแหน่ง ซึ่งสภามหาวิทยาลัยมีมติให้เลือกเพียงตำแหน่งเดียว ในวันที่ 30 กันยายน ล่าสุดมีการเลื่อนหารือออกไปไม่มีกำหนด
