- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Sunday, 22 March 2020 22:37
- Hits: 818
อนุทิน ย้ำ 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' WHO ชมมาตรการ Social Distancing ไทย
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ย้ำประชาชน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ งดกิจกรรมทางสังคม หยุดแพร่โรค
ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือสนับสนุนการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย โดยมีศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษากรรมการโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ นายกสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัย ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงพยาบาลตำรวจ กรมการแพทย์ 3 เหล่าทัพ สำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม
นายอนุทินกล่าวว่า ในวันนี้ ผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญทุกองค์กร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ทุกสถาบัน ราชวิทยาลัยต่างๆ ได้ร่วมประชุมกันต่อสู้กับโรคโควิด-19 เพื่อรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากที่ได้ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มมีการระบาด โดยกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นองค์กรหลักที่ประสานทุกภาคส่วนในการดูแลรักษาผู้ป่วย ได้มอบให้กรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมควบคุมโรค สนับสนุนข้อมูล เวชภัณฑ์ ยา การส่งต่อผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้จะเน้นในกรุงเทพมหานครที่พบผู้ป่วยมากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วยทั่วประเทศ และเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมโรคเพื่อไม่ให้ระบาดไปทั่วประเทศ ด้วยมาตรการต่าง ๆ ที่ให้ทุกจังหวัดนำไปปรับใช้ ให้เข้ากับสถานการณ์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบให้มีอำนาจเต็ม ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นเลขานุการ ขอให้ใช้กฎหมายเพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดในจังหวัด และขอให้รับผิดชอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ส่วนประชาชนต้องปรับพฤติกรรมการอยู่ร่วมกัน ให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) งดกิจกรรมทางสังคมให้มากที่สุด “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”หยุดแพร่โรค
“วันนี้ บุคลากรชั้นนำทางการแพทย์ของประเทศมารวมตัวกันเป็น Team Thailand ดีที่สุดของประเทศแล้ว ขอให้มั่นใจในประสบการณ์ มั่นใจในทีมของพวกเรา นี่คือ The Best Team ทางสุขภาพ รวมหัวใจกันต่อสู้ไปด้วยกัน พวกเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกันอย่างรวดเร็ว ขอให้ประชาชนมั่นใจ” นายอนุทินกล่าว
ด้านศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าวว่า ทีมที่มาประชุมวันนี้ เป็นทีมที่ดีที่สุดของประเทศซึ่งต่างประเทศได้ให้ความเชื่อมั่น การป้องกันควบคุมโรคและการรักษาต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยต่อ ถ้าผู้ให้การรักษามั่นใจ ประชาชนก็จะมั่นใจว่าเราทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนและมาถูกทางแล้ว ค่อย ๆ กระชับสถานการณ์ ทำล่วงหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ประชาชนต้องป้องกันตนเองไม่ให้ติดโรค และเตือนเพื่อนที่ไม่ทำเพื่อหยุดการแพร่เชื้อ สังคมต้องทำด้วยความเต็มใจ ทุกคนที่ติดเชื้อต้องบอกประวัติให้แพทย์ทราบ อย่าปกปิด
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการว่า สิ่งใดที่แพทย์ต้องการทั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ รัฐบาลจะจัดหาให้ และผู้ดูแลต้องปลอดภัย ในการรักษาระยะต่อไปจะแบ่งกลุ่มผู้ป่วย โดยผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ จัดให้รักษาตัวในที่ที่เหมาะสม เช่น โรงแรม ซึ่งโรงแรมบางกอกพาเลซ มอบให้ 350 ห้อง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้กรมการแพทย์ดูแลย้ายผู้ป่วยไปพักวันจันทร์นี้ เพื่อให้โรงพยาบาลรับผู้ป่วยอาการปานกลาง และอาการหนัก ซึ่งประธานราชวิทยาลัย นายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยฯ นายกสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย นายกสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทย ประมาณการจำนวนผู้ป่วย และยืนยันว่า เรามีเตียง มีห้องผู้ป่วย มีเครื่องช่วยหายใจเพียงพอดูแลผู้ป่วยแน่นอน แต่ประชาชนต้องช่วยด้วย ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม
อนุทิน มั่นใจมาตรการการควบคุมโควิด-19 ของไทย
ที่สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย บรรยายสรุปสถานการณ์ และมาตรการของไทยในการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย นักการทูตจากประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมฟัง
นายอนุทิน กล่าวว่า ไทยมีความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น สามารถบริหารจัดการทรัพยากร ทั้งสถานพยาบาล บุคลากร ห้องปฏิบัติการ และเวชภัณฑ์ รวมทั้งได้ประสานโรงพยาบาลเอกชนให้ความร่วมมือในการรับดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 นอกจากนี้ ไทยได้ประสานงานกับรัฐบาลจีนและญี่ปุ่น จัดซื้อยาแบบรัฐต่อรัฐ และได้รับการสนับสนุนด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์จากภาคเอกชน Jack Ma Foundation โดยทีมงานของกระทรวงสาธารณสุขมีประสบการณ์การควบคุมโรคระบาด ทำตามนโยบายที่วางแผนทำงานล่วงหน้าก่อนสถานการณ์หนึ่งขั้น ทำให้องค์การอนามัยโลกและหลายประเทศเชื่อมั่นต่อมาตรการการควบคุมโรคของไทย และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินงานของไทยด้วย
“ชื่นชมและขอบคุณบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี เสียสละ และหัวใจสำคัญในการควบคุมการระบาดของโรคคือ ความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล และการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ซึ่งเป็นมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทั่วโลกยอมรับว่าสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อได้” นายอนุทินกล่าว
สำหรับ มาตรการและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามประกาศของสถาบันการบินพลเรือนที่เอกอัครราชทูตหลายประเทศแสดงความกังวลนั้น จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอันดับต้นๆ มีความรอบคอบในการออกมาตรการต่างๆ มุ่งเน้นการจัดการควบคุมการระบาดของโรคที่ขณะนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศไทย
ด้านนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระบบสุขภาพของไทยมีความเข้มแข็ง ทั้งระบบการรักษา ประชาชนทุกคนมีหลักประกันสุขภาพ มีสถานพยาบาลครอบคลุมทุกระดับ ทั้งในกรุงเทพ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลชุมชนทุกอำเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกตำบล และระบบการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ซึ่งมีนักระบาดวิทยากระจายตัวอยู่ในทุกเขตสุขภาพ ทำงานอย่างรวดเร็ว
นายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้กล่าวว่า Covid-19 เป็นเชื้อไวรัสใหม่ ไม่มีระบบสุขภาพของประเทศใดในโลกเคยพบ และได้เตรียมการรับมือกับโรคนี้มาก่อน สิ่งที่ระบบสุขภาพของประเทศไทยดำเนินการจัดการกับการระบาดของ Covid-19 ถือว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม ด้วยการป้องกันการติดเชื้อ หากติดเชื้อก็ทำการรักษาเพื่อป้องการตาย การตอบสนองของระบบสุขภาพไทย (public health response) ต่อสถานการณ์ Covid-19 ที่ทำได้ดีเยี่ยมอยู่แล้วนั้น จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ต้องทำการขยายลงไปในระดับภูมิภาคและจังหวัดต่างๆ
WHO ชมมาตรการ Social Distancing ไทย หากประชาชนร่วมมือจะส่งผลดีต่อการควบคุม ป้องกันโรค
ผู้แทนองค์การอนามัยโลกชื่นชมมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ของประเทศไทย หากประชาชนร่วมมือจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าการใช้วัคซีน
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับนายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ (Dr. Daniel Kertesz) ผู้แทนอนามัยโลกประจำประเทศไทย ว่า ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย ชื่นชมประเทศไทยว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม ไทยเป็นประเทศที่มีการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เป็นประเทศแรก และยังมีความเข้มแข็งในการติดตามผู้ติดเชื้อมารักษา ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อต่อได้อย่างทันท่วงที การที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาให้คำแนะนำประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นประโยชน์ต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ดีกว่าการใช้วัคซีน
สำหรับ ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดข้อกังวลว่าเชื้อโควิด-19 จะแพร่สู่ชุมชน ทำให้การติดตามค้นหาผู้สัมผัสเป็นไปได้ยาก องค์การอนามัยโลกจึงเน้นให้ประชาชนป้องกันกันตนเองด้วย มาตรการหลัก 4 ข้อ คือ 1.ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ 2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง ตา จมูก ปาก 3.หากไอ จาม ให้ใช้ข้อพับแขน หรือใช้กระดาษชำระปิด ปาก จมูก และทิ้งใส่ถุงขยะ และล้างมือทันที 4.สำคัญที่สุดคือ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web