Smart Job Center ศูนย์บริการหางานเพื่อคนไทย บรรจุงานกว่า 175,000 คน ขยายศูนย์อีก 32 แห่ง

      บ้านเมือง : พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญเรื่อง "คนไทยมีงานทำ" ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงแรงงานซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการจัดหางานและดูแลแรงงานในประเทศ ได้สนองนโยบายดังกล่าวด้วยการเปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) ขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้การบริการจัดหางานให้กับประชาชนได้มีงานทำกันให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการมาครบหนึ่งปีแล้วกำลังย่างก้าวสู่ปีที่สองได้รับการตอบรับจากทั่วประเทศเป็นอย่างดียิ่ง

        ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยเริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 ณ กระทรวงแรงงาน ภายใต้แนวคิด "บริการด้วยใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ" ทั้งนี้ มีการจัดวางระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้บริการด้านการแจ้งว่างงาน การขึ้นทะเบียนหางาน และการแจ้งตำแหน่งว่างของสถานประกอบการต่างๆ อีกทั้งยังมีมุมแนะแนวอาชีพ มีระบบสมัครงานผ่านระบบคอมพิวเตอร์ การบันทึกวีดีโอแนะนำตัวกับนายจ้าง การสัมภาษณ์งานผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งประชาชนสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยนำบัตรประชาชนมาเพียงใบเดียว เพราะศูนย์ฯ ได้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยด้วย

      ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 กรมการจัดหางานได้จัดตั้ง Smart Job Center ขึ้นรวมที่ส่วนกลางแล้วทั้งหมด 12 ศูนย์ ได้แก่ ที่กระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร ภาคกลางที่จังหวัดนครปฐม ภาคตะวันออกที่จังหวัดระยอง ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครราชสีมา และสกลนคร ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา (หาดใหญ่) ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล

       อย่างไรก็ดี กรมการจัดหางานได้ดำเนินการที่จะเพิ่มศูนย์ให้บริการฯ อีกต่อเนื่อง โดยในปี 2559 วางแผนจะเปิดดำเนินการอีก 32 แห่ง กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อสะดวกต่อคนหางาน นิสิต นักศึกษา รวมถึงผู้พิการที่อยู่ในต่างจังหวัดมีแนวโน้มมาใช้บริการมากขึ้นทุกวัน อย่างเช่นล่าสุด ข้อมูลจากศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) จังหวัดสงขลา สาขาหาดใหญ่ จากวันเปิดจนถึงปัจจุบัน (25 มกราคม 2559) มีผู้ใช้บริการ 45,570 คน แบ่งเป็น ผู้ลงทะเบียนสมัครงาน จำนวน 4,148 คน บรรจุผู้ลงทะเบียนสมัครงาน จำนวน 1,193 คน สามารถสร้างรายได้แก่แรงงาน เป็นเงิน 357,900 บาท/เดือน รับขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงาน จำนวน 7,748 คน บรรจุงานผู้ขึ้นทะเบียนประกันตนกรณีว่างงานอีก จำนวน 7,291 คน สามารถสร้างรายได้แก่แรงงาน เป็นเงิน 2,187,300 บาท/เดือน

        ทั้งนี้ ภาพรวมตั้งแต่ศูนย์เปิดให้บริการจนถึงปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการ จำนวน 421,577 คน แบ่งเป็น ขึ้นทะเบียนเพื่อหางาน จำนวน 32,310 คน บรรจุงานได้แล้ว 18,783 คน รับแจ้งตำแหน่งงานว่างจากสถานประกอบการ จาก 6,017 แห่ง จำนวน 14,244 ตำแหน่ง 162,010 อัตรา ทั้งได้ให้บริการผู้ประกันตนขอรับประโยชน์กรณีว่างงาน โดยรับขึ้นทะเบียน จำนวน 141,801 คน มีการบรรจุงานให้กับผู้มาขึ้นทะเบียนหางานไว้อีก จำนวน 133,110 คน และมีการบรรจุงานให้คนพิการอีก 2,092 คน ทั้งยังบรรจุผู้ใช้บริการทางอินเตอร์เน็ตที่ขึ้นทะเบียนคนหางานผ่านเว็บไซต์ได้จำนวน 21,285 คน รวมบรรจุงานแล้ว 175,270 คน อีกทั้งมีการให้บริการแนะแนวอาชีพนักเรียน/นักศึกษา จำนวน 14,002 คน และให้บริการแนะแนวอาชีพกับประชาชนทั่วไป จำนวน 19,084 คน ในส่วนของการให้บริการจัดหางานต่างประเทศ มีทั้งการให้คำปรึกษา ลงทะเบียนผู้ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 28,529 คน

    "การเปิดให้บริการของ Smart Job Center สามารถสร้างรายได้ให้แรงงานไทยจำนวนกว่า 14,217 ล้านบาท และสามารถสร้างรายได้ให้คนพิการมีอาชีพเลี้ยงตนเองได้ จำนวนกว่า 195 ล้านบาท"

      สำหรับ ในปี 2559 กระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางาน ได้พัฒนาศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยจาก Smart Job Center ไปสู่ Smart Job Smart Worker ภายใต้สโลแกน "คิดถึงงาน คิดถึงเรา" โดยจะขยายให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถในระดับสูงมาใช้บริการมากขึ้น โดยจะเน้นงานที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งจะปรับระบบการทำงาน การจับคู่งานกับคน และปรับเจ้าหน้าที่ให้เป็นคนกลางในการคัดกรองคนหางานในเบื้องต้น รวมทั้งให้ทำหน้าที่ในการประสานงานกับนายจ้างด้วย ส่งเสริมรณรงค์ให้แรงงานไทยที่ทำงานต่างประเทศได้กลับมาทำงานที่เมืองไทย รวมถึงนักศึกษาที่เรียนจบจากต่างประเทศก็ต้องการให้กลับมาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น

     ที่สำคัญทางกระทรวงแรงงานได้จัดทำบันทึกข้อตกลงในการให้บริการจัดหางานแก่ประชาชนผู้ว่างงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำของประเทศหลายแห่ง ได้แก่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ

       นอกจากนี้ ทางกรมการจัดหางานได้พัฒนาระบบการให้บริการที่มีช่องทางมากขึ้น โดยเริ่มให้บริการแบบ Smart job mobile app ซึ่งเป็นระบบบริการจัดหางาน สำหรับโทรศัพท์ smart phone และ smart job magazine และรูปเล่มสิ่งพิมพ์ ซึ่งจะเริ่มในปีนี้เป็นต้นไป รวมถึงการให้บริการแนะแนวการศึกษา อาชีพ ตลาดแรงงานที่กำลังต้องการและขาดแคลน ตำแหน่งงานว่างทั้งในและต่างประเทศ และมีกองทุนให้กู้ยืมสร้างงานสร้างอาชีพ อาทิ กองทุนในการประกอบอาชีพสำหรับกลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน เป็นต้น

       ดังนั้น ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยพร้อมขับเคลื่อนให้บริการประชาชน นิสิต นักศึกษา คนพิการ เพื่อได้มีงานทำ ช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวรวมทั้งช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมๆ กัน ผู้ที่สนใจจะใช้บริการจัดหางานของศูนย์ฯ สามารถไปใช้บริการได้ทุกแห่ง สอบถามรายละเอียดที่สายด่วน 1694 หรือโทร.0-2248-4743