WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8705 ข่าวสดรายวัน


ยื่นเบรกสปช. ชะลอเปิดชื่อ 
ตั้งเพิ่ม 28 สนช. ทหารพรึบอีก 17 'ทส.ป๋า-ลูกจ๊อด'

         อดีตส.ว.ยโสธร ยื่นศาลปกครองสั่งชะลอประกาศรายชื่อสปช.จังหวัดที่มีปัญหา สงสัยล็อกสเป๊ก เพื่อไทยจี้คสช.ชี้แจงเหตุผลหลังประกาศรายชื่อ ปชป.บอกมียี้ "บิ๊กตู่"เสียเครดิตเอง โปรดเกล้าฯแต่งตั้งสนช.ใหม่ 28 ราย นายทหารพรึบอีก ทส.ป๋าเปรม ลูกบิ๊กจ๊อด ร่วมด้วย"บัญญัติ จันทน์เสนะ" "พีระศักดิ์"ยันข้อบังคับสนช. ไม่มีการรับใบสั่งมาถอดถอนใคร ศาลปกครองนัดอ่านคำสั่ง 30 ก.ย. หลัง 28 สนช.ร้องค้านมติป.ป.ช.ให้โชว์ทรัพย์สิน เครือข่ายชาวนาจี้รัฐบาลจ่ายชดเชย ถ้าข้าวต่ำกว่าตันละ 1 หมื่น

แต่งตั้งเพิ่ม 28 สนช.

        วันที่ 27 ก.ย. ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติม อีก 28 คน ประกอบด้วย 1.นายโกศล เพ็ชร์ สุวรรณ์ 2.พล.ท.จเรศักดิ์ อานุภาพ 3.นางจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร 4.นายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล 5.นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 

      6.พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ 7.พล.อ.ดนัย มีชูเวท 8.นายแถมสิน รัตนพันธุ์ 9.พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ 10.นายบัญญัติ จันทน์เสนะ 11. นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ 12.พล.อ.โปฎก บุนนาค 13.พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ 14.พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ 15.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ 16.พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม 17.พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ 18.พล.อ.วินัย สร้างสุขดี 19.นายวรพล โสคติยานุรักษ์ 20.พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ 

21.พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง 22.พล.อ.สุนทร ขำคมกุล 23.นางสุรางคณา วายุภาพ 24.นายอนุมัติ อาหมัด 25.พล.ต. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ 26 พล.อ.อรุณ สมตน 27.พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ 28.พล.อ. อุทิศ สุนทร ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. เป็นต้นไป

       ทั้งนี้ ในจำนวน 28 รายนี้ มีนายทหารจำนวน 17 นาย โดย พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผบ.มทบ.14 ว่าที่ผบ.พล.9 เป็นนายทหารติดตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ขณะที่ พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นว่าที่แม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 เป็นว่าที่รองแม่ทัพภาคที่ 1 ส่วน พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ เป็นหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม 

รวมยอดมี 220 คน 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการแต่งตั้งสมาชิกสนช. ไปแล้ว 200 คน ปรากฏว่า พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ยื่นหนังสือขอไม่รับตำแหน่ง พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ยื่นหนังสือลาออกเนื่องจากพบว่ามีปัญหาการขาดคุณสมบัติ จากนั้นมี สนช.ลาออกเพิ่มเติมอีก 5 คน เพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ และพล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ส่งผลให้เหลือสนช.ปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้น 192 คน 

      กระทั่งล่าสุดมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง สนช.เพิ่มอีก 28 คน ทำให้ขณะนี้มีสนช.ทั้งสิ้น 220 คน ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดไว้

      วันเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสนช. ออกประกาศสำนักงานฯว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งสนช. เพิ่มเติม 28 คนนั้นสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ สนช. ได้เปิดให้สมาชิกสนช.ดังกล่าวเข้ามารายงานตัวได้ ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 โดยให้เตรียมเอกสารสำคัญพร้อมรูปถ่าย มาด้วย

ยันไม่รับใบสั่งถอดถอนใคร 

      นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างข้อบังคับการประชุมสนช. กล่าวว่า อยากให้สังคมเข้าใจว่าร่างข้อบังคับฯ ที่ออกมา ไม่ได้กลั่นแกล้งนักการเมืองตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นแค่กระบวนการพิจารณาประกอบการถอดถอนเท่านั้น อีกทั้งต้องดูกฎหมายอื่นๆ ประกอบด้วยจำนวนมาก เรื่องถอดถอนที่ค้างอยู่คือกรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เรื่องที่มาส.ว. ส่วนการถอดถอนอดีต ส.ว. 36 คน ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. และถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น ค้างอยู่ที่ป.ป.ช. ยังไม่ส่งมายัง สนช. 

      นายพีระศักดิ์ กล่าว่า อยากให้สังคมมั่นใจ สบายใจได้ และตนขอการันตีว่า สนช.จะทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีการรับใบสั่งอะไรอยู่แล้ว อีกทั้งถ้ากฎหมายไม่ให้ทำก็ไม่ทำ แต่มั่นใจว่าหากถอดถอนเรื่องทุจริต สนช.ดำเนินการได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เรื่องกระทำการขัดรัฐธรรมนูญต้องถกเถียงกันอีกครั้งว่ามีอำนาจหรือไม่ การถอดถอนถ้ามีความผิดจริงก็ไม่กลั่นแกล้งอยู่แล้ว พราะกฎหมายให้อำนาจลงโทษได้ ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับการปรองดอง แต่ถ้าเราไม่ทำก็จะทำให้การปรองดองไม่เกิดขึ้น และแม้มีความผิดแล้ว กฎหมายให้อำนาจแต่ถ้าเราไม่ทำก็จะผิด เองด้วย

อดีตส.ว.โวยล็อกสเป๊กสปช.

      นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ อดีตส.ว.ยโสธร ผู้เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เตรียมนำรายชื่อสปช.ทั้ง 250 คนที่ผ่านการคัดเลือกขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ว่า ส่วนตัวไม่ติดใจการสรรหาสปช.ใน 11 ด้าน แต่ขอตั้งข้อสังเกตการคัดเลือกสปช.ระดับจังหวัด จำนวน 77 คน เหตุใดจึงคัดเลือกกันรวดเร็วมาก ทั้งที่จังหวัดเพิ่งส่งรายชื่อสปช.ระดับจังหวัด 385 คน ให้คสช.ไปเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน ประชุมเพียงแค่ครั้งเดียว 2 ชั่วโมง ก็คัดเลือกตัวแทนสปช.ระดับจังหวัดเหลือ 77 คนได้แล้ว ไม่รู้ว่ามีการตรวจสอบคุณสมบัติกันหรือไม่ เหมือนส่อเจตนาพิรุธว่ามีการล็อกสเป๊ก วางตัวบุคคลไว้ล่วงหน้าแล้วตามที่มีการ กล่าวหากัน เพื่อให้คนของตัวเองได้เป็นสปช. 

       นายยุทธนา กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่ามีการล็อกสเป๊กจริง เพราะหลายคนรู้ตัวล่วงหน้าว่าได้เป็นสปช. และเลี้ยงฉลองล่วงหน้าไปแล้ว เชื่อว่าผู้ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เรียนอยู่ในหลักสูตรวปอ. ทำให้มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในกองทัพที่มาเรียนหลักสูตรดังกล่าวเช่นกัน จึงอยากให้ประธานคสช.ใช้ระบบคุณธรรมคัดเลือกมากกว่าใช้ระบบอุปถัมภ์ การดำเนินการของสปช.ต้องเดินตามกรอบที่คสช.วางธงไว้ในใจ จึงต้องเอาคนของตัวเองเข้าไป เพื่อจะได้สั่งหรือชี้นำได้ เป็นการล็อกเอาคนของตัวเองเข้าไป เพื่อให้ทำงานง่ายแทนที่จะเอาคนจากทุกภาคส่วนเข้าไป กระบวนการคัดเลือกครั้งนี้จึงเป็นเพียงพิธีกรรมเพื่อสร้างความชอบธรรมเท่านั้น 

ยื่นร้องศาลปกครอง 

      นายยุทธนากล่าวว่า วันที่ 29 ก.ย. ตนจะไปยื่นฟ้องศาลปกครอง ขอให้ออกคำสั่งคุ้มครองชะลอการประกาศรายชื่อสปช. ในจังหวัดที่มีปัญหาไว้ก่อน เพราะที่ผ่านมาหลายจังหวัด เช่น ยโสธร สุรินทร์ และพังงา เกิดปัญหาในการคัดเลือกมีข้อครหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ล็อกสเป๊กตั้งคนของตัวเองเข้ามา การให้ชะลอการประกาศรายชื่อสปช.จังหวัดไว้ก่อน สามารถทำได้ เพราะการประกาศรายชื่อสปช.ไม่จำเป็นต้องประกาศครบทีเดียวทั้ง 250 คน สามารถทยอยประกาศในส่วนที่ไม่มีปัญหาไปก่อนได้ ยืนยันการออกมาทักท้วงครั้งนี้ ไม่ได้ผิดหวังจากการ ไม่ได้เป็นสปช.จังหวัด แต่อยากให้มีการคัดเลือกสปช.อย่างเป็นธรรม 

       "ผมไม่อยากให้ซ้ำรอยเหมือนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 51 ที่ส่งคนลงพื้นที่ไปรับฟังความเห็นประชาชน แต่กลับไม่ทำตาม เจตนารมณ์จริงๆ ของประชาชน เพราะกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ ไปยกร่างตามธงที่มีอยู่แล้วในใจ จึงไม่อยากให้กระบวนการคัดเลือกครั้งนี้เป็นแค่ภาพลวงตา สร้างความชอบธรรม หลอกๆ ว่า รับฟังความเห็นของประชาชน แต่ความจริงมีธงอยู่แล้วในใจ" นายยุทธนากล่าว

กม.เขียนชัดเป็นอำนาจคสช. 

       นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ อดีตรองประธานวุฒิสภา ในฐานะผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.สุรินทร์ กล่าวถึง คสช.พิจารณาคัดเลือก สปช. เสร็จสิ้นแล้วว่า ไม่ทราบว่าใครได้หรือไม่ได้บ้าง โดยเฉพาะผู้สมัครจากจังหวัดต่างๆ ที่มีการปกปิดรายชื่อเป็นความลับ ไม่เปิดเผยตั้งแต่ต้น ทั้งที่ควรเปิดเพื่อจะได้ช่วยกันตรวจสอบได้ว่าเป็นน่าพึงพอใจของประชาชนในจังหวัดหรือไม่ เพราะงานนี้มีความสำคัญเป็นงานหลักของคณะปฏิวัติ ส่วนการยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ระงับกระบวนการสรรหานั้น ตนคงไม่ดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจากกฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นสิทธิของ คสช. ที่จะเลือกใครก็ได้ แต่ที่ผ่านมาก็เป็นการตักเตือนขั้นตอนการสรรหาเท่านั้น และถือว่าขณะนี้เรื่องดังกล่าวจบลงแล้ว ส่วนผู้ที่ได้รับการสรรหาเป็น สปช. เมื่อเข้าไปแล้วก็มีงานหนักรออยู่ ทั้งการปฏิรูปและการร่างรัฐธรรมนูญ 

        ด้าน นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. กล่าวว่าการร้องศาลปกครองเพื่อให้ระงับกระบวนการสรรหา สปช. เนื่องจากไม่โปร่งใสนั้นคงไม่สามารถทำได้ และไม่แน่ใจว่าจะมีอำนาจยื่นเรื่องร้องเรียนได้หรือไม่ เพราะไม่รู้จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าไม่โปร่งใส แต่หลังจากนี้คงเป็นเรื่องทางปกครองของ คสช. ที่จะตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียนว่าจังหวัดใดบ้างที่กระบวนการคัดเลือกไม่โปร่งใส คิดว่าการสรรหาปัญหาต่างๆ จบแล้ว 

กกต.โยนคสช.แก้ปัญหา 

        ที่โรงแรมอะเดรียติค พาเลซ กรุงเทพฯ นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า เมื่อคสช.คัดเลือกสมาชิก สปช.ครบทั้ง 250 คนแล้ว กระบวนการทุกอย่างของการสรรหาสปช.ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น กกต.ในฐานะที่เป็นฝ่ายเลขานุการจึงถือว่าสิ้นสุดภารกิจแล้ว การปฏิบัติงานเป็นที่น่าพอใจ ส่วนที่มีผู้สมัครในระดับจังหวัดร้องเรียนว่ามีการล็อกสเป๊กในบางจังหวัดนั้น ตามกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจหน้าที่กกต.พิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ของกระบวนการสรรหา และหากมีสมาชิก สปช.ที่ได้รับการคัดเลือกแล้วลาออกทำให้ตำแหน่งว่างลง กระบวนการสรรหาใหม่ตามกฎหมายได้ให้อำนาจโดยตรงกับคสช. อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาถือว่ากกต.ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว 

พท.จี้แจงเหตุผลคัดเลือก 

        นายอำนวย คลังผา สมาชิกพรรคเพื่อไทย อดีตกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีคสช.สรุปรายชื่อสมาชิก สปช. 250 คนเสร็จแล้วและเตรียมทูลเกล้าทูลกระหม่อมว่า ที่ผ่านมาเกิดประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การสรรหารายชื่อ เนื่องจากไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ บางจังหวัดเกิดการร้องเรียนว่าอาจมีการล็อกสเป๊กเกิดขึ้น ตนจึงเสนอให้คสช.เปิดเผยรายละเอียดทั้งเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการพิจารณาและเหตุผลในการเลือกบุคคลในส่วนของจังหวัดที่เสนอ 5 รายชื่อมาให้คสช.เลือกเพียง 1 รายชื่อ เพื่อให้ประชาชนคลายความสงสัยและเป็นที่ยอมรับของสังคม และสอดคล้องกับที่คสช.ระบุว่าขั้นตอนทุกอย่างดำเนินการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม พิจารณาจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ไม่ไม่ล็อกสเป๊กตัวบุคคลอย่างที่มีข้อสงสัย

       นายอำนวย กล่าวว่า เชื่อว่าคสช.มีวิธีสรรหารายชื่อบุคคลจากจุดเด่นและความรู้เฉพาะด้าน เช่น เรื่องสังคมหรือกฎหมาย ให้เข้ามาทำหน้าที่สำคัญคือการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่ที่สังคมติดใจคือที่ผ่านมาการพิจารณาเป็นความลับจนเกิดข้อสงสัยว่าล็อกสเป๊กหรือไม่ ดังนั้นเมื่อประกาศรายชื่อออกมาแล้ว คสช.ก็ควรชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกบุคคล 77 คนจาก 77 จังหวัด รวมทั้งด้านต่างๆ 11 ด้านว่าเพราะอะไรถึงเลือกบุคคลนั้นมาทำหน้าที่ เช่น จ.ลพบุรี ทำไมจึงเลือกนาย ก. มาทำหน้าที่เพราะอะไร เป็นต้น

ปชป.ชี้มียี้"บิ๊กตู่"เสียเครดิต 

ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จนถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันมาแล้วว่าจะไม่มีการเปิดรายชื่อ สปช. เพราะฉะนั้นจึงต้องรอดูชื่อหลังจากที่มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รายชื่อทั้งหมดลงมา หากรายชื่อเป็นไปในทางที่ดี สังคมยอมรับและมีความหลากหลาย ก็จะเป็นเครดิตที่ดีให้กับตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง ในทางกลับกันหากรายชื่อสปช.ออกมาเป็นไปในทิศทางที่ยี้ คือเปิดชื่อออกมาแล้วยี้หลายๆ คน คสช.อาจจะเหนื่อย เพราะเรื่องนี้สังคมกำลังจับตามอง 

        นายวิรัตน์ กล่าวว่า ที่สำคัญเรื่องของ สปช.ทั้ง 11 ด้าน ที่อาจเข้ามาทำงานแล้วไม่ตรงกับด้านที่สมัครมา พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าอย่าห่วงว่าเข้ามาแล้วจะทำงานไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจที่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ แต่ ผู้มีอำนาจจะมีคำอธิบายเรื่องให้ถึงสาเหตุที่ชัดเจนได้อย่างไร เพราะแต่ละด้านมีผู้มาสมัครครบ แต่พอคัดเลือกแล้วกลับไม่ครบ ตรงนี้อาจมีการประสานไม่ลงตัวกันหรือไม่ ผู้มีอำนาจจะต้องชี้แจงได้

โพล 4 เดือนคสช.-คนยังพอใจ 

        สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน ดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,626 คน ระหว่างวันที่ 22-26 ก.ย. 2557 ถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อ คสช. ในการบริหารประเทศครบ 4 เดือน อันดับ 1 ค่อนข้างพึงพอใจ ร้อยละ 52.64 เพราะมีความพยายามแก้ไขปัญหาทุกๆ ด้าน บริหารประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง อันดับ 2 พึงพอใจมาก ร้อยละ 38.93 เพราะสถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยมากขึ้น ไม่มีการชุมนุมเรียกร้อง การทำงานตรวจสอบได้ อันดับ 3 ไม่ค่อยพึงพอใจ ร้อยละ 6.09 เพราะประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อน อันดับ 4 ไม่พึงพอใจเลย ร้อยละ 2.34 เพราะการบริหารงานเป็นแบบรวบอำนาจมากเกินไป เปรียบเทียบคะแนนที่ประชาชนให้ คสช.ครบ 1 เดือน 8.82 คะแนน ครบ 2 เดือน 8.87 คะแนน ครบ 3 เดือน 8.80 คะแนน ครบ 4 เดือน ได้ 8.57 คะแนน

28 สนช.ร้องศาลปค.-ค้านโชว์บัญชี 

        ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลปกครองว่า วันอังคารที่ 30 ก.ย.นี้ เวลา 14.45 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 2 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ 1430/2557 คดีหมายเลขแดงที่ 1397/2557 ระหว่างพล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ 1 กับพวกรวม 28 คน กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

       คดีนี้ พล.อ.นพดล อินทปัญญา กับพวกรวม 28 คน ฟ้องว่าคณะกรรมการป.ป.ช. มีมติตามหนังสือที่ ปช 0008/0147 ลว.14 ส.ค. 2557 และหนังสือที่ ปช 0008/0171 ลว.27 ส.ค. 2557 ให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิก สนช. ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้ถูกฟ้องคดี และให้ประกาศเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ฟ้องคดีเห็นว่าสมาชิกสนช.มิได้มีฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่มีหน้าที่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชนเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหายจึงขอให้เพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าว

ปปช.รอดูศาลสั่งทุเลาหรือไม่ 

       พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา คสช. และสมาชิก สนช. กล่าวว่า ที่ยื่นศาลปกครองเพียงต้องการทราบว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือไม่เท่านั้น ไม่ได้ต้องการที่จะให้ป.ป.ช.ยุติการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน ตนบริสุทธิ์ใจและยื่นรายการบัญชีทรัพย์-หนี้สินไปนานแล้วและไม่มีปัญหาใดๆ ในเรื่องนี้ นอกจากนี้การที่มีชื่อตนเป็นผู้ฟ้องเนื่องจากตนลงชื่อเป็นคนสุดท้าย จึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำส่งฟ้องเท่านั้น

       นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ฟ้อง เพราะมติของป.ป.ช. ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง โดยผู้ฟ้องเห็นว่า สนช.ไม่ใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ป.ป.ช.มองว่า สนช.ทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภา ดังนั้น จึงถือเป็น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อีกทั้งสนช.เมื่อปี 2550 ก็ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. พร้อมมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ส่วนผลสรุปจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับคำพิพากษาของศาลปกครอง นอกจากนี้ป.ป.ช. จะต้องดูว่า ในคำร้องมีการขอให้ศาลปกครองทุเลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะหรือไม่ เพราะหากศาลปกครองมีคำสั่งให้ทุเลา สำนักงานป.ป.ช.มีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนเวลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 3 ต.ค.นี้ออกไปก่อน เพราะทุกองค์กรต้องปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาล

ชาวนาชี้ข้าวต้องตันละหมื่น 

      นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวกรณีนายกฯ ระบุจะให้ราคาข้าวอยู่ที่ 8.5 พันตันต่อตัน ว่า ในการประชุมร่วมกับคณะทำงานประสานงานข้าว ที่มีนางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) เป็นประธาน ตัวแทนชาวนาที่เข้าร่วมประชุมเห็นตรงกันให้รัฐบาลกำหนดราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15 % ที่ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิยกระดับราคามาที่ 16,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือก เหนียว เมล็ดยาว ตันละ 13,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดสั้นตันละ 11,000 บาท และข้าวเปลือกหอมปทุม ราคา 11,000 บาทต่อตัน เพื่อให้ข้าวที่ชาวนาขายอยู่ในระดับที่คุ้มกับต้นทุน 

      นายระวี กล่าวว่า หากไม่ได้ตามราคา ดังกล่าว ก็อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือปัจจัยการผลิตโดยจ่ายเป็นเงินโดยตรงให้เกษตรกร โดยแจ้งว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 บาทต่อไร่ และผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยมีต่ำกว่า 700 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ช่วยเหลือชาวนาที่มีเนื้อที่เพาะปลูกไม่เกิน 40 ไร่ต่อครัวเรือน

        นางจินตนา ชัยยวรรณาการ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวว่า การช่วยเหลือชาวนายุคนี้ยืนยันจะไม่มีการให้เงินสด เพราะไม่มีเงินมากมายที่จะนำไปแจกให้ แต่จะใช้การลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้ชาวนาเหลือกำไรในการทำนามากขึ้น โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยในรูปแบบต่างๆ เช่น ลดดอกเบี้ยเงินกู้ การดูแลค่ารถเกี่ยวข้าว ค่าปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เป็นต้น และการที่ไม่นำเงินไปแจกก็เพื่อป้องกันการทุจริตที่จะเกิดขึ้น 

โปรดเกล้าฯผู้ว่า-กรรมการคตง.

       นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เผยว่า ขณะนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายปิยพันธุ์ นิมมานเหมินท์ นางอุไร ร่มโพธิหยก นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม นายสุทธิพล ทวีชัยการ นางจิรพร มีหลีสวัสดิ์ นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร และนายวิทยา อาคมพิทักษ์ ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการวันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้ทันทีในเวลา 10.00 น. จากนั้นเวลา 14.00 น.จะจัดให้มีพิธีรับพระบรมราชโองการ ที่ห้องดำริอิศรานุวรรษ สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 

 

 

 

บิ๊กตู่เสริมทัพครบ 220 คน ตั้ง 28 สนช. 17 ทหาร-พี่โหรวารินทร์ พล.ต.อภิรัชต์-ทส.ป๋า เร่งทูลเกล้า'250 สปช.' ศาลปค.ชี้อำนาจปปช.

 

      สนช.ครบ 220 คน โปรดเกล้าฯแต่งตั้งเพิ่มอีก 28 เป็นทหาร 17 คน มีชื่อ'อภิรัชต์-เทพพงศ์-ณัฐ'ด้วย

 

@ โปรดเกล้าฯตั้งสนช.เพิ่ม 28 คน

 

       เมื่อวันที่ 27 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษาว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติม ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 จำนวน 28 คน ดังต่อไปนี้ 1.นายโกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ 2.พล.ท.จเรศักดิ์ อานุภาพ 3.นางจินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร 4.นายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล 5.นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล 6.พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ 7.พล.อ.ดนัย มีชูเวท 8.นายแถมสิน รัตนพันธุ์ 9.พล.ต.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ 10.นายบัญญัติ จันทน์เสนะ 11.นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ 12.พล.อ.โปฎก บุนนาค 13.พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต 

 

       14.พล.ท.พิศณุ พุทธวงศ์ 15.นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ 16.พล.อ.ยุทธศิลป์ โดยชื่นงาม 17.พล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ 18.พล.อ.วินัย สร้างสุขดี 19.นายวรพล โสคติยานุรักษ์ 20.พล.อ.ศุภวุฒิ อุตมะ 21.พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง 22.พล.อ.สุนทร ขําคมกุล 23.นางสุรางคณา วายุภาพ 24.นายอนุมัติ อาหมัด 25.พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ 26.พล.อ.อรุณ สมตน 27.พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ 28.พล.อ.อุทิศ สุนทร ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พุทธศักราช 2557 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.

 

@ "พี่โหรคมช.-ผู้ช่วยสุเทพ"ติดโผ

 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ สนช.ที่เป็นพลเรือน อาทิ นายโกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ นายบัญญัติ จันทน์เสนะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ฯ นายฉัตรชัย ปิยะสมบัติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ปี 2553 นายปรีชา บัววิรัตน์เลิศ พี่ชาย นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหร คมช. นางสุรางคณา วายุภาพ ผอ.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) นายอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว.นายวรพล โสคติยานุรักษ์ ประธาน ก.ล.ต. นายแถมสิน รัตนพันธุ์ คอลัมนิสต์ นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ อดีต ส.ว.

 

@ ครบ 220 คนตามรธน.ชั่วคราว

 

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิก สนช.เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวน 200 คน แต่มีสมาชิก สนช.ขอลาออกไม่ขอรับตำแหน่ง 1 คน และขาดคุณสมบัติ 2 คน รวมถึงมีการลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี 5 คน ทำให้มีจำนวนสมาชิก สนช.เหลือ 192 คน เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่ม 28 คน ทำให้มีสมาชิก สนช. ครบ 220 คน ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 6 กำหนดไว้

 

       ข่าวแจ้งว่า นายสิทธิพร สท้านไตรภพ รองเลขาธิการวุฒิสภา รักษาราชการแทนเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช.ได้ออกประกาศสำนักงานฯว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิก สนช.เพิ่มเติม จำนวน 28 คน นั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ สนช. ได้เปิดให้สมาชิก สนช.ดังกล่าวเข้ามารายงานตัวได้ ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคมนี้ เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 โดยให้เตรียมเอกสารสำคัญและรูปถ่ายมาด้วย

 

@ "บิ๊กตู่"นัดอำลาทหารทัพภาค 4

 

      รายงานข่าวแจ้งว่าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีกำหนดการเดินทางไปอำลาชีวิตราชการทหารกับกำลังพลทหารกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 อ.เมืองนครศรีธรรมราช ในวันที่ 28 กันยายน เวลา 10.00 น. โดยกำหนดพิธีบวงสรวงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในค่ายวชิราวุธ ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ 4 มีคำสั่งให้มีปรับปรุงตกแต่งสถานที่เพื่อต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ห้ามขึ้นป้ายต้อนรับ เพื่อสนองนโยบายที่ไม่ต้องการให้มีการขึ้นป้ายต้อนรับ

 

กกต.ชี้สรรหาสปช.สิ้นสุด

 

       นายประวิช รัตนเพียร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า เมื่อ คสช.คัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ครบทั้ง 250 คนแล้ว 

 

       ถือว่า กระบวนการทุกอย่างของการสรรหา สปช.ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น กกต.ในฐานะที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาจึงถือว่าสิ้นสุดภารกิจแล้ว และการปฏิบัติงานตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ 

 

     ที่มีผู้เสนอชื่อเข้ารับการสรรหาในระดับจังหวัดมีการร้องเรียนว่า กระบวนการสรรหามีการล็อกสเปกในบางจังหวัดนั้น ตามกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจหน้าที่ กกต.ในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นอำนาจของทาง คสช.ที่จะทำหน้าที่พิจารณา อย่างไรก็ตาม หากมีสมาชิก สปช.ที่ได้รับการคัดเลือกแล้วลาออกทำให้ตำแหน่งว่างลง กระบวนการสรรหาใหม่ตามกฎหมายได้ให้อำนาจโดยตรงกับ คสช.ไว้? นายประวิชกล่าว

 

@ ทูลเกล้าฯ 27-28 ก.ย.นี้

 

      แหล่งข่าวจาก คสช.ระดับสูง เปิดเผยว่า ขณะนี้รายชื่อสมาชิก สปช.ทั้ง 250 คน ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและการคัดเลือกจาก พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.เรียบร้อยแล้ว โดยรอเพียงขั้นตอนการทูลเกล้าฯเท่านั้น อาจจะเป็นในช่วงวันที่ 27-28 กันยายนนี้ ซึ่งจะเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่วางไว้ว่าจะมีสมาชิก สปช. ภายในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ อยากให้มั่นใจเมื่อเปิดชื่อสมาชิก สปช.จะพบว่า เป็นคนที่สังคมยอมรับอย่างแน่นอน 

 

@ "เพื่อไทย"หนุนปิดชื่อไว้ก่อน

 

       นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการไม่เปิดเผยชื่อสมาชิก สปช. ทั้ง 250 คน ว่า โดยหลักการก็ไม่ควรเปิดเผยก่อนอยู่แล้ว เพราะรายชื่อเหล่านี้ต้องนำยื่นทูลเกล้าฯ จะมาเปิดเผยก่อนก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว ซึ่งเห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องนี้ อีกทั้งเป็นอำนาจของทาง คสช.ที่เป็นผู้เลือก

 

นายเรืองไกรกล่าวถึงกระแสข่าวการล็อกสเปก สปช.ว่า คนที่ออกมาพูดอาจจะกลัวว่าจะไม่ได้รับการสรรหาเป็น สปช.หรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่อย่างไรก็ตาม พท.ไม่ได้ส่งใครเข้าสรรหา สปช.อยู่แล้ว คงเฉยๆ ไม่มีปัญหาอะไร ขอเฝ้าดูรัฐบาลทำงานบริหารบ้านเมือง และขอให้มีผลงานออกมาตอบโจทย์ประชาชน มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรในที่สุด

 

@ ปชป.ชี้ไม่ยี้"บิ๊กตู่"ได้รับคำชม

 

       นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าคณะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ต้องรอดูชื่อหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา หากรายชื่อเป็นไปในทางที่ดี สังคมยอมรับและมีความหลากหลาย ก็จะเป็นเครดิตที่ดีให้กับตัว พล.อ.ประยุทธ์ ในทางกลับกันหากรายชื่อ สปช.ออกมาเป็นไปในทิศทางที่ยี้ คือเปิดชื่อออกมาแล้วยี้หลายๆ คน คสช.อาจจะเหนื่อย เพราะเรื่องนี้สังคมกำลังจับตามอง 

 

       นายวิรัตน์ กล่าวว่า ที่สำคัญเรื่องของ สปช.ทั้ง 11 ด้าน ที่อาจเข้ามาทำงานแล้วไม่ตรงกับด้านที่สมัครมา พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า อย่าห่วงว่าเข้ามาแล้วจะทำงานไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจที่ต้องทำตามรัฐธรรมนูญ แต่ผู้มีอำนาจจะมีคำอธิบายเรื่องให้ถึงสาเหตุที่ชัดเจนได้อย่างไร เพราะแต่ละด้านมีผู้มาสมัครครบ แต่พอคัดเลือกแล้วกลับไม่ครบ ตรงนี้อาจมีการประสานไม่ลงตัวกันหรือไม่ อย่างไร ซึ่งผู้มีอำนาจจะต้องชี้แจงได้

 

@ สนช.ยันมีอำนาจเรียกขรก.

 

      นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และโฆษกคณะกรรมาธิการสามัญกิจการ สนช. (วิป สนช.) ชั่วคราว เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการสามัญที่กำลังตั้งขึ้นตามข้อบังคับการประชุม สนช.ฉบับใหม่ จะมีอำนาจในการใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ทุกประการ แม้ว่าชื่อตัวกฎหมายจะไม่ได้มีคำว่า สนช.ก็ตาม เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวบัญญัติให้ สนช.ทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา หมายความว่าคณะกรรมาธิการของ สนช.จะมีอำนาจในการเชิญตัวแทนจากส่วนราชการเพื่อมาให้ข้อมูลและร่วมมือทำงานกับคณะกรรมาธิการ 

 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พร.บ.คำสั่งเรียกฯ กำหนดให้คณะกรรมาธิการสามารถส่งหนังสือเชิญให้บุคคลมาแถลงและชี้แจงข้อเท็จจริง โดยหากบุคคลใดไม่ให้ความร่วมมือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ให้ถือว่าเป็นความผิดทางวินัยด้วย

 

@ ไม่เร่งพิจารณาคดีถอดถอน 

 

นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช. กล่าวว่า แม้ว่าข้อบังคับการประชุม สนช.ในส่วนของการถอดถอนบุคคลจะมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ สนช.ยังไม่มีแนวความคิดว่า จะนำคดีการถอดถอนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งมาให้มาพิจารณาทันที เพราะมีข้อกฎหมายบางประการที่ต้องพิจารณาให้เกิดความรอบคอบก่อน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. จะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง

 

        แหล่งข่าวจาก สนช. เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ได้ส่งคดีถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ในข้อหาแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มา ส.ว.โดยมิชอบ มายังวุฒิสภาแล้ว ก่อนที่จะมีการรัฐประหารและแต่งตั้ง สนช. แต่ สนช.จะรอให้การดำเนินการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 16 คณะให้แล้วเสร็จก่อน พร้อมกับดูท่าทีของ ป.ป.ช.อีกครั้งว่ายังยืนยันว่าคดีดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือไม่ หรือเป็นเพียงความผิดฐานจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เพียงอย่างเดียว หาก ป.ป.ช.ยืนยันที่จะส่งคดีถอดถอนมาให้ สนช.ทางวิป สนช.คงจะทำเรื่องปรึกษากับประธาน สนช.ต่อไป

 

@ "พีระศักดิ์"ย้ำไม่กลั่นแกล้งใคร 

 

      นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช. กล่าวว่า การมีข้อบังคับโดยระบุเรื่องการถอดถอนไว้นั้น ไม่ได้หมายความว่า สนช.จะพิจารณาถอดถอนได้ทุกเรื่อง เพราะทุกเรื่องต้องเข้าสู่ที่ประชุม สนช. และต้องได้รับเสียงข้างมาก 3 ใน 5 ของที่ประชุมจึงจะมีอำนาจถอดถอนได้ อยากให้สังคมเข้าใจว่า ร่างข้อบังคับฯ ที่ออกมาไม่ได้กลั่นแกล้งนักการเมืองตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นแค่กระบวนการพิจารณาประกอบการถอดถอนเท่านั้น อีกทั้งต้องดูกฎหมายอื่นๆ ประกอบด้วยจำนวนมาก

 

     อยากให้สังคมมั่นใจสบายใจได้ และผมขอการันตีว่า สนช.จะทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีการรับใบสั่งอะไรอยู่แล้ว มั่นใจว่า หากถอดถอน เรื่องทุจริต สนช.ดำเนินการได้ 100% แต่เรื่องกระทำการขัดรัฐธรรมนูญต้องถกเถียงกันอีกครั้งว่ามีอำนาจหรือไม่? นายพีระศักดิ์กล่าว 

 

@ รอป.ป.ช.ส่งคดี"จำนำข้าว"

 

      นายพีระศักดิ์กล่าวว่า เรื่องถอดถอนที่ค้างอยู่ที่เลขาวุฒิสภานั้น คือกรณีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เรื่องที่มา ส.ว.ซึ่งตรงนี้ทางเลขาวุฒิสภาอาจต้องดูว่า จะส่งให้ประธาน สนช.เพื่อนำไปพิจารณาหรือส่งกลับไปยัง ป.ป.ช.ก่อน เพื่อให้ ป.ป.ช.ส่งกลับมาใหม่ 

 

       นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการถอดถอนอดีต ส.ว. 36 คน ที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว. และถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนั้น ค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. ยังไม่ส่งมายัง สนช. โดยหากทาง ป.ป.ช.ส่งมาเลขาวุฒิสภา

 

ต้องดูว่ามีอำนาจพิจารณาหรือไม่ โดยมีระยะเวลาพิจารณา 30 วัน แต่เท่าที่ดูนั้นในส่วนความผิดเกี่ยวกับการทุจริตในหน้าที่ ทาง สนช.มีอำนาจในการพิจารณา ส่วนความผิดเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.นั้น อาจต้องพิจารณากันอีกรอบเพราะรัฐธรรมนูญดังกล่าวถูกฉีกไปแล้ว 

 

@ สนช.ย่องฟ้องปมโชว์ทรัพย์

 

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 กันยายนนี้ เวลา 14.45 น. ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา คสช. และสมาชิก สนช. ร่วมกับ สนช.รวม 28 คน ยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ว่า ไม่มีอำนาจให้ สนช.ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจาก สนช.มิได้มีฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่มีหน้าที่ต้องยื่นและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณชน

 

     พล.อ.นพดลกล่าวว่า ที่ลงชื่อยื่นฟ้องนั้น เพียงต้องการทราบว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือไม่เท่านั้น ทั้งนี้ ตนบริสุทธิ์ใจ และยื่นรายการบัญชีทรัพย์หนี้สินไปนานแล้ว

 

      นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า ป.ป.ช.มองว่า สนช.ทำหน้าที่ ส.ว. ดังนั้นจึงถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อีกทั้ง สนช.เมื่อปี 2550 ก็ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. พร้อมมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับคำพิพากษาของศาลปกครอง

 

@ "รัชตะ"เรียกถกคณบดีมหิดล

 

       ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสภามหาวิทยาลัยมหิดลมีมติให้ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลือกว่าจะดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง โดยให้แจ้งต่อสภามหาวิทยาลัยภายในวันที่ 5 ตุลาคมว่า ในวันที่ 30 กันยายน เวลา 09.00 น. นพ.รัชตะได้เรียกประชุมคณบดีคณะต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเรียกประชุมวาระพิเศษ ซึ่งยังไม่ทราบว่า นพ.รัชตะจะแสดงท่าทีต่อตำแหน่งในการประชุมดังกล่าวหรือไม่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!