- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 01 October 2018 09:04
- Hits: 6493
พรรคพลังประชารัฐ เลือกอุตตมนั่งหัวหน้าพรรค นำทัพสู้ศึกเลือกตั้งปี 62 ยืนยันช่วงนี้ยังไม่ลาออกจากตำแหน่งรมต.
การประชุมจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดตัวพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ โดยที่ประชุมพรรควันนี้ ได้คัดเลือกนายนายอุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรค เพื่อนำทัพพรรคพลังประชารัฐ สู้ศึกเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปี 62 พร้อมชูพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยให้มั่นคง
นายอุตตม สาวนายน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรมว.อุตสาหกรรม กล่าวเปิดใจว่า แม้ตนจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ยืนยันว่าในช่วงนี้จะยังไม่ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะสวมหมวกเพียงใบเดียวคือพลังประชารัฐ
"ประเด็นที่ท่านรออยู่ ผมถือโอกาสนี้เรียนเลยว่าให้สังคมมั่นใจได้ว่า ตัวผมจะอยู่ในตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีในรัฐบาล แต่รับรองได้ ให้ท่านมั่นใจได้ว่าจะไม่ใช้เวลาและทรัพยากรของรัฐมาใช้ประโยชน์ เอารัดเอาเปรียบคนอื่นอย่างแน่นอน ผมตระหนักดีว่าผมมีหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคม ต่อการปฏิบัติที่ได้รับมอบหมายมาในทุก ๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นการวางตัว การปฏิบัติตัวของผมและเพื่อน ๆ ที่ร่วมอุดมการณ์ที่อยู่ในสถานภาพเดียวกันเป็นที่จับตามอง เป็นที่ติดตามของสังคมตลอดเวลา และเราพร้อมที่จะให้ตรวจสอบที่ให้ทำงาน เพราะเรายึดมั่นเราถือปฏิบัติในสิ่งที่เราถือว่าต้องทำให้ถูกต้อง ก็ขอเรียนท่านตรงนี้เลยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พวกเรารับรองได้ว่าเราจะใส่หมวกใบเดียวคือหมวกของพลังประชารัฐ ท่านไม่ต้องห่วง ถึงเวลาไปแน่"นายอุตตม กล่าว
ทั้งนี้ การประชุมจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ ได้มีบุคคลสำคัญในรัฐบาลหลายคนได้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกันอย่างคึกคัก ซึ่งนอกหนือจากนายอุตตม ยังมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนี้ ยังมีอดีตส.ส. กรุงเทพมหานคร ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คือ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ , นายณัฐพล ทีปสุวรรณ และนายสกลธี ภัททิยกุล รวมถึงกลุ่มสามมิตร อย่างนายอนุชา นาคาศัย และนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าประชุมร่วมกับสมาชิกพรรคที่มีกว่า 300 คน พร้อมกับมีผู้ร่วมสังเกตการณ์จำนวนมาก โดยสมาชิกพรรคลงมติรับรองหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และลงมติรับรองข้อบังคับพรรค จัดทำนโยบายพรรคให้ครบถ้วน ก่อนที่จะส่งกลับไปให้นายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สำนักงาน กกต.) เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เดินหน้าในการขอจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองที่สมบูรณ์ต่อไป
ที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบ ชื่อ"พรรคพลังประชารัฐ" ใช้ชื่อย่อว่า "พปชร." และโลโก้พรรคที่เป็นแถบสีแดง สีขาว และสีน้ำเงินครามของกรอบหกเหลี่ยม สื่อความหมายว่าเป็นการรวมพลังความสามัคคีของทุกคนในชาติ ให้เป็นหนึ่งเดียวปราศจากความขัดแย้งเป็นความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ร่วมพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ามั่นคงและยั่งยืน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นว่าที่หัวหน้าพรรค ,นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นว่าที่เลขาธิการพรรค , นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายณัฐพล ทีปสุวรรณ เป็นว่าที่รองหัวหน้าพรรค ,นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นว่าที่โฆษกพรรค , นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เป็นว่าที่เหรัญญิกพรรค และนายวิเชียร ชวลิต เป็นว่าที่นายทะเบียนพรรค โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค รวม 21 คน ซึ่งระหว่างการเปิดตัวหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ได้มีการมอบเสื้อแจ๊คเก็ตพรรค ให้ทุกคนสวมใส่ รวมไปถึงมีพิธีรับมอบธงและปักธงสัญลักษณ์พรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นการแสดงเจตจำนงค์ในการร่วมทำงานเพื่อประเทศชาติ
นายอุตตม กล่าวว่า จะรีบนำมติพรรคทั้งหมดไปยื่นจดจัดตั้งพรรคกับกกต. เพื่อให้ได้รับการรับรองเป็นพรรคการเมือง และเดินหน้าดำเนินกิจกรรมของพรรคอย่างเต็มรูปแบบ โดยการตัดสินใจลงเล่นการเมืองครั้งนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งตั้งใจเข้ามาอาสาทำงานทางการเมืองอย่างเต็มตัว และจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองถาวร ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ โดยเตรียมเปิดตัวสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ที่สนใจเข้ามาร่วมงานกับพรรค และขอเชิญชวนให้ทุกคนที่มีความรู้ ความสามารถ ซึ่งถือเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมืองเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคด้วย
พรรคพลังประชารัฐ เกิดจากอุดมการณ์ของประชาชนเพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นปัญหาด้านการเมืองที่ขัดแย้ง ที่สร้างความเสียหายให้ประเทศทุกมิติ โดยพรรคจะมุ่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส รับใช้แผ่นดินเกิด และเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันทำให้ประเทศหลุดพ้นจากความขัดแย้ง มุ่งหน้าให้ไทยสู่เวทีโลก และส่งต่ออนาคตให้กับลูกหลาน
ทั้งนี้ นายอุตตม ยังได้เปิดตัวสมาชิกพรรคพลังประชารัฐที่เป็นคนรุ่นใหม่ จำนวนประมาณ 60 คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ส่วนกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้ช่วยรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง นายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีตรมช.ศึกษาธิการ นายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรค นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าที่เลขาธิการพรรค กล่าวว่า พรรคจะส่ง ส.ส. ครบ ทั้ง 350 เขต อย่างแน่นอน ส่วนการเสนอชื่อผู้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เบื้องต้นจะเสนอนายอุตตม สาวนายน เป็นนายกรัฐมนตรี แต่จะเปลี่ยนเป็นพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค และความชัดเจนของพลเอก ประยุทธ์ แต่ยืนยันว่าการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นคนที่ประชาชนยอมรับด้วย
สำหรับอุดมการณ์ของพรรคพลังประชารัฐ มีทั้งหมด 7 ข้อ ได้แก่ 1.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.พรรคเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน บ่มเพาะพลเมืองที่ตื่นรู้ มุ่งเน้นการการพัฒนาประชาธิปไตยวิถีไทย 3.น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมกันเป็นกลุ่มอย่างมีพลัง สร้างความเข้มแข็งจากฐานรากอย่างยั่งยืน ชูประเทศไทยสู่ประชาคมโลกอย่างสมศักดิ์ศรี 4. ก้าวข้ามความขัดแย้ง ฟื้นความสมานฉันท์ 5.สร้างสังคมที่เป็นธรรม ยึดนิติรัฐ นิติธรรม 6. ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสที่เป็นของจริง ขจัดความยากจน สร้างความมั่นคงในสังคม และ 7.สร้างสังคมที่เกื้อกูล แบ่งปัน เติมเต็มศักยภาพและโอกาสของผู้คน เตรียมความพร้อมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21
อินโฟเควสท์