- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Monday, 11 August 2014 08:26
- Hits: 3572
ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส เลือกใช้แอพพลิเคชั่นของ ไอเอฟเอส ในการขยายช่องทางการทำธุรกิจ
· การนำโปรแกรมทางด้านการวางแผนทรัพยากรขององค์กร หรือที่เรียกว่า ERP (Enterprise Resource Planning) มาใช้เพื่อช่วยให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
· ช่วยให้สามารถมองเห็นการจัดการได้อย่างทันท่วงทีเพื่อการตัดสินใจที่เร็วยิ่งขึ้น
· ช่วยให้สามารถขยายธุรกิจไปประเทศอื่นๆในแถบอาเซียน
ไอเอฟเอส (IFS) บริษัทผู้พัฒนา Enterprise Application ระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นสูงของปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ทำการติดตั้ง ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น (IFS Applications™) เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำและขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆ เพื่อรองรับ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่กำลังจะมาถึง
ทาซูโอะ โอเตกิ ประธาน บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า“เราเลือก ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น เพราะเป็นโซลูชั่นที่สามารถรวมข้อมูลจากแผนกต่างๆเข้ามาไว้ด้วยกันทำให้สามารถมองเห็นภาพรวมของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยในเรื่องของการตัดสินใจและการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ปัจจุบันในบริษัทมี 3 ระบบงานที่แยกกันทำงาน การที่นำ ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่นมาใช้นั้น ทำให้บริษัทสามารถเชื่อมโยงการทำงานทุกหน่วยงานเข้าด้วยกันและเพิ่มแนวทางการบริหารจัดการธุรกิจ “การวางระบบไอเอฟเอสแอพพลิเคชั่นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพร้อมขยายช่องทางการให้บริการหลังการขายได้ทั่วประเทศไทย” โอเตกิ กล่าวเสริม
เริ่มแรกจะเน้นที่การจัดซื้อและการผลิตที่คล่องตัว ตามด้วยการเชื่อมฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เข้าด้วยกันทั้งประเทศ “ท้ายที่สุด แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยในการขยายการดำเนินงานไปยังประเทศอื่นๆ เช่น กัมพูชา ลาว และ เมียนมาร์ ทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนและช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการดำเนินงานของระบบ ERP แบบครบวงจรจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตและประสบความสำเร็จ”โอเตกิ กล่าวเพิ่มเติม
บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด จะนำ ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น 8 มาใช้ในส่วนของการบริหารจัดการโซ่อุปทาน (supply chain) การผลิต การจัดการด้านการบริการ และการเงิน “เราหวังว่าการนำ ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่นส์มาใช้จะสามารถช่วยลดต้นทุน ประหยัดเวลาและทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น และช่วยเพิ่มเวลาในการวางแผนสำหรับการขยายกิจการไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต” โอเตกิ กล่าว การนำแอพพลิเคชั่นของไอเอฟเอสมาใช้นั้น จะค่อยๆนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานจะสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และทีมงานของไอเอฟเอสได้เข้ามาทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของบริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด นอกจากนี้เพื่อเป็นการพัฒนาตารางด้านการผลิตและขั้นตอนการบริการ ระบบยังจะช่วยสร้างรายงานและการวิเคราะห์ที่แม่นยำบนพื้นฐานของข้อมูลที่ไม่สามารถใช้งานได้ในระบบเดิมของบริษัท
“ไอเอฟเอส แอพพลิเคชั่น จะช่วยให้ระบบการทำงานของบริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความถูกต้องของข้อมูลทางธุรกิจและส่งผลในการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราหวังที่จะได้เป็นพันธมิตรในระยะยาวเพื่อส่งเสริมความสำเร็จร่วมกับบริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ให้กว้างไกลไปยังประเทศอื่นๆ”ศรีดาราน อรูมูแกม รองประธานบริษัทไอเอฟเอส ภูมิภาคอาเซียนตะวันออกเฉียงใต้กล่าว
บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เป็นบริษัทสาขาของบริษัท ทัทซูโน่ คอร์ปอเรชั่นส์ ซึ่งมีสาขาใหญ่อยู่ที่ประเทศญึ่ปุ่น บริษัท ทัทซูโน่ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ก่อตั้งขึ้นที่ประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2532 และเป็นผู้ผลิตและให้บริการเทคโนโลยีชั้นสูงของปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงในหลายๆสาขาปั้มน้ำมันทั้งในประเทศไทย ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว และประเทศเมียนมาร์
เกี่ยวกับไอเอฟเอส
ไอเอฟเอส เป็นบริษัทมหาชน (OMX STO: IFS) ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 โดยเป็นผู้พัฒนา ผลิต และติดตั้ง IFS Applications™ ซึ่งเป็น ERP Suite แบบ Component-Based ที่พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี SOA ไอเอฟเอสมุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่กระบวนการหลักทั้ง 4 ด้านนี้มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์: การจัดการบริการและสินทรัพย์, การผลิต, Supply Chain และโครงการต่างๆ ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 2,600 คนและลูกค้ากว่า 2,200 รายทั่วโลก และมีขอบข่ายการดำเนินงานใน 60 ประเทศ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไอเอฟเอสได้ที่ www.IFSWORLD.com หรือทาง Twitter: @ifsworld
หรือเยี่ยมชม IFS Blogs เกี่ยวกับเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ได้ที่ http://blogs.ifsworld.com/