- Details
- Category: แรงงาน
- Published: Saturday, 03 August 2019 20:07
- Hits: 4908
คอร์น เฟอร์รี่ ชี้ผลสำรวจช่องว่างเงินเดือนระหว่างพนักงานระดับล่างกับผู้จัดการระดับสูงในไทยเพิ่มขึ้น 9.3%
- ประเทศกว่า 3 ใน 4 ที่ทำการสำรวจทั่วโลก ช่องว่างเงินเดือนมีการขยายตัวมากขึ้น -
- พบว่าช่องว่างเงินเดือนขยายตัวต่อเนื่องในทุกประเทศในเอเชีย -
- การขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนในไทยเฉลี่ย 9.3% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเอชียซึ่งอยู่ที่ 15.3% -
ข้อมูลการศึกษาครั้งใหม่ของ คอร์น เฟอร์รี่ (รหัสในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก: KFY) ระบุว่า ความแตกต่างของเงินเดือนระหว่างพนักงานระดับล่างกับผู้จัดการระดับสูงของบริษัทในประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.3% ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของทุกภูมิภาคทั่วโลกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 เป็นต้นมา การศึกษาครั้งนี้ใช้สถิติจากฐานข้อมูลค่าตอบแทนระดับโลกของ คอร์น เฟอร์รี่ ซึ่งพบว่า 77% ของ 58 ประเทศที่ทำการวิเคราะห์มีช่องว่างเงินเดือนที่กำลังขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
ประเทศในเอเชีย 8 ใน 9 ประเทศ มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนระหว่างกลุ่มพนักงานระดับล่าง ระดับกลาง จนถึงในระดับบน โดยประเทศไทยขยายตัวที่ 9.3% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของทั้ง 9 ประเทศคือ 15.3% มีเพียงอินเดียที่มีอัตราขยายตัวช่องว่างเงินเดือนพุ่งสูงกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างมากคืออยู่ที่ 66%
ชนัตถ์ อธิบาย Senior Client Partner and Head of Rewards and Benefits, Korn Ferry Thailand กล่าวว่า “เมื่อพูดถึงช่องว่างเงินเดือนในตลาดประเทศไทย จำเป็นต้องพิจารณาถึงนิยามของ ‘ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม’ ใหม่ ตัวอย่างเช่น องค์กรหลายแห่งในเมืองไทยกำลังประสบภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถในงานดิจิทัล โดยเฉพาะองค์กรที่วางแผนแปรรูปกระบวนการทำงานในแบบเดิม ๆ โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI) ดังนั้น บุคลากรที่มีความสามารถซึ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นในช่วงแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ จึงมักได้รับเงินเดือนสูง”
“ค่าตอบแทนจึงกลายเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง เห็นได้ชัดว่าบุคลากรที่มีความสามารถต่างต้องการแรงกระตุ้นในการเข้าทำงานในสภาพแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงเช่นในปัจจุบัน ทั้งการปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา การปรับตำแหน่งขึ้นและลงได้โดยปราศจากอุปสรรค หากยอมรับเงื่อนไขการทำงานใหม่ได้ ก็จะได้รับอัตราค่าตอบแทนใหม่ด้วย ดังนั้น ความเป็นธรรมของค่าตอบแทน (Pay Equity) จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของน้ำหนักงานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เป็นความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนไปตามการดำเนินงานและความต้องการขององค์กร” ชนัตถ์ กล่าวเสริม
บทวิเคราะห์ของ คอร์น เฟอร์รี่ ยังชี้ให้เห็นถึงสาเหตุเพิ่มเติมอีกหลายประการ ที่ทำให้เกิดการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนในเขตเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว
“สำหรับกลุ่มพนักงานระดับล่างในตลาดแรงงานเหล่านี้ การใช้ระบบอัตโนมัติและการย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ก็ส่งผลให้เกิดภาวะแรงงานล้นตลาด คือมีคนมากกว่าตำแหน่งงาน ซึ่งทำให้การปรับขึ้นเงินเดือนช้าลง” บ็อบ เวสเซลเคมเปอร์ หัวหน้างานระหว่างประเทศฝ่าย Rewards and Benefits Solutions คอร์น เฟอร์รี่ กล่าว “ในขณะเดียวกัน ในกลุ่มระดับบน กลับเกิดภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะจำเป็นและประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือ อาทิ สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ อีกทั้งองค์กรต่าง ๆ พากันแย่งตัวผู้จัดการระดับสูงที่มีทักษะด้านอารมณ์ (Soft Skills) ที่จำเป็น อาทิ ความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการบริหารทีมงานขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน ดังนั้น อัตราค่าตอบแทนของพนักงานในกลุ่มนี้จึงพุ่งสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่างานอื่น ๆ”
แม้ช่องว่างเงินเดือนที่กำลังขยายตัวขึ้นจะเป็นเรื่องปกติในประเทศส่วนใหญ่ หากยังมีบางแห่งที่ช่องว่างนี้กำลังลดลง เช่น ช่องว่างค่าตอบแทนกำลังหดแคบตัวลงในบางประเทศอย่างฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราภาษีที่สูงกว่าสำหรับผู้มีเงินได้สูง ดังนั้น จึงมีการจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนน้อยลงแก่พนักงานระดับสูง รวมถึงการแทรกแซงของรัฐบาลและสหภาพในเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนแก่พนักงานระดับล่างก็ส่งผลด้วยเช่นกัน
สำหรับการวิเคราะห์ในภูมิภาคอื่นๆ มีดังนี้
ทวีปอเมริกาเหนือ: สหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนสูงกว่าคานาดา
สหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนที่ 12% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 9% อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างแคนาดามีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนเพียง 5%
ทวีปยุโรป: ประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคมีช่องว่างเงินเดือนแคบลง
โดยเฉลี่ย ทั้งภูมิภาคมีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนที่ 2% โดย 13 ประเทศในยุโรปมีช่องว่างเงินเดือนระหว่างกลุ่มพนักงานระดับล่างและกลุ่มระดับบนที่แคบลง ประเทศที่เห็นได้ชัดเจนมากคือฝรั่งเศส (-6%) อิตาลี (-3%) โปแลนด์ (-13%) และสหพันธรัฐรัสเซีย (-3%) ส่วนสหราชอาณาจักรมีช่องว่างเงินเดือนสูงขึ้นที่ 9% โดยมีเพียง 3 ประเทศในยุโรปที่มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนสูงกว่าสหราชอาณาจักร ได้แก่ โปรตุเกส (10%) กรีซ (11%) และยูเครน (79%)
ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกามีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนที่สูงอย่างเหลือเชื่อ
การขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนระหว่างกลุ่มพนักงานระดับล่างและกลุ่มระดับบนในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกามีอัตราสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยอยู่ที่ 58% และ 49% ตามลำดับ โดย 6 ใน 10 ประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนสูงสุดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ บาห์เรน ที่ 118% ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนสูงสุดในการศึกษาครั้งนี้
ละตินอเมริกามีเพียง 2 ประเทศที่ช่องว่างเงินเดือนแคบลง
ประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคละตินอเมริกามีการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนเพิ่มขึ้น ด้วยค่าเฉลี่ยทั้งภูมิภาคที่ 13% ซึ่งโคลัมเบียเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนสูงสุดที่ 32% โดยมีเพียงอาร์เจนตินาและเวเนซูเอลาเพียง 2 ประเทศที่เป็นข้อยกเว้น เพราะมีช่องว่างเงินเดือนที่แคบลงที่ 2% และ 18% ตามลำดับ
ภูมิภาคแปซิฟิกมีการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนน้อยที่สุดเป็นอันดับสองโดยค่าเฉลี่ย
ด้วยค่าเฉลี่ยการขยายตัวที่ 7% ทำให้ภูมิภาคแปซิฟิกมีการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนน้อยที่สุดเป็นอันดับสองรองจากยุโรปที่มีเพียง 2% โดยประเทศออสเตรเลียมีอัตราการขยายตัวของช่องว่างเงินเดือนที่ 8% และนิวซีแลนด์ที่ 5%
กระบวนการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมู
ช่องว่างเงินเดือนได้ถู
เปรียบเทียบกับผู้ที่
ตัวเลขทั้งหมดถูกปัดเศษเป็
ภูมิภาค | ประเทศ |
ร้อยละของการเปลี่ยนแปลง ช่องว่างค่าตอบแทน ระหว่างปี 2008 - 2017 |
แอฟริกา | อียิปต์ | 13.60% |
แอฟริกาใต้ | 27.88% | |
เอเชีย | อินเดีย | 65.97% |
มาเลเซีย | 14.73% | |
อินโดนีเซีย | 12.72% | |
สิงคโปร์ | 12.07% | |
ญี่ปุ่น | 9.74% | |
ไทย | 9.31% | |
เกาหลี | 4.26% | |
จีน | 2.65% | |
ฮ่องกง | 2.21% | |
ยุโรป | ยูเครน | 79.26% |
กรีซ | 10.88% | |
โปรตุเกส | 10.42% | |
สหราชอาณาจักร | 9.34% | |
นอร์เวย์ | 7.95% | |
ตุรกี | 7.53% | |
เนเธอร์แลนด์ | 6.65% | |
ไอร์แลนด์ | 5.27% | |
สาธารณรัฐเช็ก | 3.91% | |
สวีเดน | 2.57% | |
เบลเยียม | 2.34% | |
ฟินแลนด์ | 1.96% | |
สเปน | 1.40% | |
เดนมาร์ก | 0.80% | |
เยอรมนี | 0.54% | |
สโลวาเกีย | 0.40% | |
ฮังการี | -2.63% | |
สหพันธรัฐรัสเซีย | -2.97% | |
อิตาลี | -3.09% | |
สวิตเซอร์แลนด์ | -3.67% | |
ออสเตรีย | -4.09% | |
ลักเซมเบิร์ก | -5.76% | |
ฝรั่งเศส | -5.79% | |
โปแลนด์ | -13.39% | |
ลิทัวเนีย | -16.83% | |
ลัตเวีย | -17.12% | |
โรมาเนีย | -18.82% | |
ละตินอเมริกา | โคลัมเบีย | 32.13% |
สาธารณรัฐโดมินิกัน | 26.09% | |
เปรู | 19.78% | |
คอสตาริกา | 19.19% | |
เม็กซิโก | 15.74% | |
ชิลี | 10.39% | |
กัวเตมาลา | 9.90% | |
บราซิล | 7.59% | |
อาร์เจนตินา | -1.95% | |
เวเนซุเอลา | -18.09% | |
ตะวันออกกลาง | บาห์เรน | 117.76% |
โอมาน | 55.94% | |
<p style="margin:0cm 0cm 0.0001pt;line-height:22px; |