- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 18 May 2014 10:51
- Hits: 5138
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8572 ข่าวสดรายวัน
ดับฝัน-ไม่ปฏิวัติ บิ๊กตู่เมิน นั่งนายกฯกลาง เทือกนัดอีก-ขีดเส้น 26 พค. ไม่ถึงล้าน-เลิกม็อบมอบตัว หัวหินฮือต้าน'พุทธอิสระ'
'ประยุทธ์' ยันไม่ปฏิวัติ-นั่ง นายกฯคนกลาง ย้ำทหารทำตามกฎหมายทุกอย่าง'สุเทพ'ระดมเคลื่อนใหญ่อีกอยู่ยาวถึง 26 พ.ค. ลั่นไม่สำเร็จ-มาไม่ถึงล้าน 27 พ.ค.ยอมมอบตัว-เลิกม็อบ ก่อนถกแกนนำกปปส.ทุกจังหวัด กำหนดแผนระดมมวลชน เผย 19 พ.ค.แยกย้ายทวงคืนอำนาจ บุกบ้าน-เซฟเฮาส์ของรมต. 22 พ.ค.ถกหัวหน้าราชการ 23-25 ลุกฮือครั้งใหญ่ ด้านปึ้งเล็งยื่นเอาผิด'สุรชัย-เสรี'ฐานหนุนกบฏ'ธาริต'สั่งจับสาธิต เซกัล หลังเบี้ยวมอบตัว หัวหินยังฮือต้าน'พุทธอิสระ'
ปึ้งยื่นฟัน"สุรชัย-เสรี"หนุนกบฏ
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศอ.รส. กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ภายหลังนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา ปฏิเสธตั้งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 นั้น หวังว่ากลุ่ม กปปส.จะไม่สร้างความรุนแรงและก่อความวุ่นวายใดๆ และถึงเวลาแล้วที่นายสุเทพจะต้องพ่ายแพ้บ้าง เพราะก่อนหน้านี้ชนะมาตลอด จนทำให้บ้านเมืองและเศรษฐกิจเสียหาย
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ เชื่อว่ากลุ่ม กปปส.ต้องการสร้างความรุนแรงให้มากที่สุด เพื่อให้ทหารออกมา แต่โชคดีที่ผู้นำเหล่าทัพประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ เมื่อมาถึงตรงนี้คิดว่านายสุเทพคงถึงจุดอวสานแล้ว เพราะไม่ว่าจะเสนอข้อเรียกร้องอะไรก็ไม่มีใครเอาด้วย และหลายกลุ่มเริ่มตีตัวออกห่าง เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยว กลายเป็นว่านายสุเทพถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวและน่าสงสาร
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีหลักฐานว่านายเสรี วงษ์มณฑา และนายสุรชัย ร่วมมือกับนายสุเทพ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในข้อหากบฏ ซึ่งไม่เหมาะสมที่ส.ว.จะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องการเมือง โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินคดีกับส.ว. และผู้ที่ให้ การสนับสนุนนายสุเทพ ซึ่งจะมีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนกบฏด้วย โดยวันที่ 18 พ.ค. จะนำหลักฐานเป็นคลิปการกล่าวปราศรัยของนายเสรีในต่างประเทศยื่นต่อดีเอสไอให้ดำเนินการต่อไป
'ธาริต'สั่งจับ-สาธิตเบี้ยวมอบตัว
ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบ ร้อย โดยบริเวณทางเข้าศอ.รส.ด้านหน้าถนนวิภาวดีฯ ตำรวจยังวางกำลังรักษาความปลอดภัย อย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยตั้งจุดสกัดเพื่อตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะที่เข้าพื้นที่และต้องแลกบัตรผ่านเข้าออกทุกครั้ง
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะเลขาธิการศอ.รส. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากนายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับในความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และอื่นๆ รวม 8 ข้อหา ภายหลังได้รับการประสานว่าจะเข้ามอบตัวกับศอ.รส.ภายในวันนี้ อธิบดีดีเอสไอกล่าวต่อว่า หากนายสาธิตไม่เข้ามอบตัวตามที่ประสานไว้จริง ศอ.รส.จะดำเนินการจับกุมนายสาธิต เช่นเดียวกับแกนนำ กปปส.คนอื่นๆ แต่ถ้านายสาธิตเข้ามอบตัว ศอ.รส.ยินยอมให้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกไป โดยมีข้อแม้ว่าห้ามนายสาธิตกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็น การยั่วยุปลุกปั่นปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายใดๆ กระทบต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีต่อประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาต
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.กล่าวว่า การจับกุมตัวนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีนิด้า และตามจับกุมนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจชาวอินเดีย เพราะมีหมายจับติดตัวอยู่ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้ลำเอียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนสถานการณ์ชุมนุมทาง การเมืองช่วงนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หวั่นจะเกิดปัญหาบานปลาย จึงระดมกำลังตำรวจมากที่สุดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และพยายามแยกไม่ให้สองฝ่าย ทั้งนปช.และกปปส. โดยขอความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย
พท.จับตาช่วง 7 วันอันตราย
ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า สถานการณ์นับจากนี้ไป 7 วัน ความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ ถือเป็น 7 วันอันตราย ทั้งอันตรายจากความพยายามสร้างสถานการณ์ของคู่ขัดแย้ง หรือจากมือที่ 3 เท้าที่ 4 ยั่วยุในหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างความรุนแรงที่ น่ากลัวคือการยิงเอ็ม 79 ลงกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและแยกคอกวัว ขณะผู้ชุมนุมหลับ ก่อนรัวปืนถล่มซ้ำ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ถูกมองว่าผู้วางแผนลงมือน่าจะต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงนำไปสู่การเรียกทหารออกมาปฏิวัติ ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยว ข้องกับฝ่ายรัฐบาลหรือคนเสื้อแดง เพราะจะกลายเป็นผู้เสียโอกาสทันทีหากมีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยเขาต่อต้านสิ่งนั้น
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ผู้ที่น่าสงสัยที่สุดคือผู้ที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้น เพราะอาชญากรต้องได้ประโยชน์จากอาชญากรรมเสมอ ดังนั้น พี่น้องประชาชนพึงระมัดระวังในการเข้าร่วมการชุมนุม บริโภคข้อมูลข่าว สารรอบด้าน อย่าตกเป็นเหยื่ออุปาทานหมู่ จนอาจนำไปสู่การปะทะกันระหว่างประชาชน หรือนำไปสู่การออกมายึดอำนาจของทหารในที่สุด
'บิ๊กตู่'ยันไม่ทำรัฐประหาร
วันเดียวกัน ในรายการ "ลับ ลวง พราง" ออกอากาศทางสถานีวิทยุ อสมท คลื่น 100.5 น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้ดำเนินรายการระบุ ถึงคำสัมภาษณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งให้สัมภาษณ์โดยส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือว่า ไม่ขอตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ระบุว่าทหารวางแผนจะรัฐประหารและไม่ขอตอบโต้ที่บอกว่าตนอาจเป็นนายกฯ คนกลาง หลังออกแถลงการณ์ 7 ข้อ เพราะไม่อยากสร้างความขัดแย้งขึ้นมาอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอฝากสื่อไปถามว่าถ้าไม่เป็นจริงตามที่พูดคนที่พูดจะรับผิดชอบหรือไม่ มีแต่คนชอบพูดให้คนอื่นเสียหายแล้วไม่รับผิดชอบ สื่อช่วยบันทึกไว้ด้วยว่าพูดอะไรไว้บ้าง แล้วไม่จริงก็ลืม แต่คนที่ถูกพาดพิงเสียหายไปแล้ว
เมื่อถามถึงแถลงการณ์ออกมาหลังเกิดเหตุยิงกปปส. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พล.อ. ประยุทธ์ยืนยันว่า เพื่อเตือนทุกฝ่ายไม่ให้ใช้ความรุนแรง ไม่ได้เจาะจงถึงฝ่ายใดและไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องทำรัฐประหาร เพราะทหารจะทำอะไรก็ต้องยึดกฎหมาย ทั้งนี้ อยากให้กลับไปอ่านกันให้ดีๆ เพราะเนื้อหาชัดเจนอยู่แล้ว
"อย่าคิดว่า ผมออกแถลงการณ์แบบนี้เพราะ ผมเลือกข้าง อย่ามาคิดว่าทหารลำเอียง อย่ามัวแต่จับผิดทหาร ต้องดูด้วยว่าที่ผ่านมาใครทำอะไร เหตุการณ์ปี 2553 เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ พูดกันบ้าง ทหารออกไปดูแลความเรียบร้อย แต่ต้องกลายเป็นจำเลย ให้ความเป็นธรรมกันบ้าง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าในแถลงการณ์บอกว่าทหารอาจปฏิบัติการเต็มรูปแบบเป็นอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ทหารไม่ใช่คนกำหนดว่าสถานการณ์เป็นแบบใดขึ้นอยู่กับฝ่ายผู้ชุมนุม และทุกฝ่ายว่าจะให้เป็นแบบไหน
เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าเมื่อตอนที่ทหาร และประชาชนโดนยิง แต่ผบ.ทบ.ไม่ได้ออกแถลงการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทหาร ไปฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว เพราะต้องยึดกฎหมาย ทหารเป็นผู้บังคับกฎหมาย จะให้ทหารทำอะไรอย่างอื่นหรืออย่างไร ทั้งนี้ อย่าตำหนิว่าทหารลำเอียง อย่านำจุดเล็กๆ มาตำหนิ มองภาพใหญ่บ้างว่าเรากำลังเผชิญกับอะไรกันอยู่ อย่าคิดว่าจะแก้ไขง่ายๆ
ปชป.อัดธาริตเร่งออกหมายจับ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงดีเอสไอบุกจับกุมตัวแกนนำ กปปส.โดยอ้างหมายจับจากศาลว่า พรรคเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพราะดีเอสไอลักไก่ออกหมายจับ 30 แกนนำ กปปส.หรือไม่ ทั้งที่ศาลระบุว่าไม่ได้ออกหมายจับ เป็นเพียงคำสั่งให้เข้ารายงานตัวต่ออัยการเท่านั้น ขณะที่อัยการยืนยันยังไม่มีคำสั่งฟ้องให้ศาลออกหมายจับ เป็นเพียงความเห็นเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่าง การเตรียมเอกสาร
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า จึงขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ จึงรีบเร่งผิดปกติ รวบรัด ข้ามกระบวนการกฎหมาย ส่อใช้อำนาจเกินขอบ เขต ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ อีกทั้งยังค้านการประกันตัว ทั้งที่พวกเขาไม่มีความผิด ทั้งหมดนี้นายธาริตต้องรับผิดชอบ อาจเข้าข่ายกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ที่สำคัญยังมีพฤติกรรมใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธ 2 กองร้อยบุกจับกุมนายสาธิต เซกัล แกนนำ กปปส.เหมือนบุกจับผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ ถือเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เข้าข่ายข่มขู่คุกคามประชาชน ขอเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ชี้แจงเหตุผลด้วย
นายชวนนท์ กล่าวว่า พรรคเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือเป็นคำสั่งของใคร ขอยืนยันว่าไม่มีใครใช้อำนาจปราบปรามประชาชนได้ตลอด สุดท้ายคนที่ใช้อำนาจจะพ่ายแพ้ไปทุกครั้ง ใน 2 วันนี้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ควรกลับตัวได้แล้ว อย่าเดิน ไปทางที่ผิด แต่ควรเดินหน้าออกไปสู่ประตู ที่ประชาชนจะไม่เสียชีวิต ไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญ และมีทางออกให้กับประเทศที่แท้จริง
หัวหินยังฮือต้านพุทธอิสระ
ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอนันต์ เนื้อนิล ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.หัวหิน เปิดเผยว่า หลังจากตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชน ร่วมประชุมวางแนวทางแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อน ไหวทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ที่จะเดินทางมายัง อ.หัวหิน เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานของพุทธอิสระติดต่อกับจังหวัด เพื่อขอนำมวลชน 6,000 คน เดินทางมาทำกิจกรรมทางการเมือง เดินทางกู้ชาติ ถวายคืนพระราชอำนาจและเจริญพระพุทธมนต์ ที่หน้าวังไกลกังวล ในวันที่ 18 พ.ค. ล่าสุดทราบมีการขอเลื่อนกำหนดการทำกิจกรรมดังกล่าวออกไปอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ในวันที่ 19 พ.ค. ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.หัวหิน จะส่งหนังสือถึงพุทธอิสระ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงความต้องการของชาวหัวหินและประจวบ คีรีขันธ์ แต่หากยังเคลื่อนไหวเข้ามาในหัวหิน เชื่อว่าต้องขัดแย้งกับชาวหัวหินและประจวบ คีรีขันธ์แน่นอน โดยขอร้องให้ อ.หัวหิน เป็นพื้นที่พิเศษ ปราศจากเรื่องการเมือง
'เทือก'ถกแกนนำกปปส.
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประชุมร่วมกับแกนนำ พร้อมตัวแทนกปปส.แต่ละจังหวัดและเครือข่ายต่างๆ โดยนายสุเทพอธิบายว่าจะแบ่งการพูดคุยเป็น 2 ช่วงแรก ช่วงแรกพูดคุยกับแกนนำ และแนวร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุม โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพและร่วมสังเกตการณ์ ส่วนช่วงที่สองหารือนอกรอบของแกนนำ ซึ่งไม่เปิดให้สื่อเข้าร่วมบันทึกภาพ โดยหลังประชุมเสร็จ จะชี้แจงแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ต่อไป
นายสุเทพ กล่าวว่า การที่บ้านเมืองไม่มี นายกฯ และรัฐบาล นานไปจะยิ่งเสียหาย ต้องดำเนินการให้มีนายกฯ และรัฐบาลโดยเร็ว จึงเกิดคำถามขึ้นว่า โดยเร็วคือเมื่อไร น่าเสียดายที่คำแถลงประธานวุฒิสภาเมื่อวาน ไม่สามารถ กำหนดชี้ชัดได้ว่าภายในกี่วันหรือเมื่อไร จึงไม่สามารถตอบคำถามประชาชนทั้งประเทศได้ เมื่อมวลมหาประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อกวาดล้างระบอบทักษิณ จัดให้มีรัฐบาลของประชาชนและปฏิรูปประเทศ ได้ต่อสู้มายาว นานจนยาวที่สุดในประวัติการต่อสู้ของประเทศ จำเป็นต้องกำหนดว่าจะให้เสร็จเมื่อไร จึงต้อง หารือกับแกนนำทุกเครือข่าย และองค์กรที่ร่วมต่อสู้กันมา ถ้าเรากำหนดเวลาเสร็จสิ้นเมื่อไร ประชาชนในประเทศจะได้กำหนดและตัดสินใจได้ว่าจะร่วมต่อสู้ถึงเมื่อใด
นัดเคลื่อนใหญ่อีก 19-26 พ.ค.
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ประการแรกจะลงมือ ปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. และกำหนดวันสุดท้ายของปฏิบัติการคือ ต้องจบภายในวันที่ 26 พ.ค. โดยวันที่ 18 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะเชิญคณะกรรมการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกเครือข่าย ทุกสมาพันธ์มาประชุมที่ตึกสันติไมตรี เพื่อมอบหมายภารกิจว่าแต่ละรัฐวิสาหกิจ ต้องทำอะไรร่วมกันบ้าง และแยกกันปฏิบัติตามความถนัดของรัฐวิสาหกิจ จากนั้นเวลา 14.00 น. เชิญอดีตข้าราชการผู้ใหญ่ระดับปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี รองอธิบดี และผู้ว่าฯ มาร่วมพูดคุย เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติของหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ
นายสุเทพกล่าวอีกว่า จากนั้นวันที่ 19 พ.ค. แยกย้ายกันไปทวงคืนอำนาจอธิปไตยจากคณะรัฐมนตรีที่เห็นแล้วว่าไม่มีอำนาจ ใครรู้ว่าบ้านหรือเซฟเฮาส์ของรัฐมนตรีคนใด ให้แจ้งบ้านเลขที่เข้ามา ส่วนข้าราชการให้ลุกฮือขึ้นปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งรัฐมนตรี ซึ่งไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ในวันที่ 19 พ.ค. เช่นกัน ขอให้แต่ละกระทรวง ทบวง กรม กระทำการอย่างเปิดเผย ขึ้นป้ายหน้ากระทรวง หน้ากรมหรือสำนักงานทุกแห่ง
ลั่นไม่สำเร็จ 27 พ.ค.มอบตัว
นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนวันที่ 22 พ.ค. จะจัดประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ปลัดกระทรวง อธิบดี สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ว่าฯ เพื่อล้างคนของระบอบทักษิณที่อยู่ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ให้หมดสิ้น สำหรับวันที่ 23-25 พ.ค. เป็นการลุกฮือครั้งใหญ่ของประชาชนทั้งประเทศ ชัยชนะจะรู้กันในวันจันทร์ที่ 26 พ.ค. ถ้าประชาชนไม่ออกมาเป็นล้านๆ คน วันอังคารที่ 27 พ.ค. ตนจะสลายการต่อสู้ เพราะสู้มากกว่านี้ไม่ไหว จะแพ้ชนะก็ต้องทำใจ เราได้ทำถึงที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 18-26 พ.ค. เราจะทุ่มเทภารกิจทั้งหมดให้เต็มที่ และจบกันวันที่ 27 พ.ค. ตนไม่ได้ดูฤกษ์ แต่เห็นว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สมควร หนังฉายนานแล้ว ต้องจบให้ได้ จะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน ทั้งประเทศ ปราบประชาชนได้ตลอด สุดท้ายคนที่ใช้อำนาจจะพ่ายแพ้ไปทุกครั้ง ใน 2 วันนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่ แทนนายกฯ ควรกลับตัวได้แล้ว อย่าเดินไปทาง ที่ผิด แต่ควรเดินหน้าออกไปสู่ประตูที่ประชาชน จะไม่เสียชีวิต ไม่มีการฉีกรัฐธรรมนูญและมีทางออกให้กับประเทศที่แท้จริง
จัดทีมบี้รมต.เซ็นลาออก
ต่อมาที่เวทีราชดำเนิน นายสุเทพปราศรัยบนเวทีว่าจะเริ่มปฏิบัติการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. และทำให้เสร็จสิ้นวันที่ 26 พ.ค. โดยวันที่ 27 พ.ค.จะเป็นวันฉลองชัยชนะของประชาชน โดยวันที่ 18 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะประชุมกรรมการสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจทั้งหมด ว่ารัฐวิสาหกิจจะดำเนินการอย่างไร แต่ขอให้อย่าไปตกอกตกใจ จะไม่มีการตัดน้ำ ตัดไฟบ้านพักของประชาชนทั้งประเทศ ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้รอฟังอีกครั้ง จากนั้นเวลา 14.00 น. ประชุมอดีตข้าราชการระดับสูงระดับปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดี รองอธิบดี เพื่อให้ข้าราชการรุ่นพี่ได้ไปปฏิบัติการร่วมกับพี่น้องข้าราชการที่ยังทำหน้าที่อยู่ในกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ขั้นตอนจะเริ่มจากเบาไปหาหนัก
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนวันที่ 19-21 พ.ค.จะแบ่งกำลังออกไปตามหาคนที่ยังอยู่ในคณะรัฐมนตรีเพื่อขอให้เซ็นใบลาออก สำหรับรัฐมนตรีชุดแรกที่เป็นเป้าหมายคือ นายนิวัฒน์ ธำรง บุญทรงไพศาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายชัยเกษม นิติสิริ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายยรรยง พวงราช นายวราเทพ รัตนากร นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และนายจาตุรนต์ ฉายแสง โดยจะจัดเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดที่จะประสานกับเพื่อนบ้านและข้าราชการว่ารัฐมนตรีเหล่านั้นไปทำงานหรือหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด ขอให้ผู้ชุมนุมสัญญาว่าจะไม่แตะเนื้อต้องตัวรัฐมนตรี เหล่านั้นโดยเด็ดขาด ปฏิบัติการโดยนุ่มนวล เชื่อว่าภายใน 3 วันจะต้องตามเจอได้หมด
ยันไม่ปล่อยให้เลือกตั้ง
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันที่ 22 พ.ค.จะจัดให้มีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ถึงแนวทางการทำความสะอาดระบอบทักษิณ และอำนาจมืดกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการกำจัดคนออก แต่จะปรึกษาว่าทำอย่างไรจึงจะฟื้นฟูจิตใจคนที่รับใช้ระบอบ ทักษิณมารับใช้ประชาชน ส่วนวันที่ 23-25 พ.ค. จะเป็นการปฏิบัติการครั้งใหญ่เพื่อประกาศชัยชนะในวันที่ 26 พ.ค. นี่เป็นหนังม้วนสุดท้าย ไม่มีหนังม้วนอื่นอีกแล้ว วันที่ 27 พ.ค.ต้องเป็นวันชนะของมวลมหาประชาชน เจ้าของประเทศไทยเท่านั้น
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขอให้ชาวนาออกมาร่วมกันต่อสู้ หากได้ตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จะจ่ายเงินจำนำข้าวภายใน 30 วัน และมวลมหาประชาชนที่มาต่อสู้ ยืนยันว่าตราบใดที่ไม่มีการปฏิรูปจะไม่ปล่อยให้มีการจัดเลือกตั้งได้แน่นอน เพราะพวกตนไม่ต้องการให้ระบอบ ทักษิณกลับมาปล้นฆ่าประชาชนและโกงชาติกินเมืองอีกต่อไป