WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Fitch10การเจรจาควบรวมกิจการของกลุ่มเทเลนอร์ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของขนาดธุรกิจในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย

      ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ- 23 พฤศจิกายน 2564: ฟิทช์กล่าวว่าการเจรจาระหว่างเทเลนอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศนอร์เวย์ กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ เครือซีพี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อหาแนวทางในการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของสองบริษัท แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการเพิ่มขนาดธุรกิจให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน ท่ามกลางการเติบโตของอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับต่ำ และความต้องการในการลงทุนที่สูง

        เทเลนอร์ และ เครือซีพี ได้ประกาศเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ว่ามีแผนในการควบรวมกิจการของผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 ในประเทศไทย ซึ่งได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AA(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ) โดย เทเลนอร์ และ เครือซีพี คาดว่าจะถือหุ้นในบริษัทใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Merged Entity ในสัดส่วนที่เท่ากัน

        โดยหุ้นส่วนที่เหลือจะถือโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยของ TRUE และ DTAC   เทเลนอร์ และ เครือซีพี คาดว่าจะได้ข้อสรุป และมีการลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องภายในไตรมาสแรก ของปี 2565 โดยยังขึ้นอยู่กับการได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ผู้ถือหุ้นของบริษัท และหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง

GC 580x400

       ฟิทช์ เชื่อว่าแผนการเจรจาควบรวมกิจการดังกล่าว เกิดจากความจำเป็นที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม ต้องมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการที่มีขนาดธุรกิจที่เล็กกว่า ซึ่งรวมถึง DTAC และ TRUE จะต้องเผชิญความท้าทายจากการลงทุนก่อสร้างโครงข่าย 5G ในขณะที่ยังมิไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนดังกล่าวในทันที

       ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายใหญ่สุด ซึ่งได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ AIS (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AA+(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งในการรองรับการลงทุน 5G และได้รับประโยชน์จากขนาดธุรกิจและฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่

TU580x400

      การควบรวมกิจการดังกล่าว น่าจะให้ประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวแก่ DTAC และ TRUE ในการแข่งขันด้านราคาในการให้บริการด้านข้อมูล และความสามารถในการรองรับการให้บริการของโครงข่าย การควบรวมกิจการจะทำให้สถานะทางการตลาดของ Merged Entity แข็งแกร่งขึ้น และกลายเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่าร้อยละ 50 จากส่วนแบ่งทางการตลาดของ TRUE ที่ร้อยละ 32 และ DTAC ที่ร้อยละ 22 ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564    

          นอกจากนี้ จำนวนคลื่นความถี่ที่มากขึ้นจะทำให้ Merged Entity แข่งขันกับ AIS ได้ดียิ่งขึ้น

         ฟิทช์ เชื่อว่าการควบรวมกิจการจะช่วยให้ค่าบริการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีเสถียรภาพมากขึ้น และสนับสนุนการทำกำไร ในระยะยาว  การแข่งขันด้านราคาสำหรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 2564 ยังคงไม่รุนแรงมากนัก แม้ว่าสภาพการดำเนินธุรกิจที่ท้าทาย อาจทำให้มีการแข่งขันด้านราคาในช่วงสั้นๆ เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้

QIC 580x400

        ฟิทช์ คาดว่าการควบรวมกิจการน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานได้มากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพ และระยะเวลาของกระบวนการควบรวมการดำเนินงาน และโครงข่ายของทั้งสองบริษัท

       อย่างไรก็ตาม สถานะทางการตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นของ DTAC จะถูกลดทอนจากอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นของ Merged Entity ฟิทช์ประมาณการว่า อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA) ของ Merged Entity จะอยู่ที่ระดับประมาณ 5.2 เท่า หลังจากมีการควบรวมกิจการ โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 DTAC มี EBITDA ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท และมี Net Debt/EBITDA ที่ 2.3 เท่า ในขณะที่ TRUE มี EBITDA ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท และมี Net Debt/EBITDA ที่ 7.4 เท่า

       ฟิทช์ จะพิจารณาผลกระทบต่ออันดับเครดิตของ DTAC จากการควบรวมกิจการ หากแผนการควบรวมมีความแน่นอนมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์และการสนับสนุนระหว่าง Telenor และ DTAC จะทำให้ฟิทช์พิจารณาความสัมพันธ์และการสนับสนุนดังกล่าวจาก Telenor ใหม่อีกครั้ง  

sme 580x400

       ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตของ DTAC โดยเริ่มจากการพิจารณาสถานะเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ของ DTAC แล้วจึงพิจารณาถึงปัจจัยเสริมจากความสัมพันธ์ดังกล่าว (Bottom-Up Approach) โดยฟิทช์ ได้ให้อันดับเครดิตเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิต Standalone ของ DTAC เพื่อสะท้อนถึงความเกี่ยวเนื่องด้านกลยุทธ์ในระดับปานกลางระหว่าง DTAC กับ Telenor โดย Telenor มีอำนาจควบคุมคณะกรรมการและผู้บริหารของ DTAC

      DTAC เผชิญกับความยากลำบากในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกลับคืนมา ท่ามกลางการแข่งขันที่อยู่ในระดับสูง การถือครองคลื่นความถี่ที่ด้อยว่า และความครอบคลุมของโครงข่ายที่น้อยกว่าคู่แข่ง   นอกจากนี้ DTAC ยังจะต้องมีการจัดหาคลื่นความถี่เพิ่มเติม โดยเฉพาะคลื่น mid-band 3.5GHz เพื่อรองรับการขยายเครือข่าย 5G ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

       ในขณะที่ TRUE ได้รับแรงกดดันจากกระแสเงินสดที่อ่อนแอ จากการลงทุนที่อยู่ในระดับสูง ในขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดมีการเพิ่มขึ้นช้าลง ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดสุทธิของ TRUE น่าจะยังคงเป็นลบในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ที่ตึงตัว

ais 580x400

ติดต่อ

โอบบุญ ถิรจิต

Director

+662 108 0159

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ชั้น 17, อาคารปาร์คเวนเชอร์, เลขที่ 57 ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน

กรุงเทพฯ 10330

ณิชยา สีมานนทปริญญา

Director

+662 108 0161

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com

Click Donate Support Web

EXIM One 720x90 C J

GC 720x100TU720x100

 

 

sme 720x100

QIC 720x100

ais 720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!