- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Saturday, 10 September 2016 23:21
- Hits: 9526
รัฐจับมือ 12 เอกชนขยายอายุจ้างงานเป็น 60 ปี
บ้านเมือง : ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กระทรวงแรงงาน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) ร่วมกับ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 12 แห่ง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบาย : การขยายอายุการจ้างแรงงานผู้สูงวัยในสถานประกอบการ เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลไปสู่สถานประกอบการอื่นๆ ทั้งนี้ มีองค์กรภาคีให้การสนับสนุนร่วมเป็นสักขีพยาน ได้แก่ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย เกิดขึ้นพร้อมๆ กับแนวโน้มการขาดแคลนของแรงงานในอนาคต การขยายอายุการจ้างงานจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแรงงานสูงวัยที่มีศักยภาพและมีประสบการณ์ถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งต้องร่วมกันผลักดันหาแนวทางยุทธศาสตร์การขยายการจ้างงานแรงงานสูงวัยในสถานประกอบการคลอบคุลมในทุกมิติ ซึ่งได้นำเสนอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาตินำไปสู่การปฏิบัติมีการจัดทำแผนปฏิบัติการ พร้อมดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกัน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกำลังทำประชาพิจารณ์เรื่องของการแก้ไขกฎหมายการเกษียณ โดยจะขยายจาก 55 ปี เป็น 60 ปี รวมถึงต้องมีการปรับแก้หลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุใน พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ และเงินบำนาญชราภาพตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า สสส.มียุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายเตรียมความพร้อมของระบบรองรับสังคมสูงวัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการพัฒนาต้นแบบ นวัตกรรมในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างโอกาสการทำงานสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการทำงาน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โดยประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สถานการณ์สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2567 ซึ่งมีผู้สูงอายุ มากกว่าร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดและจะเป็น"สังคมสูงอายุระดับสุดยอด" ในปี 2573 ซึ่งมีผู้สูงอายุ มากกว่าร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมด จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างการรับรู้ของสังคม ประชาชน และพัฒนาระบบต่างๆ ที่จะสามารถรองรับสังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.สุปรีดา กล่าวว่า การสร้างโอกาสและขยายการจ้างงานแรงงานสูงวัยในสถานประกอบการเป็นแนวทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะผู้สูงวัยถือเป็นผู้มีประสบการณ์และมีศักยภาพในการทำงานที่เป็นกำลังสำคัญของสถานประกอบการ และช่วยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่สำคัญการจ้างงานเป็นการสร้างรายได้ให้กับแรงงานสูงวัย ช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ลดภาระและการพึ่งพิงครอบครัว และสังคมได้ ขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมให้ประชากรที่ใกล้เข้าสู่วัยสูงอายุมีการเตรียมความพร้อมทั้งด้านสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ และเป็นพลังของสังคมได้ยาวนานที่สุด
สำหรับ 12 บริษัทนำร่องที่ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ได้แก่ บ.โฮมโปรดักส์เซ็นเตอร์ จำกัด, บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรม จำกัด, บ.ผึ้งน้อยเบเกอรี่ จำกัด, บ.ไทย วี.พี. คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บ.ไทยรุ่งพาร์ทเนอร์ส กรุ๊ป จำกัด, บ.สยามเด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด, บ.ฮีโน่มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง ,(ประเทศไทย) จำกัด, บ.ชัยบูรณ์ บราเดอร์ส จำกัด, บ.เอส เมดิคอล เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด, บ.อุตสาหกรรมโคราช จำกัด, บ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด และ บ.อีซูซุเจริญกิจ มอเตอร์ส จำกัด