WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aaaA1ABaintuckt

INTOUCH โดยโครงการอินเว้นท์ร่วมลงทุนใน อีคาร์ทสตูดิโอ เน้นพัฒนา Smart City Platform เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

     บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการอินเว้นท์ (InVent)ร่วมลงทุนกับ บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด (อีคาร์ทสตูดิโอ-Ecartstudio) หนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมประยุกต์ทางด้านภูมิศาสตร์ (Enterprise Location-Based Application) ล่าสุดได้พัฒนาแพลตฟอร์ม สมาร์ทซิตี้ (Smart City Platform) สำหรับลูกค้าองค์กร (Business to Business-B2B) และผู้บริโภค (Business to Consumer -B2C) เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและยกระดับการใช้ชีวิตของประชาชนให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยอินทัชได้ร่วมลงทุนในระดับซี่รี่ส์ B ผ่านโครงการอินเว้นท์ (InVent) ด้วยมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท โดยอีคาร์ทสตูดิโอจะนำเงินลงทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ พร้อมทั้งพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้เป็นผู้นำด้าน Smart City Platform ของไทย ภายใน 3-5 ปี

      ดร.ณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล หัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ว่า “ทุกวันนี้การบอกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์หรือแผนที่มีประโยชน์อย่างมากในการดำเนินงานของธุรกิจต่างๆ เช่น การหาร้านอาหาร บริการส่งอาหารหรือสินค้า การเรียกแท็กซี่ การทำสื่อโฆษณาและส่งเสริมการขายผ่านมือถือ ซึ่งอีคาร์ทสตูดิโอ เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยี Location Based Services เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค กลุ่มธุรกิจ และองค์กรภาครัฐในการให้บริการต่างๆ ที่ช่วยให้การบริหารจัดการสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างรายได้ และลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเรามองว่าการนำเทคโนโลยี Location Based Services มาใช้ในธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจบริการ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจอื่นๆ มีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคต”

      “ด้วยความเชี่ยวชาญของผู้ก่อตั้ง และทีมงาน อินเว้นท์มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอีคาร์ทสตูดิโอที่จะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนานวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มรายได้ และประหยัดต้นทุน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป”ดร.ณรงค์พนธ์ กล่าวเพิ่มเติม

       นายวุฒิกร มโนมัยวิบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด กล่าวว่า “บริษัท อีคาร์ท สตูดิโอ รู้สึกยินดีที่ทางอินทัชเห็นถึงศักยภาพของบริษัทและได้ร่วมลงทุนด้วย ซึ่งการร่วมลงทุนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดี ที่ทางอีคาร์ทสตูดิโอจะได้ร่วมเป็น Strategic Partners กับอินทัช ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีทั้งเครือข่ายและประสบการณ์สูงในธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ และเทคโนโลยี จึงถือเป็นการช่วยต่อยอดและเสริมศักยภาพให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในกลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าองค์กร รวมทั้งช่วยให้เข้าถึงตลาดใหม่ในระดับภูมิภาคเอเชีย สำหรับ เงินลงทุนที่ได้รับบริษัทฯ วางแผนที่จะนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งเสริมทัพทีมงาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายในอีก 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า ที่จะเป็นผู้นำด้าน Smart City Platform ของประเทศที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้าน”

     ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้พัฒนา Smart City Platform ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C เพิ่มเติมจากการพัฒนาระบบโปรแกรมประยุกต์บนเว็บ (Web-Based Application) และระบบโปรแกรมประยุกต์ทางด้านภูมิศาสตร์ (Enterprise Location-Based Application) ในส่วนของ B2C Platform นั้น เริ่มจากการที่บริษัทฯ เห็นว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการติดต่อสื่อสาร การค้นหาและรับข้อมูล หรือดูกิจกรรมบันเทิงต่างๆ บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะพัฒนานวัตกรรมการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ง่าย สะดวก คุ้มค่า และลดเวลาที่ไม่ควรเสียไป ทั้งในด้านของการอยู่อาศัย การเดินทาง การพกบัตรต่างๆ ด้านสุขภาพและการแพทย์ รวมถึงด้านการช้อปปิ้ง เป็นต้น โดยการใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น แอพพลิเคชั่น ServLive เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, แอพพลิเคชั่น ServCard เพื่อลดความยุ่งยากในการพกบัตรสมาชิกต่างๆ เปลี่ยนเป็นเก็บในรูปแบบบัตรดิจิทัล, แอพพลิเคชั่น Taxi-Beam และ Bus-Beam เพื่อให้สามารถเข้าถึงรถสาธารณะได้ง่ายและสะดวก และแอพพลิเคชั่น InMall เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเดินห้างเสมือนจริง พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับเกมส์ AR และลุ้นรับส่วนลดโปรโมชั่นมากมาย

     สำหรับ Smart City Platform ในส่วน B2B นั้น บริษัทฯ ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางด้าน Location-Based เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบ LBIS (Location Based Information System), LIMS (Location Information Management System) และ EcartMap ให้สามารถรองรับการสร้างและบริหารการวางระบบสาธารณูปโภค (Infrastructure) ต่างๆของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครอบคลุมทั้งระบบคมนาคม, ระบบพลังงาน, ระบบการจัดการน้ำ, และระบบสื่อสาร เป็นต้น นอกจากนั้น แพลตฟอร์มที่ได้พัฒนาขึ้น ยังมีความยืดหยุ่นสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการใช้งานขององค์กรและธุรกิจต่างๆทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนได้เป็นอย่างดี ดังนั้น Smart City Platform สำหรับ ลูกค้าองค์กรจึงถือเป็นการประยุกต์เทคโนโลยีที่บริษัทเชี่ยวชาญเพื่อช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่สามารถให้บริการด้านสาธารณูปโภค รวมทั้งช่วยบริหารจัดการเมืองโดยใช้ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง

     ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสัดส่วนลูกค้าองค์กรภาคเอกชนประมาณ 40% และลูกค้าองค์กรภาครัฐประมาณ 60% ทั้งนี้ จากการนำเสนอ Smart City Platform ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C นั้น บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าเอกชนและลูกค้าบุคคลทั่วไปมากยิ่งขึ้น โดยภายในปี 2020 บริษัทฯ คาดว่า จะมีฐานลูกค้าบุคคลประมาณ 1,000,000 คนทั่วประเทศ นอกจากนั้น บริษัทฯ ได้มีแผนงานที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มจากประเทศบรูไน และอินโดนีเซียก่อน เป็นอันดับแรก ด้วยการนำเสนอบริการระบบ ServLive และ ServCard เนื่องจากยังมีคู่แข่งน้อย ทำให้มีโอกาสเติบโตและขยายฐานลูกค้าได้มาก รวมทั้ง บริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถแนะนำกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความสนใจใช้บริการได้

 

 

InVent by INTOUCH invests Bt40m in Ecartstudio Big growth foreseen in Smart-City platforms that make life more convenient

    InVent, the venture-capital arm of Intouch Holdings Plc (SET: INTUCH), has invested Bt40 million in a Series B financing round for Ecartstudio, one of Thailand’s leading enterprise location-based application developers and consultants. Ecartstudio’s latest development is a Smart-City Platform for Business to Business (B2B) and Business to Consumer (B2C) interactions, to support the smart-city concept and promote a more convenient lifetstyle, with users enjoying ‘time well spent’. The funding will be used to expand Ecartstudio’s business and support the development of products and services that are expected to make it the leader in smart-city platforms in Thailand within three to five years.

      Dr. Narongpon Boonsongpaisan, Head of InVent, the venture-capital arm of Intouch Holdings Plc, said that “location- and map-based applications were very useful for many businesses, such as when searching for restaurants, food and product deliveries, ordering taxis, media advertisements and sales promotions via mobile phones. Ecartstudio is leading the development of location-based services technology, to address the needs of consumers, businesses and even the government in offering services and manipulating the city to increase efficiency, create revenue and reduce costs. The use of location-based applications by service businesses, retail, transportation, real estate, media advertising and other businesses has huge potential for growth,”

     “With the skills of Ecartstudio’s founder and team, InVent is confident in its capacity for fast growth in the future. It is capable of developing innovations to address customers’ needs and to help businesses become more efficient by increasing their revenue while reducing their costs. Eventually, it is capable of impacting economy development as a whole,” Dr. Narongpon added.

       Mr. Wutthikorn Manomaiwiboon, Chief Executive Officer of Ecartstudio, said “his company was pleased that INTOUCH’s belief in Ecartstudio’s abilities led to the investment. It had created a major business opportunity for Ecartstudio to become a strategic partner of INTOUCH, which was an experienced leader in telecommunications, media and technology. The move would leverage his company’s ability to expand its customer base, its business network and corporate customers, as well as enabling it to penetrate regional markets. The investment will be used to develop products and services as well as increasing Ecartstudio’s staff, in order to achieve its goal of becoming the leader in smart-city platforms and addressing many aspects of customer usage over the next three to five years.”                                              

      Over the past two years, Ecartstudio has developed smart-city platforms for both B2B and B2C interaction. These have been additional to its development of web-based and enterprise-location-based applications. Smartphones are playing an increasingly important role in people’s daily lives, from communications to information searching, receiving information, and entertainment. Ecartstudio sees business opportunities in offering lifestyle-based services and meeting customers’ needs for greater convenience by making worthwhile time-savings in their lives, transport needs, healthcare and shopping. Applications on Ecartstudio’s B2C smart-city platform include ServLive, which is designed to meet the lifestyle needs of people living in condominiums; ServCard, an application that turns member cards into digital cards; Taxi-Beam and Bus-Beam, enabling easy and convenient access to public transport; and InMall, an application using augmented-reality (AR) technology to create new shopping experiences.

       On its B2B smart-city platform, Ecartstudio has designed and developed a location-based information system (LBIS); a location information-management system (LIMS); and EcartMap, to support the country’s infrastructure development and management. It covers transportation, energy, water management and communication systems. Moreover, the platform is sufficiently flexible to enable its adaptation to the needs of any corporation or organization, either private- or government-sector. In its corporate use, the smart-city platform applies technologies to support access to public utilities and to enable ‘city manipulation’ to reduce operational costs.

     Currently, 40 percent of Ecartstudio’s customers are from the private sector and 60 percent from the government sector. The company is striving to expand both its B2B and B2C smart-city platforms in both the corporate and consumer markets. By 2020, it expects to have about 1 million individual customers around the country. Moreover, Ecartstudio plans to expand into overseas markets, starting with Brunei and Indonesia by offering its ServLive and ServCard applications. There is less competition in these countries and local partners are needed to help penetrate local markets. The overseas move is believed to offer major opportunities for growth and expansion of the company’s customer bases.

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90SIAM790x90

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!