WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1thaipublica

ศาลยกเลิกคุ้มครองรถเมล์เอ็นจีวี  

      สำนักงานศาลยุติธรรม เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ศาลจังหวัดพัทยา ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวรถเมล์ NGV ก่อนมีคำพิพากษา ระบุไม่ตัดสิทธิโจทก์เสนอคำขอตามมาตรา 254 ใหม่

    ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงค่ำวันที่ 27 ก.พ.2560 สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุว่า นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม แถลงว่า สืบเนื่องจากกรมศุลกากรยึดรถเมล์โดยสารปรับอากาศ เอ็นจีวี ที่ถูกนำเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง นั้น เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2560 บริษัทซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถยนต์ฯ ทั้ง 99 คัน ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรมศุลกากร กับข้าราชการของกรมศุลกากร รวม 6 คน เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.170/2560 เพื่อขอให้ศาลบังคับให้จำเลยทั้งหกปล่อยรถยนต์ฯ ทั้งหมด ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยโจทก์ยินยอมชำระเงินประกันภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่ารถยนต์ฯ แต่ไม่ต้องชำระค่าปรับ และให้จำเลยออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์ฯ แต่ละคัน

       นอกจากนี้ ยังให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 17,512,654.22 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และค่าเสียหายในอัตราวันละ 198,000 บาท (วันละ 2,000 บาทต่อคัน) นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะปล่อยรถยนต์ฯ ที่ยึดหน่วงไว้ ซึ่งในวันเดียวกันโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา

       หลังจากที่ศาลทำการไต่สวนพยานโจทก์แล้ว มีคำสั่งในวันเดียวกันว่าให้จำเลยทั้งหกร่วมกันหรือแทนกันปล่อยรถยนต์โดยสารปรับอากาศ เอ็นจีวี จำนวน 98 คัน ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยให้ยึดหน่วงไว้ได้ 1 คัน เพื่อตรวจสอบ โดยโจทก์ต้องวางเงินประกันภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่ารถยนต์ฯ แต่ละคัน และไม่ต้องชำระค่าปรับ และให้จำเลยทั้งหกร่วมกันออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์ฯ แต่ละคัน โดยให้โจทก์วางเงินประกันความเสียหายต่อศาล 500,000 บาท

      ต่อมา วันนี้ เวลา 9 นาฬิกา จำเลยทั้งหกยื่นคำร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวข้างต้นและเพิกถอนคำสั่งรับคำฟ้องของโจทก์ ซึ่งหลังจากไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยทั้งหกแล้ว ศาลจังหวัดพัทยาจึงมีคำสั่งให้ยกเลิกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาของโจทก์ และคืนเงินประกันความเสียหายที่โจทก์วางไว้ต่อศาลทั้งหมดให้แก่โจทก์

       โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวต่อไปอีกว่า การยื่นคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลมีคำพิพากษาเป็นการใช้สิทธิตามปกติของคู่ความ ซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยศาลจะกำหนดวันนัดไต่สวนและส่งสำเนาคำร้องให้คู่ความอีกฝ่ายเพื่อโต้แย้งคัดค้าน แต่หากมีกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน โจทก์สามารถยื่นคำขอตามมาตรา 266 ให้ศาลทำการไต่สวนเพื่อคุ้มครองชั่วคราว ก่อนมีคำพิพากษาตามมาตรา 254 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพื่อให้ศาลมีคำสั่งหรือออกหมายตามที่ขอโดยไม่ชักช้าก็ได้ ซึ่งหากศาลเห็นว่าคดีนั้นเป็นคดีมีเหตุฉุกเฉินและคำขอนั้นมีเหตุผลสมควรอันแท้จริง ก็ให้ศาลมีคำสั่งหรือออกหมายตามที่ขอภายในขอบเขตและเงื่อนไขตามที่เห็นจำเป็นทันที ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 267 วรรคหนึ่ง และหลังจากศาลมีคำสั่งแล้ว จำเลยอาจยื่นคำขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งหรือหมายนั้นได้เช่นกัน ตามมาตรา 267 วรรคสอง โดยคำสั่งดังกล่าวของศาลทั้งสอง กรณีจะเป็นที่สุด ไม่สามารถอุทธรณ์หรือฏีกาได้ แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะเสนอคำขอตามมาตรา 254 นั้นใหม่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!