WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

21จงหวด

กทม.เร่งรับมือ ฝน-ทิ้งทวน ปภ.เตือน 21 จังหวัด ปราจีนฯ ส่อวิกฤต น้ำมาอีก


ท่วมหนัก- สภาพน้ำท่วมขังเขตเทศบาล และถนนราชสีมา-โชคชัย ขาเข้าตัวเมือง ระดับน้ำสูงถึง 30 ซ.ม. เป็นระยะกว่า 200 เมตร เป็นผลจากร่องมรสุมเคลื่อนผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือหลายจังหวัด

ปภ.เตือนภัย 21 จว. ระวังฝน ตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่มจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดไทยตอนบน ระหว่างวันที่ 9-12 ต.ค. สั่งมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวัง 24 ช.ม. กทม.โดนด้วย สั่งเตรียมรับมือ ปราจีนฯ สถานการณ์ส่อวิกฤต ตลาดกบินทร์ยังอ่วม ลพบุรีน้ำล้นอ่างซับเหล็ก โคราชอ่วมฝนถล่ม 3 ช.ม. ท่วมระบายไม่ทัน กาฬสินธุ์น้ำเซาะคอสะพานชำรุด ขอนแก่นถนนมิตรภาพจม เครื่องบินดีเลย์ผู้โดยสารตกค้างอื้อ

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9082 ข่าวสดรายวัน
ปภ.เตือน 21 จว.เหนือ-อีสาน
        วันที่ 9 ต.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 9-10 ต.ค. ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. 
      ปภ.จึงได้ประสานแจ้งเตือนให้ 21 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย อุทกภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. แยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย และหนองบัวลำภู 
       นอกจากนี้ ยังให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย 
       สำหรับ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตาม คำเตือนอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ฝนถล่มโคราช 3 ช.ม.
       ฝนที่ตกหนักเป็นเวลากว่า 3 ช.ม. ใน เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 50 ม.ม. ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนราชดำเนิน หน้าประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซ.ม. เป็นระยะทางยาว 100 ม. รวมทั้งสระน้ำบ้านหนองโสน น้ำล้นออกมาท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนนับสิบหลัง เขตตำบลหัวทะเล ถ.ราชสีมา-โชคชัย ขาเข้าตัวเมือง ตั้งแต่ทางแยกเข้าโรงเรียนบุญวัฒนา ถึงทางแยกหัวทะเล ระดับน้ำสูง 30 ซ.ม. เป็นทางยาวกว่า 200 ม. สาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ทำทำนบกั้นพื้นที่ก่อสร้าง ท่อระบายน้ำลอดทางรถไฟ ทำให้น้ำระบายไม่สะดวก 
      ด้านนายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง สำนักงานชลประทานที่ 8 (ชป.8 ) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีน้ำฝนจากพื้นที่ป่าต้นน้ำ ผืนป่ามรดกโลกแห่งที่ 5 ดงพญาเย็น เขาใหญ่ ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เฉลี่ยวันละ 1-2 ล้าน ลบ.เมตร ล่าสุดมีปริมาณน้ำดิบที่สามารถใช้งานได้ 101.395 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 32.24 ของพื้นที่เก็บกัก 314 ล้าน ลบ.เมตร ซึ่งมีปริมาณต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ตามเกณฑ์สิ้นเดือนตุลาคม น้ำในอ่างต้องมีไม่ต่ำกว่า 150 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 50 ของพื้นที่เก็บกัก จึงจะสามารถจัดสรรน้ำให้ประชาชนกว่า 5 แสนคน ในพื้นที่ 6 อำเภอ มีน้ำอุปโภค บริโภคได้พอเพียง และต้องมีน้ำ 250 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 80 ของความจุอ่าง จะสามารถตอบโจทย์พื้นที่เกษตรกรรม 154,195 ไร่ได้ครบถ้วน แต่สถานการณ์ปัจจุบันเหลือเวลาไม่ถึง 30 วัน จะสิ้นฤดูฝน จึงต้องควบคุมการใช้น้ำอย่างเข้มข้นและกักเก็บน้ำให้มากที่สุด โดยลดการส่งน้ำเหลือวันละ 2 แสน ลบ.เมตร หากมีฝนตกท้ายอ่าง จะงดส่งน้ำทันที ฝากถึงผู้รับผิดชอบกิจการประปากว่า 100 แห่ง รวมทั้งผู้ใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม ให้เร่งรัดการสูบน้ำชักน้ำเข้าบ่อสระสำรองน้ำให้มากที่สุด เนื่องจากการส่งน้ำค่อนข้างลำบากและต้องใช้น้ำมาก อาจทำให้น้ำหมดอ่าง ก่อนถึงฤดูฝนปีหน้า

กาฬสินธุ์น้ำเซาะคอสะพาน
       นายสเตรสฉัน ภูนาสูง ผญบ.ตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน ลงสำรวจความเสียหายหลังน้ำป่า จากป่าดงระแนงพัดถล่ม เมื่อเย็นวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา พบผิวถนนถูกกระแสน้ำกัดเซาะเสียหายหลายสิบเมตร คอสะพานเกือบขาด ทำให้การจราจรติดขัด เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรที่อยู่ใกล้ทางเดินของน้ำป่า ถูกกระแสน้ำไหลบ่าท่วมอีกหลายบ่อ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาตลอดสัปดาห์ พบปริมาณน้ำที่เขื่อนลำปาวเริ่มสูงขึ้น มีมวลน้ำไหลเข้าอ่าง 29 ล้าน ลบ.เมตร ปริมาณน้ำ 819 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 41.36% จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.เมตร

ขอนแก่นท่วมถ.มิตรภาพ
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำฝนที่ตกลงมามากกว่าทุกวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในถนนเส้นทางสายต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยเฉพาะ ถ.มิตรภาพ ตั้งแต่สี่แยกเจริญศรี ไปจนถึง อุโมงค์ทางลอดสี่แยกสามเหลี่ยม ที่มีระดับน้ำท่วมเต็มทั้งเส้นทางสูงกว่า 20 ซ.ม. รถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้ นอกจากนี้ยังพบว่าบางช่องทางตลอดแนวถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ ต.เมืองเก่า ไปจนถึง ต.สำราญ มีระดับน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่เร่งตั้งป้ายประกาศแจ้งเตือน ขณะที่ภายในเขตชุมชนต่างๆ ระดับน้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในหลายจุด เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่ท่อระบายน้ำกลาง รวมถึงทำแนวกระสอบทรายและพนังกั้นน้ำเพื่อกำหนดเส้นทางน้ำไหล และป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้าง
       เช่นเดียวกันกับถนนสายเลี่ยงเมืองขอนแก่น-ชัยภูมิ ตั้งแต่สี่แยกเจริญศรี ถึงบ้านสะอาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งรวมไปถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและบ้านจัดสรรกว่า 10 โครงการ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซ.ม. ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่นำก้อนอิฐ,แผ่นอะลูมิเนียมและแผ่นเหล็ก มาทำเป็นสะพาน ให้ผู้คนเดินเข้า-ออกจนกว่าระดับน้ำจะลดลง

เครื่องบินดีเลย์ผู้โดยสารตกค้างอื้อ
       ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น กรมการบินพลเรือน กล่าวว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปมีเมฆปกคลุม หรือมีสภาพอากาศปิด วิสัยทัศน์ในการทำการบินต่ำมาก เพียง 300 เมตรเท่านั้น ทำให้สายการบินที่บินมาจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้ารวม 4 สายการบิน เกิดการล่าช้า 3 เที่ยวบิน โดยที่บางเที่ยวบินต้องไปลงที่อุดรธานี เพื่อให้สภาพอากาศเปิดจึงสามารถกลับมาลงที่ขอนแก่นได้ ขณะที่เที่ยวบินในช่วงเที่ยงต่อเนื่องไปจนเที่ยวบ่าย ที่เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง,สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินเชียงใหม่ รวม 5 เที่ยวบิน ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานงานไปยังสายการบินต่างๆ ในการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้าง ในแต่ละเที่ยวบิน เฉพาะช่วงเช้ารวมกว่า 200 คนและในช่วงเที่ยงถึงบ่ายอีกกว่า 200 คน ในการจัดหาอาหารและน้ำดื่ม และการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ตามกฎการบิน ขณะเดียวกันยังคงพบว่าผู้โดยสารบางคนมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วบางส่วนอีกด้วย

ลพบุรีน้ำล้นอ่างซับเหล็ก
      นายรังสรรค์ สละชีพ นายก ทต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล นำเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชน ขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของ ขึ้นไปอยู่ในที่สูงให้พ้นน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมนำกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้าน หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในช่วงกลางคืน วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำสะสมตามภูเขาในเขตตำบลนิคมสร้างตนเองและตำบล โคกตูม ประกอบกับน้ำที่กักเก็บเอาไว้ในอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ระดับน้ำสูงเกินสปริงเกลอร์ น้ำจึงไหลลงมาด้านล่าง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 6-7 ต.ท่าศาลา ประมาณ 300 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซ.ม. ซึ่งทางเทศบาลตำบลท่าศาลา นอกจากนี้ยังท่วมถนนสายวัดเขาหนีบ-บ้านปาปี และถนนสายวัดเขาหนีบ-วัดเขาแก้ว ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซ.ม. ทต.ท่าศาลา รวมทั้งถนนสายลพบุรี-วังม่วง ช่วงตั้งแต่วัดเขาแก้วถึง 4 แยกนิคมสร้าง ตนเอง ซึ่งมีการจราจรที่หนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าโรงงานมินีแบร์ลพบุรีนำแผงเหล็กมากั้น ห้ามไม่ให้รถเล็กผ่าน เพื่อความปลอดภัย

ปราจีนฯตลาดกบินทร์ยังอ่วม
       สถานการณ์น้ำท่วมปราจีนบุรี เริ่มขยายวงกว้างออกไปหลายอำเภอ เช่น อ.กบินทร์บุรี อ.ประจันตคาม อ.เมือง อ.ศรีมหาโพธิ และอ.บ้านสร้าง พบว่าน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี รับน้ำที่ไหลหลากมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และน้ำด้านฝั่งตะวันออกจากสระแก้ว ไหลมารวมกันบริเวณต้นแม่น้ำบางปะกง ในเขตพื้นที่เทศบาลกบินทร์ จนล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพืชสวนการเกษตรบ้างแล้ว ส่วนที่ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ หลังจากที่ถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้า พบว่าหลังมีฝนลงมาอีกเกือบตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำท่วมสูงขึ้นอีกอยู่ที่ระดับ 50-80 ซ.ม. ถนนเข้าออกในชุมชนถูกน้ำท่วมสูง รถยนต์ผ่านไม่ได้ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ โรงเรียนเทศบาล 1 และโรงเรียนเทศบาล 2 มีน้ำท่วมอาคารเรียน นอกจากนี้ระดับน้ำด้านฝั่งของแควพระปรง ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณบ้านท่าขี้เหล็ก และบ้านนางเลง ต.กบินทร์ บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมนับร้อยหลังคาเรือนน้ำที่เอ่อล้นล้นตลิ่งยังทำให้ต้นมะขามยักษ์อายุร่วม 100 ปี โค่นล้มลงมาขวางถนนทางเข้าออกหมู่บ้านริมน้ำ หมู่12 ขณะเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี ได้นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วม พร้อมกับช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของน้ำ 

สถานการณ์เริ่มวิกฤต
      ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี เพิ่มเติม โดยชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร และยังท่วมสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด ที่ อ.ศรีมหาโพธิ แม่น้ำปราจีนบุรี ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ต.ศรีมหาโพธิ ต.บ้านทาม และ ต.ท่าตูม และยังขยายวงกว้างออกไปอีกหลายหมู่บ้าน เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำพระปรง กับน้ำจากเขาใหญ่ไหลลงมาผสม ส่วนที่โรงเรียนบ้านย่านนางวิ่ง (หรั่ง เครือแป้น อุทิศ) ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ น้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมภายในพื้นที่โรงเรียน ทั้งอาคารเรียน โรงอาหาร สูงกว่า 40 ซ.ม. เด็กๆ และครูต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ในการเรียนการสอนให้พ้นน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหาย ทาง อบต. ได้เตรียมจัดเต็นท์ มากางไว้เพื่อให้ชาวบ้านได้ขนข้าวของขึ้นมาไว้เพื่อหนีน้ำ ส่วนการไฟฟ้าเร่งสำรวจพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่น้ำเข้าท่วม หากอยู่ในจุดเสี่ยงก็จะตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย

กทม.เตรียมรับมือร่องมรสุม
     รายงานข่าวจากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สำหรับสถานการณ์ฝนตกในกรุงเทพฯเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นเพียงกลุ่มเพียงเล็กน้อย จะมีปริมาณมากในพื้นที่เขตหนองจอกและฝั่งธนบุรี โดยขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนคาดว่าจะมีร่องมรสุมจากภาคกลาง ลงมาที่พื้นที่กรุงเทพฯช่วงวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ซึ่งสำนักการระบายน้ำก็ได้เตรียมความพร้อมจากคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่การพร่องน้ำในคลองต่างๆ เตรียมเครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยเบสท์ เพื่อให้พร้อมออกปฏิบัติงานทันที โดยคาดว่าฝนที่จะตกจะเป็น กลุ่มในที่มีลักษณะหนักบ้าง เบาบ้าง แต่ต้องมีการติดตามสภาพอากาศในช่วงนั้นอีกครั้ง 
        ขณะที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. มีฝนเล็กน้อยพื้นที่กทม.เกือบทั้งหมด ฝนปานกลางปกคลุมเขตคันนายาว บึงกุ่ม บางกะปิ มีนบุรี หนองจอกและ ลาดกระบัง จนถึงเวลา 08.30 น. โดยทั่วไปฝนเล็กน้อยเบาบางกระจาย พื้นที่กทม.ทั้งหมดต่อเนื่อง จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรปราการ แนวโน้มลดลง เคลื่อนตัว ทิศใต้ค่อนตะวันออก ปริมาณฝนรวมสูงสุด ที่เขตหนองจอก 43.0 มิลลิเมตร ส่วนจากการประชุมกับกระทรวงมหาดไทยที่มีพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมครั้งล่าสุด ในช่วงหนึ่งที่ประชุมได้หารือถึงการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ได้กำชับให้หน่วยงานทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดปริมณฑล พล.อ.อนุพงษ์ให้โจทย์ว่าในพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมของกรุงเทพฯ จะทำอย่างไรให้มีการขยายท่อระบายน้ำได้ เพื่อให้การระบายน้ำทำได้ดีกว่าเดิม

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9082 ข่าวสดรายวัน


กทม.เร่งรับมือ ฝน-ทิ้งทวน


ปภ.เตือน 21จังหวัด ปราจีนฯ ส่อวิกฤต น้ำมาอีก



ท่วมหนัก- สภาพน้ำท่วมขังเขตเทศบาล และถนนราชสีมา-โชคชัย ขาเข้าตัวเมือง ระดับน้ำสูงถึง 30 ซ.ม. เป็นระยะกว่า 200 เมตร เป็นผลจากร่องมรสุมเคลื่อนผ่าน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือหลายจังหวัด

ปภ.เตือนภัย 21 จว. ระวังฝน ตกหนัก น้ำท่วม ดินถล่มจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดไทยตอนบน ระหว่างวันที่ 9-12 ต.ค. สั่งมิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวัง 24 ช.ม. กทม.โดนด้วย สั่งเตรียมรับมือ ปราจีนฯ สถานการณ์ส่อวิกฤต ตลาดกบินทร์ยังอ่วม ลพบุรีน้ำล้นอ่างซับเหล็ก โคราชอ่วมฝนถล่ม 3 ช.ม. ท่วมระบายไม่ทัน กาฬสินธุ์น้ำเซาะคอสะพานชำรุด ขอนแก่นถนนมิตรภาพจม เครื่องบินดีเลย์ผู้โดยสารตกค้างอื้อ



ปภ.เตือน 21 จว.เหนือ-อีสาน

วันที่ 9 ต.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 9-10 ต.ค. ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 10-11 ต.ค. 

ปภ.จึงได้ประสานแจ้งเตือนให้ 21 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย อุทกภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนัก ในช่วงวันที่ 9-12 ต.ค. แยกเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ เลย และหนองบัวลำภู 

นอกจากนี้ยังให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด ให้เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย 

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตาม คำเตือนอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง



ฝนถล่มโคราช 3 ช.ม.

ฝนที่ตกหนักเป็นเวลากว่า 3 ช.ม. ใน เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา วัดปริมาณน้ำฝนได้ 50 ม.ม. ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณถนนราชดำเนิน หน้าประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซ.ม. เป็นระยะทางยาว 100 ม. รวมทั้งสระน้ำบ้านหนองโสน น้ำล้นออกมาท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนนับสิบหลัง เขตตำบลหัวทะเล ถ.ราชสีมา-โชคชัย ขาเข้าตัวเมือง ตั้งแต่ทางแยกเข้าโรงเรียนบุญวัฒนา ถึงทางแยกหัวทะเล ระดับน้ำสูง 30 ซ.ม. เป็นทางยาวกว่า 200 ม. สาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่ทำทำนบกั้นพื้นที่ก่อสร้าง ท่อระบายน้ำลอดทางรถไฟ ทำให้น้ำระบายไม่สะดวก 



ด้านนายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง สำนักงานชลประทานที่ 8 (ชป.8 ) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีน้ำฝนจากพื้นที่ป่าต้นน้ำ ผืนป่ามรดกโลกแห่งที่ 5 ดงพญาเย็น เขาใหญ่ ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำลำตะคอง เฉลี่ยวันละ 1-2 ล้าน ลบ.เมตร ล่าสุดมีปริมาณน้ำดิบที่สามารถใช้งานได้ 101.395 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 32.24 ของพื้นที่เก็บกัก 314 ล้าน ลบ.เมตร ซึ่งมีปริมาณต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ตามเกณฑ์สิ้นเดือนตุลาคม น้ำในอ่างต้องมีไม่ต่ำกว่า 150 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 50 ของพื้นที่เก็บกัก จึงจะสามารถจัดสรรน้ำให้ประชาชนกว่า 5 แสนคน ในพื้นที่ 6 อำเภอ มีน้ำอุปโภค บริโภคได้พอเพียง และต้องมีน้ำ 250 ล้าน ลบ.เมตร หรือร้อยละ 80 ของความจุอ่าง จะสามารถตอบโจทย์พื้นที่เกษตรกรรม 154,195 ไร่ได้ครบถ้วน แต่สถานการณ์ปัจจุบันเหลือเวลาไม่ถึง 30 วัน จะสิ้นฤดูฝน จึงต้องควบคุมการใช้น้ำอย่างเข้มข้นและกักเก็บน้ำให้มากที่สุด โดยลดการส่งน้ำเหลือวันละ 2 แสน ลบ.เมตร หากมีฝนตกท้ายอ่าง จะงดส่งน้ำทันที ฝากถึงผู้รับผิดชอบกิจการประปากว่า 100 แห่ง รวมทั้งผู้ใช้น้ำภาคอุตสาหกรรม ให้เร่งรัดการสูบน้ำชักน้ำเข้าบ่อสระสำรองน้ำให้มากที่สุด เนื่องจากการส่งน้ำค่อนข้างลำบากและต้องใช้น้ำมาก อาจทำให้น้ำหมดอ่าง ก่อนถึงฤดูฝนปีหน้า



กาฬสินธุ์น้ำเซาะคอสะพาน

นายสเตรสฉัน ภูนาสูง ผญบ.ตูม หมู่ 19 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้าน ลงสำรวจความเสียหายหลังน้ำป่า จากป่าดงระแนงพัดถล่ม เมื่อเย็นวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา พบผิวถนนถูกกระแสน้ำกัดเซาะเสียหายหลายสิบเมตร คอสะพานเกือบขาด ทำให้การจราจรติดขัด เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกรามของเกษตรกรที่อยู่ใกล้ทางเดินของน้ำป่า ถูกกระแสน้ำไหลบ่าท่วมอีกหลายบ่อ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 3 แสนบาท อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาตลอดสัปดาห์ พบปริมาณน้ำที่เขื่อนลำปาวเริ่มสูงขึ้น มีมวลน้ำไหลเข้าอ่าง 29 ล้าน ลบ.เมตร ปริมาณน้ำ 819 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 41.36% จากความจุอ่าง 1,980 ล้าน ลบ.เมตร



ขอนแก่นท่วมถ.มิตรภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำฝนที่ตกลงมามากกว่าทุกวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในถนนเส้นทางสายต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยเฉพาะ ถ.มิตรภาพ ตั้งแต่สี่แยกเจริญศรี ไปจนถึง อุโมงค์ทางลอดสี่แยกสามเหลี่ยม ที่มีระดับน้ำท่วมเต็มทั้งเส้นทางสูงกว่า 20 ซ.ม. รถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไป-มาได้ นอกจากนี้ยังพบว่าบางช่องทางตลอดแนวถนนมิตรภาพ ตั้งแต่ ต.เมืองเก่า ไปจนถึง ต.สำราญ มีระดับน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่เร่งตั้งป้ายประกาศแจ้งเตือน ขณะที่ภายในเขตชุมชนต่างๆ ระดับน้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน เจ้าหน้าที่เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในหลายจุด เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่ท่อระบายน้ำกลาง รวมถึงทำแนวกระสอบทรายและพนังกั้นน้ำเพื่อกำหนดเส้นทางน้ำไหล และป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขยายเป็นวงกว้าง



เช่นเดียวกันกับถนนสายเลี่ยงเมืองขอนแก่น-ชัยภูมิ ตั้งแต่สี่แยกเจริญศรี ถึงบ้านสะอาด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งรวมไปถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและบ้านจัดสรรกว่า 10 โครงการ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซ.ม. ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่นำก้อนอิฐ,แผ่นอะลูมิเนียมและแผ่นเหล็ก มาทำเป็นสะพาน ให้ผู้คนเดินเข้า-ออกจนกว่าระดับน้ำจะลดลง



เครื่องบินดีเลย์ผู้โดยสารตกค้างอื้อ

ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น กรมการบินพลเรือน กล่าวว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปมีเมฆปกคลุม หรือมีสภาพอากาศปิด วิสัยทัศน์ในการทำการบินต่ำมาก เพียง 300 เมตรเท่านั้น ทำให้สายการบินที่บินมาจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ในช่วงเช้ารวม 4 สายการบิน เกิดการล่าช้า 3 เที่ยวบิน โดยที่บางเที่ยวบินต้องไปลงที่อุดรธานี เพื่อให้สภาพอากาศเปิดจึงสามารถกลับมาลงที่ขอนแก่นได้ ขณะที่เที่ยวบินในช่วงเที่ยงต่อเนื่องไปจนเที่ยวบ่าย ที่เดินทางมาจากสนามบินดอนเมือง,สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินเชียงใหม่ รวม 5 เที่ยวบิน ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ประสานงานไปยังสายการบินต่างๆ ในการเร่งให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้าง ในแต่ละเที่ยวบิน เฉพาะช่วงเช้ารวมกว่า 200 คนและในช่วงเที่ยงถึงบ่ายอีกกว่า 200 คน ในการจัดหาอาหารและน้ำดื่ม และการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ตามกฎการบิน ขณะเดียวกันยังคงพบว่าผู้โดยสารบางคนมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วบางส่วนอีกด้วย



ลพบุรีน้ำล้นอ่างซับเหล็ก

นายรังสรรค์ สละชีพ นายก ทต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล นำเจ้าหน้าที่ออกช่วยเหลือประชาชน ขนย้ายทรัพย์สินและสิ่งของ ขึ้นไปอยู่ในที่สูงให้พ้นน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมนำกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้าน หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันในช่วงกลางคืน วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำสะสมตามภูเขาในเขตตำบลนิคมสร้างตนเองและตำบล โคกตูม ประกอบกับน้ำที่กักเก็บเอาไว้ในอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ระดับน้ำสูงเกินสปริงเกลอร์ น้ำจึงไหลลงมาด้านล่าง และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตหมู่ 6-7 ต.ท่าศาลา ประมาณ 300 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซ.ม. ซึ่งทางเทศบาลตำบลท่าศาลา นอกจากนี้ยังท่วมถนนสายวัดเขาหนีบ-บ้านปาปี และถนนสายวัดเขาหนีบ-วัดเขาแก้ว ระดับน้ำสูงประมาณ 40 ซ.ม. ทต.ท่าศาลา รวมทั้งถนนสายลพบุรี-วังม่วง ช่วงตั้งแต่วัดเขาแก้วถึง 4 แยกนิคมสร้าง ตนเอง ซึ่งมีการจราจรที่หนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าโรงงานมินีแบร์ลพบุรีนำแผงเหล็กมากั้น ห้ามไม่ให้รถเล็กผ่าน เพื่อความปลอดภัย



ปราจีนฯตลาดกบินทร์ยังอ่วม

สถานการณ์น้ำท่วมปราจีนบุรี เริ่มขยายวงกว้างออกไปหลายอำเภอ เช่น อ.กบินทร์บุรี อ.ประจันตคาม อ.เมือง อ.ศรีมหาโพธิ และอ.บ้านสร้าง พบว่าน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี รับน้ำที่ไหลหลากมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และน้ำด้านฝั่งตะวันออกจากสระแก้ว ไหลมารวมกันบริเวณต้นแม่น้ำบางปะกง ในเขตพื้นที่เทศบาลกบินทร์ จนล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพืชสวนการเกษตรบ้างแล้ว ส่วนที่ชุมชนตลาดเก่ากบินทร์ หลังจากที่ถูกน้ำท่วมมาก่อนหน้า พบว่าหลังมีฝนลงมาอีกเกือบตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำท่วมสูงขึ้นอีกอยู่ที่ระดับ 50-80 ซ.ม. ถนนเข้าออกในชุมชนถูกน้ำท่วมสูง รถยนต์ผ่านไม่ได้ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ โรงเรียนเทศบาล 1 และโรงเรียนเทศบาล 2 มีน้ำท่วมอาคารเรียน นอกจากนี้ระดับน้ำด้านฝั่งของแควพระปรง ยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณบ้านท่าขี้เหล็ก และบ้านนางเลง ต.กบินทร์ บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมนับร้อยหลังคาเรือนน้ำที่เอ่อล้นล้นตลิ่งยังทำให้ต้นมะขามยักษ์อายุร่วม 100 ปี โค่นล้มลงมาขวางถนนทางเข้าออกหมู่บ้านริมน้ำ หมู่12 ขณะเดียวกันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี ได้นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วม พร้อมกับช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของน้ำ 



สถานการณ์เริ่มวิกฤต

ต่อมาเวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปราจีนบุรี เพิ่มเติม โดยชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำท่วมสูงมากกว่า 1 เมตร และยังท่วมสูงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด ที่ อ.ศรีมหาโพธิ แม่น้ำปราจีนบุรี ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ต.ศรีมหาโพธิ ต.บ้านทาม และ ต.ท่าตูม และยังขยายวงกว้างออกไปอีกหลายหมู่บ้าน เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำพระปรง กับน้ำจากเขาใหญ่ไหลลงมาผสม ส่วนที่โรงเรียนบ้านย่านนางวิ่ง (หรั่ง เครือแป้น อุทิศ) ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ น้ำได้ไหลเอ่อเข้าท่วมภายในพื้นที่โรงเรียน ทั้งอาคารเรียน โรงอาหาร สูงกว่า 40 ซ.ม. เด็กๆ และครูต้องช่วยกันขนย้ายสิ่งของและอุปกรณ์ในการเรียนการสอนให้พ้นน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหาย ทาง อบต. ได้เตรียมจัดเต็นท์ มากางไว้เพื่อให้ชาวบ้านได้ขนข้าวของขึ้นมาไว้เพื่อหนีน้ำ ส่วนการไฟฟ้าเร่งสำรวจพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่น้ำเข้าท่วม หากอยู่ในจุดเสี่ยงก็จะตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันอันตราย



กทม.เตรียมรับมือร่องมรสุม

รายงานข่าวจากสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สำหรับสถานการณ์ฝนตกในกรุงเทพฯเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นเพียงกลุ่มเพียงเล็กน้อย จะมีปริมาณมากในพื้นที่เขตหนองจอกและฝั่งธนบุรี โดยขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนคาดว่าจะมีร่องมรสุมจากภาคกลาง ลงมาที่พื้นที่กรุงเทพฯช่วงวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ซึ่งสำนักการระบายน้ำก็ได้เตรียมความพร้อมจากคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่การพร่องน้ำในคลองต่างๆ เตรียมเครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยเบสท์ เพื่อให้พร้อมออกปฏิบัติงานทันที โดยคาดว่าฝนที่จะตกจะเป็น กลุ่มในที่มีลักษณะหนักบ้าง เบาบ้าง แต่ต้องมีการติดตามสภาพอากาศในช่วงนั้นอีกครั้ง 

ขณะที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ รายงานว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. มีฝนเล็กน้อยพื้นที่กทม.เกือบทั้งหมด ฝนปานกลางปกคลุมเขตคันนายาว บึงกุ่ม บางกะปิ มีนบุรี หนองจอกและ ลาดกระบัง จนถึงเวลา 08.30 น. โดยทั่วไปฝนเล็กน้อยเบาบางกระจาย พื้นที่กทม.ทั้งหมดต่อเนื่อง จ.ฉะเชิงเทรา จ.สมุทรปราการ แนวโน้มลดลง เคลื่อนตัว ทิศใต้ค่อนตะวันออก ปริมาณฝนรวมสูงสุด ที่เขตหนองจอก 43.0 มิลลิเมตร ส่วนจากการประชุมกับกระทรวงมหาดไทยที่มีพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมครั้งล่าสุด ในช่วงหนึ่งที่ประชุมได้หารือถึงการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ได้กำชับให้หน่วยงานทำงานแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบบูรณาการทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดปริมณฑล พล.อ.อนุพงษ์ให้โจทย์ว่าในพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วมของกรุงเทพฯ จะทำอย่างไรให้มีการขยายท่อระบายน้ำได้ เพื่อให้การระบายน้ำทำได้ดีกว่าเดิม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!