- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Sunday, 04 September 2022 10:15
- Hits: 3567
กรมอนามัย ห่วงวัยทำงานใช้สายตามาก แนะกินอาหารดีมีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพตา
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงวัยทำงานใช้สายตาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือดูจอมือถือมาก แนะกินอาหารดีมีประโยชน์ อุดมไปด้วยสารอาหาร ช่วยบำรุงสุขภาพตา พร้อมแนะวิธีปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสม
นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในสังคมยุคดิจิทัลที่แต่ละวันกลุ่มคนวัยทำงานต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นเวลานานติดต่อกัน อาจทำให้ได้รับผลกระทบ เช่น ภาวะตาล้า ตาแห้ง ตาพร่า น้ำตาไหล หรือร้ายแรงกว่านั้นอาจเสี่ยงกับโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยเฉพาะผู้ที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานวันละ 10 ชั่วโมง ควรดูแลรักษาและใช้สายตาให้เหมาะสม โดยหยุดพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 15 นาที
นอกจากนี้ ควรกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพตา เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ลูทีน ซีแซนทีน กรดไขมัน ที่มีความสำคัญต่อการมองเห็น โดยได้รับจากอาหารต่างๆ ดังนี้ 1) ผัก ผลไม้หลากสี โดยเฉพาะผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ เช่น ผักบุ้ง บรอกโคลี คะน้า ตำลึง ผักโขม ปวยเล้ง กวางตุ้ง ดอกกุยช่าย ขึ้นฉ่าย ช่วยให้การทำงานของเซลล์จอประสาทตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผัก ผลไม้สีม่วง จะมีสารแอนโธไซยานินช่วยในการมองเห็น ผัก ผลไม้สีเหลือง แดง มีสารจำพวกแคโรทีนอยด์ หรือ Pro-Vitamin A ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอภายในร่างกาย นอกจากนี้ ผัก ผลไม้หลากสี ยังอุดมด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อาหารบำรุงสายตาที่มีสีสันเหล่านี้ ได้แก่ มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะม่วงสุก มะละกอสุก เป็นต้น
“ข้อถัดมาคือ 2) ปลาทะเล โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วยกรด EPA และ DHA มีส่วนช่วยบำรุงสมอง และจอประสาทตา ช่วยป้องกันภาวะตาแห้ง ลดภาวะการอ่อนล้าของตา และ 3) ไข่ วัตถุดิบประจำบ้านที่ใช้ประกอบอาหารได้ง่าย อุดมไปด้วยประโยชน์ ในไข่แดงมีสารลูทีน และซีแซนทีน ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตา ป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา ลดภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อม
นอกจากการกินอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหารบำรุงสายตาสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่ง คือ การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา การอ่านหนังสือ หรือทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ เลี่ยงการดูโทรทัศน์ ใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตในขณะที่ปิดไฟ เพื่อไม่ใช้สายตาเพ่ง หรือทำงานหนักมากเกินไป และไม่ควรใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน แบ่งเวลาพักสายตาทุก 20 นาที ลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ ติดฟิล์มลดแสง พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อถนอมดวงตา และยืดอายุดวงตาให้เสื่อมช้าลงด้วย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว