- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Saturday, 25 January 2020 15:39
- Hits: 366
ไทยเพิ่มความเข้มรับมือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ช่วงเทศกาลตรุษจีน
กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มความเข้มรับมือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ช่วงเทศกาลตรุษจีน ย้ำมาตรการเฝ้าระวัง คัดกรอง ป้องกันควบคุมโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาของประเทศไทยเข้มแข็ง ตั้งแต่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ โรงพยาบาล และชุมชน ล่าสุดผู้ป่วยที่โรงพยาบาลนครปฐม ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบติดต่อกัน 2 วัน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
วันนี้ (24 มกราคม 2563) นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรับมือโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้องค์การอนามัยโลกจะยังไม่ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขที่มีผลกระทบระหว่างประเทศ (PHEIC) แต่ยังคงมาตรการเฝ้าระวังเข้มข้นสูงสุดเช่นเดิม โดยมีการประสานไปยังสายการบิน รวมทั้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านต่างๆ หากพบเห็นผู้มีอาการน่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และกำชับให้ทุกโรงพยาบาลเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากเมืองที่มีการระบาดสถานการณ์ผู้ป่วยในประเทศไทย ล่าสุดวันนี้ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 73 ปี รักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นลบติดต่อกัน 2 วัน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนก เพราะยังไม่พบการระบาดจากคนสู่คนในประเทศไทย
นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้เพิ่มความเข้มรับมือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยเน้นการเฝ้าระวังป้องกัน 3 พื้นที่เป้าหมาย เริ่มจากมาตรการคัดกรองที่สนามบินนานาชาติ ปัจจุบันคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงใน 5 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และเพิ่มเติมเที่ยวบินที่มาจากเมืองที่มีรายงานการระบาดนอกจากเมืองอู่ฮั่น รวม 136 เที่ยวบิน ผู้เดินทาง 21,374 ราย ผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านการคัดกรองด้วยเครื่องตรวจอุณหภูมิอัตโนมัติ หากมีไข้สูง 38 องศา จะแยกผู้โดยสาร ให้สวมหน้ากากอนามัย และวัดอุณหภูมิซ้ำหากพบว่ามีไข้ มีอาการทางเดินหายใจจะส่งรถพยาบาลมารับไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลที่มีห้องแยกโรคมาตรฐาน ดูแลรักษาจนมั่นใจว่าปลอดเชื้อจึงส่งกลับประเทศ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนทุกคนจะได้รับการ์ดแนะนำการปฏิบัติตัว (Health Beware Card) กรณีเจ็บป่วยขอให้เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาล ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัททัวร์ต่างๆ หัวหน้าทัวร์ และไกด์นำเที่ยว ช่วยเฝ้าระวัง หากพบว่าเจ็บป่วยต้องแจ้งตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปช่วยดูแล
ส่วนมาตรการที่โรงพยาบาล คัดกรองผู้ป่วยที่มีประวัติเสี่ยง กรณีนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วเกิดอาการเจ็บป่วยภายหลัง มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จะซักประวัติ ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ หากพบเชื้อไวรัสจะรักษาในห้องแยกโรคของโรงพยาบาล ดูแลรักษาจนหายและส่งกลับประเทศ ซึ่งขณะนี้ประสานให้โรงพยาบาลทั้งรัฐ-เอกชน เตรียมความพร้อมของระบบและห้องแยกโรค รวมทั้งมาตรการในชุมชน ติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ป่วยสงสัยทุกคน ได้ประสานอสม. สมาคมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการโรงแรมให้ช่วยสังเกตตรวจตรา หากพบผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาหรือแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยได้ให้กรมควบคุมโรค ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจัดประชุมชี้แจงสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการบริษัททัวร์วันที่ 27 มกราคม ที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
สธ. ยกระดับเฝ้าระวังรับมือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ช่วงเทศกาลตรุษจีน
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประชุมทางไกลให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุด ยกระดับการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ช่วงตรุษจีน ประสาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยว แจ้งบริษัททัวร์เฝ้าระวัง ดูแลนักท่องเที่ยวที่มาไทย
ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกล กรณี “โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค ตามมาตรฐานสูงสุดที่ใช้สำหรับโรคติดต่ออุบัติใหม่ พร้อมยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินเพื่อตอบโต้สถานการณ์เป็นระดับ 3 รวมทั้งเพิ่มระบบการคัดกรองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในสนามบินทั้ง 5 แห่ง เฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน มีระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว จัดทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรที่ผ่านการอบรมในการวินิจฉัยโรค ตรวจทางห้องปฏิบัติการทราบผลใน 24 ชั่วโมง จัดให้มีแนวทางการรักษาพยาบาลตามมาตรฐานสากล พร้อมประสานกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งบริษัททัวร์เฝ้าระวังดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งที่เดินทางมาในประเทศไทยและคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ
สำหรับ สถานการณ์ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 - 21 มกราคม 2563 คัดกรองไปแล้วจำนวน 123 เที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 19,480 ราย โดยนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 ราย ที่ได้รับการตรวจยืนยัน แพทย์ได้ให้การรักษาหายและส่งกลับประเทศแล้ว ในรอบสัปดาห์นี้พบผู้ป่วยอีก 2 รายรายแรกเป็นหญิงไทยมีประวัติไปเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น รับการตรวจรักษาที่รพ.นครปฐม ขณะนี้ อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนรายที่ 2 เป็นนักท่องเที่ยวจีนเป็นผู้ชาย ถูกตรวจคัดกรองมีไข้สูงที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 19 มกราคม ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ผลการตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าระบบการแพทย์และสาธารณสุขของไทยมีความทันสมัย พร้อมรับมือสถานการณ์ แม้เป็นเชื้อที่พบใหม่ ขณะนี้ไทยยังไม่มีรายงานการติดจากคนสู่คน เรามีการเฝ้าระวัง คัดแยกคนเข้าเมือง มีระบบการติดตามผู้สัมผัส ทั้งคนขับรถ แพทย์ พยาบาล คนเข็นเปล สำหรับผู้ป่วย 2 รายใหม่ที่พบหากผลแล็บไม่พบเชื้อตรงกันทั้ง 2 แห่งก็จะให้กลับบ้านได้” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ไทยได้ดำเนินการทุกมาตรการตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และได้รับคำชื่นชมว่ามีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส รวมทั้งยกย่องให้เป็นต้นแบบการให้ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ประชาชนรู้และเข้าใจสถานการณ์ รู้จักป้องกันตนเอง ไม่ตื่นตระหนก ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยในเย็นวันนี้จะมีประชุมทางไกลด่วนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและกระชับมาตรการรับมือโรค กับองค์การอนามัยโลกและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังผู้ป่วยทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน ตามมาตรการที่กรมควบคุมโรคกำหนด เช่น สอบสวนโรค คัดกรอง และเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำหรับพื้นที่ที่มีสนามบินและจังหวัดท่องเที่ยว ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มระบบการคัดกรองที่รวดเร็วในสนามบินทั้ง 5 แห่ง และดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด จัดระบบคัดแยกโรคและผู้ป่วยที่รวดเร็ว ให้มีการรายงานระบบข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และทันทีที่พบผู้ป่วย โดยให้ประสานงานกับ EOC ทุกระดับ ขอให้ปรึกษาส่วนกลางเพื่อการให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับ ประชาชนขอให้ระมัดระวังการติดเชื้อระหว่างที่เดินทางไปต่างประเทศ ดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงการไปตลาดที่ขายซากสัตว์ป่าหรือสัตว์ที่มีชีวิต หลีกเลี่ยงที่ที่มีผู้คนจำนวนมาก ไม่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม หรือมีน้ำมูก สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ กินอาหารปรุงสุกร้อน ผู้ที่มีอาการไข้ กับอาการ ไอ จาม มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ และมีประวัติเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ให้รีบไปโรงพยาบาล พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางไปต่างประเทศให้แพทย์ทราบ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป สงสัยสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web