- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Thursday, 24 December 2015 14:15
- Hits: 4333
เคาะแล้วรื้อใหญ่ระเบียบ สสส.26 ฉบับตีกรอบสุขภาพ-ยกระดับ กก.กองทุนฯ
บ้านเมือง : บอร์ด สสส.ไฟเขียวปรับใหญ่! รื้อระเบียบ 26 ฉบับ ตีกรอบ 'การสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ'ยกระดับคุณสมบัติ กก.กองทุนฯ ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน 'รองนายกฯ' ส่งหนังสือถึง คตร.เร่งพิจารณาโครงการ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งคณะกรรมการพิจารณาเสนอความเห็นในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลำดับรองของ สสส. ที่มี น.พ.เสรี ตู้จินดา เป็นประธาน ได้พิจารณาและเสนอให้ปรับแก้ไขข้อบังคับ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ สสส.จำนวน 26 ฉบับนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาแล้ว และเห็นชอบให้ปรับปรุงข้อบังคับ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ ทั้ง 26 ฉบับ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับ พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544 และเพื่อให้การบริหารจัดการ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น อาทิ การกำหนดขอบเขตงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้ปรับแก้หลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินเพื่อการสนับสนุนโครงการและกิจกรรม กำหนดให้การจัดทำทิศทางและเป้าหมายกองทุนระยะ 10 ปี และแผนการดำเนินงานหลัก 3 ปี ที่จัดทำอยู่แล้วต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์กองทุนฯ และต้องเพิ่มการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดหลักของแผนประจำปีที่สอดคล้องกับแผนหลัก 3 ปี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 โดยกำหนดรายละเอียดและกรอบวงเงินงบประมาณของแผนงาน ชุดโครงการ หรือโครงการภายใต้แผนต่างๆ ให้ชัดเจนและตรงกับวัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุนฯ และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า กรณีการมีส่วนได้ส่วนเสียของกรรมการฯ ให้ปรับแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบกองทุนฯ ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2553 และจรรยาบรรณคณะกรรมการกองทุนฯ กำหนดไม่ให้คณะกรรมการฯ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ กรรมการบริหารแผนฯ กรรมการประเมินผลฯ มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้เสนอขอรับทุน อาทิ เป็นกรรมการ ผู้บริหารองค์กรที่รับทุนจาก สสส. ยกเว้นเป็นองค์กรภาครัฐ เช่น มีตำแหน่งในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในส่วนระเบียบอื่นๆ ที่เสนอปรับแก้ไข อาทิ ข้อบังคับกองทุนฯ ว่าด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา, ระเบียบกองทุนฯ ว่าด้วยการจัดแบ่งส่วนงานและการบริหารงานภายในสำนักงานกองทุนฯ
ทั้งนี้ ภายหลังที่ประชุมเห็นชอบการปรับแก้ไขรายละเอียดในระเบียบและหลักเกณฑ์ทั้ง 26 ฉบับ จะเสนอให้ตนลงนามเห็นชอบ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป รวมถึงตนจะลงนามรายงานสรุปต่อคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่าได้ดำเนินงานตามผลการตรวจสอบครบถ้วนตามกำหนด 3 เดือน เพื่อขอยกเลิกการชะลอการใช้จ่ายงบฯ ของ สสส. โดยเร็วที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมีภาคีได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
"เข้าใจว่า ผลกระทบที่ภาคีฯ สสส. ได้รับในขณะนี้ คตร. และท่านนายกฯ อาจยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดทั้งหมด ผมจึงเร่งให้ สสส.จัดทำสรุปข้อมูลผลกระทบและผมจะลงนามเสนอไปยัง คตร. รับทราบ เพื่อเสนอท่านนายกฯ พิจารณาผ่อนผันหรือหาแนวทางเยียวยาต่อไป เพราะหลายโครงการเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องมีผลผูกพัน มีภาคีและผู้เกี่ยวข้องมากกว่า 4,600 คน ที่ต้องชะงักการดำเนินการและขาดงบฯ หล่อเลี้ยงโครงการ บางโครงการพบว่าเจ้าหน้าที่ประจำโครงการไม่ได้รับค่าตอบแทน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น" รองนายกฯ กล่าว