- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Tuesday, 11 August 2020 09:39
- Hits: 5843
ก.แรงงาน ประสานอาสาสมัครแรงงานในกรุงเบรุตนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าช่วยเหลือแรงงานไทย
โฆษกกระทรวงแรงงาน เผย กระทรวงแรงงาน โดย อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ซึ่งดูแลแรงงานไทยในประเทศเลบานอน ประสานอาสาสมัครแรงงานของกรุงเบรุตได้นำอาหารแห้งไปมอบแก่แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บและที่พักเสียหายแล้วในเบื้องต้น
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ซึ่งดูแลแรงงานไทยในประเทศเลบานอน ถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในเวลานี้มีแรงงานไทยในเขตเบรุตชั้นในซึ่งได้รับความเสียหายกำลังรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค จำพวกอาหารแห้งมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากคลังสินค้าบางส่วนได้รับความเสียหายและอาจจะขาดแคลนในไม่ช้า
นางสาวสิริอร ศรีวิรุฒ มีอาชีพเป็นพนักงานนวด และช่างทำผม เธอยังเป็นอาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศ (อสรต.) ของกรุงเบรุตที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายอาสาสมัครแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านแรงงานของประเทศเลบานอน ได้นำอาหารแห้งไปมอบให้แก่นายคมสันต์ ขจรสมบัติ อาชีพช่างจิวเวอรี่ แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บถูกประตูห้องพักล้มทับขา ทำให้ขาและเท้าบวม และที่พักเสียหายทั้งหมด และนายปัญญา ทรงอยู่ ซึ่งพักอยู่ด้วยกัน ได้ถูกแรงระเบิดปลิวไป 4 เมตร แต่ไม่ได้มีบาดแผล มีเพียงแผลฟกช้ำตามตัวและเจ็บที่หัวไหล่ โดยนางสาวสิริอรฯ กล่าวว่า จากการที่ได้จัดซื้ออาหารแห้งและสินค้าจำเป็นในวันนี้สินค้ามีราคาสูงขึ้นอีกเท่าตัว อีกทั้งร้านค้าหลายแห่งในกรุงเบรุตชั้นในได้รับความเสียหาย จึงต้องไปจัดซื้อนอกเมือง และการเดินทางไปมาไม่สะดวกเนื่องจากถนนหลายสายถูกปิด โดยมีนักศึกษาประชาชนได้ออกมาช่วยกันทำความสะอาดตามท้องถนน พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้ระมัดระวังทร้พย์สินมีค่า รวมถึงประชาชนทั่วไปยังคงมีหวาดระแวงว่าอาจจะเกิดเหตุระเบิดซ้ำขึ้นอีก
อย่างไรก็ดี สนร.ริยาด ยังรายงานว่า มีสภาพบ้านเรือนและร้านค้าตามตึกต่างๆ ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ นาวาตรี วิทวัส ฯ ทูตฝ่ายแรงงาน ได้ให้ นางสาวสิริอร ศรีวิรุฒ อาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศ (อสรต.) ที่ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายอาสาสมัครแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านแรงงานของประเทศเลบานอน ช่วยตรวจสอบว่ามีแรงงานที่ประสบความเดือดร้อนเนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการเสียหายจนไม่สามารถทำงานได้เป็นจำนวนเท่าใด ทั้งนี้จะได้ตรวจสอบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศด้วยหรือไม่ และหากเป็นสมาชิกกองทุนฯ จะได้จัดการให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป และแรงงานไทยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนนั้นจะทำอย่างไรหากไม่สามารถทำงานได้และไม่มีรายได้
ทั้งนี้ แรงงานไทยหรือญาติพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับความเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) และอาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศ (อสรต.) ของประเทศเลบานอน หมายเลขโทรศัพท์ +966 11 4827977 และ +966 11 4827689 หรือทางอีเมล์ [email protected] และ [email protected]
ก.แรงงาน โอนเงินกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ผ่านอาสาสมัครแรงงานมอบให้แรงงานไทยในกรุงเบรุต บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นแล้ว
โฆษกกระทรวงแรงงาน เผย อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) โอนเงินกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศให้อาสาสมัครแรงงานกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน นำไปมอบให้แก่แรงงานไทยซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฯ จำนวน 13 ราย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งนี้ คนงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ พร้อมใจกันนำเงินส่วนหนึ่งไปจัดซื้ออาหารแห้งนำไปให้เพื่อนแรงงานที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนฯ เพื่อแบ่งปันในยามฉุกเฉินด้วย
นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย (กรุงริยาด) ซึ่งดูแลแรงงานไทยในประเทศเลบานอน ถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา สนร.ริยาดได้ดำเนินการโอนเงินกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศไปยังนางสาวสิริอร ศรีวิรุฒ อาสาสมัครแรงงานกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เพื่อมอบให้แก่สมาชิกกองทุนฯ จำนวน 13 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากแรงงานไทยกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ถูกเลิกจ้างและรอการเดินทางกลับประเทศไทยซึ่งเป็นผลกระทบจากโควิด – 19 แต่ยังไม่สามารถเดินทางกลับได้เนื่องจากรอเที่ยวบินพิเศษ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอยู่แล้วยังได้รับความเสียหายและบาดเจ็บจากการระเบิดครั้งใหญ่ โดยสมาชิกที่ได้รับเงินจากกองทุนฯ พร้อมใจกันแบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อไปจัดซื้ออาหารแห้งไปแจกจ่ายให้แก่แรงงานไทยที่มิได้เป็นสมาชิกกองทุนฯ เพื่อเป็นการแบ่งปันในยามฉุกเฉิน และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ จัดทำถุงยังชีพเพื่อมอบให้แก่คนไทยและแรงงานไทยที่ได้รับความเดือดร้อนในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ทั่วถึงทุกคน
อย่างไรก็ดี สนร.ริยาด ยังรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่พักอาศัยของแรงงานไทยที่ได้รับความเสียหายนั้น เพื่อนแรงงานไทยได้ช่วยกันซ่อมแซมเพื่อเป็นการชั่วคราว และจัดหาวัสดุเท่าที่ทำได้ อีกทั้งบางรายยังได้ช่วยสถานประกอบการนายจ้างชาวเลบานอนอีกด้วย ทั้งนี้ จากการที่ชาวเลบานอนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เพื่อให้ประธานาธิบดี มิเชล โออุน และนายกรัฐมนตรี นายฮาสซาน ดีรับ ลาออกและมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ บริเวณหน้ามัสยิด โมฮัมหมัด อัลอามิน ย่าน มาร์ทริส สแคว์ กรุงเบรุต นั้น สนร.ริยาด ได้แจ้งแก่แรงงานไทยทุกคนในกรุงเบรุตให้หลีกเลี่ยงในบริเวณดังกล่าวแล้ว
94 คนงานไทยในอุซเบกิสถานดีใจได้กลับบ้าน ขอบคุณรัฐบาลช่วยประสานพากลับ
ปลัดกระทรวงแรงงาน เผย 94 แรงงานไทยในอุซเบกิสถาน ดีใจได้กลับบ้าน ขอบคุณรัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ประสานอำนวยความสะดวกให้ได้เดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด -19 โดยแรงงานทั้ง 94 คนจะเดินทางมาถึงในวันที่ 13 สิงหาคมนี้
นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่แรงงานไทยโพสต์คลิปขอความช่วยเหลือให้ทางการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยในอุซเบกิสถานเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากแรงงานไทยรายหนึ่ง ว่าบริษัทจัดหางานที่จัดส่งคนงานไปทำงานในประเทศอุซเบกิสถานได้แจ้งให้แรงงานไทยจำนวน 94 คนทราบเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศไทย โดยแรงงานไทยทั้ง 94 คนจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ ส่วนทีเหลืออีก 7 คน ประสงค์จะทำงานที่อุซเบกิสถานต่อ โดยแรงงานไทยจะออกเดินทาง เวลา 17.00 น.ด้วยสายการบินอุซเบกิสถานแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ HY 3609 และจะมาถึงกรุงเทพมหานคร เวลา 01.15 น. จากนั้นจะมีรถบัสมารับคนงานที่สนามบิน จำนวน 2 คัน ในเวลา 02.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกในการพาแรงงานไทยทั้งหมดไปกักตัว ณ สถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ซึ่งกระบวนการเป็นไปตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะอนุญาตให้เดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป
นายสุทธิ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบสถานะของแรงงานไทยที่เดินทางกลับมายังภูมิลำเนาในครั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกองทุนคนหางานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้จัดหางานจังหวัดในพื้นที่ที่แรงงานไทยทั้ง 94 คนอาศัยอยู่อำนวยความสะดวกในการจ่ายสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ส่วนค่าจ้างค้างจ่ายของเดือนกรกฎาคมนั้น แม้บางคนสัญญาจ้างจะหมดในวันที่ 2,9,10 และ15 สิงหาคมนี้ก็ตาม ล่าสุดบริษัทจัดหางานได้ประสานนายจ้างให้แล้ว ซึ่งนายจ้างจะได้โอนค่าจ้างค้างจ่ายให้ลูกจ้างต่อไป
ทั้งนี้ แรงงานไทยรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้าน อยากขอบคุณรัฐบาลไทย กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ที่ได้ประสานให้ความช่วยเหลือ ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้พวกเขาได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ