- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Thursday, 16 September 2021 20:35
- Hits: 560
สธ.ให้ อสม.ทั่วประเทศ เป็นกระบอกเสียงบอกต่อประชาชน แนะวิธีใช้ชุดตรวจ ATK
กระทรวงสาธารณสุข ให้ อสม.ทั่วประเทศ เป็นกระบอกเสียงแนะประชาชนกลุ่มเสี่ยงเข้าถึงวิธีใช้ชุดตรวจ ATK 'รู้เร็ว รักษาเร็ว' พร้อมการแปลผลที่ถูกต้อง การกำจัดชุดตรวจที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี และประสานส่งผู้มีผลบวกเข้าสู่ระบบการรักษา พร้อมเชิญชวนฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย
ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลในประเด็น 'อสม. พร้อมบอกต่อเรื่อง ATK สำหรับประชาชน' ร่วมกับผู้แทนชมรม อสม.แห่งประเทศไทย และกล่าวว่า สถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้แนวโน้มผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลง เป็นผลจากการที่ประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการป้องกันตนเอง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็ง และอีกส่วนที่สำคัญคือพลังของพี่น้องอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ที่ร่วมเป็นด่านหน้าในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคโควิด 19 เคาะประตูบ้านร่วมกับทีม 3 หมอ ดูแลผู้ป่วย ติดตามกลุ่มเป้าหมายเข้ารับวัคซีน ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนได้รับคำชื่นชมจากนานาประเทศ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในวันนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะเริ่มแจกชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชิ้น ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจโควิด 19 ด้วยตนเองกระทรวงสาธารณสุขจึงได้เตรียมความพร้อมฝึกอบรม แนะนำวิธีใช้ การแปลผล แก่ อสม.เพื่อเป็นกระบอกเสียงส่งต่อความรู้ ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวิธีการใช้ชุดตรวจ ATK ที่ถูกต้อง นำไปสู่การ 'รู้เร็ว รักษาเร็ว' หากพบผลติดเชื้อจะประสาน รพ.สต. เพื่อส่งต่อเข้ารับการรักษาในระบบ HI /CI อย่างเหมาะสม ทันท่วงที
“ขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้อง อสม.ในฐานะด่านหน้าที่ต้องพบปะกับประชาชนอยู่เป็นประจำให้ดำเนินงานด้วยความเข้มงวดและช่วยสร้างความตระหนักให้กับคนในชุมชนป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล ขอให้คิดเสมอว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวเราไม่ว่าจะสนิทแค่ไหน อาจเป็นผู้ติดเชื้อโควิด 19 จึงต้องป้องกันสูงสุดไม่ให้ตนเองไปรับหรือแพร่เชื้อโควิดให้กับผู้อื่น รวมถึงเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ซึ่งถือเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่จะช่วยให้พี่น้อง อสม. ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และขอให้ทุกจังหวัดดำเนินการเร่งฉีดวัคซีนให้กับ อสม. ให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเร็วที่สุด”นายอนุทินกล่าว
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเร่งรัดฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 608 ว่า กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือ อสม.ในการสำรวจ ติดตาม การฉีดวัคซีนของกลุ่ม 608 ให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะในกลุ่มสตรีมีครรภ์ ซึ่งถ้าไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะส่งผลกระทบทั้งต่อมารดาและบุตรในครรภ์ โดยข้อมูลวันที่ 15 กันยายน 2564 พบว่า สามารถติดตามกลุ่ม 608 จำนวน 3.5 ล้านคน ให้ได้รับวัคซีนแล้ว 1.1 ล้านคน หรือร้อยละ 33 และเมื่อฉีดวัคซีนในกลุ่มดังกล่าวครบถ้วนแล้วจะติดตามประชาชนในกลุ่มอายุ 18-59 ปี ให้ได้รับวัคซีนต่อไป
ด้านนายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า กรมฯ ได้สนับสนุนให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย ตามแนวทาง'ตำบลวิถีชีวิตใหม่ ปลอดภัยจากโควิด 19' โดยให้ อสม.ใช้ 5 มาตรการ SCMA (Strong COVID-19 Management Area) ดำเนินการในชุมชน ได้แก่ เคาะประตูบ้านรณรงค์ป้องกันตนเองสูงสุด, เฝ้าระวังคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ด้วยชุดตรวจ ATK, เชิญชวนฉีดวัคซีน, จัดการสิ่งแวดล้อม และจัดระบบบริหารจัดการ เฝ้าระวังควบคุมโรคโควิด 19 เพื่อให้เป็น 'ตำบลสีเขียว' คือ ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ร้านค้าในชุมชนเคร่งครัดป้องกันตนเองสูงสุด ฉีดวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 80 พร้อมเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้โดยตั้งเป้าหมายดำเนินการให้ครบทั้ง 7,255 ตำบลทั่วประเทศ โดยจะมีการปักธงพื้นที่ต้นแบบ 'ตำบลสีเขียว' จังหวัดละ1 อำเภอ อำเภอละ 1 ตำบล
'อนุทิน' เชิดชู อสม. 1 ใน 4 เสาหลักระบบสาธารณสุขไทย กำชับเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ครบล้านคน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชิดชู อสม. 1 ใน 4 เสาหลักระบบสาธารณสุขไทย มอบภารกิจสอนประชาชนใช้ชุดตรวจ ATK เน้นกำจัดขยะติดเชื้อให้ถูกต้อง ป้องกันแพร่เชื้อใหม่ เร่งฉีดวัคซีนโควิด อสม. ให้ครบทั้งล้านกว่าคน ส่วนที่รับซิโนแวค 2 เข็มแล้วจะฉีดกระตุ้นในเดือนหน้า รับปากช่วยผลักดันเที่ยวปันสุขรอบใหม่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มากกว่า 1 ล้านคน มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบสาธารณสุขไทย เนื่องจากเป็น 1 ใน 4 เสาหลักของระบบร่วมกับองค์ความรู้ , บุคลากรทางการแพทย์ และงบประมาณ ที่ทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยแข็งแกร่ง ไม่ได้ล่มสลายเหมือนที่มีผู้พยายามปรามาส และ อสม.ถือเป็นหมอคนแรกตามนโยบาย 3 หมอ ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ช่วยสื่อสารกับประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) และสอนการใช้ชุดตรวจ ATK โดยเฉพาะเรื่องใช้ชุดตรวจและทิ้งขยะอย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นขยะติดเชื้อไม่ใช่เพียงแค่โควิด 19 อาจจะมีเชื้อหวัด วัณโรค หรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ด้วย หากดำเนินการเก็บทิ้งไม่ดี อาจเป็นแหล่งของการแพร่ระบาดใหม่
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ใน อสม. ดำเนินการฉีดร้อยละ 70 เหลืออีกประมาณ 3 แสนคนหรือร้อยละ 30 ซึ่งจะเร่งฉีดให้ครบโดยเร็วที่สุด โดยฉีดสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์ ทำให้สร้างภูมิคุ้มกันสูงและรวดเร็ว ส่วนที่ฉีดแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้วก็จะทยอยฉีดเข็ม 2 ให้จนครบเช่นกัน รวมถึงภายในเดือนตุลาคมนี้จะดำเนินการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่ อสม.ที่รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มให้ครบทั้งหมดด้วย เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น
ส่วนที่มีตัวแทน อสม.เสนอให้ผลักดันโครงการเที่ยวปันสุขรอบใหม่ ภายหลังจากควบคุมโรคโควิด 19 ได้แล้วนั้น ถือว่าเป็นโครงการที่ดีจะช่วยประสานให้เกิดขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ อสม. โดยยึดหลักว่าไปเที่ยวต้องมีความประทับใจ สนุก มีความสุข และมีความปลอดภัย
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ