- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Friday, 29 April 2022 20:34
- Hits: 6013
รมว.สุชาติ ห่วงสาวไทยถูกนายหน้าหลอกลอยแพ สั่งทูตแรงงานประสานกงสุลใหญ่ที่ดูไบ พากลับไทย
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผมได้รับการประสานจากท่านศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎรว่า ให้ช่วยเหลือแรงงานไทยในดูไบที่ถูกนายหน้าหลอกอ้างว่าจะชวนไปทำงานร้านนวดแต่ถูกหลอกไปค้าประเวณี พร้อมขู่หากไม่รับงานจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าจี้ตามร่างกาย จึงร้องขอความช่วยเหลือให้ประสานกลับไทยซึ่งในเรื่องนี้นั้น
ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นพลังสำคัญในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวและนำเงินเข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลความเป็นอยู่และช่วยเหลือกรณีได้รับความเดือดร้อนในการไปทำงานต่างประเทศ
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ลัดดาวัลย์ สิงห์งอย อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของ น.ส.ทัศนี สิงห์งอย อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดนครพนม ได้รับข้อมูลจากอาว่า นายหน้าชักชวนไปทำงานร้านนวดแผนไทยที่ประเทศดูไบตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 แต่ถูกโดนหลอกให้ไปค้าประเวณีถูกกักขังไม่ให้ไปไหนถ้าไม่ทำงานหรือไม่รับงานต้องโดนทำร้ายร่างกายโดนบุหรี่ไฟฟ้าจี้ ซึ่งมีคนไทยติดไปด้วยกัน 2 คน ทราบชื่อ คือ น.ส.สุรีพร พลเยี่ยม มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด และ น.ส.ศศิตาภรณ์ วัฒนศรี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งถูกนายจ้างยึดเอกสารพาสปอร์ตไว้ทั้งหมด
และถูกกักขังไม่สามารถไปไหนได้ในเขต Ajman เงินทองไม่มี บังคับทำงานไม่ให้เงิน และวีซ่าของ น.ส.ทัศนี สิงห์งอย จะหมดในวันที่ 30 เมษายน 2565 จากข้อมูลของ น.ส.ลัดดาวัลย์ ยังระบุอีกว่า น.ส.ทัศนีได้เดินเรื่องไปที่สถานทูตดูไบแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2565 แต่ขณะนี้นี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเรื่องสิทธิประโยชน์และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพากลับไทยด้วย
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงแรงงาน ฝ่ายแรงงานฯ ณ กรุงอาบูดาบี ได้ประสานข้อมูลกับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ เพื่ออำนวยความสะดวกดูแลแรงงานไทย ซึ่งขณะนี้ทราบว่าแรงงานไทยได้ออกมาพักอยู่ที่ VIP Massage Center แล้ว จากนั้นฝ่ายแรงงานฯ จะให้ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อนำหลักฐานการแจ้งความหนังสือเดินทางหายมาขอทำหนังสือเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Passport) และซื้อตั๋วเพื่อรอเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป นอกจากนี้ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ประสานสำนักงานแรงงานจังหวัดในพื้นที่ได้ออกไปเยี่ยมบ้านของแรงงานเพื่อแจ้งความคืบหน้าการช่วยเหลือให้ญาติทราบแล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ
โดยสามารถศึกษาข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas ลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th เมื่อประสบปัญหาจากการสมัครงานหรือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694
รมว.สุชาติ ห่วง สาวอุดรถูกหลอกไปนวดที่ดูไบ สั่ง ทูตแรงงาน ประสานสถานทูตช่วยเหลือ พร้อม 5 เสือแรงงานลงเยี่ยมบ้าน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีปรากฏเป็นข่าวว่ามีหญิงสาวชาวอุดรธานีร่ำให้วอนขอความช่วยเหลือแม่ถูกหลอกไปขายตัวที่ดูไบ พร้อมกับหญิงชาวไทย 10 รายตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ในเรื่องนี้นั้น ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ เพราะแรงงานเหล่านี้เป็นพลังสำคัญในการหารายได้เลี้ยงครอบครัวและนำเงินเข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก จึงกำชับให้กระทรวงแรงงานดูแลความเป็นอยู่และช่วยเหลือกรณีได้รับความเดือดร้อนในการไปทำงานต่างประเทศ
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากการรายงานของนางปลิดา ร่วมคำ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี พบว่า กรณีดังกล่าวข้อมูลเบื้องต้นตามข่าวระบุว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้รับแจ้งจาก น.ส.องุ่น ชาวจังหวัดอุดรธานีว่าแม่ของตน ถูกนายหน้าหลอกไปทำงานนวดแผนโบราณ ที่เมืองอัลนาห์ดา 2 นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่กลับถูกบังคับให้ขายตัว แม่ไม่ยินยอมจึงถูกยึดพาสปอร์ต และถูกนำไปไว้ที่ชั้น 2 ในตึกแห่งหนึ่ง ไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพากลับบ้านที่ประเทศไทยโดยด่วน
นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ฝ่ายแรงงานฯ ณ กรุงอาบูดาบี ได้ประสานข้อมูลเบื้องต้นไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีและสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ผ่านการติดต่อสื่อสารกันทางกลุ่มไลน์ของชุมชนไทยในยูเออี เพื่อประสานความช่วยเหลือจุดที่แรงงานไทยคนดังกล่าวพักอาศัยอยู่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปพบตัวและช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้ให้สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้ประสานไปยัง 5 เสือแรงงานอุดรธานี ลงพื้นที่ออกเยี่ยมบ้านของแรงงานรายดังกล่าว เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวและแจ้งความคืบหน้าการช่วยเหลือให้ญาติทราบแล้ว
ด้าน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยโทอนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางานจังหวัดอุดรธานี ว่า ในวันนี้ได้มอบหมายให้นายวิรัตน์ กลางบุญเรือง นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ ลงพื้นที่พร้อม 5 เสือแรงงาน ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของจังหวัด และปลัดอาวุโสอำเภอวังสามหมอ ไปให้กำลังใจครอบครัวนางสาวอรุณี อันทะโส บุตรสาวของนางอำพร นันสมบัติ อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ที่ 12 ตำบลบะยาว อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี
เพื่อแสดงความเป็นห่วงกับครอบครัวคนงาน เนื่องจากมารดาถูกหลอกไปทำงานนวดที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากการสอบถาม บุตรสาว ของคนหางาน มีบุตร 4 คน ปัจจุบัน พักอาศัยรวมกัน 5 คน โดยมี คุณยายวัง แสนณรงค์ ซึ่งเป็นมารดา ของคนงานรวมอยู่ด้วย และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนงานไม่มีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจากการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนของกรมการจัดหางานพบว่ามิได้เป็นสมาชิกของกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ปัจจุบันการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมายและสมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ
โดยสามารถศึกษาข้อมูลการเดินทางไปทำงานต่างประเทศได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas ลงทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศที่เว็บไซต์ toea.doe.go.th เมื่อประสบปัญหาจากการสมัครงานหรือการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694
