- Details
- Category: ไอที-เทคโนฯ
- Published: Tuesday, 23 August 2016 08:58
- Hits: 2114
ปณท ทุ่ม 500 ล้านบาท ลงทุนระบบไอที-แอปพลิเคชัน เพื่อยกระดับสู่องค์กรดิจิตอล ภายในปี 2560 ตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ยิ้มกำไรปี 59 ทะลุ 3,000 ล้านบาท
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ปีนี้ ปณท ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ในการลงทุนระบบไอที เพื่อยกระดับองค์กรเป็นดิจิตอล โดยใช้งบประมาณ 300 ล้านบาท ในการปรับปรุงเคาน์เตอร์ในการให้บริการตามสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ กว่า 1,300 แห่ง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ ซึ่งเคาน์เตอร์รูปแบบใหม่นี้ จะมีระบบไอที ทั้งหน้าบ้าน และหลังบ้าน เพื่อเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ ปณท พัฒนาขึ้น เพื่อให้การรับฝากสิ่งของหน้าเคาน์เตอร์รวดเร็วขึ้น
สำหรับบริการที่กำลังเร่งพัฒนา และจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ได้แก่ บริการพร้อมโพสต์ (Prompt post) เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดทำระบบฝากส่งสิ่งของล่วงหน้า ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ, บริการแมสเซนเจอร์โพสต์ (Messenger Post) แอปพลิเคชันสำหรับบริการส่งเอกสาร หรือสิ่งของเร่งด่วน
นอกจากนี้ ภายในปี 2560 จะมีการทำบัตรสมาชิกที่สามารถเติมเงินได้ เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการชำระค่าบริการของไปรษณีย์ และการให้บริการเครื่องเอพีเอ็ม (Automatic Post Machine) ตู้ให้บริการรับฝากอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับฝากสิ่งของ กรณีที่สถานที่ทำการปิดแล้ว คาดว่าจะสามารถเลือกผู้ผลิตเครื่องได้ภายในไตรมาสแรก และคาดว่าจะเริ่มติดตั้งได้ภายในสิ้นปี 2560
นางสมร กล่าวว่า ปณท ให้ความสำคัญกับการใช้ไอทีมาช่วยพัฒนาองค์กร เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลในการยกระดับสู่ไทยแลนด์ 4.0 การใช้ไอทีมาช่วย จะเพิ่มความสะดวกให้กับพนักงาน ต่อไปการคัดแยกสิ่งของ ปณท ก็จะใช้ระบบไอทีในการช่วยคัดแยกด้วย รถขนส่งสิ่งของก็จะมีการติดตั้งจีพีเอส และอาร์เอฟไอดี เพื่อรู้สถานะการส่งของ และสามารถติดตามได้
'แผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยในระยะ 3-5 ปี จะขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการทำงานทุกขั้นตอน เพื่อให้มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากล พร้อมทั้งรองรับการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-commerce) และกลุ่มสตาร์ทอัป (start up) ภายใต้นโยบายโพสต์เอ็กเซเลนซ์ (Post excellence) เน้นพัฒนาสินค้า และบริการ รวมถึงปรับปรุงยกระดับการทำงานอย่างมีมาตรฐานต่อเนื่อง และพัฒนาบุคลากรให้ร่วมทำงานอย่างเป็นทีม'
นางสมร กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย.2559 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 12,200 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,677 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 22.6% ซึ่งมาจากการขยายตัวของธุรกิจขนส่ง และลอจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 42% ส่วนธุรกิจบริการไปรษณีย์ภัณฑ์ 37% ธุรกิจบริการระหว่างประเทศ 14% และธุรกิจการเงิน-ค้าปลีก 6% โดยรายได้ของปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 24,300 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิ 3,000 ล้านบาท
Bobby 3310