Tweet

0

Details

Category: กทม.

Published: Monday, 15 June 2015 10:20

Hits: 4275

       มติชนออนไลน์ : เวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิถุนายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร, นายกังวาฬ ดีสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ ลงพื้นที่ตรวจประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองทรงกระเทียม เขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่กทม.ให้งบประมาณมาพัฒนาระบบระบายน้ำเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในเขตลาดพร้าว

      ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เปิดเผยว่ากทม.พัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่รอบอุโมงค์ยักษ์อย่างต่อเนื่องสำหรับเขตวังทองหลาง,ลาดพร้าว บึงกุ่ม และบางกะปิ มีโครงการพัฒนาระบบระบายน้ำ 15 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 4 โครงการโดยสถานีสูบน้ำคลองทรงกระเทียมเป็นหนึ่งใน 4 โครงการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยกทม.สร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก และสถานีสูบน้ำตลอดแนวคลองทรงกระเทียม จากซอยโชคชัย 4 ถึงคลองจั่น มีสถานีสูบน้ำ 2 แห่ง แห่งหนึ่งกำลังสูบ 7 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูบน้ำจากคลองทรงกระเทียมออกสู่คลองลาดพร้าว และสถานีสูบน้ำขนาดกำลังสูบ 9 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูบน้ำออกสู่ปากคลองจั่น เร่งลำเลียงน้ำออกจากพื้นที่ได้สะดวกขึ้น แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง โดยหลังจากนี้กทม.จะเร่งดำเนินการโครงการที่เหลือให้แล้วเสร็จเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

      ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังระบุว่า การพัฒนาต้องใช้งบประมาณและใช้เวลาในการก่อสร้าง กทม.ดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ปัจจัยต่างๆเอื้ออำนวยแล้ว

     สำหรับ การเตรียมพร้อมรับมือฝนตกช่วงหลังจากนี้กทม.จะร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเตรียมแผนงานรองรับสถานการณ์ต่างๆโดยกทม.ฝากรณรงค์ให้ประชาชนเลิกทิ้งขยะลงคลองโดยเฉพาะขยะชิ้นใหญ่ซึ่งกทม.ปรับมาตรการให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะชิ้นใหญ่ทุกวันอาทิตย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและยังเป็นการลดขยะชิ้นใหญ่ที่อาจถูกทิ้งในคูคลองต่างๆ

      ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุว่า กรณีฝนตกเกิน 60 มิลลิลิตรจะต้องใช้เวลาระบายน้ำ แต่ที่สำคัญคือมาตรการบรรเทาปัญหาก่อนการระบายน้ำออกหมด และต้องขอบคุณพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่จัดให้เจ้าหน้าที่ทหาร, ตำรวจ และกทม.ร่วมมือกัน เพราะอำนาจหน้าที่ด้านจราจรกระจายไปที่หลายหน่วยงาน หน้าที่หลังจากนี้นอกจากการทำงานหนักแล้วจะต้องสร้างระบบทำงานเพื่อให้ 3 หน่วยงานทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น