- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 11 August 2019 20:05
- Hits: 8390
นายกฯชี้แจงนโยบายรัฐบาลให้ส่วนราชการ,เอ่ยปากขอโทษ รมต.ปมถวายสัตย์ฯ-ขอรับผิดชอบเพียงผู้เดียว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูง โดยมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี อธิบดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บริหารหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงานอิสระ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล เข้าร่วมงานประชุมประมาณ 800 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ป็นการมอบนโยบายเพื่อให้การทำงานเกิดความต่อเนื่อง แก้ปัญหาทุกมิติ ซึ่งรัฐบาลมีทั้งนโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะสั้น และยาว และทุกอย่างต้องสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ขอโทษ ไม่ค่อยสบาย เป็นไข้หวัด แต่ใจเกินร้อย ขอให้ทุกคนใจเกินร้อยไปด้วยกะน พร้อมขอให้ทุกคนช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้นำไปสู่การปฎิบัติ และต้องทำความเข้าใจบนพื้นฐานกฎหมาย สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ วินัยการเงินการคลัง ทั้งหมดอาจมีปัญหาอยู่บ้าง ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประสานงานและแก้ไขปัญหาที่ติดขัด การเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเปลี่ยนไปพร้อมๆกัน ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการกล่าวคำถวายสัตย์ฯ ไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้กังวลว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานได้ พร้อมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว และขอโทษรัฐมนตรี โดยยืนยันทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว
"เรื่องแรกประเด็นสำคัญ ผมขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว นั่นคือเรื่องรัฐธรรมนูญ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมเป็นห่วงอยู่อย่างเดียว ว่าจะทำอย่างไรให้ทำงานได้ ผมก็ขอให้ทุกคนทำงานต่อไป อย่างไรก็ตามก็ต้องไปศึกษาในรัฐธรรมนูญดูว่าเขียนไว้อย่างไร อย่างไรก็ตามยังคงมีรัฐบาลอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็ขอโทษบรรดารัฐมนตรีด้วย เพราะผมถือว่า ผมได้ทำของผมเต็มที่แล้ว"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น มีกฎหมายและกรอบไว้แล้ว ซึ่งตนเองไม่ขัดข้อง แต่ต้องสอบถามประชาชนด้วย ว่าถ้าแก้แล้วได้ประโยชน์อย่างไร ทั้งนี้ในอดีตมีปัญหามามาก วันนี้บ้านเมืองเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตยแล้ว ดังนั้น เรื่องเก่าๆ ขอร้องว่าอะไรควรพูดและไม่ควรพูด ตนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดอยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญของไทยมีมาแล้วหลายฉบับ และมีการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วง ซึ่งรัฐธรรมนูญทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยและเป็นสากล แต่สำคัญที่สุดปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่คือการนำไปสู่การปฎิบัติ ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวผู้ปฎิบัติว่าจะทำอย่างไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ต้องทำด้วยความสุจริต ไม่เอื้อประโยชน์ หรือทำให้เกิดความขัดแย้ง
"วันนี้ได้คนดีๆมาทำงาน ต้องให้ทุกคนพิสูจน์ฝีมือ ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมก็อยากบอกว่าวันนี้ผมมีความสุขในการทำงาน กับคณะรัฐมนตรีทั้งหมดในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้ ไม่ว่าในการประชุม ครม. หรือเยี่ยมเยียนประชาชน ผมเห็นถึงแววตาของทุกท่าน เห็นถึงความตั้งใจในการที่จะทำงานให้กับประชาชนร่วมกับผมอย่างแท้จริง ก็ฝากไปถึงบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน เราต้องคำนึงถึงประเทศชาติ ประชาชนเป็นหลักสำคัญ เรื่องอื่นๆ ก็ให้เป็นเรื่องการเมืองไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
และยังฝากทุกกระทรวงสร้างชุดความรู้ให้ข้าราชการและประชาชน ได้รับทราบถึงแนวปฎิบัติต่างๆ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการเกษตรเรื่องการปลูกพืชเชิงเดี่ยว พร้อมแนะให้จัดสรรพื้นที่เพาะปลูกให้เหมาะสม โดยรัฐบาลจะส่งเสริมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง และเน้นลดต้นทุนเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องที่ดินทำกิน รัฐบาลเร่งดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
ขณะที่เรื่องของระบบภาษีการเงินการคลัง ได้รับทราบมติการลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งได้ให้แนวทางกับรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจว่า จะต้องนำเรื่องการช่วยเหลือภาคเอกชน เพื่อเตรียมการรับมือจากภาวะเศรษฐกิจโลก เข้าหารือใน ครม.เศรษฐกิจต่อไป พร้อมเน้นย้ำเรื่องการเสียภาษี โดยขอให้ทุกคนมีจิตสำนึกเสียภาษีให้ถูกต้อง
นอกจากนั้น การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อการค้าขาย ทำให้ปัจจุบันมีการค้าขายออนไลน์มากขึ้น ส่งผลต่อการค้าปลีก ดังนั้น การค้าขายออนไลน์ก็ควรจะมีการเสียภาษีอย่างเป็นธรรมตามสัดส่วนรายได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎกติกาทั่วไปตามสากล ยืนยันไม่ได้เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะไปรีดภาษีจากใคร
ส่วนที่มีข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลมีเงินคงคลังไม่เพียงพอ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศเข้มแข็ง เงินทุนสำรองอยู่ในระดับสูง แต่รัฐบาลต้องจับตาผลกระทบเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้าว่าจะส่งผลต่อค่าเงินบาทอย่างไร แต่ขณะนี้ค่าเงินบาทของไทยได้รับการยอมรับจากต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยที่สุด เพราะทุกคนมั่นใจในระบบการเงินของเรา
ด้านการท่องเที่ยวและบริการยังคงเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น แข่งขันกับต่างประเทศ เนื่องจากทุกประเทศพยายามสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ พร้อมกันนี้ต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ให้พื้นที่มากขึ้น
ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นเวทีที่จะทำให้ข้าราชการได้พบปะกับคณะรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าคนทุกคนคาดหวังว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ด้วยความสงบเรียบร้อย ซึ่งเรื่องใดก็ตามที่บกพร่อง และมีปัญหาก็ต้องขอโทษ และรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตามประเทศต้องเดินหน้าและรัฐบาลนี้ต้องทำงานให้ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นและตั้งใจไว้ โดยจะไม่ตอบคำถามเรื่องนี้อีกแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส หลายคนสงสัยว่าเป็นอะไร แต่เป็นเพราะมีความสุขที่ได้บรรดาเพื่อนๆ มาทำงานร่วมกัน จะเข้ามาดูแลข้าราชการต่อไปในอนาคต ซึ่งข้าราชการก็ต้องให้ความร่วมมือ และทำงานให้มีประสิทธิภาพ และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจในเจตนารมย์ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณฝ่ายความมั่นคง และ ครม.ฝ่ายเศรษฐกิจ เพราะตนเองไม่ได้เป็นคนเก่งเพียงคนเดียว แต่จะเป็นผู้นำพาให้ทุกคนทำงานให้ได้ ในการบูรณาการการทำงานกัน
"ไม่มีใครทำงานสำเร็จได้เพียงผู้เดียว ไม่มีวีรบุรุษ มีเหมือนกันแต่ส่วนใหญ่ตายไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นกล้าคนเดียวไม่ได้ ต้องไปด้วยกันทั้งหมด"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พรรคฝ่ายค้าน จ่อเลื่อนกระทู้สดปมถวายสัตย์ปฏิญาณตน รอนายกฯมาตอบด้วยตนเอง
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน กล่าวถึงการตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (7 ส.ค.) ถึงการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีไม่ครบตามรัฐธรรมนูญว่า จะรอถามนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่หากนายกรัฐมนตรีไม่มาตอบ ก็จะเลื่อนไปจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีเวลามาตอบด้วยตัวเอง อย่างไรก็ดี ยังไม่คิดจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความสถานะของคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ เดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ กล่าวว่า 7 พรรคฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนการรณรงค์แก้ไขมาตราใด ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะเคลื่อนไหว
ด้านนายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ ประธานคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ภาคประชาชน เข้ายื่นหนังสือพร้อมรายชื่อ 50,000 รายชื่อ ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เนื่องจากเห็นว่ามีเนื้อหาสาระที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยในหลายประเด็น เช่น เรื่องระบบรัฐสภา คณะรัฐมนตรี องค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งในหมวดที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบทเฉพาะกาล ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน มีเจตนาสืบทอดอำนาจจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และสมาชิกวุฒิสภา
โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะแก้ รธน.แต่ต้องรอบคอบและเกิดประโยชน์สูงสุด
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีข้อเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหารและ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งว่า เป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายสามารถแสดงความเห็นได้ โดยพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เน้นย้ำว่า รัฐบาลในฐานะหนึ่งในฝ่ายที่สามารถเสนอแนะความเห็นเพื่อแก้ไขกฎหมายได้ พร้อมรับฟังและนำไปพิจารณา โดยอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและประโยชน์สูงสุด
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารนั้น ตามระเบียบการรับราชการทหาร ปี 2497 มีทั้งระบบคัดเลือกและสมัครใจ และยังให้สิทธิผ่อนผันในกรณีจำเป็นต่าง ๆ เช่น การเลี้ยงดูบิดามารดา บุตร ที่ไม่มีคนดูแลหรือไม่สามารถดูแลตนเองได้ หรืออยู่ระหว่างการศึกษา นอกจากนี้แม้สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปแต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความพร้อมด้านกำลังพลของประเทศ เช่นเดียวกับ 39 ประเทศทั่วโลก ที่ยังคงมีการเกณฑ์ทหาร เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ซึ่งกำลังพลจะได้รับการฝึกฝน อบรมระเบียบวินัย ฝึกหัดการเสียสละและจิตสาธารณะต่าง ๆ สำหรับประเทศไทยยังสนับสนุนให้กำลังพลเข้าสู่การศึกษานอกโรงเรียน ได้ฝึกอบรมอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต บางกรณีมีกำลังพลที่ติดยาเสพติดก็ได้รับการบำบัดและฟื้นฟูจนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เป็นอย่างดี
ส่วนกรณีการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภานั้น มีทั้งจากการแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย และการคัดเลือกกันเองจากสาขาอาชีพต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ได้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญทุกเรื่อง ทั้งการเมือง ความมั่นคง กฎหมาย เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข ฯลฯ รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกด้วย
อินโฟเควสท์