- Details
- Category: การเมือง
- Published: Friday, 26 September 2014 13:39
- Hits: 7140
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8703 ข่าวสดรายวัน
'บิ๊กตู่'ฉุนพิษบ่อน เด้งเรียบ ยุติงัดข้อตร.-ทหาร เร่งคลี่กาสิโนหนองเรือ สอบซ้ำ'เสธ.พีท'หน.ชุด เค้น 10 พยาน-ก่อนสรุป หลังสำนวนส่อเค้าพลิก
ชี้แจงบ่อน - พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หรือเสธ.พีท เข้าชี้แจงพล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภาค 4 กรณีนำกำลังทหารไปจับกุมบ่อนใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แล้วมีปัญหากับตำรวจในพื้นที่ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. |
บิ๊กตู่ฮึ่ม สั่งย้ายหมด ใครมีปัญหาเรื่องบ่อนหนองเรือขอนแก่น ด้านตร.เร่งคลี่คลายคดี ชุดสอบสวนสอบซ้ำเสธ.พีท หัวหน้าชุดจับ ยันจับกุมจริง พร้อมไปแจ้งความดำเนินคดี 37 ผู้ต้องหาที่เล่นพนันเรียบร้อย ด้านผู้การสืบภาค 4 เผยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องแล้วนับสิบปาก ไล่ตั้งแต่เหตุการณ์ก่อนจับกุมจนไปถึงขั้นตอนส่งตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจ คาดอีกไม่นานรายงานข้อเท็จจริงให้รรท.ผบช.ภาค 4 ได้แน่ ด้านตร. หนองเรือ เตรียมนำ 37 ผู้ต้องหามาดำเนินคดี
จากกรณีพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี รรท.หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นบ่อนไพ่ ที่อาคารพาณิชย์ 2 ชั้นเลขที่ 25/210 ถนนมะลิวัลย์ ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา จับนักพนันได้ 37 ราย พร้อมของกลางเงินสด 310,000 บาท โดยระบุว่าติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินคดีต่อ แต่กลับเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับระบุว่าไม่มีการติดต่อ หรือเข้าจับกุมบ่อนแต่อย่างใด จนกระทั่งมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และพบว่าคดีอาจพลิก เมื่อพบเสี่ยใหญ่ในอ.หนองเรือ ที่สนิทกับบิ๊กมีสี และอาจเกี่ยวพันกับกรณีดังกล่าว ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ บก.สส.ภ.4 พ.อ.จตุรพงศ์ บกบน รองผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น พ.อ.ประกิจ ทับทอง รอง ผบ.มทบ.23 และพ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หรือเสธ.พีท รรท.หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น เดินทางด้วยรถตู้สีขาว ของมทบ. 23 ทะเบียน 6112 เข้าพบกับ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4 ตามคำเชิญเพื่อมาสอบถามเรื่องบ่อนขอนแก่น
จากนั้นไปประชุมต่อที่ห้อง ศปก.บก.สส.ภ.4 เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องบ่อนพนันในเขต อ.หนองเรือ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายทหารที่เข้าประชุมเดินออกมาจากห้องประชุมได้เดินออกมา พร้อมกับบอกว่าไม่มีอะไร มาพบปะพูดจากันเท่านั้น
ส่วนพ.ท.พิทักษ์พล กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ว่า ตนมาพบ พล.ต.ต.ชูรัตน์ พร้อมผู้บังคับบัญชา เพื่อมาให้การตามความจริงในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นมาซึ่งไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างได้พูดความจริงหมดแล้ว และไม่สามารถให้สัมภาษณ์กับสื่อได้นอกจากผู้บังคับบัญชาเท่านั้น
พล.ต.ต.ชูรัตน์ กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีทหารเข้าจับบ่อนพนันรายใหญ่ในเขตพื้นที่ สภ. หนองเรือ เชิญ พ.ท.พิทักษ์พล พร้อมด้วย พ.อ.ประกิจ และพ.อ.จตุรพงศ์ เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ดำเนินการมาแล้ว และสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และรวบรวบข้อมูลเพิ่มเติมให้มากขึ้น เพื่อสรุปสำนวนเสนอ พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 ให้เร็วที่สุด โดยให้ความเป็นกลางและความถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ได้มีสำนวนการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 300 แผ่นที่จะรายงานให้ รรท.ผบช.ภ.4 รับทราบ
พล.ต.ต.ชูรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้เปรียบเป็นเปอร์เซ็นต์ได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ตนต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ยังไม่สามารถบอกสื่อได้ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนไปสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 10 ราย พร้อมกับให้ผู้เกี่ยวข้องพาไปดูสถานที่เปิดบ่อน และชี้สถานที่เข้ามาทางไหน ออกมาอย่างไร จับกุมอย่างไร มีผู้ต้องหาเท่าไร เงินของกลางเท่าไร ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองเรือ อย่างไร ผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงได้ดีมากเป็นประโยชน์กับการสืบสวนสอบสวนที่ดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเสี่ยคนดังที่สนิทกับบิ๊กมีสียังไม่ได้เข้าพบตำรวจ
ส่วนที่ สภ.หนองเรือ มีสื่อมวลชนส่วนหนึ่งไปสอบถาม เรื่องพ.ท.พิทักษ์พลได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.จอมพล พรประทุม พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษ สภ.หนองเรือ
โดยพ.ต.ท.จอมพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ท.พิทักษ์พลพร้อมนิติกรจังหวัดขอนแก่น มาแจ้งความที่ สภ.หนองเรือ เพื่อให้เป็นคดีอาญาที่ 34/57 แจ้งความกล่าวโทษนางขนิษฐา ติลาจันทร์ เป็นเจ้าของบ่อน และนายวีระศักดิ์ สุริยา เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ส่วนคนอื่นๆ ที่มีการเล่นในวันนั้น จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ท.จอมพล กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกนางขนิษฐาและนายวีระศักดิ์ มาพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมกับผู้ต้องหาส่วนหนึ่งที่มีภาพถ่ายอยู่ในช่วงทหารเข้าไปจับกุมในวันนั้น จะต้องมารายงานตัว พร้อมมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่าเหตุการณ์ในวันทหารเข้าไปจับบ่อนที่ อ.หนองเรือ ได้เล่นจริงตามที่มีภาพในสื่อมวลชนหรือไม่ และต้องลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย ส่วนเรื่องเอาผิดพ.ร.บ.การพนันโดยมีเจ้าของบ้านเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ให้เป็นเรื่องดุลพินิจของศาล ซึ่งมีทั้งหมด 37 คน ในข้อหาร่วมกันเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีการจับกุมบ่อนที่จังหวัดขอนแก่นและเกิดความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจในพื้นที่ ว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ทหารก็รายงานมา ตำรวจก็ไปสอบกันมา มีเจ้าหน้าที่อยู่ และมีขั้นตอนการดำเนินงาน ขอว่าอย่าไปเขียนให้พวกเขาทะเลาะเบาะแว้งกัน
เมื่อถามว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่ที่มีกฎอัยการศึกซึ่งจะทำให้ตำรวจและทหารเกิดการทะเลาะกันหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่มีปัญหา จะยุ่งยากอะไร ถ้ามีปัญหาก็สั่งย้ายให้หมด ถ้าทำผิดไม่ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องสั่งย้าย ไม่ต้องไปกังวล ยังมีอีกหลายพันเรื่อง เจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำแต่เรื่องบ่อนอย่างเดียว ปลูกป่าก็ทำ ทำงานร่วมกับตำรวจในเรื่องอื่นก็ทำ ก็ไม่เห็นจะมีปัญหา ไปเอาเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่
'บิ๊กตู่'เร่งคัด 250 สปช. เคาะวันนี้ ปัดล็อกสเป็ก-ไม่มียี้ ยันไม่เลิกออกจอ'คืนสุข'สมชัยแย้มสูตรเลือกสส. ใช้เขตจว.-เพิ่มปาร์ตี้ลิสต์ สุกรีโต้อจ.หนุนรัชตะควบ
'บิ๊กตู่'นัด คสช.คัด สปช. 26 ก.ย.ชี้ได้ข้อยุติ ยันไม่มีล็อกสเปก 'บิ๊กป๊อก'ใช้ทฤษฎีมองคนในแง่ดี สังคมยอมรับได้ นายกฯปัดเลิกจัด"คืนความสุข"
@ 'บิ๊กตู่'ปัดเลิกจัด'คืนความสุข'
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 กันยายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยกเลิกจัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ที่ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยทุกค่ำวันศุกร์ว่า ตอนนี้ยังออกอากาศเหมือนเดิม ยังไม่ได้ยกเลิก ไม่รู้เอาข่าวมาจากที่ใด ยังพูดอยู่ และยังเป็นรายการคืนความสุขให้คนในชาติเหมือนเดิม ขอย้ำว่ายังไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้ยังเป็นกรอบของ คสช.ในการทำความเข้าใจกับประชาชน ดังนั้นขอรบกวนเวลาเล็กน้อย แต่จะพยายามปรับลดเวลาลง เนื่องจากปัญหามีมาก การสร้างความเข้าใจเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือ คสช.จะต้องชี้แจง เพราะอยากให้โปร่งใส ให้ทุกคนรับทราบว่ารัฐบาลจะเดินหน้าอย่างไร ไม่ได้มุ่งหวังที่จะกดดันใครทั้งสิ้น ได้สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทุกภาคไปเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนตามพื้นที่ต่างๆ แล้ว
@ สั่งเร่งทำความเข้าใจปชช.
"เราจะต้องสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งให้กระทรวงต่างๆ ไปเร่งทำความเข้าใจด้วย โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน เพื่อให้รู้ปัญหาบ้านเมืองเป็นอย่างไร เพราะบางคนทำมาหากินอย่างเดียว โดยไม่ฟังข่าวสาร จึงไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร พัฒนาตัวอย่างไร จนบางครั้งมองว่าทำไมรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหา การที่ให้กระทรวงแรงงานเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มแรงงาน มีวัตถุประสงค์ดูแลพี่น้องประชาชน แต่ย้ำว่าไม่ได้มีลักษณะเป็นการบังคับ การเปลี่ยนแปลงในระยะแรกต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนผ่าน ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ยันไม่แก้ปัญหาปลายเหตุ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า การเข้าถึงประชาชนต้องเรียกว่ามีลักษณะแบบปากต่อปากในการแก้ปัญหา เพราะบางปัญหานี้ฝังรากลึกมายาวนาน ดังนั้นการพัฒนาคน บุคลากรถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เมื่อกลับมาแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ปัญหาจึงเยอะ ซึ่งจะดีในระยะยาวที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ แต่ถ้าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แล้วประชาชนเข้าใจว่าถูกต้อง คิดว่าไม่ใช่ บางครั้งจะใช้งบประมาณจำนวนมากในการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ก็จริง แต่เป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น แล้วก็มีปัญหาขึ้นมาอีก และถ้าวันข้างหน้าเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ แล้ว จะไปเอางบประมาณที่ไหนมาดูแลตรงนี้ ดังนั้นก็ต้องย้อนกลับมาที่ปัญหาเดิม
@ ลั่นไม่ใช่ประชานิยม
"ระหว่างนี้จะดูปัญหาที่กลางเหตุ ทั้งเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ พ่อค้าคนกลาง การขนส่ง รวมถึงราคาสินค้า ส่วนปลายเหตุถ้าพบความเดือดร้อนตรงไหน จะมีมาตรการเร่งด่วนและเฉพาะหน้า ส่วนในระยะยาวจะเกิดขึ้นทั้งระบบ แต่ถ้าเดือดร้อนเมื่อไหร่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ที่คิดไม่ใช่ประชานิยม จะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นคงยั่งยืนและจะต้องมีส่วนร่วมอย่างไร ถ้าไม่เข้าใจจะทำให้เกิดความเดือดร้อน งบประมาณรัฐไม่ครบ เพราะภาษีต่างๆ ที่เก็บไม่ครบ และไม่ได้เกิดจากความบกพร่อง เพียงแต่เศรษฐกิจไม่ดี แต่ไม่ใช่เป็นที่ประเทศไทยที่เดียว ทั่วโลกก็เป็น ดังนั้นต้องปรับตัวให้ทันและบริหารราชการไปอย่างนั้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ขอร้องสื่อให้ช่วยกัน อย่าเอาเรื่องเดิมมาเกี่ยวข้องกับเรื่องใหม่ ทำแบบใหม่ด้วยการแก้ปัญหาทั้งองค์กร ทั้งระบบ และเชื่อมโยงทุกมิติ
@ นายกฯหัวโต๊ะถกบิ๊กขรก.
ต่อมาเวลา 10.30น. น ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งแรก ประจำเดือนกันยายน 2557 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและรัฐมนตรีบางกระทรวงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พร้อมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายกฯเปิดโอกาสให้หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงที่เกษียณอายุราชการ 6 คน เข้าพบ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย ขณะที่นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นตัวแทนข้าราชการมอบพวงมาลัยที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯเป็นนายกรัฐมนตรี
@ นัดคสช.เคาะชื่อ250สปช.
พล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า ตนนัดประชุม คสช.ในวันที่ 26 กันยายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อพิจารณาคัดสรรรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามา เพราะจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ตุลาคมนี้
"รายชื่อ สปช.ไม่มีการล็อก ผมจะล็อกอย่างไรยังนึกไม่ออก แล้วจะล็อกไปเพื่ออะไร เพื่ออำนาจ ก็อำนาจผมมีอำนาจอยู่แล้ว ต้องหาอำนาจเพิ่มอีกหรือ ผมต้องการปฏิรูป ฉะนั้น คนที่จะคัดเข้ามา 173 คน ก็มาจาก 550 คน ที่เขาเลือกมาจาก 7,000 กว่าคน โดยคณะกรรมการ 70 กว่าคน และผมได้ให้เขาจัดลำดับเรียงอาวุโส ความรู้ความสามารถมา แล้วจะมาเลือกโดยพูดคุยกันใน คสช.ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมมีอำนาจเพียงแต่ตรวจทานความถูกต้อง ขณะที่ทาง กกต.ได้เช็กเรื่องคุณสมบัติไว้แล้ว โดยรายชื่อจะไม่ลงว่าอยู่กลุ่มไหน ส่วน 385 คน จาก 77 จังหวัด ก็มีการส่งรายชื่อมาแล้วจังหวัดละ 5 คน ตรงนี้เรียงลำดับความรู้ความสามารถโหวตกันเข้ามาและผมก็จะมาดูอีกครั้ง 5 คนเลือกเอาคนเดียวจะได้รวมกันทั้งหมด 250 คน จะตีเรียงกันมาโดยไม่มีกลุ่ม พรุ่งนี้คงยุติ เพื่อให้มีวันเวลาเสนอรายชื่อทูลเกล้าฯตามกฎหมายที่กำหนดไว้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ มท.1หวังสยบคลื่นใต้น้ำ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการกับคลื่นใต้น้ำว่า กระทรวงมหาดไทยต้องสร้างความเข้าใจ โดยมีกลไกที่จะทำได้คือผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมีแผนที่จะใช้ช่องทางการสื่อสารทางไกล (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) คุยกับทุกพื้นที่ โดยให้มีการถ่ายทอดลงไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนที่ใกล้ชิดกับประชาชน ต้องยอมรับว่าบางส่วนได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมืองไม่ว่าพรรคใดก็แล้วแต่ ตนจะได้สร้างความเข้าใจ จึงไม่กังวลเรื่องคลื่นใต้น้ำ เมื่อถามว่า มีแนวโน้มที่จะยกเลิกกฎอัยการศึกหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า รัฐบาลคิดอยู่แล้วว่าจะยกเลิกพื้นที่ไหนอย่างไร
@ ชี้รายชื่อสปช.สังคมยอมรับ
เมื่อถามถึงปัญหาความไม่โปร่งใสในการคัดเลือก สปช. พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ยืนยันในฐานะที่มีส่วนดูเรื่องท้องถิ่นว่าโปร่งใสหมดทุกอย่าง และย้ำอีกครั้งว่าในชุดปฏิรูปจะมีทุกส่วนเข้ามา คนที่เข้าไปเมื่อประกาศชื่อออกมาสังคมยอมรับได้แน่นอน จะทำให้การปฏิรูปได้ดีโดย คสช.ตั้งใจให้เกิดการปฏิรูปให้เร็วที่สุด รัฐบาลนี้จะอยู่ถึงแค่เมื่อปฏิรูปเสร็จก็แล้วกัน เพราะหน้าที่มีแค่นั้น เมื่อถามว่า มีกระแสว่าบางจังหวัดมีปัญหาเรื่องความโปร่งใส พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า "ผมคิดว่า 5 คนแล้วคัดเหลือ 1 คนจากแต่ละจังหวัด คงไม่มีเป็นญาติกันทั้งหมด 5 คน ต้องเชื่อทฤษฎีมองคนในแง่ดี เขาไม่ได้ทำอะไรชั่วร้ายกันอย่างนั้นหรอก เขาก็อยากสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีทั้งนั้น อย่ามองคนในแง่ร้ายไปหมด ผมเชื่อมั่นว่าทางจังหวัดจะต้องคัดมาดี และ คสช.ก็จะต้องเลือกคนที่ดี"
@ 'สมชัย'แจงเหตุปฏิรูปปท.
ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางการปฏิรูปการเมืองไทย" ตอนหนึ่งว่า สาเหตุที่ต้องมีการปฏิรูปประเทศ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในทิศทางที่ดีขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงต้องยอมถอยหลังให้กระบวนการต่างๆ ยุติลงชั่วคราว และเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปประเทศ
การออกแบบการปฏิรูปการเมืองเป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุด โดยต้องสร้างกลไกที่มาของนักการเมืองเข้ามาทำหน้าที่อย่างสุจริต ไม่ใช่เข้ามาด้วยอำนาจเงิน อำนาจอิทธิพล และอำนาจรัฐ เพราะหากไม่ปฏิรูปการเมืองอันดับแรก จะทำให้การเมืองไทยกลับไปสู่รูปแบบเดิมๆ
@ ปูดส.ส.เขตใหญ่-สรรหาส.ว.
นายสมชัยกล่าวว่า แนวโน้มของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หัวใจสำคัญด้วยการเพิ่มสัดส่วนของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อให้มีความใกล้เคียงกับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการแข่งขันที่รุนแรง ขณะที่การแบ่งเขตเลือกตั้งนั้นควรเป็นเขตเลือกตั้งขนาดใหญ่ โดยอาจใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง เนื่องจากเขตที่มีขนาดเล็กจะง่ายต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนการได้มาของ ส.ว. มองว่ากระบวนการสรรหาเหมาะสมที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งหรือการแต่งตั้ง แต่การสรรหา ส.ว.เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพและหลากหลายนั้นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
กกต.ระงับเวทีการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวว่า กกต.ได้เชิญตัวแทนของพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปร่วมการอภิปรายเรื่อง "แนวทางการเสริมสร้างความเป็นประชาธิปไตยในพรรคการเมือง" ให้นักศึกษาหลักสูตรนักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 5 ในวันที่ 26 กันยายนนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์การระงับการเสวนาทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้ใหญ่ใน กกต.ไม่สบายใจจึงขอเลื่อนการอภิปรายออกไปโดยไม่มีกำหนด
@ กกต.อ้างปรับเปลี่ยนแล้ว
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เบื้องต้นเข้าใจว่าน่าจะเป็นหนังสือเชิญก่อนที่ทางสำนักงาน กกต.จะปรับเปลี่ยนหลักสูตร พตส. รุ่นที่ 5 เพื่อให้สอดรับกับคำสั่งและประกาศ คสช.
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค พท. ในฐานะตัวแทนที่จะไปร่วมการอภิปราย ว่า ขณะนี้หนังสือเชิญอยู่ในมือของตนให้ทาง กกต.ไปสอบถามกันเองเป็นการภายในจะดีกว่า
@ ป.ป.ช.นัดโชว์ทรัพย์สินสนช.
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดของ สนช.ที่ยื่นมา เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ มีเพียง สนช.จำนวน 1 รายเท่านั้น ดังนั้น ป.ป.ช.กำหนดเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯระหว่างวันที่ 3-9 ตุลาคมนี้
@ สนช.รอเคาะปมถอดถอน
ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะส่งเรื่องถอดถอนใครก็ตาม ต้องแสดงให้เห็นว่ามีกฎหมายรองรับ เพื่อสามารถนำเข้าสู่ สนช.ได้ เมื่อถามว่า 4 สำนวนที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดแล้วจะสามารถดำเนินการตามข้อบังคับได้เลยหรือไม่ นายพรเพชรกล่าวว่า สำนวนทั้ง 4 เรื่องยังไม่ได้พิจารณา เนื่องจากเป็นสำนวนที่มีการอ้างเหตุผลตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ขณะที่ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ สนช.มีสิทธิที่จะพิจารณาหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาพิจารณากันก่อนว่าจะมีเรื่องไหนที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ได้บ้าง เชื่อว่าอีกไม่นานน่าจะได้ข้อสรุป
@ อจ.มหิดลให้กำลังใจ'รัชตะ'
ที่อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) นายวรวิทย์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มม. แถลงข่าวกรณี นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี มม.นั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จนเกิดเป็นกระแสต่อต้าน โดยล่าสุด สภา มม. มีมติให้นายรัชตะตัดสินใจเลือกดำรงตำแหน่งใดเพียงตำแหน่งเดียว โดยมีบุคลากร มม. จำนวนเกือบ 30 คน มาให้กำลังใจว่า บุคลากร มม.รวมถึงอธิการบดี มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือพัฒนาประเทศชาติและสังคมมาโดยตลอด การที่ นพ.รัชตะ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ สธ. ถือเป็นเกียรติ ดังนั้นจึงขอให้กำลังใจ นพ.รัชตะ ทำหน้าที่ทั้งในตำแหน่งอธิการบดีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. และเชื่อว่าบุคลากร มม.อีกจำนวนมากที่เป็นกำลังใจ และอยู่เคียงข้าง
นพ.รัชตะ ส่วนงานบริหารงานมหาวิทยาลัย ไม่มีปัญหาเพราะฝ่ายบริหารคงมีการวางแผนการทำงาน รวมถึงยุทธศาสตร์ต่างๆ ไว้พร้อมสำหรับการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยและรองอธิการบดี คณบดีรวมถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัยคงไม่ปล่อยให้มหาวิทยาลัยล่มหรือเสียหายอย่างแน่นอน
@ หนุนให้ทำหน้าที่2เก้าอี้
นายวรวิทย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่สภา มม.ให้ นพ.รัชตะเลือกเพียงตำแหน่งเดียวนั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ นพ.รัชตะ ตนเคารพในการตัดสินใจ ที่ออกมาครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ในนามประชาคม ยืนยันว่ามีหลายฝ่ายที่สนับสนุนให้ นพ.รัชตะทำงานทั้ง 2 ตำแหน่ง เพียงแต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะเกรงว่าจะกระทบกับการทำงาน ส่วนกรณีที่มีการคัดค้าน เพราะเห็นว่ามหาวิทยาลัยไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเมืองนั้น ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่ภาวะปกติ อยู่ในช่วงของการทำรัฐประหาร ทำให้ประเทศต้องหยุดและร่วมกันปฏิรูป การเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ สธ.จึงถือเป็นการเข้ามาช่วยชาติ มากกว่าการเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง หากบ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติคงคืนสู่กติกาเดิม ส่วนที่นายสุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เอาปี๊บคลุมหัวต่อต้านการควบ 2 ตำแหน่งนั้น เป็นสิทธิและสไตล์ในการแสดงออกของแต่ละคน เมื่อแสดงออกไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำของตนเอง
@ 'สุกรี'สวนไม่ใช่มติประชาคม
นายสุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กรรมการสภามหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่า ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ใช่มติของสภามหาวิทยาลัย ขณะนี้สภามหาวิทยาลัยฯยังคงรอคำตอบจาก นพ.รัชตะอยู่เหมือนเดิม ส่วนกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวเป็นเพียงคณบดีบางคน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการบางส่วนเท่านั้น ทราบมาว่ามี พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดลรวมอยู่ด้วย ซึ่งเหตุผลที่สนับสนุนต้องไปสอบถาม พญ.สุวรรณาดู
@ มช.ติดป้ายโจมตีอธิการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการติดป้ายคัดค้านและโจมตี นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) และสมาชิก สนช. บริเวณทางเดินอาคารเรียนรวมหลังที่ 5 ใกล้สำนักทะเบียนประมวลผล มช. มีข้อความและป้ายโจมตีต่างๆ เป็นที่สนใจของผู้เดินผ่านไปมา
นายนิรุต หัตถะผะสุ นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ในฐานะนายกสโมสรนักศึกษา มช. กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นการแสดงออกตามวิถีทางประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร อาจเป็นเรื่องที่ดีที่ให้ผู้บริหารได้พิจารณา ตรวจสอบ แก้ปัญหาและไม่อยากให้นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องสถาบัน อาจทำให้ภาพลักษณ์เสียหายได้ เห็นด้วยกับการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ ไม่ควรปิดกั้น แต่ไม่ขัดกฎหมายหรือระเบียบมหาวิทยาลัย การติดป้ายโจมตี ต่อต้านหรือคัดค้านเป็นเรื่องปกติของฝ่ายที่ไม่พอใจฝ่ายบริหาร เพื่อเรียกร้องกระแสสังคมสนใจติดตาม โดยใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยกดดัน แต่ไม่ควรถึงขั้นคลุมปี๊บหรือขับไล่ผู้บริหารออกจากตำแหน่ง เพราะเป็นการกระทำที่สุดโต่งเกินไป