- Details
- Category: การศึกษา
- Published: Wednesday, 06 August 2014 22:52
- Hits: 5430
เวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 1
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดงานเวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมครั้งที่ 1 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นเวทีสาธารณะปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีผบ.ทร.พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เป็นประธานเปิดงาน โดยมี รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี ธานินทร์ ผะเอม รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คุณกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี และดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการเสวนาและอภิปราย ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เวทีปฏิรูปในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกกับการจัดเวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศ ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเสนอแนวคิดอย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางเข้าสู่นโยบายหลักในการนำพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม รวมถึงกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่อการพัฒนาของประเทศ
ผบ.ทร.พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวถึงปัญหาเชิงนโยบายในปัจจุบันที่ต้องเร่งแก้ไขว่า “ตั้งแต่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ในวันที่ 22 พฤษภาคมจนถึงขณะนี้ ทำให้ทราบว่าที่ผ่านมาภาครัฐ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชนมากกว่า เนื่องจากภาคเอกชน เล็งเห็นถึงความสำคัญของ การสร้างนวัตกรรม แต่ก็เชื่อว่าภาคเอกชนจะต้องเผชิญปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบายจากภาครัฐ ซึ่งในจุดนี้ ภาครัฐมีทรัพยากรจำนวนมากที่ภาคเอกชนต้องการ ทั้งเครื่องมืออุปกรณ์และบุคลากร แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร”
รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวด้วยว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ซึ่งระยะเวลาทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้นมีจำกัด แต่จะพยายามทำให้สมบูรณ์ตามเวลาขณะปฏิรูป อย่างไรก็ตาม การจะทำให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมนั้น ยังต้องใช้เวลาอีกมาก ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ช่วยกันอย่างเต็มที่และประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น เวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมครั้งที่ 1 นี้ จะสอดคล้องกับแผนโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้ใกล้เข้าสู่แผนในส่วนการปฏิรูปแล้ว ขณะเดียวกันยังสอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมต่อไปด้วย
ผบ.ทร.พลเรือเอก ณรงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในทุกพื้นที่ของประเทศ ดังนั้นจึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทุกฝ่ายต้องเร่งหาคำตอบคือ ความรู้ทางวิทยาศาตร์ที่มีอยู่นั้น จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร? โดยการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ต้องให้ความสำคัญกับการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นฐานในการพัฒนา ขณะเดียวกัน ทรัพยากรมนุษย์ต้องก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพื่อจะให้ความเจริญเข้าใกล้ความเท่าเทียวกันทั่วประเทศได้ การปฏิรูปวิทยาศาสตร์นั้นจำเป็นต้องเกิดจากความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อนร่วมกันกำหนดหลักการ และเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันในอนาคตด้วย
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ได้กล่าวถึงการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมว่า “หากประเทศไทยต้องการทำให้การปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของประเทศสำเร็จ เราต้องไม่ละเลยปัญหาละปัจจัยหลายอย่างที่มีอยู่ในประเทศ อย่างแรกต้องมีการส่งเสริมความเข้าใจเรื่องปัจจัยพื้นฐานและปัญหาต่างๆของประเทศก่อน จากนั้นควรมีการส่งเสริมหรือกระตุ้นความร่วมมือกับทุกภาคส่วน”
เวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ครั้งที่ 1 เป็นเวทีสาธารณะที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดในการใช้ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี คิดต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมรวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไป ทุกอาชีพ เพื่อให้ได้แนวทางที่เป็นรูปธรรม นำมาสู่การจัดทำโรดแมปหรือสมุดปกขาวการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเวทีดังกล่าวจะจัดเวทีส่วนกลางเพื่อให้ได้โครงสร้างการปฏิรูปในภาพรวม และส่วนภูมิภาคโดยจะกระจายเวทีไปตามพื้นที่ต่างๆเน้นกลุ่มธุรกิจหลัก เช่น กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ กลุ่มธุรกิจอาหาร และการพัฒนาพลังงานชีวภาพ เป็นต้น ทั้งนี้สืบเนื่องมากจากนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเร่งด่วนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง การลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน หรือนโยบายที่กำลังดำเนินการควบคู่กัน อย่างการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเพื่อการส่งออก หรือการผลักดันให้การส่งเสริม SME เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่สุดคือ คือวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม นโยบายดังกล่าวนำมาสู่การสนับสนุนให้ SME สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของตน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศ
การระดมความคิดจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และเกษตรกรชุมชน ในเวทีส่วนภูมิภาค จะช่วยให้เห็นถึงความต้องการ หรือปัญหาที่แท้จริง รวมทั้งร่วมกันกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่โดยอาศัยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบัน ชุมชนท้องถิ่นหลายแห่งมีความสามารถสูงในการนำนวัตกรรมใหม่ๆทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มผลผลิต ซึ่งนำมาสู่การสร้างต้นแบบชุมชนเหล่านั้นไปเผยแพร่ให้ชุมชนอื่นๆได้ นอกจากนี้การสร้างกำลังบุคลากรทางวิทยาศาสตร์ก็เป็นจุดสำคัญในการปฏิรูปวิทยาศาสตร์ของประเทศ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยยังขาดบุคลากรประเภทนี้อีกมากเพื่อที่จะมาเป็นมันสมองช่วยคิดต่อยอดการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีเป็นนวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ซึ่งเวทีปฏิรูปวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมนี้ ก็ได้มีโครงการสนับสนุนให้บุคลากรเหล่านี้มาช่วยกลุ่มธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจประเภท SME เพื่อให้สามารถยืนได้ด้วยตัวเองท่ามกลางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงสนับสนุนนให้สร้างนวัตกรรมได้ด้วยตัวเอง จากการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งจากงบประมาณ งานวิจัยต่างๆที่จะนำมาใช้จริง มิใช่อยู่แต่เพียงในห้องสมุด หรือแม้แต่สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะได้รับการยกเว้นจากต้นทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส
นริสา ชะมุนี / โทร. 0-2651-8989 ต่อ 331 / อีเมล์: [email protected]