วิทยาลัยดุสิตธานีปรับหลักสูตรเน้นพัฒนา 3 ด้าน พร้อมรับหน้าที่พี่เลี้ยงธุรกิจสตาร์ทอัพ หวังผลิตบุคลากร DNA 4.0 ป้อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน

      วิทยาลัยดุสิตธานีเปิดแนวรุกประกาศแผนมุ่งพัฒนา 3 ด้าน หวังผลิตบุคลากรป้อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สอดรับยุคไทยแลนด์ 4.0 ระบุนอกจากจะเน้นพัฒนาด้านกายภาพสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนเทียบชั้นระดับสากลแล้ว ยังวางแผนพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัยทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เน้นค้นคว้าวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่โดยเฉพาะด้านอาหาร การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการ

       พร้อมขยายโอกาสผู้เรียนจากเปิดรับนักเรียนไปสู่ผู้สนใจในวงกว้าง ด้วยการเปิดคอร์สระยะสั้นและคอร์สสำหรับผู้บริหาร รวมถึงการรับให้คำปรึกษากับบริษัทหรือผู้ประกอบการ ทางด้านตสาหกรรม(Corporate Training)

       นอกจากนี้ ยังเน้นผนึกความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติมากขึ้น และขยายสู่การเป็นผู้สนับสนุนธุรกิจ Start up และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ

       ผศ.ดร.สาโรจน์ พรประภา อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันผลิตบุคลากรคุณภาพให้กับวงการท่องเที่ยวและบริการอย่างต่อเนื่องและยาวนานเป็นเวลาถึง 24 ปี เปิดเผยถึงทิศทางและเป้าหมายของวิทยาลัยดุสิตธานีในระยะต่อไป

      ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ว่าเป้าหมายของวิทยาลัยดุสิตธานีนับจากนี้ จะเน้นการพัฒนาใน 3 ส่วนสำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาด้านกายภาพ ด้านหลักสูตร ด้านความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

     ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ซึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งที่ผ่านมา วิทยาลัยดุสิตธานี ได้ทำหน้าที่เป็นสถาบันที่สร้างบุคลากรคุณภาพให้กับวงการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องมาตลอด 24 ปี แต่ ณ  วันนี้ สิ่งที่วิทยาลัยมองไปข้างหน้า คือการวางแผนพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้ตอบสนองและรองรับกับเป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 และ มาตรฐาน ASEAN Competency รวมถึงขยายโอกาสไปสู่ผู้สนใจที่จะเข้าสู่วิชาชีพด้านการท่องเที่ยว และองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องการพัฒนาการบริการให้เป็นเลิศ

       สำหรับ แผนงานในการพัฒนาด้านกายภาพ วิทยาลัยดุสิตธานีได้วางแผนพัฒนาสภาพแวดล้อมของวิทยาลัย ที่จะส่งเสริมประสบการณ์การเรียนการสอนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักศึกษาและคณาจารย์ในการสร้างสรรค์องค์ความรู้ที่เป็นเลิศด้านวิชาการ โดยมีการนำรูปแบบการสอนแบบใหม่  Dusit Hybrid MBA Method เข้ามานำเสนอ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีทางด้านการเรียนการสอน กับการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนสูงสุด

      ส่วนแผนงานในการพัฒนาหลักสูตร ได้มีการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี ด้านนวัตกรรมการบริการในธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งเป็นหลักสูตรใหม่ เพื่อตอบรับนโยบายการพัฒนาเศรษกิจภายใต้รหัสใหม่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งมุ่งขับเคลื่อนทางด้านนวัตกรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บัณฑิตมีแนวความคิดและวัฒนธรรมในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการให้บริการเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการบริการในรูปแบบเดิมสู่การเพิ่มมูลค่าในการบริการ เน้นให้เกิดการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวและบริการ 

        นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงหลักสูตรปริญญาโท ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นทางด้านการบริการเชิงธุรกิจ (hospitality business)เพื่อรองรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ (startup)หรือผู้บริหารที่ต้องการยกระดับให้ธุรกิจเป็นนานาชาติที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการประกอบธุรกิจในยุคดิจิทัลได้เป็นอย่างดี

      นอกเหนือจากในเรื่องหลักสูตร ทางวิทยาลัย ยังจะได้ทำการจัดตั้ง Dusit Thani Excellence Centre (DTEC)ซึ่งจะตั้ง อยู่บริเวณถนนเพชรบุรี ด้านหลังศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อเป็นศูนย์วิชาการย่อยที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สนใจหรือผู้ประกอบการทางด้าน Hospitality ที่อยู่ในเมือง

      โดยศูนย์นี้จะเน้นงานสร้างสรรค์งานวิชาการต่างๆ เช่น การพัฒนาและวิจัยสูตรอาหารมาตรฐาน การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับศาสตร์ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวเนี่องกับวิทยาการทำอาหาร (Gastronomy)

               “เรามุ่งเน้นที่จะยกระดับการเรียนการสอนมาโดยตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผมเข้ามาดำเนินการ และก็เป็นที่น่ายินดีที่เราเพิ่งได้รับการรับรองคุณภาพโดยองค์กรระดับนานาชาติ The International Centre of Excellence in Tourism and Hospitality Education (THE-ICE)ซึ่งเป็นองค์กรระดับนานาชาติ ที่ทำหน้าที่รับรองคุณภาพให้แก่สถาบันการศึกษาด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรมโดยเฉพาะเราเป็นสถาบันเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองคุณภาพนี้”ผศ.ดร.สาโรจน์ กล่าว

       สำหรับ แผนงานด้านสุดท้าย คือ แผนพัฒนาด้านความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติต่างๆ ทั่วโลก นั้น วิทยาลัยมุ่งเน้นที่จะขยายความสัมพันธ์และเพิ่มความร่วมมือกับสถาบันนานาชาติ ทั้งทางด้านอาหาร การโรงแรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมบริการต่างๆ ให้มากขึ้น ซึ่งการดำเนินการตามแผนทั้งหมดนี้จะนำไปสู่มาตรฐานใหม่ของวิทยาลัยดุสิตธานี ในการผลิตบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการให้มีความสามารถทั้งทางด้านวิชาชีพ และมีการสร้างแนวคิดใหม่ๆ ให้กับนักศึกษาที่จะจบการศึกษาต่อไป ซึ่งจะสอดรับกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมบริการ ทั้งทางด้านการอาหาร การโรงแรมและการท่องเที่ยวและความต้องการของนักท่องเที่ยวและลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของสังคมและเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน โดยนักศึกษาจบการศึกษาจากวิทยาลัยดุสิตธานี จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบริการของไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน และจะเป็นรากฐานที่สำคัญที่จะผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของประเทศต่อไป