- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Wednesday, 30 August 2017 08:51
- Hits: 2775
'โอสถสภา'หนุนเยาวชนพื้นที่ห่างไกล ส่งทีมติวเข้มปูทางสู่รั้วมหาลัย
เกือบ 1 ทศวรรษ กับกิจกรรมดีๆ ของ บริษัท โอสถสภา จำกัด กับการขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทย นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เก่าแก่และสำคัญซึ่งอยู่คู่กับการศึกษาไทยมาอย่างต่อเนื่อง !
ทั้งนี้ สำหรับเรื่องของการศึกษา ถือเป็นเรื่องอนาคตของประเทศ ดังนั้นการเดินหน้าสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล จึงเป็นเรื่องที่ บริษัท โอสถสภา จำกัด ตระหนัก และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
“โอสถสภา จึงให้ความสำคัญกับการดำเนินการโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยมี OSOTSPA ROAD TO UNIVERSITY เป็นโครงการหลัก โดยการเปิด ‘ติว’ สอบเข้ามหาวิทยาลัย ให้กับเด็กไทย มาตลอดกว่าทศวรรษ”
โดยมีเยาวชนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 6 แสนคน ซึ่งสามารถกระจายการให้ความรู้ และสร้างแนวทางสู่อนาคตในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แก่นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการนี้ จะครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก และภาคใต้
นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โอสถสภา จำกัด ได้ให้การสนับสนุนการจัด กิจกรรม OSOTSPA ROAD TO UNIVERSITY ปีนี้ เป็นการจัดต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 9 หรือเกือบ 1 ทศวรรษ
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเยาวชนและนักเรียนไทยทั่วประเทศ จนเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่นักเรียนทุกคนรอคอย และยังเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคม ผ่านการช่วยกระจายการเข้าถึงในการศึกษา ให้กับเด็กไทยจากทั่วประเทศ”
โดยที่ผ่านมา นักเรียนในพื้นที่ภูมิภาค ได้รับโอกาสน้อยกว่าเด็กในเมืองหลวง โดยเฉพาะช่วงเวลาติวเข้ม นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล จำนวนไม่น้อยอาจจะเผชิญกับอุปสรรคเรื่องการเดินทาง และค่าใช้จ่าย
“ดังนั้นโครงการ OSOTSPA ROAD TO UNIVERSITY จึงเป็นส่วนสำคัญ ในการออกไปให้ความรู้ ทบทวนบทเรียน และติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศให้ทั่วถึงมากที่สุด” นายธนา กล่าว
สำหรับ กิจกรรมในปีนี้ ได้เริ่มต้นแล้ว ในพื้นที่จังหวัดชั้นนำทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นแล้วที่ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2560 ตามมาด้วย จังหวัดสกลนคร จังหวัดลำปาง จังหวัดเชียงราย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้าย และเป็นการเสร็จสิ้นโครงการในเดือนกันยายน 2560
ทั้งนี้ มีติวเตอร์ชื่อดังระดับประเทศที่เข้าร่วมการเรียนการสอนอย่างคับคั่ง ประกอบด้วย ครูพี่แนน สอนภาษาอังกฤษ ครูวิเวียน สอนวิชาชีววิทยา สถาบันเดอะเบรน นำคุณครูจากสถาบันมาสอนคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีการสอนวิชาเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ และคอร์สเชื่อมโยงจากครูพี่ทาย์ม เป็นต้น
“โอสถสภา เล็งเห็นถึงความสำคัญ และความจำเป็นสำหรับอนาคตของนักนักเรียนไทย และเน้นย้ำถึงการสร้างช่องทาง หรือการหยิบยื่นโอกาสที่ดีให้กับเยาวชนไทย เพื่อให้สามารถก้าวเข้าสู่การศึกษาในระดับอุดมศึกษาตามแนวทางที่ถนัด”
ดังนั้น เรื่องการติวเข้มของโอสถสภา จึงไม่เป็นเพียงการติวในส่วนของข้อสอบที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น พร้อมทั้งเน้นเรื่องการแนะแนว ทั้งตัวเด็กนักเรียน และทั้งครูแนะแนวของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้เด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรม OSOTSPA ROAD TO UNIVERSITY มีความพร้อม และมีแนวทางการเลือกสอบเข้าสู่คณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยได้อย่างถูกต้อง และตรงตามความต้องการ
“ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกที่ดีๆ ในการกลับมาเป็นบุคลากรสำคัญของท้องถิ่น และประเทศชาติในอนาคต และกลับมาตอบแทนสิ่งดีๆ คืนให้กับสังคมบ้างในวันข้างหน้า นับเป็นกิจกรรมที่สร้างสังคมที่ดี ที่ โอสถสภา หวังว่า จะเกิดขึ้นได้ และได้เห็นในอนาคต หลังจากที่เด็กซึ่งเข้าร่วมกิจกรรม OSOTSPA ROAD TO UNIVERSITY จบการศึกษาในมหาวิทยาลัยไปแล้ว” รองประธาน บริษัท โอสถสภา จำกัด กล่าว
ด้าน นายชัย ลาภเพิ่มทวี อาจารย์ติวเตอร์วิชาสังคม บอกว่า เด็กๆ ตั้งใจเรียนมาก สำหรับโครงการที่จัดติวให้กับเด็กๆ ม.6 ทุกครั้งที่ผ่านมารวมถึงครั้งนี้ นอกจากจะได้รับผลประโยชน์ในการเรียน เพื่อใช้ในการสอบแล้ว ยังเป็นการทบทวนความรู้วิชาสังคมทั้ง 5 สาระ ซึ่งเด็กๆ สามารถนำความรู้และเทคนิคที่ได้รับ นำไปต่อยอดที่โรงเรียนได้
“โดยเฉพาะปีนี้ระบบการสอบ มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบบ TCAS ซึ่งเด็กๆ ต้องเรียนจบระดับม.6 และต้องสอบระบบเดียวกันหมด คือ 9 วิชาสามัญ และ o-net ซึ่งข้อสอบสองตัวนี้ เด็กๆ ต้องมีความรู้ครบทั้ง 5 สาระ ถือเป็นการช่วยร่นระยะเวลาในการอ่านหนังสือเพราะติวเตอร์จะบอกเทคนิคในการจำ ในการอ่านหนังสือ ซึ่งเด็กๆ จะได้นำความรู้นี้ไปใช้ในการเตรียมตัวสอบได้ที่โรงเรียน และการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย”
ขณะที่ นายกำพล แบแซ้ นักเรียนชั้นม.6 จากโรงเรียนวาวีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การมาติวเสริมครั้งนี้ นอกจากจะมีความสุข และได้รับความรู้ จากติวเตอร์ชื่อดัง ซึ่งสอนเป็นกันเอง และดีใจที่ได้เข้าร่วมโครงการ เพราะตนเองไม่ค่อยมีโอกาสได้ติวเสริม เพราะทางบ้านไม่ค่อยมีเงิน จึงมีเด็กส่วนน้อย ที่จะได้มีโอกาสติวเสริม เนื่องจากโรงเรียนอยู่ไกล การเดินทางค่อนข้างลำบาก
“สำหรับ ผมต้องการให้มีโครงการแบบนี้บ่อยๆ ปีหน้าทราบว่าจะกลับมาใช้ระบบการสอบใหม่เอาระบบเอ็นทรานส์เดิมมา คงต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะมีความสำคัญมาก ส่วนอนาคตผมอยากเรียนคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่”