- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Thursday, 16 April 2015 09:45
- Hits: 5333
ส.อ.ท.ชี้ภาคอุตสาหกรรมยังคงอัตราจ้างงาน แม้การส่งออกโตต่ำแค่ 1% และยังต้องการแรงงานต่างด้าวเพิ่ม
รายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า ภาวะการมีงานทำของประชากรเดือนมีนาคม 2558 พบว่า ผู้มีงานทำรวม 37.62 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงานทั้งสิ้น 38.37 ล้านคน เป็นแรงงานที่รอฤดูกาลจำนวน 3.69 แสนคน หรือ 1% ของประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงาน ส่วนจำนวนผู้ว่างงานนั้นอยู่ที่ 3.78 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานอยู่ที่ 1% ของประชากรที่อยู่ในวัยแรงงาน เพิ่มขึ้นจาก 3.16 แสนคน หรือ 0.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ หรือเป็นการว่างงานที่เพิ่มขึ้น 6.2 หมื่นคน เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายภูมิภาคพบว่า ภาคกลางมีการว่างงานสูงสุด 1.44 แสนคน รองลงมาเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่างงาน 7.7 หมื่นคน กรุงเทพฯ 6 หมื่นคน ภาคเหนือ 4.9 หมื่นคน และภาคใต้ 4.8 หมื่นคน
สสช.รายงานต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2557 ที่มีการว่างงานอยู่ที่ 3.41 แสนคน หรือเพิ่มขึ้น 0.9% ของประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงาน หรือมีการว่างงานเพิ่มขึ้นจำนวน 3.7 หมื่นคน โดยกรุงเทพฯมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 1.4 หมื่นคน ภาคกลางว่างงานเพิ่มขึ้น 3.9 หมื่นคน ภาคเหนือเพิ่มขึ้น 1.7 หมื่นคน ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือการว่างงานลดลง 1.7 หมื่นคน และภาคใต้ลดลง 1.6 หมื่นคน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากลักษณะผู้ว่างงานตามประสบการณ์พบว่า ในสัดส่วนผู้ว่างงาน เป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยมีงานทำมาก่อน 1.83 แสนคน หรือ 48.4% ของผู้ว่างงานทั้งหมด และผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 1.95 แสนคน หรือ 51.6% โดยเป็นผู้ว่างงานนอกภาคเกษตร 1.77 แสนคน
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การว่างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะผลจากภาวะการส่งออกที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา โดยตลาดหลักหลายแห่งยังไม่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น ทำให้ผู้ผลิตที่ผลิตเพื่อส่งออกไปตลาดดังกล่าวลดกำลังการผลิตลง ไม่มีการจ้างล่วงเวลาหรือโอที ทำให้แรงงานออกจากงานไปบ้าง อย่างไรก็ตาม มองว่าการเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1% เป็นอัตราที่ไม่น่ากังวล เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่การว่างงานอยู่ในอัตราที่สูง และพบว่าผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมยังต้องพยายามรักษาแรงงานไว้ และยังมีความต้องการแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้น
นายวัลลภ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการยังมองว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้นประมาณปลายไตรมาสที่ 2/2558 หรือประมาณเดือนมิถุนายน เพราะมีงบประมาณลงทุนของภาครัฐเริ่มเข้าสู่ระบบกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศ หากไม่มีปัจจัยแทรกซ้อนด้านสถานการณ์สู้รบและการก่อการร้าย จะขยายวงกว้างจนกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ โดย ส.อ.ท.ประมาณการการส่งออกปี 2558 ไว้ที่ 1%