- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Thursday, 12 May 2022 20:23
- Hits: 4091
รมว.เฮ้ง มอบ ทปษ. และโฆษก ต้อนรับ คณะอนุกรรมาธิการฯ แรงงาน ลงพื้นที่ ดูแลคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบเพชรบุรี
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อม นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ให้การต้อนรับ นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ประธานอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามนโยบายแรงงานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะ ในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อรับฟังข้อมูลพร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นและข้อเสนอแนะกับกลุ่มแรงงานนอกระบบในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามนโยบายแรงงาน ในการลงพื้นที่เยี่ยม กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารฮาลาล ต.ท่าแร้งออก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยชุมชนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งทำอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก มีการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อเป็นอาหารและขายเนื้อวัวให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ.2559 ราคาเนื้อวัวมีราคาตกลงอย่างมาก ทำให้เกษตรกรขาดทุนจากการขายเนื้อวัว
และผลกระทบของโรคระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ส่งผลให้แรงงานที่อยู่ในระบบภาคธุรกิจบริการบางส่วนตกงาน ผู้นำและสมาชิกในชุมชนจึงร่วมกันหาทางออก โดยการจัดตั้งเป็นกลุ่มคนที่จะดำเนินการแปรรูปเนื้อวัวให้มีราคาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้มีสมาชิกเริ่มต้น 23 คน และเริ่มดำเนินการหาความรู้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ทำโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน สู่ SME 4.0 โดยให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านการเพิ่มผลิตภาพแรงงานผ่านกระบวนการฝึกอบรม เพื่อยกระดับมาตรฐาน ปรับปรุงกระบวนการผลิตและลดการสูญเสีย ในการผลิตสินค้า
และหน่วยงานภายในสังกัดกระทรวงแรงงาน เข้ามาส่งเสริมในการแปรรูปเนื้อวัว รวมถึงการสร้างมาตรฐานของโรงเชือดวัวในชุมชน ในการดำเนินงานในช่วงแรกคนที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกได้รับเงินปันผลที่ดี ทำให้ดึงดูดคนในชุมชนเข้ามาร่วมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปอาหารฮาลาลเนื้อสัตว์เพชรบุรี ซึ่งมีจำนวนสมาชิกในปี พ.ศ. 2564 จำนวน 76 คน โรงเชือดวัวและอาหารต่างๆ ที่ทำจากเนื้อวัวได้รับการรับรองมาตรฐาน ฮาลาล และ อย. จึงทำให้แรงงานนอกระบบมีรายได้ มีอาชีพ
ด้าน น.ส.อนุสรี ประธานอนุฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มแรงงานนอกระบบซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มีมากกว่า 20 ล้านคน ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมามีแนวโน้ม ทำให้แรงงานในระบบ แปรเปลี่ยนเป็นแรงงานนอกระบบ การดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบ ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามนโยบายแรงงาน ที่มาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในวันนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อรับฟังข้อมูล และสร้างการรับรู้ เรื่อง พรบ. แรงงานนอกระบบ ที่จะช่วยให้มีสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการได้เข้ามาเยี่ยมชมในวันนี้รู้สึกชื่นชมที่กลุ่มมีความเข้มแข็ง ยั่งยืน
โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่เข้ามาส่งเสริม สนับสนุนในเรื่อง พัฒนาทักษะฝีมือ มาตราฐานสินค้า ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ตลอดจนการขยายตลาด คณะอนุฯ จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มแรงงานนอกระบบอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนา ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มแรงงานนอกระบบ มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากต่อไป