- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Friday, 09 August 2019 02:21
- Hits: 3241
จิณณ์ เวลบี้อิ้ง เคาน์ตี้ ระบุ ‘ความจำเสื่อม’อันดับ 1 โรคบั่นทอนผู้สูงวัย และคนในครอบครัว เผยออกกำลังกายผสมผสาน (Cogni-cise) และแกงกะหรี่ ช่วยได้!
-- แนะต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องโรค วิธีการดูแล และสภาพแวดล้อมในการดูแลผู้สูงอายุ เน้นสูงวัยแบบ 1ส. 2ค. คือ สุขภาพดี ชีวิตมีคุณภาพ และมีความสุข
นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ธนบุรี เวลบีอิ้ง จำกัด และโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เผยว่า 5 อันดับโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยอันดับ 1 ได้แก่ โรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ซึ่งคิดเป็น 80% หรือมากกว่า 800,000 รายของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทย โดยปัจจุบันโรคสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ ในผู้สูงอายุมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และตามด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง ความชราของร่างกายเสื่อมสภาพ จากอุบัติเหตุหกล้มและกระดูกหัก และโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อต่อโดยมีสาเหตุหลักๆ มาจากอัตราผู้สูงอายุในประเทศไทยต่อครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลที่มีพบว่า ภายในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้านี้ ประเทศไทยเตรียมกระโดดเข้าสู่ Super – Aged Society หรือ สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว โดยมีสัดส่วนประชากรอายุ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 20% และมีแนวโน้มเป็นโรคความจำเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ หลายประเทศทั่วโลก อาทิ ไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา แถบยุโรป ต่างได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ที่มีสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 10% หรืออายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปเกินกว่า 7% ของประชากรทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมแนะนำการออกกำลังกายแบบผสมผสาน (Cogni-cise) เผยเคล็ดลับการรับประทานแกงกะหรี่ และผักผลไม้ตระกูลส้ม (Citrus) เป็นประจำจะช่วยพัฒนาการทำงานของสมอง (Cognitive) ได้เป็นอย่างดี ป้องกันและชะลอโรคสมองเสื่อมได้
“แม้การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ และทั่วโลกต่างก็เผชิญกับปัญหาและการปรับตัวนี้ แต่การเตรียมความพร้อมรับมือโรคภัยไข้เจ็บและพัฒนาให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ท้าทาย เพราะการจะมีความสุขได้นั้นประกอบไปด้วยหลายปัจจัย และอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่หลักๆ พื้นฐานคือเรื่องของความเจ็บป่วยและการดูแลรักษา โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคสมองเสื่อมนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ ของผู้ดูแลและสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากโรคสมองเสื่อมเกิดจากหลายปัจจัย เช่น โรคซึมเศร้า การปลีกตัวออกจากสังคม หรือแม้กระทั่ง การได้รับการศึกษาน้อย นับเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรค โดยในช่วงแรกผู้ป่วยจะมีอาการหลงลืมเริ่มไปจนถึงไม่สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ทำให้ความสามารถในการช่วยเหลือตนเองในช่วงท้ายของโรค ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องของการรับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และสถานที่พักอาศัย ซึ่งในประเทศเรานั้นยังไม่ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องนี้ ทำให้คนส่วนมากไม่ทราบว่า 3 ส่วนนี้สำคัญมากและเป็นส่วนที่เราสามารถจัดหา และควบคุมได้”
นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ ยังกล่าวต่อไปอีกว่า การออกกำลังกายแบบผสมผสาน (Cogni-cise) ไม่ว่าจะเป็นการยืดเหยียดพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การออกกำลังแบบแอโรบิค การออกกำลังควบคู่ไปกับการกระตุ้นการเรียนรู้ และเทคนิคการปรับพฤตกิรรมต่างๆ ก็สามารถช่วยพัฒนาการทำงานของสมองได้เช่นกัน นอกจากนี้การรับประทานอาหารบางประเภทที่มีสรรพคุณในการช่วยพัฒนาการทำงานของสมอง (Cognitive) ก็สามารถช่วยป้องกันและชะลอโรคสมองเสื่อมได้เช่นเดียวกัน อาทิ แกงกะหรี่ ซึ่งได้รับการพิสูจน์ในสิงคโปร์และญี่ปุ่นว่าช่วยป้องกัน Amyloid deposit (สารแอมีลลอยด์ คือ โปรตีนที่เสื่อมสภาพที่ไปเกาะหรือสะสมตามเซลล์สมองทำให้สมองสูญเสียศักยภาพในการทำงานด้านการส่งสัญญานผ่านสารสื่อประสาท) ได้ถึง 50% ในขณะที่ผักผลไม้ตระกูลส้ม (Citrus)หากบริโภคได้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะสามารถช่วยลด Beta amyloid deposit ได้ถึง 8-14%
สำหรับโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ คือโครงการที่พักอาศัยที่ผนวกทั้งสถาบัน จิณณ์ เวลเนส และโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา เปิดให้บริการ ขนาด 51 เตียง เป็นโรงพยาบาลที่เน้นการรักษาพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุแบบองค์รวมครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรด้านการพยาบาล ที่สามารถดูแลได้ทั่วถึงทั้งโครงการรวมทั้งฝั่งที่พักอาศัย (Jin Residence) อีกด้วย โดยเน้นการป้องกัน การสร้างเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูด้วยบริการWellness ให้บริการทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ตลอด 24 ชั่วโมง และ สถาบัน จิณณ์ เวลเนส (Jin Wellness Institute) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการดูแลสุขภาพ โดยการช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำศาสตร์ธรรมชาติบำบัดผสมผสานระหว่างแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนปัจจุบัน ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและชะลอความเสื่อมจากโรคภัย เป็นมากกว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือศูนย์ดูแลสุขภาพที่มีจุดเด่นในการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ (Integrative Healthcare) ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านสุขภาพแนวใหม่ที่ไม่เน้นเฉพาะการรักษาพยาบาลเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมถึงการใช้ชีวิตในทุกมิติเฉพาะบุคคล ได้รับการออกแบบด้วยความเข้าใจเป็นอย่างดีเพื่อผู้สูงวัยและทุกคนในครอบครัว (Elderly Friendly Design) และเป็นสุดยอดโครงการ Wellness Mixed-Use แห่งแรกระดับเอเชีย
AO08145
Click Donate Support Web