WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

8934 สสส

น่าห่วง! คนซึมเศร้าพุ่ง 59% กรมสุขภาพจิตและสสส.แนะใช้การอ่าน การเขียน ศิลปะ ลดภาวะเครียดด้วยตนเอง

          แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ธนาคารจิตอาสาและเครือข่ายการ์ตูนไทยสร้างสรรค์สังคม จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการพลังวรรณกรรมเพื่อเสริมสร้างพลังชีวิต:อ่านยาใจปีที่ 2 และพิธีประกาศเกียรติคุณผู้ชนะการประกวดเรื่องสั้นวันทุกข์ที่ผ่านพ้นปีที่ 1 ผ่านโปรแกรม Zoom Meeting และ Live ทาง Facebook เพจอ่านยกกำลังสุขภายในงานมีการจัดเสวนาหัวข้อ จาก วันทุกข์ที่ผ่านพ้นสู่ภูมิคุ้มใจในวันทุกข์เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา

 

8934 สสส สุดใจ

 

          นางสุดใจ พรหมเกิด ผจก.แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการฯว่า สสส.ร่วมกับภาคีเครือข่ายฯ ริเริ่มโครงการในปี 2563 เพื่อให้ทุกคนนำพลังการอ่านสร้างเสริมความเข้มแข็งทางใจ พร้อมสู้ภัยโควิด-19 โดยจัดประกวดเรื่องสั้นวันทุกข์ที่ผ่านพ้นมีผลงานส่งเข้าร่วมกว่า 300 เรื่อง ขณะนี้ได้นำผลงานชนะการประกวดเผยแพร่ทาง www.happyreading.in.th

          นางสุดใจ กล่าวต่อว่า สำหรับปี 2564 โครงการฯอ่านยาใจปี 2 ได้จัดกิจกรรมประกวดเรื่องสั้นและบทกวี” “ภูมิคุ้มใจในวันทุกข์เพื่อให้เด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไปได้ใช้พลังของการเขียนและการอ่าน รวมถึงศิลปะหลากแขนง ช่วยผ่อนเบาความทุกข์ คลายความเครียด สร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองและสังคม โดยเชื่อว่าพลังของการเขียนและการอ่าน เปรียบเหมือนวัคซีนทางความคิด สามารถนำไปใช้ป้องกันแรงกระแทกจากความทุกข์ที่ฉับพลัน และช่วยเยียวยาให้คนออกจากความเครียด ที่สำคัญผู้เขียนยังได้ตีแผ่เรื่องราวความทุกข์ที่สามารถหาวิธีจัดการจนผ่านพ้นได้ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านได้นำไปปรับใช้ต่อสู้กับชีวิตและอยู่ต่อไป

          พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ..ที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิตได้ทำประเมินสุขภาพจิตของประชาชนในยุคโควิด-19 ทั่วประเทศ จำนวน 131,014 ราย พบว่าประชาชนทั่วไปมีภาวะความเครียด โดยกรมสุขภาพจิตสรุป 4 สาเหตุหลักมาจาก 1.ภาวะซึมเศร้า ร้อยละ 59.93 2.ความเครียดสูง ร้อยละ 53.47 3.ความคิดทำร้ายตัวเอง ร้อยละ 36.99 และภาวะหมดไฟ ร้อยละ 23.66 ซึ่งสถิติดังกล่าวเป็นสัญญานอันตรายต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทางกรมสุขภาพจิตจึงได้ระดมผู้เชี่ยวชาญร่วมกันหารือ เพื่อหาทางช่วยให้ประชาชนผ่านวิกฤตนี้โดยไม่ต้องพบจิตแพทย์ ในที่สุดจึงใช้วิธีดั้งเดิมในอดีตที่เคยใช้ได้ผลมากว่าร้อยปี ด้วยการทำบรรณบำบัดหรือการบำบัดจิตด้วยหนังสือ (Bibliotherapy) ซึ่งเป็นวิธีที่คนเยียวยาตนเองด้วยการวาดรูปและเขียนหนังสือ รวมถึงการระบายความรู้สึกผ่านไดอารี่ เมื่อนำไปทดสอบทางการแพทย์ด้วยการทำ MRI พบว่าสมองของคนที่ชอบเขียนและอ่านหนังสือมีการกระตุ้นการทำงานทุกส่วน ส่งผลให้ลดความเครียด นอนหลับได้โดยไม่ต้องพึ่งยา

          “โครงการการอ่านยาใจ นอกจากจะเป็นโครงการประกวดงานเขียนแล้ว ทุกคนที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ระบายความรู้สึกให้ผ่านพ้นความทุกข์ เป็นการแชร์ความรู้สึกร่วมกัน ได้สร้างพลังใจร่วมกัน ระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน อย่างไรก็ตามการหยิบหนังสือมาอ่านเหมือนการหยิบโดสยามาใช้ให้ถูกโรค ซึ่งแต่ละโรคต้องใช้ยาที่แตกต่างกัน บางคนต้องการยาที่อ่านแล้วได้ความตื่นเต้นเร้าใจ ส่วนบางคน ต้องการยาที่อ่านแล้วมีความสุข ความเพลิดเพลิน หรือเห็นคุณค่าของการมีชีวิต อ่านแล้วมีความรู้สึกร่วม มีพลังเหมือนตัวละครพญ.มธุรดา กล่าว

 

8934 ชมัยภร แสงกระจ่าง

 

          ด้าน นางชมัยภร บางคมบาง (แสงกระจ่าง) ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2557 กล่าวว่า เมื่อใจมีปัญหาต้องหาวิธีเยียวยาใจ บางคนยังไม่รู้ตัวว่าหัวใจต้องการอะไรต้องแก้ไขอย่างไร ดังนั้น ผู้ป่วยใจต้องสังเกตอาการของตัวเอง และหาวิธีรักษาด้วยการพลิกมุมมองจากข้างใน เฉกเช่นกระบวนการของการอ่านและการเขียนที่เปรียบเป็นวัคซีนใจ ส่วนหนังสือเปรียบเป็นเม็ดยา เมื่อหยิบมาอ่านก็เหมือนกับการกินยารักษา เมื่อรักษาหายแล้วยังสามารถส่งต่อวิธีรักษานี้กับผู้อื่นได้ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้อ่านวรรณกรรมยาใจ 10 เล่ม ที่ทางคณะกรรมการโครงการได้คัดสรรระยะที่ 1 ได้แก่ ขวัญสงฆ์, ความสุขของกะทิ,ความสุขแห่งชีวิต, ทุกข์ขณะกระจ่างชัดสัมผัสใจ, นางนวลกับมวลแมวผู้สอนให้นกบิน, เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผมยอดมนุษย์ดาวเศร้า, เรื่องเล่าจากยอดภูเขาน้ำแข็ง, 3 วันดี 4 วันเศร้า และ Dog Eye View มุม-มอง-หมา หนังสือเหล่านี้มีเนื้อหาที่ดีเหมาะกับการอ่านเติมพลังใจและสามารถหาซื้ออ่านได้ตามร้านหนังสือทั่วไป

          นายศักดิ์ดา แซ่เอียว หรือ เซียไทยรัฐ เครือข่ายการ์ตูนสร้างสรรค์สังคมไทย กล่าวว่า คณะกรรมการโครงการอ่านยาใจ ช่วยกันหาวิธีเสริมสร้างพลังใจให้เยาวชนผ่านพ้นวิกฤตความเครียด ด้วยการคัดหนังสือการ์ตูนไทยและต่างประเทศที่มีเนื้อหาสร้างสรรค์มาให้อ่านผ่อนคลาย รวมถึงการเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีความสามารถด้านการเขียน วาดรูป ถ่ายภาพ เทคนิคสื่อผสม และศิลปะทุกแขนง ร่วมสร้างสรรค์ผลงานพร้อมติดแคปชั่นให้กำลังใจเรียกรอยยิ้มสู่คนไทย ในกิจกรรมศิลปะยาใจ ฝ่าภัยโควิด-19” โดยผลงานที่ส่งเข้ามาจะเผยแพร่ในเพจอ่านยกกำลังสุข จึงขอเชิญชวนให้ทุกคนส่งผลงานร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทำให้สังคมยิ้มได้มากขึ้น

          สำหรับผลการตัดสินการประกวดเรื่องสั้นวันทุกข์ที่ผ่านพ้น” ประจำปี 2563 ประเภทเยาวชนรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ บรรทุกที่ผ่านพ้น โดยพงศภัค พวงจันทร์ และประเภทเยาวชนทั่วไป ได้แก่ ไมยราบ โดยชาคริต แก้วทันคำ ส่วนผู้ที่สนใจโครงการประกวดเรื่องสั้นและบทกวีภูมิคุ้มใจในวันทุกข์ สามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หมดเขตวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ติดตามข้อมูลทางเพจสมาคมนักเขียนและสอบถามข้อมูลที่เพจอ่านยกกำลังสุข หรือ ติดต่อแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.

 

A8934

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!