- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Saturday, 14 October 2017 08:50
- Hits: 6268
เยาวชนไทยคว้าแชมป์ภาพถ่าย BEST OF SHOW จากการแข่งขัน แคนนอน โฟโต้มาราธอน ประเทศสิงคโปร์
เยาวชนวัยเพียง 16 ปี และวิศวกรหนุ่มจากประเทศไทยคว้ารางวัลใหญ่ในการแข่งขันถ่ายภาพ’แคนนอน โฟโต้มาราธอน’ ครั้งที่ 15 ที่ประเทศสิงคโปร์ (Canon PhotoMarathon XV Singapore 2017) ซึ่งผู้เข้าแข่งขันต้องอาศัยทั้งความคิดสร้างสรรค์และความอึดในการพิชิตโจทย์การถ่ายภาพต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนดแบบมาราธอนตลอดวัน ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศสูงสุดนอกจากจะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์สำหรับการถ่ายภาพต่างๆ มากมายแล้วยังได้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม ‘แคนนอน โฟโต้มาราธอน เอเชีย แชมเปียนชิป’ ที่ประเทศญี่ปุ่นในปีหน้าโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย
แคนนอน โฟโต้มาราธอน เป็นการแข่งขันถ่ายภาพที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ประเทศสิงคโปร์ในปี 2546 และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจนขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ปัจจุบันมีการจัดการแข่งขันใน 12 ประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา จีนและฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม
สำหรับ การแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์ในปีนี้มีเหล่าผู้รักการถ่ายภาพและชอบความท้าทายเข้าร่วมแข่งขันกว่า 1,500 คน แบ่งประเภทผู้เข้าแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทนักเรียน ประเภทบุคคลทั่วไป ประเภททีม และประเภทสถาบันการศึกษา โจทย์การแข่งขันมี 3 หัวข้อ คือ Tilt (เอียง) Celebration (การฉลอง) และ Mysterious (ลึกลับ)
เยาวชนไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในครั้งนี้คือ นายจิรวัชร สายวุฒินนท์ อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมัธยมวัดนายโรง ซึ่งสามารถเอาชนะคู่แข่งและคว้ารางวัลสูงสุด คือ Best of Show (รางวัลคะแนนรวมสูงสุด) ในประเภทบุคคลทั่วไปมาครองได้ รวมถึงรางวัลชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปในหัวข้อ Tilt และยังเป็นผู้เข้าแข่งขันที่อายุน้อยที่สุดในประเภทนี้อีกด้วย
จิรวัชร เล่าว่า ทราบข่าวการแข่งขันจากเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ Canon Asia และก่อนหน้านี้เคยเข้าร่วมกิจกรรม Canon Professional Workshop ในปี 2556 ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านการถ่ายภาพให้กับช่างภาพและผู้สนใจการถ่ายภาพ จึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันแคนนอน โฟโต้มาราธอน ที่ประเทศสิงคโปร์ในปีนี้
“โจทย์ในการแข่งขันมีความท้าทายและยากมาก เพราะต้องตีความจากโจทย์ที่เป็นคำสั้นๆ อย่างโจทย์ในหัวข้อ Tilt ผมตีโจทย์ว่าเป็นความเอียง แต่การที่เรามาสิงคโปร์เป็นครั้งแรกทำให้ยากในการหาโลเคชั่นและเรื่องราวที่สื่อถึงคำว่าเอียง ผมจึงเลือกถ่ายภาพเส้นของตึกที่มีความเอียง และมีคนที่ยืนเอียงเหมือนจะล้ม การแข่งครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมากและผมโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือและมิตรภาพจากพี่ๆ คนไทยที่มาแข่งด้วยกัน การที่ผลงานของผมสามารถชนะใจกรรมการได้ ความรู้สึกของผมเหมือนฝัน กรรมการก็ชื่นชมและพูดกับผมว่า ‘ภาพมันมีความลงตัว’ เป็นคำชมที่ผมตื้นตันใจมาก เพราะเราเป็นคนไทยกลุ่มเล็กๆ ที่มาแข่ง แต่คว้ามาได้ถึง 3 รางวัล”
ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยอีกคนหนึ่งที่คว้ารางวัลสำคัญได้ คือ นายเลอสม ล่วงพ้น อายุ 33 ปี อาชีพวิศวกร ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปในหัวข้อ Mysterious โดยได้เล่าถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า “มันคือการแข่งขันภายใต้ความกดดันในเวลา 3 ชั่วโมงที่จะต้องคิดสร้างสรรค์ว่าจะให้ภาพออกมาแบบไหนให้ตอบโจทย์และโดนใจกรรมการ ซึ่งผมมีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก แต่สุดท้ายก็ทำให้กรรมการและคนสิงค์โปรว้าวกับรูปภาพของเราได้ แรงบันดาลใจของภาพนี้เกิดจากจินตนาการของผมล้วนๆ พอดีว่าผมได้เอาตุ๊กตาตัวเล็กๆ ไปด้วย จึงเอาขวดน้ำที่ได้จากงานมาตัดก้นและนำตุ๊กตาใส่ด้านในแล้วใช้แสงจากกล้องไอโฟนส่อง ถ่ายภาพออกมาได้อารมณ์เหมือนการทะลุมิติ มันเกิดความแตกต่าง และไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาได้ขนาดนี้ ทำให้คณะกรรมการและคนสิงค์โปร์ตื่นตาตื่นใจมาก ถือว่าสุดยอดแล้วสำหรับผมในการแข่งขันครั้งนี้”
ทั้งสองคนยังได้ขอบคุณทาง แคนนอน ประเทศไทย ที่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการถ่ายภาพมาอย่างต่อเนื่องและร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ ในส่วนของจิรวัชรยังต้องฝึกซ้อมพัฒนาฝีมือต่อไปเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “แคนนอน โฟโต้มาราธอน เอเชีย แชมเปียนชิป” ที่ประเทศญี่ปุ่นในปีหน้า ทั้งจิรวัชรและเลอสมเห็นตรงกันว่าคนไทยมีความสามารถในการถ่ายภาพไม่แพ้ชาติอื่นๆ ในโลก ถ้ารักและตั้งใจกับทุกสิ่งที่ทำ พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการแสดงความสามารถ ความสำเร็จย่อมไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน
