- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Friday, 13 March 2015 10:06
- Hits: 3179
วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8871 ข่าวสดรายวัน
'ดำ'พรึ่บ! สธ.ต้านเด้งปลัด ม็อบฮือทั่วปท. หมอณรงค์ลั่น ทวงคืนศักดิ์ศรี แต่ไม่ฟ้องร้อง บิ๊กตู่คนสั่งย้าย
ม็อบสธ. - แพทย์ พยาบาล และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข แต่งดำบุกกระทรวงสาธารณสุข ประท้วงคำสั่งย้ายปลัด สธ. และ ให้กำลังใจนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. |
ชาวสธ.แต่งดำพรึบ ฮือ ต้านคำสั่งเด้ง'หมอณรงค์' ร.พ.หลายจังหวัดขึ้นป้ายทวงคืนปลัดสธ. กว่า 500 คนชุมนุมใหญ่ในกระทรวงให้กำลังใจกระหึ่ม 'หมอณรงค์'ประกาศกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืน ชื่นชม'บิ๊กตู่' ยกย่องเสียสละแต่กำลังถูกคนจ้องทำลาย ไม่คิดฟ้องร้องเพราะไม่อยากบานปลายไปถึงนายกฯ 'วิษณุ'แจงวุ่นไม่ได้เด้งหรือย้ายฟ้าฝ่า แต่เป็นการขอตัวมาทำงาน โฆษกไก่อูระบุปลัดสธ.ปวารณาขอพาตัวเองออกจากความขัดแย้งในสธ.
ม็อบสธ.ให้กำลังใจหมอณรงค์
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯ พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีปัญหาภายในกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ช่วงเช้าข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขกว่า 500 คน มารอให้กำลังใจนพ.ณรงค์ โดยรวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การโยกย้ายดังกล่าว มีการขึ้นป้าย อาทิ 'คงไว้อาลัยแด่อำนาจการเมืองที่รังแกข้าราชการประจำ''ตรวจสอบกองทุนแสนล้าน แล้วกลัวเจออะไร ต้องย้ายปลัด''ถ้าประเทศไม่มีธรรมาภิบาลข้าราชการและประชาชนจะอยู่อย่างไร'ทั้งนี้ มีการตรวจและขอร้องไม่ให้นำปี๊บเข้ามาที่กระทรวง ทางกลุ่มผู้สนับสนุนปลัดกระทรวงจึงนำถุงดำมาสวมศีรษะแทน เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านคำสั่งย้ายดังกล่าวเป็นความอัปยศ นอกจากนี้ยังมีตะโกนขับไล่ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และนพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุขด้วย
ต่อมานพ.ณรงค์เดินจากห้องทำงานมารับดอกไม้กำลังใจ และเปิดใจต่อหน้าข้าราชการว่า "ผมยังเป็นปลัดกระทรวงอยู่เหมือนเดิม วันนี้จะไปพบรมต.ประจำสำนักนายกฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ตำแหน่งของผมยังเป็นปลัดอยู่เหมือนเดิม โดยสิ่งที่จะเดินหน้าต่อไปจากนี้ ต้องขึ้นกับข้าราชการทุกคนในภูมิภาคที่อยู่หน้างาน อยู่กับปัญหา โดยไม่เคยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ไม่เคยเอามาประชาสัมพันธ์ ทำงานหนักโดยไม่ต้องขึ้นป้ายไม่ต้องซื้อสื่อ ซึ่งอนาคตของกระทรวงไม่ได้อยู่ที่ผู้บริหารส่วนกลาง แต่อยู่ที่คนทำงานในภูมิภาคทุกคน โดยสิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่องคือ เรื่องเขตสุขภาพ ซึ่งถือเป็นนโยบายข้อหนึ่งของนโยบายรัฐบาล ข้อ 5.2 ที่เขียนว่า จัดให้มีกลไกการดูแลสุขภาพ ในระดับเขต โดยไม่ให้กระจุกตัวที่ส่วนกลาง"
โดนเด้งเพราะไปแตะแสนล้าน
นพ.ณรงค์กล่าวต่อว่า "ข้อกล่าวหาว่า ผมไม่ทำตามนโยบายรัฐบาล คงไม่ใช่ หากดูนโยบายรัฐบาลข้อ 5.2 ชัดๆ ก็คงทราบว่า ใครที่ไม่ทำตามนโยบายรัฐบาล โดยสิ่งที่ได้ทำ คือ เรื่องเขตบริการสุขภาพ การปฏิรูประบบการเงินการคลัง และธรรมาภิบาล ซึ่งกองทุน สปสช.แสนล้านนั้น เป็นภาษีของทุกคนที่เอามาใช้เพื่อทำงานบริการ เมื่อไม่ชอบมาพากลจึงต้องตรวจสอบ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ผมโดนย้ายเพราะไปแตะกล่องดวงใจของคนบางกลุ่ม ที่คิดว่าอำนาจเงินจะใช้นำการบริหารได้ โดยทิ้งหัวใจความเป็นมนุษย์ไป ซึ่งอยากให้ข้าราชการและประชาชนช่วยกันจับตา"
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า การเบี่ยงประเด็นว่าสธ.จะรวบอำนาจมาจาก สปสช.นั้น ได้อธิบายหลายครั้งแล้วว่า ตัวเลขอยู่ที่เขตแล้วให้เขตเป็นคนคิดว่าจะจัดสรรกันอย่างไร ไม่ใช่จัดสรรมาจากบอร์ด สปสช. ซึ่งถือเป็นแนวคิดเดียวกับรัฐบาลในเรื่องเขตบริการ แต่สธ.กลับถูกลูกเล่นต่างๆ จนทำงานไม่ได้ 5-6 เดือน แล้วกลับมา บอกว่า เราเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ทั้งที่ไม่เคยมีวันไหนที่ สธ.ไม่ให้บริการประชาชน โดยที่ไม่เคยคิดว่าเรามีหรือไม่มีเงิน จึงอยากขอให้อย่าดูถูกกัน ขณะนี้ยังมีความพยายามทำให้เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของแนวคิดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมต.ที่จะเข้ามาฟังข้อมูลแล้วตัดสินใจด้วยข้อมูลที่รอบด้าน มาเป็นคนกลางและตัดสิน นอกจากนี้ยังเห็นได้ว่า รมต.ไม่มีความเป็นผู้นำ โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งวันแรก ก็ขอดูเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ที่เป็นอำนาจของข้าราชการประจำ และยังให้ทีมที่ปรึกษาซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้ามาพยายามเปลี่ยนแปลงการแต่งตั้งจนทำให้ล่าช้า และไม่เป็นไปตามธรรมาภิบาล
ชื่นชมนายกฯ-มีคนจ้องทำลาย
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า "วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือการกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลผม ว่าเหตุใดจึงถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับหนังสือ 2.สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นการคุกคามข้าราชการประจำ ถ้าคิดว่าเราอยู่ในการปฏิรูประบบราชการ นี่คือเรื่องสำคัญ และเป็นศักดิ์ศรีของข้าราชการทุกคน การแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงต้องจับตา ว่าใครควรเป็นคนแต่งตั้ง 3.การผดุงศักดิ์ศรีของตำแหน่งปลัดกระทรวง ที่เป็นตำแหน่งสูงสุด ซึ่งอดีตปลัดกระทรวงหลายคน โทร.หาผมและบอกว่าอย่าลาออกเด็ดขาด เพราะนี่ไม่ใช่เป็นการต่อสู้ของบุคคลแต่เป็นการต่อสู้ในฐานะปลัดกระทรวง ศักดิ์ศรีของหัวหน้าข้าราชการประจำ และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนที่มายืนต่อจากผมก็ขอให้มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน อย่ามาพร้อมยืนกุมเป้า อย่ามาเป็นเพราะอยากจะเป็น อยากให้มาเป็นเพราะอยากทำงานในสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ ใครมาเป็นก็ขอให้อย่ามาเป็นเพื่อเกียรติยศของวงศ์ตระกูล แต่ให้มาเป็นเพราะอยากทำให้ระบบสาธารณสุขดีขึ้น"
นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า "ผมจะไปรายงานตัว ผมเป็นข้าราชการ มีผู้บังคับบัญชา มีเกียรติยศศักดิ์ศรี คำสั่งท่านนายกฯผมต้องปฏิบัติ ท่านนายกฯได้เสียสละ แบกความเสี่ยงมากมาย เมื่อตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ซึ่งคิดว่าทุกคนในประเทศเห็นด้วย ผมกังวลคนที่ไม่เคยต่อสู้อะไรเลย แต่กำลังจะมาชุบมือเปิบ และกำลังจะทำลายนายกฯ คนที่ไม่เคยต้องเสี่ยงอะไรเลย กลับเดินไปเดินมาแล้วมาบริหารประเทศ เรื่องนี้ผมเคารพท่านนายกฯ และจะปฏิบัติตามไม่อยากให้ใครมาใช้เหตุการณ์นี้ไปในการทำความไม่สงบให้รัฐบาล ต้องให้โอกาสกับ นายกฯ ในการทำงาน แก้ไขประเทศ ทราบว่าสิ่งที่ท่านเจอนั้นมากมาย และต้องพบกับเหลือบ ไร ริ้น ที่มาเกาะแข้งเกาะขา อยากให้เชื่อใจว่าท่านกำลังนำประเทศไปสู่การแก้ไขที่ยั่งยืน อย่าให้ใครใช้โอกาสนี้บิดเบือนว่าเรามาต่อต้านรัฐบาล แต่ที่มาเพื่อมาบอกว่า กระทรวงสาธารณสุข เป็นอย่างไร และขอให้ท่านดูระบบสาธารณสุขบ้างว่าอยู่กันอย่างไร เชื่อว่ากำลังดูอยู่แต่ข้อมูลคงยังไม่มาก จึงไม่อยากให้ใครปลุกระดมว่า ม็อบหมอไล่รัฐบาล ผมเป็นลูกผู้ชาย และเป็นข้าราชการ"
ม็อบ สธ. - แพทย์ พยาบาล และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข คลุมหัวด้วยถุงดำบุกกระทรวงสาธารณสุข ประท้วงคำสั่งย้ายปลัด สธ. และให้กำลังใจนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. |
ไม่ผิดหวังที่ไม่ได้เป็นรมว.สธ.
นพ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า "มีคนบอกว่าผมผิดหวังที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ซึ่งได้ตอบหลายครั้งแล้วว่า ตำแหน่งปลัด เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ เป็นข้าราชการประจำสูงสุด เป็นตำแหน่งที่ได้มาด้วยการทำงานมาตลอดชีวิตราชการ ไม่ได้เข้ามาทางข้างๆ หากให้ย้อนเวลาได้ ผมก็จะไม่เสียใจ จะยังคงทำเหมือนเดิมและทำให้หนักกว่าเดิมด้วย"
ด้านนพ.ฐาปนวงศ์ อุไรวรรณ จักษุแพทย์ ร.พ.พระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า ที่ออกมาให้กำลังใจปลัดเพราะเห็นว่าคำสั่งไม่เป็นธรรม เนื่องจากปลัดเรียกร้องให้ตรวจสอบการบริหารจัดการงบประมาณบัตรทอง แต่กลับมีการตรวจสอบคนที่เรียกร้องแทน เป็นเพราะไปตีท้ายครัวเงินกว่าแสนล้านบาทของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) หรือไม่ และหากสั่งย้ายต้องสั่งย้ายทั้งหมดเพื่อความเป็นธรรม ถ้าประเทศไทยไม่มีธรรมาภิบาล ประเทศชาติจะอยู่อย่างไร
นพ.ประจวบ มงคลศิริ ผอ.ร.พ.พิจิตร กล่าวว่า อยากให้นายกฯมาเก็บซากศพรมว.สาธารณ สุข และรมช.สาธารณสุขไป เพราะได้ตายไปจากชาวสาธารณสุขแล้ว เนื่องจากตอนแรกที่เข้ามาพวกเราคิดว่าทั้งสองจะช่วยแก้ปัญหาระบบสาธารณสุข แต่กลับมาสร้างความแตกแยก เพราะมีประโยชน์ทับซ้อนกับตระกูล ส.
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.ร.พ.จะนะ กล่าวว่า ปัญหาจริงๆ อยู่ที่ตัวบุคคลที่ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ถูกต้องแล้วที่ นายกฯจะเลือกแก้ปัญหาด้วยสูตรการย้ายปลัด ซึ่งอาจจะมีสูตรการย้ายทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายเดียวแต่นายกฯได้เลือกสูตรนี้
หมอรัชตะชี้เพราะไม่มีเอกภาพ
ขณะที่นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีบุคลากรสาธารณสุขมารวมตัวให้กำลังใจปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า เรื่องการย้ายเป็นคำสั่งนายกฯ ส่วนเรื่องการทำงานกันต่อนั้น เรามุ่งหวังให้กระทรวงเดินหน้า รีบทำงานสนองนโยบายรัฐบาลให้เต็มที่ เพราะเวลาของรัฐบาลไม่ได้มีมาก ต้องช่วยกันทำงาน จริงๆ แล้วอยากให้ยุติการเคลื่อนไหว มาช่วยกันทำงาน มองไปข้างหน้ายังมีภารกิจสำคัญที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลหรือไม่ นพ.รัชตะกล่าวว่าต้องดูว่าสิ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการขับเคลื่อนของสำนักงานปลัดสธ. โดยเฉพาะการสนองนโยบายอย่างเต็มที่ มีภาพของความไม่สมานฉันท์ ความไม่มีเอกภาพเกิดขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ต้องสอบข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าบุคคลใหม่หรือปลัดใหม่ต้องเข้ากับฝ่ายการเมืองหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะลงเอยเช่นนี้ นพ.รัชตะกล่าวว่าไม่คิดเช่นนั้น ทุกอย่างจะไปในทางที่ดีขึ้น เมื่อถามว่าปลัดสธ.ยืนยันว่าที่ผ่านมาปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องเขตสุขภาพ แต่กลับถูกย้ายด้วยเหตุผลดังกล่าว นพ.รัชตะกล่าวว่าเขตสุขภาพก็ดำเนินต่อไป ส่วนเรื่องไม่สนองนโยบายเหตุผลเพราะอะไรขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงก่อน
ปลัดสธ.เข้าทำเนียบรายงานตัว
ต่อมาเวลา 12.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ. เข้าพบนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รมต.ประจำสำนัก นายกฯ ที่ห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 เพื่อรายงานตัวตามคำสั่งให้มาช่วยราชการสำนักนายกฯ โดยมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ใช้เวลารายงานตัวประมาณ 1 ช.ม. จากนั้นนพ.ณรงค์ให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยเรื่องการทำงาน แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะให้ช่วยงานด้านใด ตนเป็นข้าราชการเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งการก็มารายงานตัวตามหน้าที่ ส่วนจะเริ่มเข้าทำงานเมื่อใดนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ไม่อยากให้มีประเด็นถึงบิ๊กตู่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มหมอรวมตัวให้กำลังใจจะชี้แจงทำความเข้าใจไม่ให้เคลื่อนไหวอย่างไร ปลัดสธ.กล่าวว่า ตนบอกทุกคนแล้วว่าต้องระมัดระวังเพราะไม่อยากให้มีประเด็นถึง นายกฯ ส่วนใครจะแสดงความเห็นอย่างไรต้องไปถามเขา เมื่อถามย้ำว่าหากกลุ่มหมอเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ปลดรมว.สธ.พ้นจากตำแหน่งจะดำเนินการอย่างไร นพ.ณรงค์กล่าวว่าไม่ทราบ คิดว่าคงไม่มี พวกเราข้าราชการในกระทรวงให้บริการอย่างเต็มที่ ไม่เคยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน เมื่อถามว่าภาพการทำงานของสธ.ที่หมอกับหมอมีความขัดแย้ง ปลัดสธ.กล่าวว่าไม่ทราบ อะไรที่เราเชื่อและคิดว่าระบบต้องเดินและรัฐบาลต้องช่วยกันให้การปฏิรูปเดินไปได้ เมื่อถามว่ามีความคิดจะฟ้องร้องที่ถูกย้ายหรือไม่ ปลัดสธ.กล่าวว่ายังไม่ได้คิด ตนอยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยดี
วิษณุแจงแค่ขอตัว-ไม่ได้เด้ง
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกล่าวว่า อยากชี้แจงว่าข่าวที่ออกมาซึ่งใช้คำว่าเด้ง ย้ายฟ้าผ่า ปลด เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเรื่องนี้ขอตัวมาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ตามอำนาจระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 (4) จึงไม่ต้องนำเรื่องเข้าครม. ในอดีตเคยมีนายกฯใช้อำนาจตามระเบียบดังกล่าว ขอตัวบุคคลมาช่วยราชการ อาทิ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร. บางคนขอตัวมาก็อยู่เพียงไม่กี่เดือนก็กลับไปอยู่ที่เดิม กรณีนพ.ณรงค์เมื่อคณะกรรมการสอบสวนเสร็จก็ส่งกลับไป แต่การส่งตัวกลับนั้นต้องดูที่ผลการสอบสวนของคณะกรรมการด้วย ไม่ใช่เอาตัวมาแล้ว เมื่อกรรมการสอบไม่พบว่ามีความผิด แต่ไม่ทำอะไรเลย ก็อาจทำให้เกิดการฟ้องร้องตามมา
"นพ.ณรงค์ยังเป็นปลัดกระทรวงเหมือนเดิม จะตั้งคนอื่นมาเป็นปลัดซ้ำซ้อนไม่ได้ ซึ่งตามปกติการขอตัวมาช่วยงานที่ทำเนียบจะเป็นการชั่วคราว ได้เงินเดือนตามปกติเพราะยังเป็นปลัด แต่จะไม่ได้เงินประจำตำแหน่ง เพราะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ส่วนนพ.ณรงค์ที่ขอตัวมาช่วยนี้เพื่อรักษาสิทธิ์ให้ได้เงินประจำตำแหน่ง 45,000 บาท จึงต้องกำหนดหน้าที่ให้เป็นที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข กำหนดโดยไม่ได้ย้ายตัวมาเป็นที่ปรึกษา เพราะต้องการตั้งเงินประจำตำแหน่งให้ด้วย สิทธิประโยชน์ทุกอย่างยังได้เหมือนเดิม ทั้งเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง เพียงแต่ไม่มีอำนาจสั่งการ" นายวิษณุกล่าว
ไก่อูบอกหมอณรงค์ขอเสียสละ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งนพ. รัชตะและนพ.ณรงค์เป็นคนดีทั้งคู่ เพียงแต่แนวคิดในการทำงานยังไม่ลงตัว ทำให้การขับเคลื่อนงานของรัฐบาลทำได้ไม่เต็มที่และไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่ยืนยันว่าทั้งสองคนเป็นคนดี ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ให้นโยบายว่าให้ไปหาจุดลงตัวโดยไปพูดคุย ปรับวิธีการทำงาน ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร 7 เดือนก็ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ และนพ.ณรงค์แสดงความเป็นสุภาพบุรุษโดยพูดกับนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม รวมทั้งพูดกับนายกฯ ด้วยว่ายินดี ถ้าเห็นว่าการทำงานยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ก็ขอให้โยกตัวเองออกมาจากจุดขัดแย้ง จะได้ดำเนินงานต่อไปได้ ถือว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษ อีกทั้งปลัดสธ.เข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองและเข้าใจบทบาท ภารกิจหน้าที่ของรัฐบาลอย่างดี วันนี้ต้องขอบคุณนพ.ณรงค์ที่ทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลาย
"เรื่องนี้น่าจะจบบนพื้นฐานการเป็นสุภาพบุรุษที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ และได้ปวารณาตัวเอง" พล.ต.สรรเสริญกล่าว
วันเดียวกันนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) กล่าวถึงการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานกองทุนส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เรื่องการบริหารเงินกองทุน 30 บาทรักษาทุกโรค อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายและขัดต่อระเบียบ และมีผลประโยชน์ทับซ้อน ว่าเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ป.ป.ท.ทำหนังสือแจ้งไปยังนพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช. เพื่อให้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งเอกสารการใช้จ่ายเงินกองทุนที่เกี่ยวข้อง และระเบียบการเบิกจ่ายตามเงื่อนไขของกองทุน ตามประเด็นที่มีการร้องเรียนทั้งหมดภายใน 15 วัน แม้สปสช.จะชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าข้อมูลตามหนังสือที่มีการร้องเรียนเป็นเรื่องเก่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยตรวจสอบแล้ว แต่ปัญหาคือหากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้เงินกองทุนและมีความไม่โปร่งใส ถือเป็นหน้าที่ของป.ป.ท. ที่จะเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง หากสอบแล้วไม่พบปัญหาทุกอย่างก็ยุติ ขณะนี้ป.ป.ท.อยู่ระหว่างทยอยสอบปากคำผู้ที่เข้ามายื่นคำร้องและประสานไปยังสตง. ให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย
กุนซือลาออกที่ปรึกษารมว.สธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโยกย้ายนพ.ณรงค์ ปลัดสธ. เพื่อต้องการเปิดทางให้ป.ป.ท.และสตง.เข้าไปตรวจสอบเนื่องจากสปสช. เป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของสำนักปลัดสธ. นายประยงค์กล่าวว่า ป.ป.ท.ยังไม่ได้ทำหนังสือแจ้งให้นพ.ณรงค์เข้าชี้แจง เนื่องจากกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่งเริ่มต้น และเชื่อว่าปลัดสธ.ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ อดีตผอ.ร.พ.น่าน โพสต์เฟซบุ๊ก Pisanu Kantipong ระบุว่า ได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็นที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข โดยคิดว่าน่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมรู้สึกผิดหวังกับโอกาสที่จะ ปฏิรูปสธ. ทั้งที่เป็นช่วงเวลาปลอดนักการเมือง จนกระทั่งวันนี้มีคำสั่งย้ายปลัดสธ.ทั้งที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นคนดีของแผ่นดินที่กล้ายืนหยัดต่อสู้เพื่อคุณธรรม ผมจึงขออนุญาตแจ้งกับทุกท่านว่าผมได้ส่งหนังสือลาออกจากการเป็นทีมที่ปรึกษารมว.สาธารณสุข
ด้านนพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณ สุข เปิดเผยถึงการออกมาเคลื่อนไหวให้กำลังใจปลัดสธ.ว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้แต่อยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้าในการดำเนินงานและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ต้องไม่เป็นผลกระทบกับประชาชน ปัญหาดังกล่าวเชื่อว่าไม่น่าจะยืดเยื้อและทุกคนคงเข้าใจดี สำหรับการโยกย้ายครั้งนี้อย่ามองว่าเป็นการลงโทษใคร แต่เป็นเรื่องของนโยบายที่ต้องการให้ขับเคลื่อนนโยบายไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ และถือเป็นเรื่องปกติ ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายใดๆ
ร.พ.ต่างจังหวัดแต่งดำ-ขึ้นป้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณถนนรอบร.พ. เชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย มีผู้นำป้ายต่อต้านการทุจริต การไม่มีที่ยืนสำหรับข้าราชการที่ดี การส่งเสริมธรรมาภิบาล ฯลฯ ไปติดตามจุดต่างๆ ขณะที่บุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ แต่งชุดดำกันประปรายโดยไม่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมหรือถือป้ายประท้วงแต่อย่างใด
นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ อดีตรองผอ.ร.พ. เชียงรายประชานุเคราะห์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้ส่งหนังสือถึงรมว.สธ. แสดงความขอบคุณที่ให้ตนเป็นที่ปรึกษา ทำให้เคยเข้าร่วมประชุมหลายครั้งและเคยเสนอเรื่องความขัดแย้งในกระทรวงให้ทราบ แต่รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้รับความสนใจ ส่วนการโยกย้ายปลัดสธ.ครั้งนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวได้เลย เพราะเป็นการโยกย้ายคนดีที่ได้รับความเคารพออกไป ทำให้ความขัดแย้งด้านความคิดและหลักการบริหารงบประมาณ และการจัดบริการเขตสุขภาพในกระทรวงยังคงมีอยู่อีก ดังนั้นจึงขอลาออกจากการเป็นทีมที่ปรึกษารมว.สธ.
ขอปลัดสธ.คนเก่ากลับคืน
ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง นพ. วิทูรย์ เหลืองดิลก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนายธีรศักดิ์ มักคุ้น ผู้เชี่ยวชาญ ระดับ 9 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง และแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ พร้อมใจกันแต่งดำรวมตัวบริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุขตรัง ถือแผ่นป้ายเรียกร้องคืนตำแหน่งปลัดสธ.คืนแก่นพ.ณรงค์ ข้าราชการน้ำดีของกระทรวงสธ. มีผลงานและพัฒนากระทรวงมาอย่างต่อเนื่อง คำสั่งโยกย้ายปลัดสธ.ถือว่าเป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ทำให้บุคลในกระทรวงขาดความเชื่อมั่นในการบริหารงานของผู้บริหารกระทรวง โดยเฉพาะภาคการเมือง ที่มาก้าวก่ายบุคคลที่เป็นคนสาธารณสุขมาตลอด
ขณะที่ช่วงบ่ายแพทย์ และผู้บริหารร.พ.ศูนย์ตรัง และร.พ.อำเภอต่างๆ นัดชุมนุมใหญ่บริเวณหน้าร.พ.ศูนย์ตรัง
เช่นเดียวกับที่หน้าเสาธงร.พ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เครือข่ายสาธารณสุขร.พ.หาดใหญ่ นำโดยนพ.เทพณรงค์ จารุพาริช ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมสูติ-นารีเวชกรรม ร.พ.หาดใหญ่ และเครือข่ายประมาณ 100 คน รวมตัวคัดค้านคำสั่งโยกย้ายนพ.ณรงค์
หมอณรงค์ช่วยคสช.ยึดอำนาจ
นพ.เทพณรงค์กล่าวว่า ปลัดสธ.เป็นบุคคลที่ทั้งในและนอกกระทรวงสธ.ให้ความเคารพนับถือ ในฐานะผู้นำที่มีธรรมาภิบาล กล้ายืนหยัดต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการยึดอำนาจของคสช. ทำให้เกิดการปฏิรูปประเทศขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ปลัดณรงค์วางแผนพัฒนาการบริหารอย่างมีทิศทางที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน โดยนำระบบบริการเขตสุภาพ ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ทุกโรงพยาบาลในเขตสุขภาพ เจริญเติบโตไปพร้อมๆ กัน และไปในทิศทางที่ถูกต้อง ปลัดณรงค์เป็นผู้เปิดเผยถึงข้อมูลของปัญหาและความเป็นจริงของระบบประกันสุขภาพ ที่มีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนของระบบบริการสุขภาพ และภาระงบประมาณด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นที่มาของความขัดแย้งทางความคิดและหลักการในการบริหารงบประมาณและการจัดการบริการเขตสุภาพ
ขณะที่จ.พะเยา สำนักงานสาธารณสุขและสถานที่ราชการในสังกัดกระทรวงสธ.หลายแห่ง เจ้าหน้าที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยต่อการย้ายนพ.ณรงค์
ผบ.ตร.สั่งทุกหน่วยจับตาม็อบ
วันเดียวกัน พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติ ประภัสร์ ผบช.สกพ. ในฐานะรองโฆษกตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. วิทยุสั่งการ ด่วนที่สุด ที่ 0001 (ศปก.ตร.)/43 ลง 11 มี.ค.2558 ถึงบช.น. บช.ภาค 1-9 ศชต. บช.ก. บช.ส. และศปก.ตร. โดยให้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวมวลชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุข อสม. กลุ่มที่มีความเห็นต่าง และจัดชุดปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นของรัฐบาล กรณีมีคำสั่งให้ปลัดสธ.ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯ รวมทั้งชี้แจงให้ทราบว่า การออกมาชุมนุมเป็นความผิดตามกฎหมาย และหากมีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีการรวมตัวของกลุ่มมวลชน เพื่อเคลื่อนไหวหรือจัดกิจกรรมต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ให้เจรจาขอความร่วมมือทำความเข้าใจแกนนำ ให้ยุติการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยประสานกับกอ.รมน. และกกล.รส.ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ขอให้ผบช.และผบก.กำกับดูแลการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งโดยเคร่งครัด
ชมรมสธ.ขีดเส้น"บิ๊กตู่"
วันเดียวกัน นายปรเมษฐ์ จินา ประธานชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกฯ กำหนดระยะเวลาในการสอบข้อเท็จจริงปลัดสธ.อย่างชัดเจน ภายใน 30 วัน เพราะเกรงว่าจะมีการถ่วงเวลาไปจนถึงช่วงปลัดเกษียณอายุราชการ ซึ่งการใช้เวลานานเช่นนั้นเท่ากับว่าไม่มีความยุติธรรม ทั้งนี้หากมีมูลก็ว่าไปตามหลักฐานและข้อเท็จจริง หากไม่มีมูลหรือมีเจตนาซ่อนเร้นหรือกลั่นแกล้งกันก็ขอให้คืนตำแหน่งทันที พร้อมทั้งเรียกร้องนายกฯ มารับฟังข้อมูลรอบด้านจากตัวแทนทุกวิชาชีพในกระทรวงสธ.กว่า 50 วิชาชีพ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อรับฟังข้อเท็จจริง ประกอบการพิจารณาและคืนความเป็นธรรมให้ตามข้อเท็จจริง
ทั้งนี้แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าระหว่างนี้จะขอปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งและนโยบายของนพ.ณรงค์ต่อไป เช่น การปฏิรูประบบสุขภาพ งานสร้างนำซ่อม การปฏิรูประบบการเงินการคลัง เขตสุขภาพเพื่อประชาชน ธรรมาภิบาลเพื่ออภิบาลระบบ