- Details
- Category: เพื่อไทย
- Published: Tuesday, 20 May 2014 16:10
- Hits: 13831
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8574 ข่าวสดรายวัน
รำลึก 99 ศพ-ร่ำ ไห้ทั้งอักษะ ญาติจี้ลงนาม! อำ นาจศาลโลก
4 ปี 99 ศพ - ญาติวีรชนและคนเสื้อแดงร่วมพิธีรำลึกในวาระครบรอบ 4 ปี เหตุสลายการชุมนุม 19 พ.ค.2553 จนมีผู้เสียชีวิต 99 ศพ บาดเจ็บเกือบ 2,000 คน ที่เวทีถนนอักษะ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. |
ร้องเพลง ร่ำไห้ทั้งถนนอักษะ เสื้อแดง-ญาติ 99 ศพ รำลึก 4 ปี 19 พ.ค. ญาติวีรชนจี้เร่งรัดคดี ผ่านมา 4 ปียังไม่คืบหน้า เรียกร้องรัฐบาลลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาโลก ขณะที่ 'แม่เกด' กับญาติ 6 ศพ ทำบุญวัดปทุมฯ วางดอกไม้ไว้อาลัย 'ฟาบิโอ' ช่างภาพอิตาลี แม่เกดลั่นจะทำบุญทุกปีจนกว่าผู้เกี่ยวข้องรู้สึกผิด ออกมาขอโทษ 'จตุพร' เย้ยแผน 'เทือก' ไม่มีวันสำเร็จ จับตาม็อบอาละวาดทั่วเมือง "เต้น" เผยรางวัลนำจับ 'สุเทพ'กับแกนนำ กปปส. เพิ่มเป็น 6 ล้านบาทแล้ว จัดกิจกรรมนับถอยหลังวันมอบตัว
นปช.ทำบุญรำลึก 4 ปี 19 พ.ค.
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 19 พ.ค. ที่เวทีชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถนนอุทยาน หรือถนนอักษะ เขตทวีวัฒนา กทม. เชื่อมต่อ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นางธิดา โตจิราการ ที่ปรึกษา นปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายสมหวัง อัสราษี นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนายการุณ โหสกุล แกนนำนปช. เป็นต้น ทำพิธีรำลึกวันครบรอบ 4 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีเริ่มต้นด้วยการอ่านรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมด ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 จากนั้นนายจตุพรจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ตามด้วยตัวแทนนำสวดเจริญพระพุทธมนต์ สวดบังสุกุล อุทิศบุญกุศลให้ผู้เสียชีวิต แล้วถวายผ้าไตรแด่พระสงฆ์ 10 รูป บนเวที และกรวดน้ำ จากนั้นแกนนำนปช.พร้อมด้วยคนเสื้อแดงร่วมกันใส่บาตรพระสงฆ์ 2,557 รูป โดยตั้งแถวยาวตลอดสองฝั่งถนนอักษะ ยาวเหยียดไปจนถึงจุดตัดถนนพุทธมณฑล สาย 4
ญาติจี้ลงนามศาลอาญาโลก
นายสมชาย เจียมพล บิดานายทิพเนตร เจียมพล ที่เสียชีวิตบริเวณซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2553 กล่าวว่า ลูกชายเสียชีวิตมา 4 ปีแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า อยากให้กรมสอบสวนคดีพิเษ (ดีเอสไอ) ช่วยเร่งรัดคดีด้วย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลลงนามรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับผู้สั่งการปราบปรามประชาชน ส่วนความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้ อยากให้ทุกกลุ่มรณรงค์ให้มีการเลือกตั้งเสียที อยากให้กปปส.ยอมรับกติกา ให้มีการเลือกตั้ง
ด้านนายผัน คำกอง พี่ชายนายพัน คำกอง ที่ถูกทหารยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าคอนโดมิเนียม ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 กล่าวว่า อยากฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองให้เร่งรัดดำเนินคดีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เสียที อีกทั้งอยากให้รัฐบาลลงนามรับรองอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เพราะคดี 99 ศพ เป็นคดีใหญ่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลเดินหน้าพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง ซึ่งสุดท้ายก็ทำให้เกิดเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ หากรัฐบาลไม่ทำม็อบกปปส.ก็คงไม่เกิดขึ้น
'ตู่'เย้ยแผนเทือก-ไม่มีวันสำเร็จ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายจตุพร พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ นางธิดา และแกนนำนปช. ขึ้นเวทีร่วมแถลงประจำวัน โดยนายจตุพรกล่าวว่า กรณีนายสุเทพจะให้สหภาพรัฐวิสาหกิจนัดหยุดงานในวันที่ 22 พ.ค ส่วนข้าราชการประจำจะให้ผู้มีบารมีไปเชิญข้าราชการประจำ และอดีตข้าราชการมาร่วมกับกปปส.นั้น อยากถามนายสุเทพว่าผู้มีบารมีคนนั้นคือใคร เหตุใดจึงมีอำนาจแทรกแซงการบริหารของรัฐบาลได้
"ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจต้องรู้ว่านายสุเทพมีข้อหาฆ่าคนตาย พยายามฆ่า กบฏ และก่อการร้าย มีโทษถึงประหารชีวิต เป็นคนไม่มีอนาคต ที่ข้าราชการและอดีตข้าราชการจะไปร่วมเป็นร่วมตายก่อกบฏด้วย เพราะการกระทำของนายสุเทพจะไม่มีวันสำเร็จ ขอเรียนไปยังรัฐบาลรักษาการด้วยว่าให้เตรียมแผนสำรอง และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตถึงกองทรายของกปปส.ทำขึ้นเป็นบังเกอร์ว่า จะไปรบกับใคร เพราะที่ผ่านมา กปปส.บอกว่าไม่มีอาวุธ" นายจตุพรกล่าว และว่า นปช.จะนัดระดมพลสูงสุดในวันที่ 24-26 พ.ค. เพื่อเดิมพันกันในวันที่ 27 พ.ค. ไม่ว่านายสุเทพจะดำเนินการใดๆ นปช.จะประมาทไม่ได้ เพราะไม่ได้สู้กับนายสุเทพเพียงคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายขบวนการที่ร่วมสมคบคิด
รางวัลนำจับเพิ่มเป็น6ล้าน
ส่วนนายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่ได้รับเงินสด 5 ล้านบาท จากผู้หวังดีเพื่อนำไปมอบให้กับคนที่ชี้เบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมนายสุเทพนั้น เมื่อเย็นวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากพี่น้องเสื้อแดงที่มาถนนอักษะ ว่าจะเพิ่มเงินสดให้อีก 1 ล้านบาท สำหรับเป็นรางวัลนำจับนายสุเทพ โดยผู้ที่ชี้เบาะแสจนถึงจับกุมนายสุเทพได้ จะมีรางวัลเงินสดทันที 4 ล้านบาท ส่วนแกนนำระดับรองอยู่ที่ 300,000 บาทต่อคน และหลังจากนี้ใครต้องการจะเพิ่มรางวัลสำหรับแกนนำคนใดเป็นพิเศษ ให้มาติดต่อได้ ยืนยันว่าหลักการจับกุมตัวต้องเป็นการดำเนินการของตำรวจ ไม่ใช่การไปจับกุมกันเอง นอกจากนี้ เจ้าของเงินยังตอบรับว่ายินดีมอบรางวัลให้กับตำรวจชุดจับกุมด้วย
เลขาฯ นปช.กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบรายชื่ออดีตข้าราชการระดับสูงที่เข้าประชุมกับนายสุเทพ โดยกลุ่มแรกเป็นคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เช่น นพ.ไพจิตร์ วราชิต นายสมชาย เสียงหลาย นายปรีชา วัชราภัย ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ คนที่ออกมาเคลื่อนไหว กับกปปส. จึงสรุปได้ว่าข้าราชการที่ออกมาไม่ได้ซาบซึ้งกับแนวทางสุเทพแต่อย่างใด แต่เป็นพวกเดียวกับนายสุเทพและพรรคประชา ธิปัตย์ตั้งแต่ต้น จึงถือเป็นการจัดฉากอ้างความชอบธรรม
มั่นใจวิสาหกิจไม่รับใช้เผด็จการ
เลขาฯ นปช.กล่าวอีกว่า ส่วนสหภาพรัฐวิสาหกิจนั้นเท่าที่เห็นก็เป็นตัวจริง แต่เชื่อมั่นว่าสมาชิกรัฐวิสาหกิจและเจ้าหน้าที่บางส่วนไม่น่าจะเห็นด้วยกับตัวแทนที่มาประชุมทั้งหมด มั่นใจว่าคนของรัฐวิสาหกิจจะเป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เอาจรรยาบรรณไปรับใช้เป้าหมายทางการเมืองของฝ่ายเผด็จการ ด้วยการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
"แม้พวกผมจะไม่ให้ราคากับคำพูดนาย สุเทพ แต่เนื่องจากครั้งนี้ประชาชนคาดหวังว่านายสุเทพจะรักษาคำพูด จึงจะชวนประชาชนนับถอยหลัง เพื่อรอนายสุเทพมอบตัวไปทีละวัน เพราะเวลานี้มีความเคลื่อนไหวของแกนนำ อ้างมติประชาชนที่ห้ามไม่ให้ลุงกำนันมอบตัว เพื่อเปิดทางออกให้กับนายสุเทพ พวกเราจึงอาจจะได้เห็นนายสุเทพบอกว่า ผมอยากรักษาคำพูด แต่เนื่องจากเป็นร่างทรงประชาชน จึงต้องทำตามความต้องการของประชาชน" เลขาฯ นปช.กล่าว
จับตา"กปปส."อาละวาดทั่วเมือง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนสบายใจได้ ว่านปช.จะไม่เคลื่อนไหวใดๆ ไปเผชิญหน้ากปปส. โดยตลอดสัปดาห์นี้ กปปส.จะออกอาละวาดทั่วบ้านทั่วเมือง กดดันประชาชน ส่วนนปช.จะอยู่ในที่ตั้ง แต่เหตุผลที่นปช.ต้องออกมา เพราะไม่อาจยอมรับวิธีการที่เผด็จการได้ หากชัดเจนว่าบ้านเมืองเดินไปตามประชาธิปไตย นปช.ก็พร้อมยุติการชุมนุม กลับไปประกอบอาชีพในภูมิลำเนาทันที
เลขาฯ นปช.กล่าวด้วยว่า ล่าสุดจากการประสานงานรัฐมนตรีหลายท่าน ทั้งที่สังกัดพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล กรณีที่นายสุเทพประกาศจะไล่รัฐมนตรีให้ลาออกจากตำแหน่งนั้น ได้รับคำยืนยันจากทุกพรรคว่า ไม่มีใครคิดจะลาออกตามคำข่มขู่นายสุเทพแม้แต่รายเดียว และเมื่อสักครู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลสำคัญในรัฐบาล ว่าทุกคนจะยืนหยัดรักษาหลักการจนวินาทีสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะแถลงแกนนำร่วมกันชูป้ายระบุข้อความว่า เหลืออีก 9 วัน สุเทพมอบตัว เพื่อนับถอยหลังวันที่นายสุเทพจะไปมอบตัว ตามที่ได้ประกาศไว้ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมนับถอยหลังด้วย
ลั่นศึกนี้'เสื้อแดง'ชอบธรรม
ขณะที่นางธิดากล่าวว่า ในศึกใหม่ครั้งนี้ นปช.และขบวนการประชาธิปไตยต้องยืนหยัดอย่างถึงที่สุด และสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรชนให้ประชาธิปไตยในประเทศนี้เติบใหญ่ และเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขอให้กองทัพและฝ่ายปฏิปักษ์ สังวรว่าเคยคิดว่าถ้าฆ่าคนจำนวนหนึ่งแล้วคนที่เหลือจะไม่สู้นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะพัฒนาการคนเสื้อแดงมีวุฒิภาวะ มีความเข้าใจ สามัคคี และมียุทธศาสตร์เหมือนกันหมด ศึกครั้งนี้เป็นศึกที่ประชาชนอยู่บนความถูกต้องชอบธรรมทางการเมือง
"ขอเตือนกองทัพว่า 4 ปีที่แล้วนายสุเทพเป็นรัฐบาลสั่งการท่านให้ปราบปรามประชาชนอย่างไร วันนี้นายสุเทพเป็นกบฏ ทำผิดกฎหมายทั้งหมด กองทัพพิจารณาเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ขณะที่ นปช.ปฏิบัติตามกฎหมาย และครรลองประชาธิปไตย ขอให้กองทัพรำลึกเหตุการณ์ 4 ปีที่แล้วด้วยว่า หากคิดทำรัฐประหาร หรือประกาศกฎอัยการศึก จะทำให้เกิดผลใดตามมาบ้าง"ที่ปรึกษา นปช.กล่าว
'แม่เกด'นำทำบุญวัดปทุมฯ
ขณะเดียวกัน ที่ศาลา 80 ปี วัดปทุมวนาราม ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย. - พ.ค.2553 นำโดยนางพาะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสา 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ที่ถูกยิงภายในวัดปทุมฯ ร่วมทำบุญเลี้ยงพระ และถวายผ้าไตรจีวรแด่พระสงฆ์ 9 รูป อุทิศบุญให้กับผู้ล่วงลับ และรำลึกครบรอบ 4 ปี 19 พ.ค.2553
โดยมีเป็นญาติและบุคคลใกล้ชิดของ ผู้เสียชีวิต 16 ราย ได้แก่ น.ส.กมนเกด อัคฮาด, นายสุวรรณ ศรีรักษา, นายอัฐชัย ชุมจันทร์, นายรพ สุขสถิตย์, นายอัครเดช ขันแก้ว, นายสุภชีพ จุลทัศน์, นายน้อย บรรจง, น.ส.ฉันทนา สรรพศรี, นายมนต์ชัย แซ่จอง, นายกิตติพันธ์ ขันทอง, นายประชา อารีพงษ์, นายฟาบิโอ โปเลงกี, นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ, นายถวิล คำมูล, นายสมพงษ์ กิ่งทอง และนายอนันต์ สิริกุลวนิช ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ นอกจากจะเป็นผู้เสียชีวิตในพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว ยังมีแกนนำคนเสื้อแดงในต่างจังหวัด ที่ถูกฆ่าจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองด้วย
ลั่นไม่เอา'นิรโทษเหมาเข่ง'
นางพะเยาว์กล่าวว่า การต่อสู้คดี 4 ปีที่ผ่านมา มีผลกระทบทางการเมืองมาเกี่ยวข้องด้วยจากการพยายามออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง ที่ญาติผู้เสียชีวิตต่อต้านมาตลอด ส่วนตัวคาดว่า เมื่อเหตุการณ์ทางการเมืองกลับสู่ภาวะปกติ คดีจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะประชาชนอยากเห็นคนผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าแม้คดีจะยืดเยื้อ แต่อย่างน้อยหวังว่าจะไม่มีการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้กระทำผิดออกมาอีก แต่หากมีรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยแล้วมีการพิจารณาพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ประชาชน และนักโทษการเมืองที่ยังติดคุกอยู่เป็นการเฉพาะ ก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่
"ญาติจะทำบุญอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องได้เห็น และตั้งคำถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ กับการที่ประชาชนธรรมดาถูกเจ้าหน้าที่ฆ่า แล้วญาติต้องมารำลึกทำบุญให้ทุกปี เจ้าหน้าที่ต้องรู้สึกผิดและออกมาขอโทษ ไม่ใช่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วกลับเรียกร้องให้ผู้ถูกกระทำให้อภัย และหากเจ้าหน้าที่ออกมาทำแบบที่ผ่านมาอีก เชื่อแน่ว่าทหารในประเทศไทยจะไม่มีใครกล้าใส่เครื่องแบบ"นางพะเยาว์กล่าว
วางดอกไม้รำลึก'ฟาบิโอ'
ส่วนนางสมศรี ขันทอง อายุ 54 ปี แม่นายกิตติพันธ์ ขันทอง ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณซอยรางน้ำ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุ ดีเอสไอเรียกไปให้ปากคำเพียงครั้งเดียว จนถึงขณะนี้คดีค้างอยู่ที่ดีเอสไอ ผ่านมา 4 ปี แล้ว คงไม่มีหลักฐานอื่นเพิ่มเติม ทางญาติจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่จะติดตามคดีจนกว่าจะหมดอายุความ 20 ปี พร้อมทั้งฝากความหวังไว้ที่คดีอื่นๆ ด้วย เพราะถือว่าเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมจากเหตุการณ์เดียวกัน
ขณะที่นายสุนัย ผาสุก ผู้ประสานงานที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาร่วมงานด้วย กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมา คดีไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่กำลังเกิดขึ้น และทำให้มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มเติมเข้าไปอีก ดังนั้น สิ่งที่ฮิวแมนไรต์วอตช์ต้องการจะสื่อในโอกาสครบรอบ 4 ปี คือขออย่าให้ประวัติศาสตร์นองเลือดเกิดซ้ำ ยึดหลักประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง ประชนทุกฝ่ายปฏิเสธและหลีกเลี่ยงความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีที่ วัดปทุมฯ ญาติผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่ถนนราชดำริ ร่วมกันวางช่อดอกไม้รำลึกถึงนายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลี ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553
ญาติวีรชนประกาศ 3 แนวทาง
ต่อมาเวลา 19.00 น. กลุ่มญาติวีรชนขึ้นเวทีกล่าวรำลึกถึงผู้เสียชีวิต โดยนายณัทพัช อัคฮาด น้องชายน.ส.กมนเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงในวัดปทุมฯ กล่าวว่าวันนี้ครบรอบ 4 ปี ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และคนที่ถูกจับกุมคุมขัง แต่แทนที่ญาติ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และคนที่ถูกจับกุมจะได้รับความยุติธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับเป่านกหวีด บอกว่าตัวเองเป็นคนดีในประเทศนี้
นายณัทพัช กล่าวต่อว่า จากความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น กลุ่มญาติคุยกันและคิดว่าอาจลงเอยเหมือนปี 2553 จึงขอเสนอนโยบาย 3 จะ คือ 1.จะเร่งรัดคดีที่ยังค้างที่ดีเอสไอ ยังไม่ได้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม ให้เข้าสู่กระบวนการศาลให้ครบทุกคดี 2.จะเคลื่อนไหวให้รัฐบาลลงนามยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ผลักดันคดีให้โลกรู้ว่าผู้สั่งการเลวแค่ไหน และ 3.จะเอาอย่างไรก็ว่ามา พวกตนไม่ทนแล้ว 4 ปีที่สู้มา ไม่มีคำว่ากลัว ขอเอาหัวใจเดิมพัน 1 ชีวิต แลก 1 ชีวิต
'จิ้น'นำร้องเพลง-ร่ำไห้ทั้งอักษะ
จากนั้นนายกุลศักดิ์ เรืองคงเกียรติ หรือ จิ้น กรรมาชน ขึ้นนำร้องเพลง'นักสู้ธุลีดิน'และ'เอาคืน'เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการต่อสู้ทางการเมือง โดยมีผู้ชุมนุมร่วมขับร้องทั้ง 2 เพลงกึกก้องไปทั่วถนนอักษะ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติผู้เสียชีวิต และ ผู้ชุมนุมหลายคนที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
จิ้นกล่าวว่า สำหรับเพลงเอาคืน แต่งไว้ช่วงหลังเดือนเม.ย.2552 ที่มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจากการล้อมปราบของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เนื้อหาของเพลง คือการถ่ายทอดความรู้สึกของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ต้องการเรียกร้องสิทธิที่โดนปล้นไปคืนมา ต้องเอาคืน เพราะรับไม่ได้
"ปัญหาทางการเมืองในขณะนี้เป็นปัญหาของชนชั้นที่แพ้เลือกตั้ง ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ พยายามจะขวางการเลือกตั้ง ปฏิเสธพื้นฐานความคิดที่ว่า คนเท่ากัน ลงท้ายด้วยการดูถูกเสียงประชาชน บอกว่าเสียงของคนชนบทแย่ จนทำให้เกิดความแตกแยก หากไม่รีบแก้ไข มันจะกลายเป็นสงครามกลางเมือง ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหา คือ ต้องเลือกตั้ง" จิ้นกล่าว