- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Monday, 10 July 2017 08:58
- Hits: 3079
Sophos XG Firewall ได้รับการยกย่องให้อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ในรายงานการทดสอบกลุ่มไฟร์วอลล์แบบ Next-Gen ของ NSS Labs ได้รับการจัดอันดับขึ้นเป็นท็อปสาม ด้านประสิทธิภาพความปลอดภัย โดยผ่านการทดสอบทั้งหมด ทั้งด้านโพลิซีของไฟร์วอลล์ และการควบคุมแอพพลิเคชั่น และยังผ่านการทดสอบด้านเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือทั้งหมด แม้จะตกอยู่ภายใต้การโจมตีที่ยาวนาน หรือมีปัญหาด้านพลังงาน
ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้านความคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยพิจารณาจากการลงทุนต่อข้อมูลที่ปกป้องหรือ TCO รวมไปถึง TCO ที่วัดถึงสามปีต่อเนื่อง, ทรูพุตที่ NSS วัดเป็นพิเศษ, และประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย
สิงคโปร์, กรกฎาคม 2560 – Sophos (LSE: SOPH) ผู้นำระดับโลกด้านความปลอดภัยบนเครือข่ายและเอนด์พอยต์ จัดแถลงข่าววันนี้ว่า ทาง NSS Labs ได้ยกย่องให้ Sophos XG Firewall เป็นหนึ่งในไฟร์วอลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาด ซึ่งระบบไว้ในรายงาน Next-Generation Firewall Group Test Report(1) ฉบับล่าสุด นอกจากนี้ XG Firewall ยังได้รับตำแหน่งงเป็นที่แนะนำ (Recommended)’ ในฐานะหนึ่งในสามอันดับสูงสุดด้านประสิทธิภาพการให้ความปลอดภัย ด้วยการผ่านการทดสอบทั้งด้านเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือทั้งหมด รวมถึงให้การปกป้อง และประสิทธิภาพการทำงานในระดับสูงสุดด้วยราคาที่คุ้มค่ามาก
การประเมินของ NSS Labs ครั้งนี้มีไฟร์วอลล์แบบ Next-Gen ชั้นนำในตลาดกว่า 11 รายการ โดยมีการให้คะแนนตั้งแต่ด้านระดับความปลอดภัย, ประสิทธิภาพการทำงาน, เสถียรภาพ, ความน่าเชื่อถือ, และความคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือ TCO ซึ่ง Sophos XG Firewall ทำคะแนนเหนือผลิตภัณฑ์อื่นในตลาดท่ามกลางเกณฑ์การทดสอบที่เข้มงวด จนเข้าเป็นหนึ่งในเจ็ดผลิตภัณฑ์แรกที่ได้รับการยกย่องจาก NSS Labs ให้เป็น “ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ (Recommended)”
“การทดสอบที่เป็นอิสระ และเชื่อถือได้นั้น ถือเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กรในการประเมินความต้องการด้านความปลอดภัยของตนเอง ซึ่ง NSS Labs ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกรายการผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยทางไอทีที่สมควรจะได้รับการพิจารณา” แดน ชิอัปปา รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยบนเครือข่ายและผู้ใช้ปลายทางของ Sophos ให้ความเห็น “Sophos มุ่งมั่นที่จะพัฒนาวิธีที่มีประสิทธิภาพและง่ายดายที่สุดในการจัดการผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยสำหรับองค์กรทุกขนาด เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ผลการทดสอบของ NSS Labs พิสูจน์ให้เห็นว่า XG Firewall เป็นผู้นำในตลาดทั้งด้านการปกป้อง, ประสิทธิภาพ, และความคุ้มค่า เรายังคงลงทุนอย่างหนักและต่อเนื่องในการพัฒนาแพลตฟอร์มไฟร์วอลล์แบบ Next-Gen ไปพร้อมๆ กับการยกระดับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยแบบซิงโครไนซ์ ดังจะเห็นจากกรณีการระบาดของ WannaCry ที่ผ่านมาว่า การปกป้องเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของการโจมตีที่ซับซ้อน และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วได้ รวมทั้งยังนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากสำหรับยุทธศาสตร์ความปลอดภัยที่ครอบคลุมทุกประเภทในอีกหลายปีข้างหน้านี้”
โทมัส สกายแบคเมียน ผู้อำนวยการด้านการวิจัยจาก NSS Labs ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “เรายังคงพัฒนาและรักษามาตรฐานการทดสอบที่เข้มงวดนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการปกป้ององค์กรต่างๆ ที่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากผู้โจมตี และเทคนิคการบุกรุกใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่ง Sophos XG Firewall ได้ให้ผลทดสอบได้ดีมาก โดยได้คะแนนในระดับสูงทั้งด้านประสิทธิภาพการให้ความปลอดภัย และความแม่นยำในการตัดสินใจ”
สำหรับ สำเนาของรายงานการทดสอบไฟร์วอลล์แบบ Next-Gen ของทาง NSS Labs ที่ระบุถึงผลของ Sophos XG-750 Firewall และข้อมูลแผนภาพแบบ Security Value Map (SVM) ที่แสดงการเปรียบเทียบผลการทดสอบกับผู้จำหน่ายรายอื่นในตลาดนั้น สามารถโหลดได้จากเว็บไซต์ของ Sophos ที่ https://secure2.sophos.com/en-us/lp/nss-labs-firewall-test.aspx
สำหรับ รุ่นล่าสุดที่ปล่อยออกมาเมื่อธันวาคม 2560 นั้น ไฟร์วอลล์ Sophos XG แบบ Next-Gen นี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่สำคัญเพิ่มมากขึ้น อันได้แก่:
1. Sophos Sandstorm – สำหรับสกัดกั้นอันตรายแบบ Zero-day ที่ร้ายแรงอย่างแรนซั่มแวร์, อันตรายที่แฝงมาในรูปไฟล์ Executable, ไฟล์ PDF หรือเอกสารออฟฟิศ ด้วยการส่งไฟล์ดังกล่าวไปยังแซนด์บ็อกซ์บนคลาวด์เพื่อกำจัด และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
2. ระบบความปลอดภัยแบบซิงโครไนซ์ - เป็นการขยายขอบเขตความสามารถของ Security Heartbeat ด้วยการเพิ่มการตรวจจับสัญญาณ Heartbeat และการปกป้อง Heartbeat ที่ปลายทาง พร้อมควบคุมการเข้าถึงเอนด์พอยต์และเซิร์ฟเวอร์ตามสถานะของสัญญาณ Heartbeat ของแต่ละอุปกรณ์ โดยจำกัดการเข้าถึงของระบบที่เสี่ยงต่อการโดนโจมตีจนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ไฟร์วอลล์ XG ยังสามารถค้นหาและระบุแอพพลิเคชั่นที่เป็นเจ้าของทราฟิกที่ไม่รู้จักบนเครือข่ายของคุณได้ด้วย
3. Secure Web Gateway (SWG) ระดับองค์กร – เครื่องมือสร้างโพลิซีแบบ Inherited ใหม่ ที่เปิดให้สร้างโพลิซีที่ควบคุมผู้ใช้ และกลุ่มผู้ใช้หลายกลุ่มได้พร้อมกันผ่านอินเทอร์เฟซแบบหน้าเว็บ พร้อมทั้งผูกรวมเอาโพลิซีบนเว็บทั้งหมดมาอยู่บนกฎของไฟร์วอลล์อันเดียวกัน ทำให้ลดจำนวนกฎหรือ Rule ที่ต้องประมวลผลได้อย่างมาก
4. การรองรับ Microsoft Azure – มีพร้อมให้ในรูปของเวอร์ช่วลแมชชีนที่ตั้งค่ามาให้เรียบร้อยแล้วใน Azure Marketplace ซึ่งผู้จัดการด้านไอทีสามารถใช้งานผ่านเท็มเพลตของ Azure Resource Manager ได้อย่างง่ายดาย หรือจะปรับแต่งการติดตั้งให้เข้ากับความต้องการของตนเองก็ได้ โดยไฟร์วอลล์ Sophos XG จะให้รายงานแบบละเอียด พร้อมตั้งแต่เริ่มใช้งาน ซึ่งจะสร้างขึ้นและจัดเก็บบนเครื่อง ทำให้สามารถเรียกดูกิจกรรมของผู้ใช้ต่างๆ ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
5. ยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ราบรื่นมากขึ้น – โดยไฟร์วอลล์ XG รุ่นนี้ให้การจัดการความปลอดภัยบนเครือข่ายง่ายขึ้นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยแผงควบคุมแบบใหม่ทั้งหมด ที่จัดกลุ่มเมนูและแท๊บต่างๆ ให้สะดวกต่อการใช้งานทุกรูปแบบ รวมทั้งหน้าจอจัดการกฎของไฟร์วอลล์ที่เรียบง่ายมากกว่าเดิม ช่วยในการสร้างกฎที่ซับซ้อนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
Sophos XG Firewall นี้ มีพร้อมทั้งในรูปของแอพพลายแอนซ์แบบฮาร์ดแวร์ และแพลตฟอร์มแบบเวอร์ช่วลที่หลากหลาย รวมทั้งมีพร้อมบน Microsoft Azure Marketplace สำหรับการติดตั้งเพื่อปกป้องคลาวด์ในรูปของ Infrastructure-as-a-Service สำหรับโมเดลต่างๆ นั้น มีตั้งแต่แบบแอพพลายแอนซ์ในลักษณะเป็นอุปกรณ์อิสระที่มี Wi-Fi ในตัว ไปจนถึงแอพพลายแอนซ์ที่ยึดเข้า Rack สำหรับติดตั้งในดาต้าเซ็นเตอร์ โดยท่านสามารถสอบถามรายละเอียดของราคาได้จากพาร์ทเนอร์ของ Sophos ที่ได้รับอนุญาตทั่วโลก