- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Sunday, 08 May 2016 13:12
- Hits: 5766
หนี้ผู้ใช้แรงงานพุ่งสูงสุดรอบ 8 ปี นักวิชาการแนะออมสิน ปล่อยกู้ลดภาระดอกเบี้ย
แนวหน้า : ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ม.รังสิต ระบุอัตราการว่างงานในไทยปัจจุบันยังต่ำกว่า 1% ไม่น่าห่วง แต่กังวลปัญหา ‘ชักหน้าไม่ถึงหลัง’ ของ ผู้ใช้แรงงาน แนะแบงก์รัฐเข้ามาลดภาระหนี้การกู้หนี้นอกระบบ
ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เมืองเอก เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2559 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูปได้รายงานสถานการณ์แรงงานว่า ปัจจุบันอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ตัวเลขผู้ขอรับผลประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานในระบบประกันสังคม เดือนก.พ.2559 มีจำนวน 123,087 คน คิดเป็นอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ก็ตาม แต่ภาพรวมอัตราการว่างงานต่ำกว่า 1% ของกำลังแรงงานทั้งหมดและมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานมากขึ้นในบางภาคการผลิตจากการอพยพย้ายกลับภูมิลำเนาของแรงงานต่างด้าว
ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเสริมว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่มสูงขึ้นในบางภาคการผลิตเนื่องจากแรงงานต่างด้าวทยอยกลับประเทศโดยเฉพาะแรงงานจากพม่าหลังจากพม่าเปิดกว้างทางการเมืองและเศรษฐกิจมากขึ้นทำให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับสูง
ส่วนหนี้สินของผู้ใช้แรงงานปรับตัวสูงสุดในรอบ 8 ปีเป็นผลมาจากรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายที่จำเป็นในชีวิต และการก่อหนี้ส่วนใหญ่เป็นผลจากการก่อหนี้เพื่อนำมาใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว
ดร.อนุสรณ์ เสนอว่า หนี้สินของผู้ใช้แรงงานที่มีอยู่ในระดับสูงมากตอนนี้ ว่ารัฐบาลควรใช้ธนาคารของรัฐโดยเฉพาะธนาคารออมสินจัดตั้ง โครงการสินเชื่อเพื่อผู้ใช้แรงงาน หรือ ใช้โครงการธนาคารประชาชนซึ่งมีอยู่แล้ว ลดการกู้หนี้นอกระบบ เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานสามารถกู้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและลงทุนเพื่อประกอบอาชีพเสริมได้ ในภาวะเศรษฐกิจขยายตัวไม่สูงนักและมีการพิจารณาลดการทำงานล่วงเวลาของสถานประกอบการต่างๆ ทำให้รายได้ผู้ใช้แรงงานจำนวนไม่น้อยไม่พอกับรายจ่าย รัฐบาลควรจัดให้มีโครงการเพื่อให้ผู้ใช้แรงงานสามารถประกอบอาชีพเสริมได้
พร้อมเสนอแนะทางนโยบายเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ว่า 1.ขอให้รัฐบาลปฏิรูประบบกฎหมายแรงงานโดยมีกฎหมายเกี่ยวข้องกับแรงงานโดยตรง 11 ฉบับเพื่อจัดทำเป็นประมวลกฎหมายแรงงานและพระราชบัญญัติการบริหารแรงงานทั้งระบบ ข้อ2.ขอให้มีการพิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำผ่านระบบไตรภาคี โดยปรับเพิ่มขึ้นไปที่ 340-360 บาท
ข้อ 3. ขอให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในการสมาคม สิทธิในการรวมตัวและการเจรจาต่อรองร่วมกัน ซึ่งทั่วโลกถือเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ข้อ 4. ขอเสนอให้มีการพิจารณาปรับเปลี่ยนสถานะของ "สำนักงานประกันสังคม"จากหน่วยราชการ เป็น องค์กรมหาชนที่บริหารงานโดยมืออาชีพและผู้แทนของสมาชิกองทุนประกันสังคม ข้อ5.ขยายสิทธิผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการและรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนได้ รวมทั้งขยายสิทธิไปยังสมาชิกในครอบครัว (แต่ต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่ม) ข้อ 6.ลดการบิดเบือนจากการเบิกจ่ายจากกองทุนประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยจากการทำงาน
ข้อ 7.ด้านคณะกรรมการบริหารกองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน หรือกองทุนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการของผู้ใช้แรงงาน ควรให้ระบบคะแนนเสียงถ่วงน้ำหนักในการคัดเลือกตัวแทนนายจ้างและตัวแทนลูกจ้างที่เข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการบริหารกองทุน เพื่อให้ได้ตัวแทนนายจ้างที่เป็นตัวแทนของนายจ้างส่วนใหญ่ และ ตัวแทนลูกจ้างที่เป็นตัวแทนของลูกจ้างส่วนใหญ่อย่างแท้จริง ข้อ 8.ควรส่งเสริมระบบบริการที่เน้นป้องกันโรคและอันตรายจากการทำงาน
ข้อ 9.การนำเงินกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตนไปใช้ลงทุนในบริษัทเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจใดๆ หรือ โครงการใดๆ ของรัฐบาล ต้องมีกระบวนการในการตัดสินใจที่โปร่งใสและกรรมการกองทุนประกันสังคมต้องตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ