- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Sunday, 01 May 2022 15:24
- Hits: 5394
นายก รับ 8 ข้อเรียกร้อง เปิดวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำ รัฐบาล มุ่งยกระดับศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานทุกมิติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม 2565 ณ กระทรวงแรงงาน พร้อมรับข้อเรียกร้องวันแรงงานทั้ง 8 ข้อ ย้ำ รัฐบาลมุ่งยกระดับศักยภาพกำลังแรงงานและส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงานในทุกมิติ
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2565 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ไทยล้วน ประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2565 นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงข้าราชการกระทรวงแรงงาน ผู้นำแรงงาน และพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้การต้อนรับ โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา
รมว.แรงงาน ได้เป็นประธานในพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ในส่วนของการเคลื่อนริ้วขบวนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพวรางกูร และริ้วขบวนของผู้ใช้แรงงาน ในปีนี้ได้ตั้งริ้วขบวนที่บริเวณท้องสนามหลวงและเคลื่อนมายังกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายสุชาติ เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลและกำกับกระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ถึงแม้ว่าประเทศไทยและประเทศทั่วโลกยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทรวงแรงงานยังมุ่งมั่นส่งเสริมให้แรงงานมีงานทำ ได้รับการพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพสูงในทุกมิติสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ใช้แรงงานได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงให้มีความปลอดภัยในทำงาน
รวมถึงการสร้างหลักประกันทางสังคมแก่แรงงานนอกระบบ กลุ่มเปราะบาง ยกระดับการประกันสังคมเพื่อให้แรงงานได้รับประโยชน์สูงสุด เร่งรัดปรับปรุง แก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ปัจจุบันและรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นำไปสู่ความมั่นคง ความมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันแรงงานในปีนี้ทั้ง 8 ข้อ ได้แก่ 1) ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคม และการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว และฉบับที่ 98 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง 2) ให้เร่งดำเนินการนำร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่ผ่านประชาพิจารณ์มาแล้ว เข้าสู่กระบวนการพิจารณาในรัฐสภาฯ โดยเร่งด่วน 3) ให้ขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ที่ลูกจ้างได้รับก้อนสุดท้าย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
4) ปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 5)ให้รัฐบาลปฏิรูป แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม 6) เร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพแรงงานนอกระบบ และมีสิทธิจัดตั้งองค์กรได้ 7) ให้จัดระบบกองทุนสวัสดิการเพื่อการเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้างภาครัฐวิสาหกิจ และ 8) แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2565 ว่ากระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะจากพี่น้องแรงงานโดยจะนำข้อเรียกร้องมาดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน มีการหารือกับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อพัฒนาการให้บริการพี่น้องแรงงาน
และได้ประสานแจ้งให้คณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติทราบถึงความคืบหน้าแล้ว เพราะตระหนักว่าทุกข้อเสนอแนะจะนำมาซึ่งการปรับปรุงการดำเนินการของกระทรวงแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลไปสู่การแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องแรงงาน และสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาประเทศสืบไป ซึ่งการดำเนินการของกระทรวงแรงงาน มีดังนี้ การปฏิรูปการประกันสังคมในส่วนของการขยายอายุผู้ประกันตน มาตรา 40 เพื่อให้สอดรับกับสังคมผู้สูงอายุนั้น จากเดิมไม่เกิน 60 ปีเป็นไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
กระทรวงแรงงาน ได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมไว้ใน ร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่..) พ.ศ.... ปัจจุบันร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้อยู่ระหว่างเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการการเร่งรัดออกกฎหมายคุ้มครองแรงงานนอกระบบนั้น ได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. .... เพื่อให้แรงงานนอกระบบสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานในการประกอบอาชีพมีความปลอดภัยในการทำงาน มีหลักประกันทางสังคม มีการรวมกลุ่มจัดตั้งองค์กร ได้รับความคุ้มครองและส่งเสริมพัฒนาเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.64 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไปการรับรองอนุสัญญาไอแอลโอ ฉบับที่ 87 และฉบับที่ 98 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับแล้ว ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.62 และร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.63 เมื่อมีผลบังคับใช้แล้วจะนำเสนอให้รัฐบาลให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาดังกล่าวได้
การให้สถานประกอบกิจการ ที่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้จัดทำแนวปฏิบัติของพนักงานตรวจแรงงาน กำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรา 11/1 อย่างเคร่งครัด และชี้แจงนายจ้างให้ปฏิบัติต่อลูกจ้างรับเหมาค่าแรงให้ถูกต้องตามกฎหมายข้อเรียกร้องให้รัฐบาลขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ที่ลูกจ้างได้รับก้อนสุดท้ายนั้นกระทรวงแรงงานได้แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง พิจารณาแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยและงดจ่ายภาษีกรณีเงินออกจากงาน
และขยายวงเงินเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ หากมีการแก้ไขจะมีผลบังคับใช้ทั้งลูกจ้างภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจโดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งได้ดำเนินการจัดประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่งตั้งคณะทำงานซึ่งเป็นคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาศึกษา ปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับ กิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติที่น่าสนใจในปีนี้ อาทิ บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 บริการสาธิตและนวดแผนไทย บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น กิจกรรมเล่นเกมตอบปัญหาแจกรางวัล กิจกรรมเสวนา เรื่อง เศรษฐกิจยุคโควิดมีผลกระทบกับแรงงานและค่าจ้างอย่างไร การแสดงนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน การแสดงมายากล และบริการอาหารเครื่องดื่ม เป็นต้น
นายกฯ เปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำรัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ยืนยันให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้อง
นายกฯ เปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ย้ำรัฐบาลตระหนักถึงบทบาทพี่น้องผู้ใช้แรงงานเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ยืนยันให้ความสำคัญกับข้อเรียกร้อง มอบ รง.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง ดำเนินการให้แรงงานทุกกลุ่มได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมายสอดคล้องกับสิทธิมนุษยชน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (1 พ.ค. 65) เวลา 11.10 น. ณ ห้องประชุมชั้น 5 (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) กระทรวงแรงงาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าร่วมงาน ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ 2565 พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ สมาชิกสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทย สมาชิกสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจและแรงงานนอกระบบให้การต้อนรับและเข้าร่วมงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคน ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศมาโดยตลอด อีกทั้งยังตระหนักถึงสิทธิ ความเสมอภาค สวัสดิการ และความปลอดภัยในอาชีพของผู้ใช้แรงงานทุกคน โดยพร้อมรับฟังความต้องการของผู้ใช้แรงงานเพื่อนำไปประกอบการพัฒนาความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานทุกคนให้มีความมั่นคงและปลอดภัยด้านอาชีพและการดำรงชีวิต ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเสมอมา
ที่ผ่านมารัฐบาลมีความมุ่งมั่นผลักดันให้กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในทุกมิติอย่างเต็มรูปแบบในเวทีการค้าโลก ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ดังนั้น การพัฒนาแรงงานเพื่อให้ทุกคนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน จึงเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องดำเนินการไปพร้อมๆ กับการพัฒนาประเทศด้านอื่นๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันโลกมีความเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ เช่น การเกิดโรคอุบัติใหม่ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ทำให้การดำเนินชีวิตและการทำงานเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องหาแนวทางทำให้ประเทศไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น มีการพัฒนาศักยภาพแรงงานด้านต่างๆ พร้อมกับยกระดับฝีมือแรงงาน ให้สอดคล้องต่อความต้องการของตลาดแรงงาน สามารถรองรับการทำงานในระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพ และยกระดับรายได้
โดยเฉพาะภาคการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ที่ประเทศไทยสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอย่างยั่งยืน และการพัฒนาศักยภาพของพี่น้องแรงงาน นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการแรงงานต่างชาติอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งเร่งพัฒนาและส่งเสริมการคุ้มครองแรงงาน ระบบสวัสดิการ มาตรฐานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ควบคู่กับการสนับสนุนหลักประกันสังคมที่จำเป็นต่อสภาวะสังคม ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดให้เกิดการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคมให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมผู้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อผู้ใช้แรงงาน ที่ได้เสียละทุ่มเท กำลังกาย กำลังความคิด เพื่อพัฒนาและร่วมขับเคลื่อนประเทศในทุกด้านผ่านโครงการสำคัญ ๆ ของรัฐบาล เช่น การช่วยเหลือเยียวยาลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับนายจ้างผู้ประกันตนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการให้บริการทางการแพทย์รักษาโควิด-19 แก่ผู้ประกันตน โครงการ Factory Sandbox โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ถึงมีนาคม 2565 เป็นต้น
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลยังคงมุ่งมั่นยกระดับการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ซึ่งประเมินโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งผลักดันการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งแรงงานกลุ่มเปราะบาง แรงงานสูงอายุและคนพิการ เพื่อสร้างความเท่าเทียมเป็นธรรม นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับข้อเสนอของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน มีความห่วงใยและตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน
และจะนำข้อเรียกร้องของพี่น้องแรงงานทุกกลุ่ม ทั้ง 8 ข้อ มอบหมายให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ เพื่อให้พี่น้องแรงงานทุกกลุ่มทุกคน ได้รับการคุ้มครองและได้รับความเป็นธรรมตามสิทธิทางกฎหมายที่สอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าทุกคน ทุกภาคส่วนเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศร่วมกัน รัฐบาลมีความเข้าใจในสถานการณ์ปัญหา และพร้อมจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการของสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม จากนั้น และเยี่ยมชมศูนย์โรคหลอดเลือดสมองของ รพ.จุฬารัตน์ อินเตอร์ 3 การให้บริการตรวจอัลตราซาวด์หัวใจ โดยอายุรแพทย์หัวใจ บริการตรวจสายตา ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด โดย รพ.ศิครินทร์ ซึ่งให้บริการตรวจฟรีแก่ผู้มาร่วมงานด้วย