- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Sunday, 31 January 2021 19:01
- Hits: 2253
ครม. อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 1.98 แสนล้านบาท ด้านงบบริหาร สปสช. 2.2 พันล้าน มอบสำนักงบประมาณพิจารณาตามความจำเป็น
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 มีมติอนุมัติงบประมาณสำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ภายในวงเงิน 198,891.789 ล้านบาท ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ในส่วนงบประมาณบริหารของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) วงเงิน 2,203.108 ล้านบาท ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนตามความจำเป็น เหมาะสม ประหยัด และสอดคล้องกับภารกิจการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำหรับ ข้อเสนองบกองทุนบัตรทอง ที่ขอรับจัดสรรในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ ปรับความชัดเจนของขอบเขตและการเข้าถึงบริการ รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายของ รมว.สาธารณสุข เพื่อยกระดับหลักประกันสุขภาพในประเด็นหลักต่างๆ ประกอบด้วย
- การยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยให้ผู้มีสิทธิสามารถเข้ารับบริการกับแพทย์ประจำครอบครัวที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ โรคมะเร็งไปรับริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม (ไปรับบริการที่หน่วยบริการใกล้บ้าน/ไม่ต้องรอคิวนานที่มีความพร้อมในการให้การรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีฉายรังสีหรือเคมีบำบัด) รวมถึงบริการกัญชาทางการแพทย์แผนไทย
- เน้นยุทธศาสตร์ เรื่อง ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและเพื่อการวางแผนครอบครัว (ภายใต้ยุทธศาสตร์ถุงยางอนามัยแห่งชาติ พ.ศ.2558-2562) และการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพื่อค้นหาวัณโรคใน 7 กลุ่มเสี่ยง ตามยุทธศาสตร์ End TB Strategy ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ตั้งเป้าหมายลดอัตราการเกิดวัณโรคให้ต่ำกว่า 10 ต่อ 100,000 ประชากรโลกภายในปี 2578
- สิทธิประโยชน์ใหม่ จำนวน 13 รายการ เช่น การผ่าตัดปลูกถ่ายตับในผู้ป่วยโรคตับแข็งระยะกลางและระยะท้าย การตรวจคัดกรองยีนส์ HLA-B*5801 ก่อนเริ่มยา Allopurinol ในผู้ป่วยโรคเกาต์ เพิ่มรายการอุปกรณ์ Extracorporeal Membrane Oxygenator (ECMO) ในการรักษาภาวะหัวใจ/ปอดล้มเหลวเฉียบพลัน การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคทุกกลุ่มเสี่ยงด้วยวิธีเอกซเรย์ปอดและ Molecular Assay การตรวจคัดกรองการได้ยินในทารกแรกเกิด และบริการผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม เป็นต้น
- เพิ่มการเข้าถึงบริการนอกหน่วยบริการ โดยอยู่ในรายการค่าบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิฯ ได้แก่ (1) บริการคลินิกพยาบาลและการผดุงครรภ์ และคลินิกกายภาพบำบัด (2) การตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล เช่น ตรวจเลือด (3) ค่าบริการสาธารณสุขทางไกล หรือ Telehealth/Telemedicine ผ่าน Application (4) การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางไปรษณีย์
นอกจากนี้ ภายในที่ประชุม ครม. ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ดำเนินการและบริหารจัดการกองทุนบัตรทอง เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุขในด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค บริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี บริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน
รวมถึงการสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับบุคคลในพื้นที่ และบริการสาธารณสุขสำหรับบริการกรณีโรคโควิด-19 โดยในส่วนบริการตรวจคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการติดเชื้อ ตามมาตรา 18 (14) แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 และควบคุมดูแลการบริหารกองทุนฯ ของ สปสช. ให้เป็นไปตามการมอบหมายดังกล่าว
------------------------------
#ข้อมูลเพิ่มเติม
รายการบริการภายใต้งบกองทุนบัตรทอง ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย 1. ค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัว 2. ค่าบริการสาธารณสุขผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ แบ่งเป็น ค่าบริการรักษาฯ และ ค่าบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 3. ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง
- ค่าบริการเพื่อควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรัง แบ่งเป็น ค่าบริการเพื่อควบคุมป้องกันและรักษาผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง และ ค่าบริการผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน 5. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
- ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน 7. ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิที่มีแพทย์ประจำครอบครัว (ทีม PHC) แบ่งเป็น ค่าบริการด้วยทีม PHC ค่าบริการรับยาที่ร้านยา ค่าบริการตรวจทางห้องปฏิบัติการนอกโรงพยาบาล ค่าบริการสาธารณสุขระบบทางไกล และค่าบริการด้านยาและเวชภัณฑ์สำหรับการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ไปยังผู้ป่วยที่บ้าน
- ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับ อปท. 9. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับบริการกรณีโรคโควิด-19 10. เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการ 11. ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
******************************************
