WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1AAGนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

กรมควบคุมโรค พร้อมสนับสนุนฉีดวัคซีนไฟเซอร์’ ให้กลุ่มนักเรียน ต้นตุลาคมนี้!!

     กรมควบคุมโรค พร้อมให้การสนับสนุนฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ป้องกันโรคโควิด 19 ให้กลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอมเด็กได้ไปโรงเรียน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยันวัคซีนมีความปลอดภัยและมีจำนวนเพียงพอ ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจ พร้อมทั้งวางแผนเตรียมขยายผลฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กลุ่มบุคลากรทางการศึกษาในระยะต่อไปด้วย       

         ในการแถลงข่าวและเสวนาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียน 2/2564 สถานศึกษาปลอดภัยเด็กได้รับวัคซีนถ้วนหน้า นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อบุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และกลุ่มผู้ปกครอง ต้องปิดการเรียนการสอนในโรงเรียน นักเรียนต้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่บ้านแทน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีภูมิคุ้มกันโรคอย่างเพียงพอ ดำเนินชีวิตอยู่กับโรคโควิด 19 ได้ โรงเรียนทุกแห่งเปิดเทอม นักเรียนสามารถไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ

       การฉีดวัคซีนจะเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งกรมควบคุมโรคพร้อมให้การสนับสนุนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ในกลุ่มนักเรียนตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามประชาชน ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลขั้นสูงสุดแบบครอบจักรวาลควบคู่กันไปด้วย เช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง เป็นต้น จะส่งผลให้การป้องกันควบคุมโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด 

          นายแพทย์โอภาส กล่าวต่อไปว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียน และอนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ ฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ ซึ่งแผนการจัดหาวัคซีนในเดือนตุลาคมที่จะได้รับวัคซีนรวมทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านโดส รวมกับวัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อีกจำนวน 6 ล้านโดส รวมเป็น 30 ล้านโดส ซึ่งในจำนวนนี้มีวัคซีนของไฟเซอร์ จำนวน 8 ล้านโดส ตามมติที่ประชุมของของ ศบค. เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 มีมติให้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 4.8 ล้านโดส ให้กับกลุ่มนักเรียนอายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ 

      ทั้งนี้ กำหนดให้บริการฉีดวัคซีน ผ่านสถาบันการศึกษาดังนี้ คือ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนพระปริยัติธรรม สถาบันการศึกษาปอเนาะ และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป กำลังศึกษาอยู่ เป็นต้น โดยกรมควบคุมโรคจะหารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อวางแผนจัดระบบความพร้อมก่อนฉีดโดยเร็ว ทั้งนี้ ผู้ปกครองต้องแสดงความจำนงให้นักเรียนในปกครองฉีดวัคซีนโควิด 19 ล่วงหน้า 

        “การฉีดวัคซีนโควิด 19 จะคำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้ ทุกตัวผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกและขึ้นทะเบียนรับรองจาก อย. จึงขอให้ผู้ปกครองนักเรียน ทุกคนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยได้ กระทรวงสาธารณสุขจะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการตามนโยบายการฉีดวัคซีนให้เด็กถ้วนหน้าให้ดีที่สุด ยึดประโยชน์ของผู้ปกครองและประชาชนไทยทุกคนเป็นสำคัญ”นายแพทย์โอภาสกล่าว

        นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า สำหรับการขยายผลฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน ทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนั้น กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งดำเนินการ ในระยะต่อไปโดยเร็ว รวมทั้งดำเนินการในกลุ่มของผู้ปกครองนักเรียนบางส่วนที่อาจยังไม่ได้รับวัคซีนด้วย

ข้อมูลจาก : สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ วันที่ 13 กันยายน 2564

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!