- Details
- Category: กทม.
- Published: Saturday, 17 September 2016 22:20
- Hits: 10192
กรุงเทพมหานคร ร่วมมือสจล. เตรียมเปิดวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สร้างแพทย์นักวิจัย ยกระดับโรงพยาบาลสิรินธรและโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานครเป็นศูนย์การแพทย์โซนกรุงเทพตะวันออก
กรุงเทพมหานครร่วมสนับสนุนการจัดตั้งวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ให้โรงพยาบาลสิรินธรและโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่สำหรับฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาแพทย์ในอนาคต
นายแพทย์พีระพงษ์ สายเชื้อ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกรุงเทพมหานครและสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังว่า “กทม. ยินดีที่ได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งเป็นสถาบันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศ ในการส่งเสริมการพัฒนาบริการทางการแพทย์ของประเทศ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้กทม.จะเปิดให้นักศึกษาวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเข้ามาฝึกปฏิบัติด้านคลินิกที่โรงพยาบาลสิรินธรและโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ สจล. ยังจะสนับสนุนการพัฒนาโรงพยาบาลในด้านต่างๆ อาทิ การสร้างหอพักนักศึกษาแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้โรงพยาบาลสิรินธรและโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ยกระดับการให้บริการขึ้นเป็นโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลหลักที่ให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อดูแลประชาชนในกรุงเทพมหานครโซนตะวันออก และรองรับการกักกันโรคระบาดที่มากับผู้เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลอีกด้วย”
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เกิดจากความตั้งใจของสภาสถาบัน สจล. ที่มุ่งมั่นจะผลิตแพทย์แห่งอนาคตให้สอดคล้องกับความต้องการด้านสาธารณสุขของโลกและสังคมของไทย แพทย์ที่จบจากวิทยาลัยแห่งนี้นอกจากจะต้องมีความรู้เชิงวิชาการด้านการรักษาผู้ป่วยโรคเฉพาะทางต่างๆแล้ว ยังจะมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยสามารถทำงานร่วมกับวิศวกร หรือนักออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใช้ได้จริง ช่วยยกระดับการรักษาพยาบาล และดูแลคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น”
วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะเปิดสอนหลัก สูตรภาษาอังกฤษ โดยเริ่มรับสมัครนักศึกษาในระบบรับตรงเข้าเรียนในหลักสูตรแพทยศาสตร์ในปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ในระยะแรกจะเปิดรับนักศึกษา 40 – 50 คน โดยจัดการเรียนการสอนระดับพรีคลินิกภายใน สจล. โดยมีคณาจารย์ซึ่งเป็นแพทย์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่มีประสบการณ์ ในโรงพยาบาลหรือวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำมาแล้ว นักศึกษาขึ้นชั้นปีที่ 4 จะเข้าศึกษาและฝึกภาคคลินิกในโรงพยาบาลสิรินธร ที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสจล. ต่อไป
“วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะเน้นการผลิตแพทย์ เป็นนักสร้างนวัตกรรมซึ่งสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม และความเป็นจริงในประเทศไทย ช่วยให้ประเทศลดการพึ่งพาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากต่างประเทศซึ่งมีมูลค่าสูงมาก รวมทั้งจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเป็นนานาชาติ คือ สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ เข้าใจบริบทวัฒนธรรมต่างประเทศ และมีความสามารถในด้านการวิจัยทางการแพทย์” ศ.ดร.สุชัชวีร์กล่าว
ศาสตราจารย์ นายแพทย์อนันต์ ศรีเกียรติขจร รักษาการคณบดี วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวเสริมว่า “การพัฒนาแพทย์แห่งอนาคตเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะโลกจะต้องการเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อต่อสู้กับโรคที่ซับซ้อนขึ้น ช่วยให้เราดูแลผู้ป่วยในอนาคตได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น บทบาทของวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในการบ่มเพาะแพทย์ที่มีความสามารถด้านการวิจัย จึงมีความสำคัญ โดยจะต้องเน้นทั้งความรู้ ความเป็นเลิศด้านทักษะ และกระบวนการวิจัย มีความเข้าใจในบริบทของการเป็นแพทย์ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ สามารถปรับตัวเข้ากับต่างวัฒนธรรม เพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมโลกได้อย่างมีคุณภาพ”
นางสาวสุภาพร กรลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิรินธร กล่าวว่า “โรงพยาบาลสิรินธร มีเป้าหมายที่จะเป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิขนาดใหญ่ที่ดูแลประชาชนในภาคตะวันออก โดยมีแผนที่จะพัฒนาศักยภาพของเราจากการเป็นโรงพยาบาลขนาด 200 เตียงในปัจจุบัน ขึ้นเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ รองรับผู้ป่วยได้ 700 เตียง สามารถให้บริการผู้ป่วยทางภาคตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โรงพยาบาลสิรินธรและโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร จึงมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางในการศึกษาของแพทย์ที่ศึกษาในหลักสูตรภาษาอังกฤษรวมทั้งเป็นศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เกิดจากการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพอีกด้วย”
สจล. จะสร้างโครงข่ายความร่วมมือนำความรู้ด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ความเชี่ยวชาญของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และ วิศวกรรมศาสตร์ มาสนับสนุนการสอนและการวิจัยในหลักสูตรวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังและเตรียมกิจกรรมทางการศึกษาที่เปิดโอกาสให้นักเรียนแพทย์ได้สัมผัสกับการทำงานในสิ่งแวดล้อมที่เป็นนานาชาติ เช่น การดูงานหรือฝึกอบรมในต่างประเทศ เป็นต้น
BMA-KMITL sign MOU to support clinical training for
King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College students
Sirindhorn and Lat KrabangHospital to serve as the clinical training center to nurture future generation of medical research doctors
Bangkok Metropolitan Administration (BMA) today signed a Memorandum of Understanding to support the establishment and clinical training of King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College, allowing medical students to have clinical training at Sirindhorn Hospital.
Dr. Pirapong Saicheua, Permanent Secretary of the Bangkok Metropolitan Administration (BMA), said at the MOU signing ceremony: “BMA is pleased to support King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang (KMITL), a leading educational institute in Thailand, in advancing the country’s medical service industry. Under this cooperation, BMA will allow King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College students to have their clinical training at Sirindhorn Hospital and Lat Krabang Hospital which are the organization under BMA. Meanwhile, KMITL will support the hospital development in many areas, including the design and construction of medical student dormitory. This cooperation will in the end help Sirindhorn Hospital and Lat Krabang Hospital to upgrade itself to the Center Hospital or the central hospital that provides medical and healthcare services to the entire region, east of Bangkok in this case. In addition, the hospital will have the capability to support the country’s quarantine system to screen and prevent the outbreak of epidemic through passengers at Suvarnabhumi Airport.”
Prof.Dr.Suchatvee Suwansawat,President of KMITL,said, “King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College was established with our intention to produce quality global doctors for the future. Graduates from this college will have good medical knowledge as well as excellent research skills. They must be able to work closely with engineers or product designers in creating practical medical innovations and technologies that will provide better medical care and lift people’s quality of life.”
King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College will open for direct admission in the 2018 academic year with admission capacity of 40-50 students annually. King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College will conduct course in English and offer pre-clinical training at KMITL facility by leading Thai and foreign medical lecturers and specialists with extensive experience at public or private hospitals as well as medical colleges. Clinical training will be held at Sirindhorn Hospital and Lat Krabang Hospital which are located near KMITL.
“King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College will focus on producing medical research doctors who can create innovations and technologies that are relevant to the environment and needs in Thailand as well as the international markets. This will enable the country to reduce dependence on imported medical technology and equipment, which costs the country a huge sum every year. More importantly, graduates from the colleges will be “global doctors” who are fluent in English and have good understanding of the international culture as well as medical research capability,” said Prof. Dr. Suchatvee.
Prof.Dr. Anan Srikiatkhachorn, Acting Dean, King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang International Medical College, said: “It is important for us to start grooming global doctors of the future. We will need more and more medical technologies that help us fight with more complicated diseases and take better and more efficient care of the patients. The college’s role in nurturing medical doctors with research capability is therefore very important. The college will therefore emphasize on medical knowledge, research skills, good English proficiency and ability to adjust themselves to the changing or different culture and environment. This will enable our graduates to become the ‘global doctors’ as planned.”
Dr.Supaporn Koralak, Director of Sirindhorn Hospital, said: “Sirindhorn Hospital’s plans to become a large-scale secondary hospital that takes care of the people in the eastern region. We have a plan to upgrade from currently a 200-bed hospital to be a large hospital with 700-bed capacity that provides comprehensive medical and healthcare services to people in the eastern region which is also a major industrial zone with a large number of expats. We therefore have high potential serve international medical colleges as an incubator for medical innovators with great research skills.”
KMITL will create a network of cooperation by sharing its biomedical engineering knowledge and expertise, architecture and engineering to support the operations and academic activities offered by the college. In addition, various academic activities are planned to allow students to have more experience in international medical workplace environment, including overseas field trip to visit leading hospitals in other countries.
---------------------------------------