- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Tuesday, 10 November 2015 13:40
- Hits: 5175
กินหมูสุกๆดิบๆเสี่ยงไข้หูดับ 10เดือนพบคนไข้ 307 ตาย 15
กระทรวงสาธารณสุขเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงเนื้อหมู เลือด และเครื่องในดิบ หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ ชี้เสี่ยงติดเชื้อ?โรคไข้หูดับ? รุนแรงถึงขั้นหูหนวก ตาบอด และเสียชีวิต ปี 2558 พบยอดผู้ป่วย 307 คน เสียชีวิต 15 ราย มากกว่าปี 2557 กำชับ สสจ.ทั่วประเทศเร่งให้ความรู้
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูหนาวหลายพื้นที่มีการจัดงานบุญ งานประเพณี และมีการจัดเลี้ยงอาหาร ทั้งนี้หากเป็นอาหารที่ปรุงแบบดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ จะเสี่ยงติดเชื้อโรคที่มากับอาหาร ที่พบได้บ่อยและมีอันตรายถึงพิการและเสียชีวิต คือ โรคไข้หูดับที่มีหมูเป็นพาหะนำโรค จึงได้กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระบุว่า ในปี 2558 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 ตุลาคม พบผู้ป่วย 307 คน เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งมากกว่าปี 2557 ตลอดทั้งปีที่มีผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพียง 226 คน เสียชีวิต 15 ราย สำหรับพื้นที่ที่พบผู้ป่วยมากสุด คือ จ.นครสวรรค์ 53 คน จ.น่าน 48 คน และ จ.นครราชสีมา 45 คน สำหรับผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ คือ ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค ผู้เลี้ยง ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือทางเยื่อบุตา และเข้าร่างกายจากการกินเนื้อหมู เลือดหมู และเครื่องในหมูที่ปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู้ รวมทั้งอาหารประเภทปิ้งย่าง จิ้มจุ่ม ที่ยังไม่สุกดี
ด้าน นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อแบคทีเรียสเตรปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) เป็นสาเหตุเกิดโรคไข้หูดับ โดยเชื้อจะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู บริเวณต่อมทอนซิล คอหอย และโพรงจมูก นอกจากนี้ยังพบเชื้ออยู่ในกระแสเลือดหากหมูมีอาการป่วย หลังจากเชื้อเข้าสู่รางกาย 3-5 วัน จะมีไข้สูงเฉียบพลัน คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และมีอาการเฉพาะคือ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้ ปวดศีรษะมาก คอแข็ง หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทหูจะทำให้การได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน จนถึงขั้นหูหนวก ภายหลังหายป่วยแล้วอาจจะมีความผิดปกติในการทรงตัว หากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทตาจะทำให้ม่านตาอักเสบ ลูกตาฝ่อ หรือตาบอดได้ นอกจากนี้หากติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงจะทำให้เสียชีวิตได้
"ดังนั้น ผู้บริโภคควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากโรงฆ่าสัตว์ หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูที่จำหน่ายข้างทางหรือร้านของป่า ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำ หรือเนื้อยุบ ให้ปรุงเนื้อหมูให้สุกด้วยความร้อนนานอย่างน้อย 10 นาที หรือต้มจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่กินเนื้อและเลือดหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ผู้เลี้ยงหมูหรือทำงานที่ฟาร์มเลี้ยงหมู ควรสวมรองเท้าบู๊ตยาง ถุงมือยาง และเสื้อผ้าที่รัดกุมระหว่างทำงาน หลังปฏิบัติงานเสร็จให้อาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ผู้ที่มีบาดแผลที่มือหรือที่เท้าควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหมู ไม่นำหมูที่ป่วยตายมาชำแหละ" นพ.อำนวยกล่าว
มติชนออนไลน์ : วันที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558