- Details
- Category: การแพทย์-สธ
- Published: Thursday, 18 January 2018 10:06
- Hits: 1257
โรคสะเก็ดเงิน . . . อยู่เป็น (ก็) สุขได้
โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)เป็นโรคเรื้อรังทางผิวหนังชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่โรคติดต่อ และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยลักษณะอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่ ผื่นนูนแดง มีอาการผิวแห้งลอกเป็นสะเก็ดสีขาว หรือผื่นตุ่มแดงมีน้ำหนองสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย ทั้งยังพบว่า ผู้ป่วยนั้นมักมีอาการของโรคอื่นแทรกซ้อนร่วมด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคข้อเสื่อม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความพิการ[1] [2] หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างถูกต้อง
ดร.นพ.เวสารัช เวสสโกวิท แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ในปัจจุบันคาดว่าร้อยละ 2 ของประชากรไทยเป็นโรคสะเก็ดเงิน โดยสามารถพบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชายในจำนวนเท่าๆ กัน ด้วยอาการของโรคสะเก็ดเงินที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เช่น ผื่นบริเวณหนังศีรษะลอกแห้ง ผิวหน้า หรือบริเวณนอกร่มผ้า จึงค่อนข้างส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยในด้านการทำให้ผู้ป่วยขาดความมั่นใจในการเข้าพบปะผู้คนหรือการเข้าสังคม หรือบางกรณีผู้ป่วยมักมีอาการปวดข้อ รูปลักษณะข้อเกิดการผิดรูปหรือเสียรูปถาวร จนส่งผลให้ไม่สามารถทำงาน หรือดำเนินชีวิตประจำวันได้เท่าคนปกติ
โรคสะเก็ดเงินจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีอาการเป็นช่วงๆ แต่สามารถควบคุมอาการได้ ดังนั้นการวางแผนเพื่อการรักษาในระยะยาวและต่อเนื่องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงนับเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยแพทย์ฯ จะต้องวินิจฉัยจากชนิดของอาการของผู้ป่วย ความรุนแรง โดยผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคสะเก็ดเงินเกินร้อยละ 5 ของพื้นที่ผิวจะถือได้ว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง จำเป็นต้องได้รับยาที่นอกเหนือจากยาทา ได้แก่ การฉายแสงหรือการอาบแสงแดดเทียมและการรับประทานยาหรือฉีดยาสำหรับโรคดังกล่าว แต่หากผู้ป่วยมีอาการไม่ถึงร้อยละ 5 ของพื้นที่ผิว โรคมักจะสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้เพียงยาทา
สำหรับ ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน การปฏิบัติตนเพื่อควบคุมไม่ให้อาการรุนแรงมากยิ่งขึ้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติได้รวดเร็วมากขึ้น โดยเคล็ดลับ 4 ประการในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมีดังนี้
1. เข้าใจโรคสะเก็ดเงิน...ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าใจเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงินอย่างชัดเจน เพื่อสามารถดูแลและรักษาตนเองได้อย่างเหมาะสมต่อไป
2.ดูแลร่างกายและจิตใจอย่างเคร่งครัด...ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
3.หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น....ได้แก่ การแกะเกา การปล่อยให้ผิวหนังแห้งขุย การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา เป็นต้น
4.สังเกตและป้องกันตนเองจากภาวะโรคแทรกซ้อน...เช่น หากว่าเกิดอาการปวดบริเวณข้อใด ข้อหนึ่งในร่างกายจะต้องรีบมาพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ทำการวินิจฉัยและรักษาจากโรคข้อเสื่อมอักเสบ ผู้ป่วยบางรายที่ปล่อยให้ตนเองอ้วนมากเกินไปก็อาจเพิ่มความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนไข้ที่มีน้ำหนักปกติ
“เนื่องจากโรคสะเก็ดเงิน ถือเป็นโรคหนึ่งที่ส่งผลกระทบในด้านการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยอย่างเห็นได้ชัดและคนทั่วไป อาจยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้อย่างชัดเจน จนมองว่าเป็นโรคติดต่อและเกิดจากความสกปรก ซึ่งล้วนแต่สร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินเพิ่มมากขึ้น สถาบันโรคผิวหนังจึงร่วมกับสมาคมแพทย์ผิวหนัง เพื่อเริ่มดำเนินการทำแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพโรคสะเก็ดเงินระดับประเทศขึ้น โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติโรคสะเก็ดเงินทั่วประเทศ
รวมไปถึงแนวทางในการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคสะเก็ดเงิน และแนวทางในการดูแลคนไข้โรคสะเก็ดเงินอย่างถูกวิธีซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินสามารถเข้าถึงยาและการรักษาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น รวมถึงได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมจากคนในสังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน”ดร.นพ. เวสารัช กล่าวทิ้งท้าย